มุศเฏาะฟา ฮัจญี
ข้อมูลส่วนตัว | |||
---|---|---|---|
ชื่อเต็ม | Mustapha Hadji | ||
วันเกิด | 16 พฤศจิกายน ค.ศ. 1971 | ||
สถานที่เกิด | อิฟรอนอัฏลัสอัศเศาะฆีร, โมร็อกโก | ||
ส่วนสูง | 5 ft 11 in (1.80 m) | ||
ตำแหน่ง | กองกลาง | ||
สโมสรเยาวชน | |||
1990–1991 | อาแอ็ส น็องซี | ||
สโมสรอาชีพ* | |||
ปี | ทีม | ลงเล่น | (ประตู) |
1991–1996 | อาแอ็ส น็องซี | 134 | (31) |
1996–1997 | สปอร์ติงลิสบอน | 27 | (3) |
1997–1999 | เดปอร์ติโบเดลาโกรุญญา | 31 | (2) |
1999–2001 | คอเวนทรีซิตี | 62 | (12) |
2001–2004 | แอสตันวิลลา | 35 | (2) |
2004 | อัสปัญญ็อล | 16 | (1) |
2004–2005 | อัลอัยน์ | 15 | (5) |
2005–2007 | ซาร์บรึคเคิน | 54 | (10) |
2007–2010 | เซแอ็ส ฟอลาแอ็ช | 44 | (25) |
รวม | 418 | (91) | |
ทีมชาติ | |||
1993–2004 | โมร็อกโก | 63 | (13) |
จัดการทีม | |||
2012–2013 | อุมม์เศาะลาล (ผู้ช่วย) | ||
2014– | ทีมชาติโมร็อกโก (ผู้ช่วย) | ||
*นัดที่ลงเล่นและประตูที่ยิงให้แก่สโมสรเฉพาะลีกในประเทศเท่านั้น |
มุศเฏาะฟา ฮัจญี (อาหรับ: مصطفى حجي; อังกฤษ: Mustapha Hadji; เกิด 16 พฤศจิกายน ค.ศ. 1971 ที่โมร็อกโก) เป็นอดีตนักฟุตบอลทีมชาติโมร็อกโก ปัจจุบันรับหน้าที่เป็นผู้ช่วยผู้จัดการทีมชาติโมร็อกโก มีชื่อเสียงโด่งดังเมื่อครั้งเล่นให้กับสโมสรคอเวนทรีซิตี และแอสตันวิลลาในพรีเมียร์ลีก โดยฮัจญีเคยเล่นในฟุตบอลโลก 1994 และ ฟุตบอลโลก 1998 รวมทั้งได้รับรางวัลนักฟุตบอลยอดเยี่ยมแห่งปีของทวีปแอฟริกา 1 สมัย เมื่อครั้งเล่นให้สโมสรเดปอร์ติโบเดลาโกรุญญาในลาลิกาของสเปน และเป็นอดีตกัปตันทีมของสโมสรคอเวนทรีซิตี
ฮัจญีได้รับการจัดให้เป็นหนึ่งใน 50 นักฟุตบอลแอฟริกายอดเยี่ยมตลอดกาลโดยเอ็ด ดัฟ คอลัมนิสต์ผู้สันทัดกรณีและนักวิจารณ์ฟุตบอลในทวีปแอฟริกาชื่อดัง[1] โดยมีน้องชายคือยูซุฟ ฮัจญี เป็นอดีตกองกลางทีมชาติโมร็อกโกเช่นกันและปัจจุบันยังเล่นฟุตบอลให้กับสโมสรน็องซีในระดับลีกเดอ ฝรั่งเศส
ประวัติ
[แก้]มุศเฏาะฟา ฮัจญี เกิดที่ประเทศโมร็อกโก เมื่อเขาอายุได้ 10 ปี ครอบครัวได้พาตัวเขาและพี่น้อง (ยูซุฟ, อิบรอฮีม และฟะรีด) ย้ายถิ่นฐานมาอยู่ที่ประเทศฝรั่งเศส ตัวเขาและพี่น้องได้เริ่มเล่นฟุตบอลที่เมืองน็องซี ก่อนจะได้เข้ามาสู่สโมสรอาแอ็ส น็องซี ในฐานะนักฟุตบอลระดับเยาวชน และได้สัญชาติฝรั่งเศสเป็นสัญชาติที่สอง
