รายชื่อตัวละครในมายลิตเติ้ลโพนี่ มิตรภาพอันแสนวิเศษ
มายลิตเติ้ลโพนี่ มิตรภาพอันแสนวิเศษ (อังกฤษ: My Little Pony: Friendship Is Magic) เป็นการ์ตูนที่มีฐานจากกลุ่มของเล่นที่ผลิตโดยผู้ผลิตของเล่นสัญชาติอเมริกันและแฮสโบร โดยตัวละครและฉากถูกออกแบบโดยลอว์เรน ฟอสต์ ที่สร้างความลึกของตัวละครมากกว่า "ความเป็นผู้หญิง" ในซีรีส์รุ่นที่แล้ว ซีรีส์นี้เปิดตัวในวันที่ 10 ตุลาคม ค.ศ.2010 ในสหรัฐบนช่องฮับส์เน็ตเวิร์ค (Hub Network) ซึ่งถูกเปลี่ยนเป็นช่องดิสคัฟเวอรี แฟมิลี (Discovery Family) ในวันที่ 13 ตุลาคม ค.ศ.2014.
ทุก ๆ ซีซันของตอนหนึ่ง ได้เจาะลึกไปที่ตัวละครหนึ่งและตัวละครที่ถูกคัดเลือก ซึ่งรวมไปถึง "คิวตีมาร์กครูเซเดอร์ส", เหล่าเจ้าหญิงอัลลิคอร์น, วายร้ายที่กลับใจ เช่น ดิสคอร์ด, สตาร์ไลท์ กลิมเมอร์ ฯลฯ และในซีซันแปด ผู้นำที่เป็นพันธมิตรกับเอเควสเทรียได้ส่งตัวแทนห้าตัวจากอาณาจักรของตนไปศึกษากับทไวไลท์ โดยมีตัวละครย่อยประมาณ 200 ตัวที่เป็น "โพนีฉากหลัง" (background ponies)[1]
ตัวละครหลัก
[แก้]เมนซิก
[แก้]"เมนซิก" (Mane Six) เป็นกลุ่มของม้าทั้งหกตัว[2]ที่เป็นเพื่อนกัน และนำ "ธาตุแห่งความปรองดอง" ไปใช้[3] เพื่อทำลายภัยอันตรายที่กำลังทำลายอีเควสเทรีย. ส่วนสไปค์ เป็นตัวละครที่อยู่ช่วยเมนซิก
ม้าแต่ละตัวถูกออกแบบให้มีมุมมองทางมิตรภาพที่แตกต่างกัน ได้แก่—ความซื่อสัตย์ (แอปเปิลแจ็ก), ความเมตตา (ฟลัทเตอร์ชาย), เสียงหัวเราะ (พิงกีพาย), ความเอื้ออาทร (แรริตี) และความจงรักภักดี (เรนโบว์แดช)—ซึ่งอยู่ด้วยกันเพื่อสร้างธาตุที่หกคือ "เวทมนตร์" (ทไวไลท์ สปาร์เคิล).[4]
เจ้าหญิงทไวไลท์ สปาร์เคิล
[แก้]- ให้เสียงโดยทารา สตรอง, เสียงร้องโดยRebecca Shoichet
เจ้าหญิงทไวไลท์ สปาร์เคิล (Princess Twilight Sparkle) เป็นตัวเอกของซีรีส์[5] เธอเป็นยูนิคอร์นในสามซีซันแรก และเป็นยูนิคอร์นมีปีกที่เรียกว่า "อัลลิคอร์น" ในช่วงหลังซีซันสามเป็นต้นมา เธอเป็นม้าที่ฉลาดที่สุดในบรรดาเมนซิก
สไปค์
[แก้]- ให้เสียงโดยเคธี วีซลัก
สไปค์ (Spike)[6] เป็นมังกรวัยทารกสีม่วงที่มีกระดูกสันหลังสีเขียว เขาเป็นเด็กกำพร้าตอนอยู่ในไข่[7] และฟักโดยทไวไลท์ในวัยเด็กในช่วงสอบเข้า เขาจึงมีเธอเป็นทั้งพี่สาวบุญธรรมและ/หรือแม่[8][9]; เขารับบทเป็น "ผู้ช่วยอันดับหนึ่ง" ของทไวไลท์[6][10] เขาได้ปีกในซีซันแปด
แอปเปิลแจ็ก
[แก้]- ให้เสียงโดยแอชลี บอล
