ผลต่างระหว่างรุ่นของ "อ็องรี เดอ ตูลูซ-โลแทร็ก"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
BotKung (คุย | ส่วนร่วม)
บริการเปลี่ยนหมวดหมู่อัตโนมัติด้วยบอต
Potapt (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 1: บรรทัด 1:
{{รอการตรวจสอบ}}
{{รอการตรวจสอบ}}
[[ไฟล์:Photolautrec.jpg|thumb|250px |“อองรี เดอ ตูลูส-โลแตร็ก”]]
[[ไฟล์:Photolautrec.jpg|thumb|250px |อ็องรี เดอ ตูลูซ-โลแทร็ก]]
[[ไฟล์:Henri de Toulouse-Lautrec 037.jpg|thumb|250px|“ลากูลู (หลุยส์ เวเบ) มาถึงมูแลงรูช” (La Goulue arriving at the Moulin Rouge) (ค.ศ. 1892)]]
[[ไฟล์:Henri de Toulouse-Lautrec 037.jpg|thumb|250px|“ลากูลู (หลุยส์ เวเบ) มาถึงมูแล็งรูฌ” (La Goulue arriving at the Moulin Rouge) (ค.ศ. 1892)]]
'''อองรี เดอ ตูลูส-โลแตร็ก''' (''Henri de Toulouse-Lautrec'') ([[24 พฤศจิกายน]] [[พ.ศ. 2407]] - [[9 กันยายน]] [[พ.ศ. 2444]]) จิตรกร, ช่างพิมพ์, ช่างเขียนแบบ และอิลลัสเตรเตอร์ (''Illustrator'') สมัย[[ศิลปะอิมเพรสชันนิสม์สมัยหลัง|อิมเพรสชันนิสม์สมัยหลัง]]คนสำคัญของ[[ประเทศฝรั่งเศส]]ในคริสต์ศตวรรษที่ 19 มีความเชี่ยวชาญทางการเขียน[[โปสเตอร์]]ของชีวิตผู้คนในบริเวณมงมาตร์ และผู้ชอบใช้ชีวิตในวงการของความฟุ้งเฟ้อและโรงละครในสมัยต้นคริสต์ศตวรรษ (fin de siècle) ของ [[ปารีส]]
'''อ็องรี เดอ ตูลูซ-โลแทร็ก''' ({{lang-fr|Henri de Toulouse-Lautrec}}; [[24 พฤศจิกายน]] [[พ.ศ. 2407]] - [[9 กันยายน]] [[พ.ศ. 2444]]) จิตรกร, ช่างพิมพ์, ช่างเขียนแบบ และอิลลัสเตรเตอร์ (''Illustrator'') สมัย[[ศิลปะอิมเพรสชันนิสม์สมัยหลัง|อิมเพรสชันนิสม์สมัยหลัง]]คนสำคัญของ[[ประเทศฝรั่งเศส]]ในคริสต์ศตวรรษที่ 19 มีความเชี่ยวชาญทางการเขียน[[โปสเตอร์]]ของชีวิตผู้คนในบริเวณมงมาตร์ และผู้ชอบใช้ชีวิตในวงการของความฟุ้งเฟ้อและโรงละครในสมัยปลายคริสต์ศตวรรษ (fin de siècle) ของ[[ปารีส]]