การเล่นฟุตบอลระดับสโมสร
[แก้]อาแอ็ส น็องซี
[แก้]หลังจากที่ได้เล่นในทีมชุดเยาวชน ต่อมาเขาได้รับสัญญาเป็นนักฟุตบอลอาชีพในปี ค.ศ. 1991 และเล่นให้กับทีมชุดสำรอง ก่อนจะเลื่อนขึ้นมาเล่นให้กับทีมชุดใหญ่ของน็องซี ในฤดูกาล 1992-1993 ในยุคที่มี ออลีวีเย รูเย อดีตกองหน้าทีมชาติฝรั่งเศสเป็นผู้จัดการทีม โดยในฤดูกาลแรกของเขาในทีมชุดใหญ่เขายิงประตูในลีกเดอไปถึง 6 ประตู จากตำแหน่งกองกลาง และก้าวขึ้นมาเป็นกองกลางคนสำคัญของสโมสรด้วยทักษะการเลี้ยงบอลที่โดดเด่น และสามารถยิงประตูในจังหวะสำคัญ ๆ ได้ โดยฟอร์มการเล่นที่สโมสรแห่งนี้ ทำให้เขาเป็นหนึ่งในทีมชาติโมร็อกโก ที่ได้เล่นในฟุตบอลโลก 1994 ที่สหรัฐอเมริกา โดยตลอดช่วงเวลา 4 ฤดูกาลที่เขาลงเล่นในลีกเดอ เขายิงประตูในลีกได้รวม 31 ประตู แต่ไม่อาจช่วยให้สโมสรเลื่อนชั้นขึ้นไปสู่ลีกเอิงซึ่งเป็นลีกสูงสุดได้
สปอร์ติงลิสบอน
[แก้]ฤดูกาล 1996-1997 มุศเฏาะฟา ฮัจญี ย้ายมาเล่นฟุตบอลให้กับสโมสรสปอร์ติงลิสบอน ทีมดังระดับปรีไมราลีกาของโปรตุเกส ภายใต้การคุมทีมของออกตาวีอู มาชาดู และได้เล่นในรายการระดับทวีปอย่างยูฟ่าคัพ โดยในการแข่งขันยูฟ่าคัพ 1996 รอบแรก ฮัจญียิงได้ 1 ประตู ในนัดที่บุกไปเสมอกับสโมสรฟุตบอลมงเปอลีเยจากฝรั่งเศส 1-1 โดยนับเป็นประตูแรกที่เขายิงได้ในการแข่งขันระดับทวีป โดยฤดูกาลนี้เขาช่วยให้สโมสรได้ตำแหน่งรองแชมป์ปรีไมรา และได้ไปแข่งยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก
โดยในการแข่งขันยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก 1997-1998 รอบแบ่งกลุ่มฮัจญี ยิงได้ 2 ประตู ในนัดที่เปิดบ้านถล่มอาแอ็ส มอนาโก จากลีกเอิงฝรั่งเศส ไป 3-0 และนัดที่ออกไปแพ้ไบเออร์เลเวอร์คูเซิน 4-1 อย่างไรก็ตามเขาไม่สามารถช่วยให้สโมสรผ่านเข้ารอบต่อไปได้ แต่จากฟอร์มการเล่นอันยอดเยี่ยมของเขาทำให้ในช่วงครึ่งฤดูกาลหลังเขาตกเป็นที่สนใจจากทีมต่าง ๆ ในยุโรปทั้งจากลาลิกาและพรีเมียร์ลีก ประกอบกับที่ตัวเขามีปัญหาในการใช้ชีวิตที่ประเทศโปรตุเกส จึงตัดสินใจย้ายทีมในเดือนธันวาคม ค.ศ. 1997
เดปอร์ติโบเดลาโกรุญญา
