กรกช วิริยอุดมศิริ

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
กรกช วิริยอุดมศิริ
ข้อมูลส่วนตัว
ชื่อเต็ม กรกช วิริยอุดมศิริ
วันเกิด 19 มกราคม พ.ศ. 2531 (36 ปี)
สถานที่เกิด จังหวัดบุรีรัมย์ ประเทศไทย
ส่วนสูง 1.80 เมตร (5 ฟุต 11 นิ้ว)
ตำแหน่ง แบ็คซ้าย
สโมสรอาชีพ*
ปี ทีม ลงเล่น (ประตู)
2553 ทีทีเอ็ม 15 (0)
2554 สงขลา ยูไนเต็ด 27 (2)
2555 บีอีซี เทโรศาสน 19 (0)
2555สงขลา ยูไนเต็ด (ยืมตัว) 6 (0)
2556บางกอกกล๊าส (ยืมตัว) 25 (1)
2557–2559 ชลบุรี 58 (3)
2559–2564 บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด 120 (10)
2564–2565 เชียงใหม่ ยูไนเต็ด 24 (0)
ทีมชาติ
2556–2562 ไทย 13 (1)
*นัดที่ลงเล่นและประตูที่ยิงให้แก่สโมสรเฉพาะลีกในประเทศเท่านั้น
ข้อมูลล่าสุด ณ วันที่ 4 พฤษภาคม 2565

กรกช วิริยอุดมศิริ เป็นนักฟุตบอลอาชีพชาวไทย เกิดที่จังหวัดบุรีรัมย์ โดยเล่นในตำแหน่งแบ็กซ้าย

ประวัติ[แก้]

กรกชเกิดวันที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2531 มีภูมิลำเนาอยู่ที่อำเภอบ้านกรวด จังหวัดบุรีรัมย์ ศึกษาในระดับชั้นประถมศึกษาที่โรงเรียนบ้านศรีสุข ตำบลเขาดินเหนือ อำเภอบ้านกรวด จนกระทั่งก้าวสู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 กรกชเดินทางมายังกรุงเทพมหานครเพื่อเข้าศึกษาต่อที่โรงเรียนวัดสุทธิวราราม และสามารถพาทีมโรงเรียนวัดสุทธิวรารามได้แชมป์วิทยาลัยเทคโนโลยีพาณิชยการราชดำเนินในรุ่นอายุไม่เกิน 15 ปี

สโมสร[แก้]

ในระดับมหาวิทยาลัย กรกชผ่านการคัดเลือกของมหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต และเริ่มต้นการเล่นฟุตบอลอาชีพกับปตท.ระยอง แต่ว่าหลังจากนั้นปีเดียว ก็กลับมารับใช้สโมสรมหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต ในระดับดิวิชั่น 2 และก็ย้ายไปเล่นกับทีมกรมศุลกากร สุวรรณภูมิ ต่อมาใน พ.ศ. 2554 เขาได้รับความสนใจจากวรวุฒิ ศรีมะฆะ หัวหน้าผู้ฝึกสอนของสงขลา ทำให้เขาได้ย้ายไปเล่นให้กับสงขลา และเป็นผู้เล่นตำแหน่งแบ็คซ้ายคนสำคัญของสโมสร เขาถนัดในด้านการเปิดลูกฟรีคิกและลูกเซ็ตพีซ

ชลบุรี[แก้]

บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด[แก้]

ฤดูกาล 2559–2561[แก้]

ในวันที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2559 กรกชย้ายมาร่วมทีมบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด อย่างเป็นทางการ โดยเขาจะสวมเสื้อหมายเลข 11[1]

วันที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2561 เอเอฟซีแชมเปียนส์ลีก กลุ่ม G กรกชทำประตูแรกในนามสโมสรในนัดที่บุรีรัมย์บุกไปชนะเชจูยูไนเต็ดที่เชจูเวิลด์คัพสเตเดียม 1–0 ทำให้บุรีรัมย์ผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้าย และกลายเป็นสโมสรแรกของไทยที่สามารถบุกไปเอาชนะสโมสรเกาหลีใต้ได้[2]

วันที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2561 กรกชทำประตูแรกในลีกในนัดที่บุรีรัมย์เปิดสนามช้างอารีนาเอาชนะเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ไปได้ 4–0[3]

ฤดูกาล 2562[แก้]

ในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562 ไทยแลนด์แชมเปียนส์คัพ นัดชิงชนะเลิศ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด แชมป์ไทยลีก ฤดูกาล 2561 เจอกับ สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด แชมป์ช้าง เอฟเอคัพ 2561 ที่สนามกีฬากองทัพบกในกรุงเทพมหานคร กรกชลงเล่นเป็นตัวจริงในนัดนั้น สุดท้าย บุรีรัมย์ แซงเอาชนะ สิงห์ เชียงราย 3–1 ช่วยให้บุรีรัมย์คว้าแชมป์ไทยแลนด์แชมเปียนส์คัพ สมัยแรก ได้สำเร็จ[4] ต่อมาในวันที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2562 กรกชทำประตูแรกในลีกในนัดที่บุรีรัมย์เปิดบ้านเอาชนะสมุทรปราการ ซิตี้ ไปได้ 3–2[5] ต่อมาในวันที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2562 การแข่งขันช้าง เอฟเอคัพ รอบ 64 ทีมสุดท้าย กรกชทำประตูช่วยให้บุรีรัมย์เปิดบ้านแซงเอาชนะพีทีที ระยอง ไปได้ 3–1 ผ่านเข้าสู่รอบ 32 ทีมสุดท้ายได้สำเร็จ[6] ต่อมาในวันที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2562 การแข่งขันช้าง เอฟเอคัพ รอบ 32 ทีมสุดท้าย กรกชทำหนึ่งประตู ช่วยให้บุรีรัมย์เปิดบ้านเอาชนะลำปางไปได้ 4–1 ผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายได้สำเร็จ[7] ต่อมาในวันที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2562 โตโยต้า ลีกคัพ รอบรองชนะเลิศ ที่สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา (มีนบุรี) กรกชทำหนึ่งประตูช่วยให้บุรีรัมย์เอาชนะหนองบัว พิชญ ไปได้ 2–0 ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศได้สำเร็จ[8] ต่อมาในวันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2562 โตโยต้า ลีกคัพ รอบชิงชนะเลิศ บุรีรัมย์พบกับ พีที ประจวบ ที่เอสซีจีสเตเดียมในจังหวัดนนทบุรี ผลจบลงด้วยการเสมอ 1–1 ในเวลา 120 นาที ต้องตัดสินด้วยการยิงลูกโทษ กรกช เป็นคนยิงคนที่ 9 แต่เขายิงข้ามคานไป ในขณะที่ ซีเกต หมาดปูเต๊ะ ผู้เล่นของประจวบ ยิงเข้าไปได้ ทำให้บุรีรัมย์พ่ายแพ้ประจวบในช่วงลูกโทษ 7–8 ผลประตูรวม 8–9 พลาดโอกาสคว้าแชมป์ โตโยต้า ลีกคัพ อย่างน่าเสียดาย[9]

เกียรติประวัติ[แก้]

สโมสร[แก้]

บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด

ทีมชาติไทย[แก้]

ในวันที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2562 กรกช มีชื่อติดทีมชาติไทยในยุคของ อากิระ นิชิโนะ เป็นครั้งแรก ในนัดกระชับมิตรที่จะพบกับ สาธารณรัฐคองโก และฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก นัดที่ไทยจะเปิดบ้านพบกับ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์[10]

สถิติอาชีพ[แก้]

สโมสร[แก้]

ณ วันที่ 12 ธันวาคม 2563
สโมสร ฤดูกาล ลีก เอฟเอคัพ ลีกคัพ เอเชีย อื่น ๆ ทั้งหมด
ระดับ ลงเล่น ประตู ลงเล่น ประตู ลงเล่น ประตู ลงเล่น ประตู ลงเล่น ประตู ลงเล่น ประตู
บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด 2563 ไทยลีก 7 0 2 0 0 0 1 0 10 0

ทีมชาติ[แก้]

ณ วันที่ 12 พฤศจิกายน 2558[11]
ทีมชาติ ปี ลงเล่น ประตู
ไทย 2013 2 0
2014 1 0
ทั้งหมด 3 0

ประตูในนามทีมชาติ[แก้]

ลำดับ วันที่ สนาม คู่แข่ง ประตูที่ได้ ผลการแข่งขัน รายการ
1. 17 พฤศจิกายน 2018 ราชมังคลากีฬาสถาน, กรุงเทพ, ประเทศไทย ธงชาติอินโดนีเซีย อินโดนีเซีย 1–1 4–2 ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติอาเซียน 2018

อ้างอิง[แก้]

  1. "'บุรีรัมย์'เปิดตัว10แข้งใหม่สู้ศึกเลก2". สืบค้นเมื่อ 24 กุมภาพันธ์ 2561. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  2. ""บุรีรัมย์" ทีมแรกจากไทยปักธงชัยที่เกาหลีใต้ACL". โกล.คอม. สืบค้นเมื่อ 24 กุมภาพันธ์ 2562. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  3. "บุรีรัมย์ 4 - 0 เมืองทองฯ : ปราสาทรับโค้ชใหม่กิเลนสุดโหด". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2018-05-04. สืบค้นเมื่อ 24 กุมภาพันธ์ 2562. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  4. "บุรีรัมย์พลิกแซงเชียงราย 3-1 คว้าแชมป์ ออมสิน ไทยแลนด์ แชมเปี้ยนคัพ". สืบค้นเมื่อ 4 กันยายน 2562. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  5. "บุรีรัมย์เฉือนสมุทรปราการ 3-2". สืบค้นเมื่อ 31 มีนาคม 2562. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  6. "บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ไล่รัวแซงชนะ พีทีที ระยอง 3-1 ฉลุยสู่รอบ 32 ทีม ช้าง เอฟเอคัพ 2019". สืบค้นเมื่อ 1 พฤษภาคม 2562. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  7. "บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ไล่ยิงชนะ ลำปาง เอฟซี 4-1 ผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย ลูกหนัง ช้าง เอฟเอคัพ 2019". สืบค้นเมื่อ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2562. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  8. "บุรีรัมย์ซัดหนองบัว 2-0 ชิงที่เมืองทอง". สืบค้นเมื่อ 14 สิงหาคม 2562. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  9. "บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด พ่ายจุดโทษ ประจวบ เอฟซี 8-9 ชิงดำ ลีกคัพ". สืบค้นเมื่อ 28 กันยายน 2562. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  10. "นิชิโนะประกาศ 23 แข้งช้างศึกอุ่นคองโก, ดวลยูเออี". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2019-09-27. สืบค้นเมื่อ 27 กันยายน 2562. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  11. Korrakot Wiriyaudomsiri สืบค้นเมือ17 กุมภาพันธ์ 2016

แหล่งข้อมูลอื่น[แก้]