== ชีวิตเบื้องต้น ==
== ชีวิตเบื้องต้น ==
อองรี เดอ ตูลูส-โลแตร็กเกิดที่อัลบีใน[[แคว้นมีดี-ปีเรเน]] เป็นลูกคนแรกของเคานต์อัลฟงส์และเคาน์เตสส์อาแดล เดอ ตูลูส-โลแตร็กซึ่งเป็นครอบครัวผู้ดีตกยาก เคานต์อัลฟงส์และเคานต์เทสอาแดลเป็นลูกพี่ลูกน้องกันและมิใช่เป็นรุ่นแรกของครอบครัวโลแตร็กที่แต่งงานกันเอง ซึ่งอาจจะเป็นสาเหตุที่อองรีมีโรคหลายโรคมาตั้งแต่กำเนิดและโรคที่ว่านี้อาจจะมีสาเหตุมาจากการแต่งงานระหว่างพี่น้องในสายเลือดเดียวกัน น้องชายของอองรีเกิดเมื่อปี ค.ศ. 1867 และเสียชีวิตปีต่อมา
อ็องรี เดอ ตูลูซ-โลแทร็กเกิดที่อาลบีใน[[แคว้นมีดี-ปีเรเน]] เป็นลูกคนแรกของเคานต์อัลฟงส์และเคาน์เตสส์อาแดล เดอ ตูลูซ-โลแทร็กซึ่งเป็นครอบครัวผู้ดีตกยาก เคานต์อัลฟงส์และเคานต์เทสอาแดลเป็นลูกพี่ลูกน้องกันและมิใช่เป็นรุ่นแรกของครอบครัวโลแทร็กที่แต่งงานกันเอง ซึ่งอาจจะเป็นสาเหตุที่อ็องรีมีโรคหลายโรคมาตั้งแต่กำเนิดและโรคที่ว่านี้อาจจะมีสาเหตุมาจากการแต่งงานระหว่างพี่น้องในสายเลือดเดียวกัน น้องชายของอ็องรีเกิดเมื่อปี ค.ศ. 1867 และเสียชีวิตปีต่อมา