[แก้]เดือนธันวาคม ค.ศ. 1997 ฮัจญีบรรลุข้อตกลงในการย้ายทีม โดยเขาย้ายมาเล่นในลาลิกากับสโมสรเดปอร์ติโบเดลาโกรุญญา ที่มีโฆเซ มานูเอล กอร์รัล เป็นผู้จัดการทีมในขณะนั้น และมีเพื่อนร่วมทีมชาติในทีมอย่างนูรุดดีน เนย์เบ็ต แต่เขายังไม่สามารถลงสนามได้ โดยเขาต้องรอการอนุญาตจากฟีฟ่าในการย้ายทีมครั้งนี้นานถึงกว่า 2 เดือน และได้ลงสนามนัดแรกในวันที่ 8 มีนาคม ค.ศ. 1998 ในนัดที่เปิดบ้านเอาชนะสโมสรเรอัลโอเบียโด 2-1 โดยเขาถูกเปลี่ยนตัวลงมาแทนฟลาวีอู ดา กงเซย์เซา[2] และเป็นผู้เล่นคนสำคัญตลอดช่วงที่เหลือของฤดูกาล
ต่อมาเขาได้เป็นหนึ่งในผู้เล่นทีมชาติโมร็อกโกในฟุตบอลโลก 1998 ที่ประเทศฝรั่งเศส แม้ฮัจญีจะทำผลงานได้อย่างโดดเด่นและยิงประตูในฟุตบอลโลกได้ แต่ในลาลิกา ฤดูกาล 1998-1999 เขากลับไม่อาจเรียกฟอร์มการเล่นที่ยอดเยี่ยมดังกล่าวมาสู่การเล่นในสโมสรได้ โดยเขาต้องตกเป็นตัวสำรองในยุคของฆาบิเอร์ อิรูเรตา กุนซือคนใหม่ของสโมสร และผลงานของเขายังไม่เข้าตานัก
อย่างไรก็ตาม ช่วงเวลาที่น่าจดจำของเขากับสโมสรแห่งนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม ค.ศ. 1998 โดยเขาถูกส่งลงมาเป็นตัวสำรอง ในนัดที่เปิดบ้านพบกับสโมสรบาร์เซโลนา และเป็นผู้ยิงประตูให้ทีมขึ้นนำ 1-0 ก่อนที่จะชนะไป 2-1 ซึ่งประตูดังกล่าวถือเป็นประตูแรกของเขาในลาลิกา รวมถึงการถูกส่งลงมาเป็นตัวสำรองและยิงประตูชัยพาทีมชนะเรอัลซาราโกซาที่สนามเรียซอร์ 2-1
คอเวนทรีซิตี
[แก้]หลังจากที่ไม่ประสบความสำเร็จในการเล่นที่สเปน ฮัจญีย้ายทีมอีกครั้ง โดยย้ายมาเล่นในพรีเมียร์ลีกของอังกฤษกับสโมสรคอเวนทรีซิตี พร้อมกับเพื่อนร่วมทีมชาติโมร็อกโกอย่างยูซุฟ ชิปโป
ที่สโมสรแห่งนี้ เขาลงเล่นภายใต้การคุมทีมของกอร์ดอน สตราคัน อดีตกองกลางทีมชาติสกอตแลนด์ ผู้ซึ่งทำให้เขาเรียกฟอร์มการเล่นอันสุดยอดกลับคืนมาได้ และนับได้ว่าเป็นช่วงเวลาที่เขาเล่นได้ดีที่สุดในอาชีพค้าแข้ง โดยเขาลงเล่นให้กับสโมสรนัดแรกเมื่อวันที่ 7 สิงหาคม ค.ศ. 1999 ในนัดที่เปิดสนามไฮฟีลด์โรด พบกับสโมสรเซาท์แฮมป์ตัน (แพ้ 0-1) และยิงประตูแรกในพรีเมียร์ลีกได้ เมื่อวันที่ 25 กันยายน 1999 ค.ศ. โดยเป็นการยิงประตูชัยให้สโมสรเปิดบ้านเฉือนชนะเวสต์แฮมยูไนเต็ด 1-0[3] โดยเขายิงประตูในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลแรกของเขาได้ รวม 6 ประตู
