ข้ามไปเนื้อหา

รัฐบาลโชกุนคามากูระ

พิกัด: 35°19′N 139°33′E / 35.317°N 139.550°E / 35.317; 139.550
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
รัฐบาลโชกุนคามากูระ

鎌倉幕府
คามากูระ บากูฟุ
ค.ศ. 1192–1333
ของรัฐบาลโชกุนคามากูระ
ตราแผ่นดิน
สถานะรัฐบาลสำเร็จราชการแทนโชกุน
เมืองหลวงเฮอังเกียว (พระราชวังของจักรพรรดิ)
คามากูระ (ที่พำนักของโชกุน)
ภาษาทั่วไปญี่ปุ่นปลายยุคกลาง
ศาสนา
ศาสนาพุทธ
ชิมบุสึชูโง
การปกครองสองผู้นำทางการเมือง (diarchy)[a]
ฟิวดัล สืบทอดทางสายเลือด
เผด็จการทหาร[2]
ภายใต้ผู้สำเร็จราชการแทน
ที่สืบทอดทางสายเลือด
(โดยพฤตินัย 1199–1133)[3]
จักรพรรดิ 
• 1183–1198
โกโทบะ
• 1318–1339
โกไดโงะ
โชกุน 
• 1192–1199
มินาโมโตะ โนะ โยริโตโมะ
• 1308–1333
เจ้าชายโมริกูนิ
ผู้สำเร็จราชการแทนโชกุน 
• 1199–1205
โฮโจ โทกิมาซะ
• 1326–1333
โฮโจ โมริโตกิ
ประวัติศาสตร์ 
• มินาโมโตะ โนะ โยริโตโมะ ขึ้นเป็นปฐมโชกุนแห่งคามากูระ
12 กรกฎาคม ค.ศ. 1192
25 เมษายน 1185
• โฮโจ เริ่มดำรงตำแหน่งผู้สำเร็จราชการแทนโชกุน
9 กุมภาพันธ์ 1199
18 พฤษภาคม 1333
สกุลเงินเรียว
ก่อนหน้า
ถัดไป
ยุคเฮอัง
การฟื้นฟูเค็มมุ

รัฐบาลโชกุนคามากูระ (ญี่ปุ่น: 鎌倉幕府โรมาจิKamakura bakufu) เป็นระบอบการปกครองโดยทหารในญี่ปุ่น อันมีประมุขของรัฐบาลคือโชกุน ตั้งแต่ ค.ศ. 1185 (หรือ 1192 อย่างเป็นทางการ) ถึง ค.ศ. 1333 ซึ่งมีเมืองหลวงอยู่ที่คามากูระ

ชื่อยุคคามากูระนั้นมาจากเมืองหลวงของรัฐบาลโชกุน[4] ซึ่งตั้งแต่ ค.ศ. 1203 เป็นต้นไป ตระกูลโฮโจ ครอบครัวของภริยาปฐมโชกุนโยะริโตะโมะ ก็เข้ากุมอำนาจทั้งหมด ในตำแหน่งที่เรียกว่า "ชิกเก็ง" (ผู้สำเร็จราชการแทนโชกุน) โดยใน 135 ปีของยุคนี้มีโชกุนทั้งหมด 9 คนพร้อมด้วย 16 ผู้สำเร็จราชการ

ประวัติศาสตร์

[แก้]
Minamoto no Yoritomo ไปเกียวโตในช่วงต้นของ รัฐบาลโชกุนคามากูระ

สถาปนารัฐบาล

[แก้]

ก่อนการสถาปนารัฐบาลโชกุนคามากูระ อำนาจทั้งปวงจะรวมอยู่ที่ราชสำนักขององค์จักรพรรดิเป็นหลัก บุคคลต่าง ๆ ที่ได้รับการแต่งตั้งจะเป็นขุนนางและพรรคพวกที่มีความสัมพันธ์กับราชสำนัก และกิจการทหารก็อยู่ภายใต้การอุปถัมภ์ของรัฐบาลพลเรือน อย่างไรก็ตามหลังจากที่มีชัยชนะเหนือตระกูลไทระ ในศึกเก็งเปะอิ มินะโมะโตะ โนะ โยะริโตะโมะ ก็ได้เข้ายึดอำนาจจากชนชั้นสูงในปี ค.ศ. 1185 และได้สถาปนาตนเองขึ้นเป็นโชกุนใน ค.ศ. 1192 พร้อมกับประกาศสถาปนารัฐบาลโชกุนขึ้นปกครองญี่ปุ่น