เมื่ออายุ 13 และ 14 ปีกระดูกสะโพกของอองรีหักทั้งสองข้างและไม่หายดี แพทย์สมัยใหม่สันนิษฐานว่าสาเหตุที่ไม่ยอมหายคงเป็นเพราะความไม่ปกติทางกรรมพันธุ์ซึ่งอาจจะมาจากโรค “pycnodysostosis” หรือบางทีก็รู้จักกันในชื่อ “ซินโดรมตูลูส-โลแตร็ก” (Toulouse-Lautrec Syndrome)<ref name="Angier">{{cite web | first = Natalie | last = Angier | title = What Ailed Toulouse-Lautrec? Scientists Zero In on a Key Gene | publisher = The New York Times | date = June 6, 1995 | url = http://query.nytimes.com/gst/fullpage.html?res=990CE7D61338F935A35755C0A963958260&sec=&spon=&pagewanted=all | accessdate = 2007-12-08}}</ref> หรืออาจจะเป็นความผิดปกติเกี่ยวกับโรคกระดูกต่าง ๆ<ref>{{cite web | title = Noble figure | publisher = The Guardian | date = November 20, 2004 | url = http://books.guardian.co.uk/extracts/story/0,6761,1355241,00.html | accessdate = 2007-12-08}}</ref> หรืออาจจะเป็นโรคกระดูกอ่อนและ praecox virilism ผสมกัน ตั้งแต่นั้นส่วนขาของอองรีหยุดเจริญเติบโต ฉะนั้นอองรีจึงสูงเพียง 1.54 เมตร หรือ 5 ฟุต 1 นิ้ว<ref>{{cite web | title = Why Lautrec was a giant | publisher = The Times | date = [[December 10]], [[2006]] | url = http://entertainment.timesonline.co.uk/tol/arts_and_entertainment/visual_arts/article662158.ece | accessdate = 2007-12-08}}</ref> แต่ร่างกายส่วนบนเติบโตตามปกติแต่เพียงขาเท่านั้นที่สั้นอย่างเด็ก นอกจากนั้นยังกล่าวกันว่าอองรีมีปัญหาของการเติบโตอย่างผิดปรกติของอวัยวะเพศ (Hypertrophy))<ref>Ayto, John, and Crofton, Ian, ''Brewer's Dictionary of Modern Phrase & Fable'', page 747. Excerpted from Google Book Search. [http://books.google.com/books?id=3DiHy31K30oC&pg=PA747&lpg=PA747&dq=lautrec+teapot&source=web&ots=B_UkO847yJ&sig=OTXNI8hzmwL5eY-gcCqHSD4iCAU]</ref>
เมื่ออายุ 13 และ 14 ปีกระดูกสะโพกของอ็องรีหักทั้งสองข้างและไม่หายดี แพทย์สมัยใหม่สันนิษฐานว่าสาเหตุที่ไม่ยอมหายคงเป็นเพราะความไม่ปกติทางกรรมพันธุ์ซึ่งอาจจะมาจากโรค “pycnodysostosis” หรือบางทีก็รู้จักกันในชื่อ “กลุ่มอาการตูลูซ-โลแทร็ก” (Toulouse-Lautrec Syndrome)<ref name="Angier">{{cite web | first = Natalie | last = Angier | title = What Ailed Toulouse-Lautrec? Scientists Zero In on a Key Gene | publisher = The New York Times | date = June 6, 1995 | url = http://query.nytimes.com/gst/fullpage.html?res=990CE7D61338F935A35755C0A963958260&sec=&spon=&pagewanted=all | accessdate = 2007-12-08}}</ref> หรืออาจจะเป็นความผิดปกติเกี่ยวกับโรคกระดูกต่าง ๆ<ref>{{cite web | title = Noble figure | publisher = The Guardian | date = November 20, 2004 | url = http://books.guardian.co.uk/extracts/story/0,6761,1355241,00.html | accessdate = 2007-12-08}}</ref> หรืออาจจะเป็นโรคกระดูกอ่อนและ praecox virilism ผสมกัน ตั้งแต่นั้นส่วนขาของอ็องรีหยุดเจริญเติบโต ฉะนั้นอ็องรีจึงสูงเพียง 1.54 เมตร หรือ 5 ฟุต 1 นิ้ว<ref>{{cite web | title = Why Lautrec was a giant | publisher = The Times | date = [[December 10]], [[2006]] | url = http://entertainment.timesonline.co.uk/tol/arts_and_entertainment/visual_arts/article662158.ece | accessdate = 2007-12-08}}</ref> แต่ร่างกายส่วนบนเติบโตตามปกติแต่เพียงขาเท่านั้นที่สั้นอย่างเด็ก นอกจากนั้นยังกล่าวกันว่าอ็องรีมีปัญหาของการเติบโตอย่างผิดปรกติของอวัยวะเพศ (Hypertrophy))<ref>Ayto, John, and Crofton, Ian, ''Brewer's Dictionary of Modern Phrase & Fable'', page 747. Excerpted from Google Book Search. [http://books.google.com/books?id=3DiHy31K30oC&pg=PA747&lpg=PA747&dq=lautrec+teapot&source=web&ots=B_UkO847yJ&sig=OTXNI8hzmwL5eY-gcCqHSD4iCAU]</ref>


เพราะความที่ไม่สามารถทำอะไรอย่างที่คนอื่น ๆ ทำกันได้ อองรีจึงหันความสนใจทั้งหมดมาทางศิลปะ และกลายมาเป็นเป็นจิตรกรคนสำคัญของสมัยโพสต์อิมเพรสชันนิสม์, อิลลัสเตรเตอร์แบบ[[อาร์ตนูโว]], และ lithographer อองรีบันทึก[[ชีวิตแบบโบฮีเมีย]] (Bohemianism) ในปารีสในปลายคริสต์ศตวรรษที่ 19 ไว้มาก นอกจากนั้นยังเป็นนักเขียนภาพประกอบของนิตยสาร “Le Rire” ระหว่างกลางคริสต์ทศวรรษ 1890
เพราะความที่ไม่สามารถทำอะไรอย่างที่คนอื่น ๆ ทำกันได้ อ็องรีจึงหันความสนใจทั้งหมดมาทางศิลปะ และกลายมาเป็นเป็นจิตรกรคนสำคัญของสมัยโพสต์อิมเพรสชันนิสม์, อิลลัสเตรเตอร์แบบ[[อาร์ตนูโว]], และ lithographer อ็องรีบันทึก[[ชีวิตแบบโบฮีเมีย]] (Bohemianism) ในปารีสในปลายคริสต์ศตวรรษที่ 19 ไว้มาก นอกจากนั้นยังเป็นนักเขียนภาพประกอบของนิตยสาร “Le Rire” ระหว่างกลางคริสต์ทศวรรษ 1890