แอปเปิลแจ็ก (Applejack) เป็นม้าสีส้ม มีแผงขนสีน้ำตาล[11] เธอถูกออกแบบเป็น "สาวชาวไร่" (farm gal) ที่ใส่หมวกคาวบอย, ใช้บ่วงบาศ และพูดภาษาอังกฤษสำเนียงใต้[12] เธอทำงานเป็นชาวไร่แอปเปิลที่สวนสวีทแอปเปิลเอเคอร์ส (Sweet Apple Acres) ในโพนีวิลล์ (Ponyville) โดยใช้ความแข็งแรงของเธอเตะต้นไม้ให้แอปเปิลตกลงข้างล่าง. เธออาศัยอยู่กับย่าของเธอ แกรนนีสมิธ (Granny Smith), พี่ชายของเธอ บิกแมคอินทัช (Big McIntosh), น้องสาวของเธอ แอปเปิลบลูม (Apple Bloom) และสุนัขพันธ์คอลลี วิโนนา (Winona). รายงานจากฟอสต์ พ่อแม่ของเธอ – ไบรท์ แมค (Bright Mac; ให้เสียงโดย บิล นิวตัน) กับเพียร์ บัตเตอร์ (Pear Butter; ให้เสียงโดย เฟลิเซีย เดย์) นั้นเสียชีวิตแล้ว[13] เธอเป็นม้าที่ซื่อสัตย์, ไว้ใจได้ และเป็นม้าที่ "ติดดินที่สุด" ในบรรดาเมนซิก[12]
เรนโบว์แดช
[แก้]- ให้เสียงโดยแอชลี บอล
เรนโบว์แดช (Rainbow Dash)[14] เป็นเพกาซัสสีน้ำเงินมีแผงเป็นสีรุ้ง[15] มีเป้าหมายที่จะเข้าร่วมกับกลุ่มวอนเดอร์โบลต์ (Wonderbolts)[16] แล้วมีหน้าที่จัดการกับสภาพอากาศรอบๆ โพนีวิลล์ มีสัตว์เลี้ยงที่เป็นเต่าบกชื่อว่าแท็งค์ (Tank) และอาศัยอยู่ในคอนโดมิเนียมบนก้อนเมฆที่เรียกว่าคลาวโดมิเนียม (Cloudominium)[17]
พิงกีพาย
[แก้]- ให้เสียงโดยแอนเดรีย ลิบแมน, เสียงร้องโดยแชนนอน ชาน-เคนท์[note 1]
พิงกีพาย (Pinkie Pie; ชื่อเต็ม พิงกามินา ไดแอน พาย (Pinkamena Diane Pie)) เป็นม้าสีชมพู ตั้งชื่อตามม้าในรุ่นแรก[18] เธอเป็นผู้บริหารปาร์ตีที่ชูการ์คิวบ์คอร์เนอร์ (Sugarcube Corner) ร้านขนมปัง และร้านขายลูกกวาด[19] เธอมีสัตว์เลี้ยงเป็นจระเข้ตีนเป็ดที่ไร้ฟันชื่อว่า กัมมี (Gummy) เธอเป็นต้นแบบของมุกตลกในซีรีส์นี้[20] และมุกที่ "แปลกแหวกแนว" มักจะมาจากเธอ[21][22] (มุกตลกต่างๆ เช่นแหกกำแพงที่สี่ (breaking the fourth wall) และ "มักปรากฏโดยบังเอิญในที่ที่คาดไม่ถึง",[23]
แรรีตี
[แก้]- ให้เสียงโดย Tabitha St. Germain, เสียงร้องโดยคาซูมิ อีแวนส์
แรรีตีเป็นยูนิคอร์นสีขาวที่มีแผงขนสีม่วง[24] เธอเป็นทั้งแฟชันนิสตาและ ผู้ประกอบการที่พูดภาษาอังกฤษสำเนียงแอตแลนติกกลาง[25][26] เธอมีสัตว์เลี้ยงเป็นแมวเปอร์เซียชื่อว่า โอปอลเซนส์ (Opalescence) โดยมันมักถูกเรียกสั้นๆ ว่าโอปอล (Opal) ฟอสต์กล่าวว่าออดรีย์ เฮปเบิร์นเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างตัวละครนี้[27]
ฟลัตเตอร์ชาย
[แก้]- ให้เสียงโดยแอนเดรีย ลิบแมน