ฮัจญีกลายเป็นผู้เล่นตัวหลักของสโมสร ด้วยทักษะอันยอดเยี่ยมรวมถึงการประสานงานระหว่างเขาและเพื่อนร่วมชาติอย่างยูซุฟ ชิปโป สามารถสร้างสรรค์โอกาสยิงประตูให้เพื่อนร่วมทีมได้อย่างมากมาย โดยสโมสรมีฟอร์มการเล่นในบ้านที่แข็งแกร่งอย่างมากเมื่อชนะถึง 12 นัด จากการเล่นในบ้าน 19 นัดในลีก ทำให้เขาเป็นที่ชื่นชอบของแฟนบอล โดยแฟนบอลของสโมสรจำนวนมากได้แสดงความนิยมในตัวเขาด้วยการสวมหมวกฏ็อรบูช (طربوش, ṭarbūsh) ซึ่งเป็นหมวกแบบอาหรับทรงสูง ลักษณะคล้ายหมวกกะปิเยาะ เข้ามาเชียร์ในสนาม
ฤดูกาล 2000-2001 เขาได้รับการแต่งตั้งให้เป็นกัปตันทีม แต่ถึงแม้ว่าฮัจญีซึ่งเป็นผู้เล่นคนสำคัญของสโมสรยังรักษามาตรฐานการเล่นของตัวเองไว้ได้ แต่ผลงานโดยรวมของสโมสรกลับไม่ดีนัก ในฤดูกาลนี้เขายิงในพรีเมียร์ลีกได้ 6 ประตูเท่ากับฤดูกาลที่แล้ว ซึ่งในจำนวนนี้เป็นการบุกไปยิงคนเดียว 2 ประตู ใส่สโมสรแอสตันวิลลาถึงสนามวิลลาพาร์ก แต่สโมสรกลับแพ้ออกไป 3-2 และพบกับความพ่ายแพ้ในลีกถึง 20 นัด ตลอดทั้งฤดูกาล จนต้องตกชั้นในที่สุด
แอสตันวิลลา
[แก้]หลังจากสโมสรของเขามีอันต้องตกชั้น ทำให้มีกระแสข่าวการย้ายทีมของเขาเกิดขึ้น ฮัจญีกลายเป็นเป้าสนใจจากทีมอื่น ๆ ทั้งในพรีเมียร์ลีกและบุนเดิสลีกา โดยเป็นสโมสรแอสตันวิลลาภายใต้การคุมทีมของจอห์น เกร็กกอรี อดีตกองกลางทีมชาติอังกฤษ ที่สามารถคว้าตัวเขามาร่วมทีมได้ด้วยข้อเสนอมูลค่า 2 ล้านปอนด์ บวกกับการแถม จูเลียน โจอาคิม กองกลางของทีมไปให้กับคอเวนทรีซิตีด้วย
ฮัจญี ลงสนามให้สโมสรใหม่เป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2001 ในนัดเปิดฤดูกาลของพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2001-2002 โดยสโมสรเปิดสนามวิลลาพาร์กพบกับสโมสรทอตนัม ฮอตสเปอร์ ซึ่งจอห์น เกร็กกอรี ผู้จัดการทีมได้ส่งเขาลงเล่นเป็นกองหน้าแทน ดาริอุส วาสเซลล์ กองหน้าทีมชาติอังกฤษในช่วงครึ่งเวลาหลัง และเสมอกันไป 0-0[4]
ต่อมาเขายิงประตูแรกในเสื้อของวิลลาได้ ในวันที่ 24 กันยายน ในพรีเมียร์ลีกนัดที่บุกไปชนะสโมสรเซาท์แฮมป์ตัน ถึงสนามเซนต์แมรีส์สเตเดียม 3-1 โดยการแข่งขันนัดดังกล่าวเป็นนัดแรกที่เขาได้ลงเล่นเป็นตัวจริง ก่อนจะได้เป็นตัวจริงอย่างต่อเนื่อง
ต่อมาเขาทำประตูได้ในการแข่งขันยูฟ่าคัพรอบแรก นัดที่เอาชนะสโมสรเอ็นเค วาร์เทคส์ จากโครเอเชีย ไปได้ 1-0 แต่กลับต้องตกรอบแรกด้วยกฏการยิงประตูทีมเยือน และมาทำประตูได้อีกครั้งจากลูกโหม่งในพรีเมียร์ลีกนัดที่แพ้เอฟเวอร์ตัน 3-2 ที่กูดิสันพาร์ก[5]