== ปารีส ==
== ปารีส ==
อองรี เดอ ตูลูส-โลแตร็กเป็นที่รู้จักกันว่าเป็น “หัวใจของมงมาตร์” (The soul of Montmartre) ซึ่งเป็นบริเวณที่อองรีและศิลปินอื่นอาศัยอยู่ อองรีชอบเขียนภาพชีวิตที่[[มูแลงรูช]] (Moulin Rouge) ซึ่งเป็นคาบาเรต์ที่สร้างเมื่อ ค.ศ. 1889; ชีวิตในมงมาตร์และในคาบาเรต์อื่น ๆ ในปารีส; ชีวิตในโรงละคร และ โดยเฉพาะในซ่องโสเภณีที่อองรีชอบไป และกล่าวกันว่าไปติด[[ซิฟิลิส]]มาจาก โรซา ลารูผู้ทำงานในซ่อง อองรีอาศัยอยู่กับผู้หญิงเหล่านี้เป็นเวลานานจนมีความสนิทสนมและเป็นที่ไว้วางใจจนสามารถเข้าสังเกตในสิ่งที่เป็นส่วนตัวต่าง ๆ ได้ อองรีนำประสบการณ์ที่เห็นนี้มาวาดและเขียนในฉาก[[เลสเบี้ยน]] และอื่นของมงมาตร์และมูแลงรูช ในบรรดาภาพที่เขียนอองรีเขียนภาพอีแวต กีลแบร์ (Yvette Guilbert), หลุยส์ เวเบ (Louise Weber) ผู้รู้จักกันบนเวทีในนาม “ลากูลู” หรือคนตะกละ ผู้เป็นผู้เริ่มการเต้นรำแบบ “แคน-แคน”, และนักเต้นรำ เจน อาวริล (Jane Avril) ส่วนซูซาน วาลาดง (Suzanne Valadon) อองรีสอนวาดภาพให้กับ ซูซาน อาจจะเป็นผู้หญิงคนหนึ่งของอองรี
อ็องรี เดอ ตูลูซ-โลแทร็กเป็นที่รู้จักกันว่าเป็น “หัวใจของมงมาทร์” (The soul of Montmartre) ซึ่งเป็นบริเวณที่อ็องรีและศิลปินอื่นอาศัยอยู่ อ็องรีชอบเขียนภาพชีวิตที่[[มูแล็งรูฌ]] (Moulin Rouge) ซึ่งเป็นคาบาเรต์ที่สร้างเมื่อ ค.ศ. 1889; ชีวิตในมงมาตร์และในคาบาเรต์อื่น ๆ ในปารีส; ชีวิตในโรงละคร และโดยเฉพาะในซ่องโสเภณีที่อ็องรีชอบไป และกล่าวกันว่าไปติด[[ซิฟิลิส]]มาจากโรซา ลารูผู้ทำงานในซ่อง อ็องรีอาศัยอยู่กับผู้หญิงเหล่านี้เป็นเวลานานจนมีความสนิทสนมและเป็นที่ไว้วางใจจนสามารถเข้าสังเกตในสิ่งที่เป็นส่วนตัวต่าง ๆ ได้ อ็องรีนำประสบการณ์ที่เห็นนี้มาวาดและเขียนในฉาก[[เลสเบี้ยน]] และอื่นของมงมาตร์และมูแล็งรูฌ ในบรรดาภาพที่เขียนอ็องรีเขียนภาพอีแว็ต กีลแบร์ (Yvette Guilbert), หลุยส์ เวเบ (Louise Weber) ผู้รู้จักกันบนเวทีในนาม “ลากูลู” หรือคนตะกละ ผู้เป็นผู้เริ่มการเต้นรำแบบ “แคน-แคน”, และนักเต้นรำ เจน อาวริล (Jane Avril) ส่วนซูซาน วาลาดง (Suzanne Valadon) อ็องรีสอนวาดภาพให้กับ ซูซาน อาจจะเป็นผู้หญิงคนหนึ่งของอ็องรี