ฟลัตเตอร์ชาย (Fluttershy) เป็นเพกาซัสสีเหลือง มีแผงขนสีชมพู[28] เธอมีความสัมพันธ์ที่เป็นเอกลักษณ์กับสัตว์ต่างๆ. เธออาศํยอยู่ในกระท่อมกลางทุ่งหญ้าอันเงียบสงบในโพนีวิลล์ ซึ่งเป็นที่ที่เธอดูแลสัตว์ป่า เช่น สัตว์เลี้ยงของเธอที่เป็นกระต่ายที่มีชื่อว่า แอนเจิล บันนี (Angel Bunny)[29][30]
ตัวละครรอง
[แก้]ราชวงศ์
[แก้]เจ้าหญิงเซเลสเทีย
[แก้]- ให้เสียงโดยนิโคล โอลิเวอร์
เจ้าหญิงเซเลสเทีย (Princess Celestia) เป็นอัลลิคอร์นสีขาวที่มีแผงขนกับหางหลากสีที่เคลื่อนไหว และเป็นผู้ปกครองอีเควสเทรีย[31] เธอเป็นกษัตริย์ที่ปกครองอีเควสเทรียยาวนานที่สุด โดยเธอปกครองไป 1,000 ปีเพราะอัลลิคอร์นมักแก่ช้า[32] เธอมีหน้าที่ทั้งนำดวงอาทิตย์ขึ้นในตอนเช้าและลงในตอนเย็น และเป็นที่ปรึกษาของทไวไลท์ สปาร์เคิล[33] โดยฟอสต์ตั้งใจให้ตำแหน่งเธอเป็นราชินี แต่ต้องเปลี่ยนเป็นเจ้าหญิง เพราะทางแฮสโบรคิดไว้ว่า "เด็กหญิงส่วนใหญ่คิดว่าราชินีมักชั่วร้าย [...] และเจ้าหญิงมักใจดี"[34]
เจ้าหญิงลูนา
[แก้]- ให้เสียงโดย Tabitha St. Germain, เสียงร้องโดยคาซูมิ อีแวนส์ กับอะโลมา สตีล (Aloma Steele)
เจ้าหญิงลูนา (Princess Luna) เป็นอัลลิคอร์นสีน้ำเงินเช้ม ซึ่งเป็นน้องสาวแท้ๆของเจ้าหญิงเซเลสเทีย ตัวละครถูกออกแบบและผลิตโดยLynne Naylor.[35] เธอเป็นผู้ร่วมปกครองกับเซเลสเทีย โดยเธอใช้เวทมนตร์ของเธอควบคุมดวงจันทร์ และทำหน้าที่ในเวลากลางคืน.ตอนแรกเธอกลายเป็นไนท์แมร์มูน (Nightmare Moon) เพราะเธออิจฉาพี่สาวของเธอ[36] จนถูกเนรเทศไปที่ดวงจันทร์โดยเซเลสเทีย เธอกลับมาอีกครั้งหลังถูกเนรเทศไป 1,000 ปี เพื่อทำให้โลกเป็นกลางคืนตลอดกาล แต่ถูกพวกเมนซิกปราบลง[37]
เจ้าหญิงเคแดนซ์, ไชนิงอาร์เมอร์ และเฟลอรีฮาร์ท
[แก้]- ให้เสียงโดยบริตต์ แมคคิลลิป (เจ้าหญิงเคแดนซ์); อันดรูว ฟรานซิส (ไชนิงอาร์เมอร์); Tabitha St. Germain (เฟลอรีฮาร์ท)[38]
เจ้าหญิงเคแดนซ์ (Princess Cadance; ชื่อเต็ม: มี อะมอเร คาเดนซา (Mi Amore Cadenza)) กับเจ้าชายไชนิงอาร์เมอร์ (Prince Shining Armor) เป็นพี่สะใภ้กับพี่ชายของทไวไลท์ สปาร์เคิล. เคแดนซ์เป็นหลานสาวที่เจ้าหญิงเซเลสเทียทรงรับเลี้ยง และเป็นพี่เลี้ยงเด็กของทไวไลท์ในวัยเด็ก[39] ตอนแรกเธอเป็นเพกาซัส[40] เธอแต่งงานกับไชนิงอาร์เมอร์ หัวหน้ายามหลวงแห่งแคนเทอร์ลอต (Canterlot's royal guard)[39] ในตอนต้นของซีซันที่สาม เซเลสเทียให้เธอกับไชนิงอาร์เมอร์ปกครองคริสทัลเอมไพร์ (Crystal Empire) ซึ่งเป็นที่ที่เหล่าคริสทัลโพนี (Crystal Ponies) อาศัยอยู่[41] ในตอนต้นซีซันหก เธอมีลูกอัลลิคอร์นชื่อว่า เฟลอร์รี ฮาร์ท (Flurry Heart) ทั้งเซเลสเทียกับลูนากล่าวว่า "การถือกำเนิดอัลลิคอร์น เป็นสิ่งที่ไม่เคยมีในเอเควสเทรียมาก่อน"