การเถลิงอำนาจของตระกูลโฮโจ

[แก้]

ภายหลังการอสัญกรรมของโชกุนโยะริโตะโมะ โฮโจ โทะกิมะซะ ประมุขแห่งตระกูลโฮโจ (ตระกูลของภริยาโชกุน), โฮโจ มะซะโกะ และเหล่าบริวารในอดีตของโยะริโตะโมะ ได้อ้างอำนาจการบริหารราชการแผ่นดินในนามของ "ผู้สำเร็จราชการแทนโชกุน" (ชิกเก็ง) จากโชกุน มิตะโมะโตะ โนะ โยะริอิเอะ บุตรชายคนโตของโชกุนโยะริโตะโมะคนในตระกูลโฮโจก็ดำรงตำแหน่งชิกเก็งนี้แบบสืบสายเลือดต่อมาซึ่งเป็นกลุ่มคนที่ถือครองอำนาจอย่างแท้จริงโชกุนเพียงแต่ให้คำปรึกษาในบางครั้งคราวและเป็นประมุขของรัฐบาลเท่านั้น

การรุกรานจากมองโกล

[แก้]

จักรวรรดิมองโกล ภายใต้การนำของกุบไล ข่าน ซึ่งกำลังแผ่ขยายอาณาเขตไปอย่างกว้างขวางยากที่ชาติไดในขณะนั้นจะต้านทานได้ ต้องการมีอำนาจเหนือญี่ปุ่น จึงส่งคณะทูตมาถึงสองครั้งเพื่อต้องการให้ญี่ปุ่นแสดงความจงรักภักดีต่อจักรพรรดิมองโกล แต่ก็ได้รับการปฏิเสธจากโทะกิมะซะ ทำให้มองโกลตัดสินใจบุกญี่ปุ่นสองครั้งในปี ค.ศ. 1274 และ 1281 ซึ่งมองโกลพ่ายแพ้ทั้งสองครั้งจากการที่ประสบกับพายุไต้ฝุ่น จากการที่มองโกลสูญเสียไพร่พลและทรัพยากรไปอย่างมหาศาลในศึกครานี้ สร้างความไม่พอใจให้กับกับประชาชน กองทัพและราชสำนักหยวน เป็นผลให้จักรวรรดิมองโกลเริ่มเสื่อมถอยจนล่มสลายในปี ค.ศ. 1368