อองรีป็นโรคติดสุราเรื้อรังเกือบตลอดชีวิต และในที่สุดก็ถูกส่งไปโรงพยาบาลสำหรับผู้เป็นโรคเรื้อรังไม่นานก่อนที่จะเสียชีวิต และในที่สุดก็ตายด้วยโรคพิษสุราเรื้อรังและซิฟิลิสที่บ้านของครอบครัวที่มาลโรเม (Malromé) เมื่ออายุได้เกือบ 37 ปี ร่างของอองรีถูกฝังไว้ไม่ไกลจากบ้านเกิด กล่าวกันว่าคำสุดท้ายก่อนตายของอองรี คือ “Le vieux con” (เจ้าโง่!)<ref>{{cite web | title = Toulouse Lautrec: The Full Story | publisher = [[Channel 4]] | url = http://www.channel4.com/culture/microsites/T/toulouse_lautrec/lautrec.html | accessdate = 2007-12-08}}</ref>
อ็องรีป็นโรคติดสุราเรื้อรังเกือบตลอดชีวิต และในที่สุดก็ถูกส่งไปโรงพยาบาลสำหรับผู้เป็นโรคเรื้อรังไม่นานก่อนที่จะเสียชีวิต และในที่สุดก็ตายด้วยโรคพิษสุราเรื้อรังและซิฟิลิสที่บ้านของครอบครัวที่มาลโรเม (Malromé) เมื่ออายุได้เกือบ 37 ปี ร่างของอ็องรีถูกฝังไว้ไม่ไกลจากบ้านเกิด กล่าวกันว่าคำสุดท้ายก่อนตายของอ็องรี คือ “Le vieux con” (เจ้าโง่!)<ref>{{cite web | title = Toulouse Lautrec: The Full Story | publisher = [[Channel 4]] | url = http://www.channel4.com/culture/microsites/T/toulouse_lautrec/lautrec.html | accessdate = 2007-12-08}}</ref>


อองรีใช้เวลาทั้งหมดกว่า 20 ปีในการสร้างงานศิลปะ เขียนภาพบนผ้าใบทั้งหมด 737 ภาพ, ภาพสีน้ำ 275 ภาพ, ภาพพิมพ์และโพสเตอร์ 363 ภาพ, ภาพวาด 5,084 ภาพ, และงานเขียนภาพลามกอีก 300 ภาพ, งานเซรามิก [[งานกระจกสี]] และงานอื่นที่สูญไป<ref name = "Angier" /> หลังจากที่อองรีเสียชีวิตไปแล้ว เคาน์เตสอาเดล ผู้เป็นแม่และ มอริซ โจยังท์ผู้ซึ้อขายงานศิลปะก็ช่วยกันเผยแพร่งานเขียนของอองรี นอกจากนั้นเคาน์เตสอาแดลก็ยังอุทิศเงินสร้างพิพิธภัณฑ์ที่อัลบีที่บ้านเกิดของอองรีเพื่อใช้เป็นที่ตั้งแสดงผลงาน
อ็องรีใช้เวลาทั้งหมดกว่า 20 ปีในการสร้างงานศิลปะ เขียนภาพบนผ้าใบทั้งหมด 737 ภาพ, ภาพสีน้ำ 275 ภาพ, ภาพพิมพ์และโพสเตอร์ 363 ภาพ, ภาพวาด 5,084 ภาพ, และงานเขียนภาพลามกอีก 300 ภาพ, งานเซรามิก [[งานกระจกสี]] และงานอื่นที่สูญไป<ref name = "Angier" /> หลังจากที่อ็องรีเสียชีวิตไปแล้ว เคาน์เตสอาเดล ผู้เป็นแม่และ มอริซ โจยังท์ผู้ซึ้อขายงานศิลปะก็ช่วยกันเผยแพร่งานเขียนของอ็องรี นอกจากนั้นเคาน์เตสอาแดลก็ยังอุทิศเงินสร้างพิพิธภัณฑ์ที่อัลบีที่บ้านเกิดของอ็องรีเพื่อใช้เป็นที่ตั้งแสดงผลงาน