ขณะที่ฮัจญี กำลังเป็นผู้เล่นตัวหลักของแอสตันวิลลา เขากลับได้รับบาดเจ็บที่บริเวณหัวเข่าระหว่างการแข่งขันลีกคัพรอบ 16 ทีมสุดท้าย กับสโมสรเชฟฟิลด์ เวนส์เดย์ เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2001 จนต้องพักรักษาอาการบาดเจ็บนานกว่า 6 สัปดาห์[6] ในช่วงที่เขาพักรักษาตัวจอห์น เกร็กกอรี กุนซือผู้ที่นำตัวเขามาร่วมทีม ได้แยกทางกับสโมสรไปในเดือนมกราคม ปี 2002 โดยสจ๊วต เกรย์ และจอห์น ดีแฮน ได้เข้ามาเป็นผู้จัดการทีมชั่วคราว[7]
เมื่อฮัจญี หายจากอาการบาดเจ็บ กลับมาลงสนามให้วิลลาได้อีกครั้ง เขายังคงเป็นผู้เล่นตัวจริงในยุคของสจ๊วต เกรย์และจอห์น ดีแฮน 2 ผู้จัดการทีมชั่วคราว จนกระทั่งสโมสรได้แต่งตั้งให้เกรแฮม เทย์เลอร์ กุนซือชาวอังกฤษ เป็นผู้จัดการทีมคนใหม่ของสโมสรในเดือนกุมภาพันธ์ ทำให้เขาไม่ได้รับการการันตีตำแหน่งผู้เล่นตัวจริงในทีมอีกต่อไป แต่อย่างไรก็ตามเขายังคงถูกส่งลงสนามเป็น 11 ผู้เล่นคนแรกไปจนจบฤดูกาล 2001-2002 โดยวิลลา ได้อันดับที่ 8 และฮัจญี ลงสนามในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ไป 23 นัด ยิงได้ 2 ประตู
ฤดูกาล 2002-2003 ฮัจญี กลายเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่ไม่อยู่ในแผนการทำทีมของเกรแฮม เทย์เลอร์ และต้องหลุดออกจากทีมชุดแรก นอกจากนี้เขายังมีปัญหาอาการบาดเจ็บบริเวณเอ็นร้อยหวาย [8]โดยเขาได้ลงเล่นในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้เพียง 11 นัดตลอดทั้งฤดูกาล
ฤดูกาล 2003-2004 สโมสรได้แต่งตั้งให้เดวิด โอเลียรี เข้ามาเป็นผู้จัดการทีมคนใหม่แทนเกรแฮม เทย์เลอร์ และฮัจญี ยังคงเป็นผู้เล่นที่ไม่อยู่ในแผนการทำทีมอีกเช่นเคย ปลายปี 2003 เขาปฏิเสธข้อเสนอของเวสต์แฮม ยูไนเต็ด[9] และตัดสินใจย้ายไปเล่นในลาลิกาสเปนอีกครั้งกับสโมสรอัสปัญญ็อล[10]
อัสปัญญ็อล
[แก้]ปลายเดือนมกราคม ค.ศ.2004 มุศเฏาะฟา ฮัจญี ย้ายมาร่วมทีมอัสปัญญ็อล ในระดับลาลิกาสเปน ภายใต้การคุมทีมของลูอิส แฟร์กน็องเดซ ผู้จัดการทีมชาวฝรั่งเศส ที่สโมสรแห่งนี้ฮัจญีถือเป็นผู้เล่นคนสำคัญ โดยเขายิงประตูให้สโมสรได้ ในลาลิกานัดที่บุกไปเอาชนะสโมสรเซลต้า บีโก้ 5-1 ที่สนามบาไลดอส ซึ่งการแข่งขันนัดดังกล่าวเป็นการแข่งขันระหว่าง 2 สโมสรที่อยู่โซนหนีตกชั้น ทำให้สโมสรคว้า 3 แต้มสำคัญได้ และรอดพ้นจากการตกชั้นเมื่อจบฤดูกาล