คิวตีมาร์กครูเซเดอร์ส
[แก้]คิวตีมาร์กครูเซเดอร์ส (Cutie Mark Crusaders) เป็นกลุ่มของม้าน้อยทั้งสามตัวที่ร่วมมือกันตามหา "คิวตีมาร์ก" (cutie marks)[42] โดยทำได้สำเร็จในตอน "Crusaders of the Lost Mark"
- แอปเปิลบลูม (Apple Bloom; ให้เสียงโดย มิเชลล์ ครีเบอร์) – ลูกม้าเพศเมียสีเหลืองที่มีแผงขนสีแดง และใส่โบว์สีชมพู เธอเป็นน้องสาวของแอปเปิลแจ็ก กับบิกแมคอินทัช[43]
- สคูทาลู (Scootaloo; ให้เสียงโดย เมเดอลีน ปีเตอร์ส) – ลูกเพกาซัสเพศเมียสีส้มที่มีแผงขนสีม่วง ถึงแม้ว่าเธอจะบินไม่ได้ แต่เธอใช้ปีกในการเล่นสกูตเตอร์ เธออาศัยอยู่กับป้าฮอลิเดย์และป้าลอฟตี (Aunt Holiday and Auntie Lofty; ให้เสียงโดย Jackie Blackmore และ Saffron Henderson) ซึ่งไมเคิล โวเกล (Michael Vogel) ยืนยันว่าพวกเธอเป็นคู่เลสเบียนที่แต่งงานแล้ว[44][45][46]
- สวีตตีเบลล์ (Sweetie Belle; ให้เสียงโดย แคลร์ คอร์เล็ตต์, เสียงร้องในซีซ๊น 1–3 โดย มิเชลล์ ครีเบอร์)[47] – ลูกยูนิคอร์นสีขาวที่มีแผงขนสีลาเวนเดอร์กับแถบสีชมพู เธออยากเป็นแฟชันดีไซเนอร์ตามอย่างแรรีตี พี่สาวของเธอ[43]
สมาชิกกิตติมศักดิ์
[แก้]- แบบส์ ซีด (Babs Seed; ให้เสียงโดยบรินนา ดรัมมอนด์ (Brynna Drummond)) – เป็นลูกพี่ลูกน้องแอปเปิลจากเมนฮัตตัน (Manehattan)[43]
- แก็บบี (Gabby; ให้เสียงโดยอีริน แมทธิวส์ (Erin Mathews)) – เป็นกริฟฟอนเพศเมียที่เป็นมิตรจากเมืองกริฟฟอนสโตน (Griffonstone)
เพื่อน/มิตร
[แก้]ดิสคอร์ด
[แก้]- ให้เสียงโดยจอห์น เดอ แลนซี (John de Lancie)
ดิสคอร์ด (Discord) เป็นวิญญาณแห่งความโกลาหลและความแตกแยกที่ปรากฏตัวครั้งแรกในตอน "เดอะรีเทิร์นออฟฮาร์โมนี" (The Return of Harmony)[48] เขาเป็นa "ดราโคนิควุส" (draconequus; /drəˈkɒnɛkwʌs/ จากภาษาลาตินแปลว่า "มังกร" กับ "ม้า") ซึ่งเป็นสิ่งมีชีวิตที่ผสมกันระหว่างหัวม้า กับสัตว์ชนิดต่างๆ.[49][50] ในอดีต เซเลสเทียกับลูนาทรงลงโทษเขาโดยการถูกสาปเป็นรูปปั้นหิน และในซีซันสองเขาถูกปลดปล่อยแล้วโดนพวกเมนซิกสาปกลายเป็นรูปปั้นหินอีกครั้ง จนถึงซีซันสามตอนต้น เขาถูกปลดปล่อยอีกครั้งโดยเซเลสเทีย โดยพระองค์ทรงตระหนักว่าเขาควรที่จะเป็นคนดีอีกครั้ง ซึ่งต่อมามันได้ผล[49]