ประวัติชีวิตของอองรีสร้างเป็นภาพยนตร์สองเรื่อง:
ประวัติชีวิตของอ็องรีสร้างเป็นภาพยนตร์สองเรื่อง:


::* “Moulin Rouge” (ค.ศ. 1952) สร้างโดยจอห์น ยูสตัน โดยมีโฮเซ เฟร์เรร์แสดงเป็นอองรี
::* “Moulin Rouge” (ค.ศ. 1952) สร้างโดยจอห์น ยูสตัน โดยมีโฮเซ เฟร์เรร์แสดงเป็นอ็องรี
::* “Lautrec” (ค.ศ. 1998) กำกับโดยโรเจอร์ พลานชอง<ref>[http://www.imdb.com/title/tt0123952/ www.imdb.com]</ref>
::* “Lautrec” (ค.ศ. 1998) กำกับโดยโรเจอร์ พลานชอง<ref>[http://www.imdb.com/title/tt0123952/ www.imdb.com]</ref>
::* “Moulin Rouge” (ค.ศ. 2001) โดยมีจอห์น เลกุยซาโมแสดงเป็นอองรี
::* “Moulin Rouge” (ค.ศ. 2001) โดยมีจอห์น เลกุยซาโมแสดงเป็นอ็องรี


== อ้างอิง ==
== อ้างอิง ==
บรรทัด 32: บรรทัด 32:


== แหล่งข้อมูลอื่น ==
== แหล่งข้อมูลอื่น ==
{{commonscat|Henri de Toulouse-Lautrec|อองรี เดอ ตูลูส-โลแตร็ก}}
{{commonscat|Henri de Toulouse-Lautrec|อ็องรี เดอ ตูลูซ-โลแทร็ก}}
* [http://www.abtei-ottobeuren.de/ เว็บไซต์ของอองรี เดอ ตูลูส-โลแตร็ก] {{en icon}}
* [http://www.abtei-ottobeuren.de/ เว็บไซต์ของอ็องรี เดอ ตูลูซ-โลแทร็ก] {{en icon}}
* [http://www.abtei-ottobeuren.de/ เว็บไซต์ของอองรี เดอ ตูลูส-โลแตร็ก] {{en icon}}
* [http://www.abtei-ottobeuren.de/ เว็บไซต์ของอ็องรี เดอ ตูลูซ-โลแทร็ก] {{en icon}}