อัลอัยน์
[แก้]ฤดูกาล 2004-2005 ฮัจญี ย้ายมาเล่นฟุตบอลในลีกสูงสุดของประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ กับสโมสรอัลอัยน์ สโมสรดังแห่งรัฐอาบูดาบี โดยได้เล่นในรายการเอเอฟซี แชมเปียนส์ลีก และจบฤดูกาลด้วยการคว้ารองแชมป์ ยูเออี ฟุตบอลลีก
ซาร์บรึคเคิน
[แก้]ฤดูกาล 2005-2006 ฮัจญีย้ายมาเล่นฟุตบอลที่ประเทศเยอรมัน ในระดับซไวเทอบุนเดิสลีกา (ลีกา 2) กับสโมสรซาร์บรึคเคิน ที่มีรูดี บอมเมอร์ เป็นโค้ช โดยลงสนามในลีกเป็นนัดแรกเมื่อวันที่ 6 สิงหาคม ปี 2005 ในนัดที่เปิดสนามลุดวิกสปาร์ก แพ้ต่อสโมสรเฟาเอฟแอล โบคุ่ม 0-4 และมายิงประตูแรกของตัวเองได้ในนัดที่เสมอกับสโมสรบวร์กเฮาเซน 1-1 เมื่อวันที่ 18 กันยายน 2005
วันที่ 4 ธันวาคม 2005 มุศเฏาะฟา ฮัจญี ยิงคนเดียว 2 ประตู ในนัดที่บุกไปชนะสโมสรคิกเกอร์ส ออฟเฟนบัค 3-2 แม้เขาจะเล่นได้ดี แต่ผลงานโดยรวมของสโมสรกลับย่ำแย่ และตกชั้นเมื่อจบฤดูกาล โดยฮัจญียิงประตูจากตำแหน่งกองกลางในฤดูกาลนี้ได้ 4 ประตู
ความสำเร็จ
[แก้]- ปรีไมรา ลีกา 1996-1997 : รองแชมป์ (สปอร์ติงลิสบอน)
- นักฟุตบอลยอดเยี่ยมแห่งปีของทวีปแอฟริกา : 1998
- ยูเออี ฟุตบอลลีก 2004-2005 : รองแชมป์ (อัลอัยน์)
อ้างอิง
[แก้]แหล่งข้อมูลอื่น
[แก้]- มุศเฏาะฟา ฮัจญี ที่ National-Football-Teams.com
- ↑ "The 50 Greatest African Players of All Time". Bleacher Report. 25 September 2013. สืบค้นเมื่อ 26 September 2013.
- ↑ "สำเนาที่เก็บถาวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-03-06. สืบค้นเมื่อ 2015-06-20.
- ↑ http://www.transfermarkt.com/mustapha-hadji/leistungsdaten/spieler/3840
- ↑ http://www.avfc.co.uk/page/TV/LiveMatches/0,,10265~13233,00.html
- ↑ http://www1.skysports.com/football/everton-vs-a-villa/22382
- ↑ http://news.bbc.co.uk/sport2/hi/football/teams/a/aston_villa/1682299.stm
- ↑ http://www.telegraph.co.uk/sport/football/2429413/Gregory-quits-Villa-to-take-a-break.html
- ↑ http://www.telegraph.co.uk/sport/3040599/Premiership-preview.html
- ↑ http://www.espnfc.com/story/282470/villas-hadji-rejects-hammers-loan-move
- ↑ http://news.bbc.co.uk/sport2/hi/football/teams/a/aston_villa/3453387.stm