บิกแมคอินทัช
[แก้]- ให้เสียงโดยปีเตอร์ นิว
บิกแมคอินทัช (Big McIntosh; มักเรียกกันว่า บิกแมค (Big Mac)) เป็นม้าตัวใหญ่ที่เป็นพี่ชายของแอปเปิลแจ็คและแอปเปิลบลูม เขาเป็นม้าที่ไม่ค่อยพูดมากและมักตอบว่า "ใช่" (eeyup) และ "ไม่" (nope)[51]
แกรนนีสมิธ
[แก้]- ให้เสียงโดย Tabitha St. Germain
แกรนนีสมิธ (Granny Smith) เป็นม้าวัยชราที่เป็นย่าของแอปเปิลแจ็ค, แอปเปิลบลูม และบิกแมคอินทัช เธอเป็นหนึ่งในผู้ก่อรากถิ่นฐานรุ่นแรกของโพนีวิลล์[51]
สตาร์ไลท์ กลิมเมอร์
[แก้]- ให้เสียงโดยเคลลี ชีริแดน (Kelly Sheridan)
สตาร์ไลท์ กลิมเมอร์ (Starlight Glimmer) เป็นยูนิคอร์นที่ปรากฏตัวครั้งแรกในตอน "เดอะคิวตีแมป" (The Cutie Map). ในตอนนั้นเธอต้องการสร้าง "สังคมที่เท่าเทียมกันโดยสมบูรณ์" โดยการลบคิวตีมาร์ก เพราะเธอคิดว่ามันจะนำพามาซึ่งความแตกแยกระหว่างเพื่อน.[52] และปรากฏตัวอีกครั้งในตอน "เดอะคิวตีรี-มาร์ก" (The Cutie Re-Mark) เพื่อแก้แค้นให้กับเมนซิกโดยการย้อนเวลาไปหาอดีต และขัดขวางไม่ให้มิตรภาพเกิดขึ้นโดยการหยุดเรนโบว์แดชไม่ให้ทำท่าโซนิค เรนบูมได้ หลังจากที่เธอได้รู้ถึงผลอันน่าหวาดกลัวที่จะส่งผลถึงปัจจุบัน สตาร์ไลท์จึงยอมเปลี่ยนวิถีชีวิตและเริ่มคบเพื่อน ในซีซันหก เธอกลายเป็นลูกศิษย์ของทไวไลท์ สปาร์เคิล และในซีซันแปด เอธกลายเป็นผู้ให้คำปรึกษาในโรงเรียนแห่งมิตรภาพ. มิลเลอร์กล่าวว่า รูปแบบของสตาร์ไลท์นั้นถูกเลือกให้เป็น "ตัวละครก่อนทไวไลท์" (proto-Twilight character)[52] ในตอนแรก เธอมีชื่อว่า "ออโรรา กลิมเมอร์" (Aurora Glimmer) ซึ่งเธอถูกเปลี่ยนชื่อเพราะเป็นชื่อที่สงวนลิขสิทธิ์ของบริษัทวอลต์ดิสนีย์ในชื่อตัวละคร "ออโรรา".[53]
ยังซิก
[แก้]"ยังซิก" (Young Six[54]) เป็นกลุ่มของสิ่งมีชีวิตหกตัวที่เข้าเรียนในโรงเรียนแห่งมิตรภาพ (School of Friendship) ที่ดำเนินการโดยเมนซิก:
- สโมลเดอร์ (Smolder; ให้เสียงโดยแชนนอน ชาน-เคนท์) เป็นมังกรที่มีนิสัยอวดดีและชอบแข่งขัน และแอบชอบของน่ารัก ได้แก่ เสื้อ, เครื่องสำอาง และปาร์ตีน้ำชา
- โอเซลลัส (Ocellus; ให้เสียงโดยเดวิน ดาลตัน) เป็นแชนเจอลิงที่ขี้อายและชอบเรียนรู้ เธอสามารถแปลงร่างเป็นสิ่งมีชีวิตอื่นได้