การปกครอง

[แก้]
  • เซอิไทโชกุน (征夷大将軍) หรือ คะมะกุระ-โดะโนะ (鎌倉殿) หรือโชกุน เป็นประมุขของรัฐบาลโชกุน ได้รับการแต่งตั้งจากราชสำนักเกียวโต ในยุคคะมะกุระโชกุนเป็นเพียงหุ่นเชิดของชิกเก็งเท่านั้น เป็นตำแหน่งทางพิธีการเพื่อให้รัฐบาลโชกุนยังคงดำเนินต่อไปได้
  • ชิกเก็ง (執権) หรือผู้สำเร็จราชการแทนโชกุน เป็นผู้นำของมันโดะโกะโระ และเป็นผู้มีอำนาจปกครองประเทศโดยแท้จริง มีตระกูลโฮโจเป็นผู้มีสิทธิ์ขาดในตำแหน่ง
  • เร็งโช (連署) หรือรองผู้สำเร็จราชการแทนโชกุน มีอำนาจรองลงมาจากชิกเก็ง มีขึ้นครั้งแรกในสมัยของชิกเก็งโฮโจ ยะซุโตะกิ
  • เฮียวโจ-ชู (評定衆) สภาประกอบด้วยโงะเกะนิงหรือเจ้าผู้ครองแคว้นทั้งหลาย มีอำนาจสูงสุดตัดสินใจเกี่ยวกับกฎหมายและนโยบายต่าง ๆ ของชิกเก็ง ในสมัยหลังมีอำนาจลดลงเนื่องจากชิกเก็งกุมอำนาจเผด็จการไว้แต่ผู้เดียว
  • ฮิกิซึเกะ-ชู (引付衆) สภามีหน้าที่ตัดสินคดีความต่าง ๆ ระหว่างโงะเกะนิง
  • มันโดะโกะโระ (政所) สภาประกอบด้วยขุนนางซะมุไร มีหน้าที่แนะนำและลงความเห็นนโยบายของโชกุน มีอำนาจเฉพาะในสมัยของโชกุนมินะโมะโตะ โนะ โยะริโตะโมะ
  • มงชู-โจ (問注所) สภามีหน้าที่ตัดสินคดีความต่าง ๆ คล้ายกับฮิกิซึเกะ-ชูเพียงแต่เป็นของโชกุน
  • โงะเกะนิง (御家人) ซะมุไรผู้ถือครองที่ดินที่ได้รับการแต่งตั้งจากรัฐบาลโชกุนส่วนกลาง ได้รับผลประโยชน์จากผลผลิตในที่ดินของตน โดยมีหน้าที่ต้องให้กำลังพลและทรัพยากรในยามที่รัฐบาลกลางต้องการ ตามระบอบศักดินาสวามิภักดิ์ (Feudalism) ประกอบด้วย
    • จิโต (地頭) ขุนนางซะมุไรผู้ปกครองที่ดินขนาดเล็ก
    • ชูโง (守護) ขุนนางซะมุไรผู้ปกครองแคว้นใหญ่ ซึ่งประกอบไปด้วยหลายจิโต
  • โระกุฮะระ ทังได (六波羅探題) เปรียบเสมือนเป็นสาขาสองของรัฐบาลโชกุนในเมืองเกียวโต ตั้งอยู่ในเขตโระกุฮะระ (六波羅) ของเมืองเกียวโต เกิดขึ้นหลังจากสงครามโจคิวเพื่อควบคุมราชสำนักเกียวโต มีผู้นำสองคนได้แก่ คิตะ-โนะ-คะตะ (北方) ดูและส่วนเหนือของเกียวโต และ มินะมิ-โนะ-คะตะ (南方) ดูแลส่วนใต้ของเกียวโต
  • ชิงเซย์-บุเงียว (鎮西奉行) ผู้ปกครองชิงเซย์ หรือเกาะคีวชู หลังจากการรุกรานญี่ปุ่นของมองโกล จึงได้มีการยกระดับขึ้นเป็น ชิงเซย์-ทังได (鎮西探題)
  • มิอุชิบิโตะ (御内人) คนรับใช้ประจำตระกูลโฮโจ เรืองอำนาจขึ้นมาในช่วงปลายสมัยคะมะกุระ เช่น ไทระ โนะ โยะริซึนะ นะงะซะกิ เอ็งกิ

รายนามโชกุนคะมะกุระ

[แก้]
ลำดับ ภาพ ชื่อ ช่วงเวลามีชีวิต ช่วงเวลาดำรงตำแหน่ง
1 มินาโมโตะ โนะ โยริโตโมะ ค.ศ. 1147–1199 ค.ศ. 1192–1199
2 มินาโมโตะ โนะ โยริอิเอะ ค.ศ. 1182–1204 ค.ศ. 1202–1203
3 มินาโมโตะ โนะ ซาเนโตโมะ ค.ศ. 1192–1219 ค.ศ. 1203–1219
4 คูโจ โยริตสึเนะ ค.ศ. 1218–1256 ค.ศ. 1226–1244
5 คูโจ โยริตสึงุ ค.ศ. 1239–1256 ค.ศ. 1244–1252
6 เจ้าชายมูเนตากะ ค.ศ. 1242–1274 ค.ศ. 1252–1266
7 เจ้าชายโคเรยาซุ ค.ศ. 1264–1326 ค.ศ. 1266–1289
8 เจ้าชายฮิซาอากิ ค.ศ. 1276–1328 ค.ศ. 1289–1308
9 เจ้าชายโมริกูนิ ค.ศ. 1301–1333 ค.ศ. 1308–1333

หมายเหตุ

[แก้]
  1. มีการแบ่งปันอำนาจในการปกครองประเทศระหว่างอำนาจพลเมืองในเกียวโตและอำนาจทางทหารในคามากูระ[1]

อ้างอิง

[แก้]
  1. "Japan § Medieval Japan". britannica.com. Encyclopædia Britannica, Inc. สืบค้นเมื่อ October 22, 2020.
  2. "Kamakura period | Japanese history". britannica.com. Encyclopædia Britannica, Inc. สืบค้นเมื่อ October 22, 2020.
  3. John A. Harrison. "Hōjō Family | Japanese family". britannica.com. Encyclopædia Britannica, Inc. สืบค้นเมื่อ October 22, 2020.
  4. Nussbaum, Louis-Frédéric. (2005). "Kamakura-jidai" in Japan Encyclopedia, p. 459, p. 459, ที่กูเกิล หนังสือ.

35°19′N 139°33′E / 35.317°N 139.550°E / 35.317; 139.550