- ซิลเวอร์สตรีม (Silverstream; ให้เสียงโดยลอว์เรน แจ็กสัน) เป็นหลานสาวของราชินีโนโว (Queen Novo) ที่ตื่นตัวและสามารถแปลงร่างเป็นทั้งฮิปโปกริฟฟ์และซีโพนี เธอมีนิสัยเหมือนกับเจ้าหญิงสกายสตาร์ (Princess Skystar) ลูกพี่ลูกน้องของเธอในด้านบุคลิกภาพ
- โยนา (Yona; ให้เสียงโดยแคทรีนา แซลิสบิวรี) เป็นจามรีที่เป็นมิตรและซุ่มซ่าม. เธอเป็นหนึ่งในสมาชิกที่แข็งแกร่งที่สุด
- แกลลัส (Gallus; ให้เสียงโดย Gavin Langelo) เป็นกริฟฟอนที่ชอบพูดเสียดสี เขามีอาการกลัวพื้นที่แคบ (claustrophobic) และเป็นกริฟฟอนกำพร้า.
- แซนด์บาร์ (Sandbar; ให้เสียงโดยวินเซนต์ ทัง) เป็นม้าโพนี่ที่ชอบ "พูดความจริง"
หมายเหตุ
[แก้]- ↑ Libman provides Pinkie Pie's singing voice for some songs.
อ้างอิง
[แก้]- ทั่วไป
- Snider, Brandon T. (2013). The Elements of Harmony: My Little Pony: Friendship Is Magic: The Official Guidebook. New York: Little, Brown and Company. ISBN 978-0-316-24754-2.
- Begin, Mary Jane (2015). My Little Pony: The Art of Equestria. New York: Abrams. ISBN 978-1-4197-1577-8.
- เฉพาะ
- ↑ Begin (2015), p. 75
- ↑ Begin (2015), p. 47
- ↑ Begin (2015), p. 80
- ↑ Snider (2013), p. 80
- ↑ Faust, Lauren (November 29, 2013). "[Lauren Faust on Twilight's inspiration]". Twitter. (Self-published). สืบค้นเมื่อ November 10, 2015.
- ↑ 6.0 6.1 Snider (2013), p. 19
- ↑ Season 8 Episode 24 "Father Knows Beast": "I was orphaned as an egg and Twilight raised me. So these ponies are more than my friends, they're my family."
- ↑ "Raising Spike 1". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2019-04-30. สืบค้นเมื่อ 2019-11-29.
- ↑ "Raising Spike 2". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2019-04-30. สืบค้นเมื่อ 2019-11-29.
- ↑ Begin (2015), p. 76
- ↑ Faust, Lauren (November 29, 2013). "[Lauren Faust on Applejack's inspiration]". Twitter. (Self-published). สืบค้นเมื่อ November 11, 2015.
- ↑ 12.0 12.1 Snider (2013), p. 23
- ↑ "Sethisto" (June 8, 2013). "Lauren Faust Ponychan Q&A Compiled". Equestria Daily. สืบค้นเมื่อ November 8, 2015.
- ↑ Begin (2015), p. 54
- ↑ Faust, Lauren (November 29, 2013). "[Lauren Faust on Rainbow Dash's inspiration]". Twitter. (Self-published). สืบค้นเมื่อ October 14, 2015.
- ↑ Begin (2015), p. 183
- ↑ Begin (2015), p. 56
- ↑ Faust, Lauren (November 29, 2013). "[Lauren Faust on Pinkie Pie's inspiration]". Twitter. (Self-published). สืบค้นเมื่อ November 5, 2015.
- ↑ Begin (2015), p. 73
- ↑ อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อEoH-PP
- ↑ อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อAoE182
- ↑ "Tekaramity" (September 16, 2011). "Exclusive Season 1 Retrospective Interview with Lauren Faust". Equestria Daily. สืบค้นเมื่อ November 8, 2015.
- ↑ Snider (2013), p. 76–77
- ↑ Faust, Lauren (November 29, 2013). "[Lauren Faust on Rarity's inspiration]". Twitter. (Self-published). สืบค้นเมื่อ November 11, 2015.
- ↑ Snider (2013), p. 22
- ↑ Begin (2015), p. 181
- ↑ "Sethisto" (May 27, 2013). "Lauren Faust Answers a Bunch of Questions". Equestria Daily. สืบค้นเมื่อ November 13, 2015.
- ↑ Faust, Lauren (November 29, 2013). "[Lauren Faust on Fluttershy's inspiration]". Twitter. (Self-published). สืบค้นเมื่อ November 13, 2015.
- ↑ Snider (2013), p. 24
- ↑ Snider (2013), p. 47
- ↑ Begin (2015), p. 79
- ↑ Rogers, Amy Keating (2014). My Little Pony: Friendship Is Magic: The Journal of the Two Sisters: The Official Chronicles of Princesses Celestia and Luna. Boston, New York: Little, Brown and Company. ISBN 978-0-316-28224-6.
- ↑ อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อms faust
- ↑ Beck, Koa (February 15, 2012). "'Oh, My Hair Looks Beautiful!' and Other Crap Girls Can Learn from My Little Pony Princess Celestia". Mommyish. สืบค้นเมื่อ November 10, 2015.[ลิงก์เสีย]
- ↑ Snider (2013), p. 36
- ↑ Heather Nuhfer (w), Amy Mebberson (a). "Nightmare Rarity" My Little Pony: Friendship Is Magic v2, 5 (March 27, 2013), IDW Publishing, ISBN 978-1-61377-760-2
- ↑ Begin (2015), p. 81
- ↑ Heldman, Breanne L. (January 28, 2016). "'My Little Pony: Friendship Is Magic': First Look at Baby Flurry Heart Will Warm Your Soul". Yahoo!. สืบค้นเมื่อ January 28, 2016.
- ↑ 39.0 39.1 Snider (2013), p. 27
- ↑ Berrow, G. M. (2013). My Little Pony: Twilight Sparkle and the Crystal Heart Spell. Little, Brown and Company. ISBN 978-0-316-24755-9.
- ↑ Snider (2013), p. 71
- ↑ VanDerWerff, Todd (April 29, 2011). "My Little Pony Friendship Is Magic". The A.V. Club. สืบค้นเมื่อ April 30, 2011.
- ↑ 43.0 43.1 43.2 Snider (2013), p. 38–39
- ↑ https://twitter.com/mktoon/status/918280280376561664
- ↑ https://www.equestriadaily.com/2017/10/scootaloos-lesbian-aunt-confirmed-by.html
- ↑ https://www.equestriadaily.com/2017/10/scootaloo-lives-with-her-lesbian-aunts.html
- ↑ Corlett, Ian James (May 5, 2013). "[Ian James Corlett on Sweetie Belle's singing voice]". Twitter. (Self-published). สืบค้นเมื่อ June 25, 2013.
- ↑ Begin (2015), p. 98
- ↑ 49.0 49.1 Snider (2013), p. 54
- ↑ Begin (2015), p. 31–32
- ↑ 51.0 51.1 Snider (2013), p. 28
- ↑ 52.0 52.1 Begin (2015), p. 108
- ↑ "Sethisto" (March 25, 2016). "Starlight Glimmer was Originally Aurora Glimmer". Equestria Daily. สืบค้นเมื่อ March 19, 2016.
- ↑ @TheBiggestJim (March 25, 2018). "We refer to them as the "Young Six" internally" (ทวีต). สืบค้นเมื่อ March 27, 2018 – โดยทาง ทวิตเตอร์.