==สมุดภาพ== <!-- กรุณาอย่ารวมภาพจากตัวบทความ สงวนเพื่อให้ผู้ขยายบทความใช้เป็นตัวอย่างในอนาคต -->
==สมุดภาพ== <!-- กรุณาอย่ารวมภาพจากตัวบทความ สงวนเพื่อให้ผู้ขยายบทความใช้เป็นตัวอย่างในอนาคต -->
<center>
<center>
<gallery perrow="5">
<gallery perrow="5">
ภาพ:Toulouse-Lautrec - Moulin Rouge - La Goulue.jpg|“มูแลงรูช” “ลากูลู” - (ค.ศ. 1891)
ภาพ:Toulouse-Lautrec - Moulin Rouge - La Goulue.jpg|“มูแล็งรูฌ” “ลากูลู” - (ค.ศ. 1891)
ภาพ:Alone.jpg|“สันโดษ” (Alone)'
ภาพ:Alone.jpg|“สันโดษ” (Alone)'
ภาพ:Lautrec ambassadeurs, aristide bruant (poster) 1892.jpg|“ทูตอารีสตีด บรูออง” (Ambassadeurs: Aristide Bruant)
ภาพ:Lautrec ambassadeurs, aristide bruant (poster) 1892.jpg|“ทูตอารีสตีด บรูออง” (Ambassadeurs: Aristide Bruant)
ภาพ:Henri de Toulouse-Lautrec 008.jpg|“ที่มูแลงรูช”
ภาพ:Henri de Toulouse-Lautrec 008.jpg|“ที่มูแล็งรูฌ”
ภาพ:Lautrec at the moulin rouge two women waltzing 1892.jpg|“ที่มูแลงรูช: ผู้หญิงสองคนวอลทซ์”
ภาพ:Lautrec at the moulin rouge two women waltzing 1892.jpg|“ที่มูแล็งรูฌ: ผู้หญิงสองคนวอลทซ์”
ภาพ:Lautrec woman at her toilette 1896.jpg|“ห้องน้ำ”
ภาพ:Lautrec woman at her toilette 1896.jpg|“ห้องน้ำ”
ภาพ:Toulouse-lautrec two girlfriends.jpg|“เพื่อนผู้หญิงสองคน” (The Two Girlfriends)
ภาพ:Toulouse-lautrec two girlfriends.jpg|“เพื่อนผู้หญิงสองคน” (The Two Girlfriends)
บรรทัด 57: บรรทัด 57:
{{จิตรกรตะวันตก}}
{{จิตรกรตะวันตก}}


[[หมวดหมู่:จิตรกรชาวฝรั่งเศส|ตูลูส-โลแตร็ก]]
[[หมวดหมู่:จิตรกรชาวฝรั่งเศส|ตูลูซ-โลแทร็ก]]
[[หมวดหมู่:จิตรกรในคริสต์ศตวรรษที่ 19|ตูลูส-โลแตร็ก]]
[[หมวดหมู่:จิตรกรในคริสต์ศตวรรษที่ 19|ตูลูซ-โลแทร็ก]]
[[หมวดหมู่:จิตรกรยุคอิมเพรสชันนิสม์สมัยหลัง|ตูลูส-โลแตร็ก]]
[[หมวดหมู่:จิตรกรยุคอิมเพรสชันนิสม์สมัยหลัง|ตูลูซ-โลแทร็ก]]
[[หมวดหมู่:ใบปิด|ตูลูส-โลแตร็ก]]
[[หมวดหมู่:ใบปิด|ตูลูซ-โลแทร็ก]]
[[หมวดหมู่:ศิลปินภาพพิมพ์หิน]]
[[หมวดหมู่:ศิลปินภาพพิมพ์หิน]]



รุ่นแก้ไขเมื่อ 16:07, 3 ตุลาคม 2553

อ็องรี เดอ ตูลูซ-โลแทร็ก
“ลากูลู (หลุยส์ เวเบ) มาถึงมูแล็งรูฌ” (La Goulue arriving at the Moulin Rouge) (ค.ศ. 1892)

อ็องรี เดอ ตูลูซ-โลแทร็ก (ฝรั่งเศส: Henri de Toulouse-Lautrec; 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2407 - 9 กันยายน พ.ศ. 2444) จิตรกร, ช่างพิมพ์, ช่างเขียนแบบ และอิลลัสเตรเตอร์ (Illustrator) สมัยอิมเพรสชันนิสม์สมัยหลังคนสำคัญของประเทศฝรั่งเศสในคริสต์ศตวรรษที่ 19 มีความเชี่ยวชาญทางการเขียนโปสเตอร์ของชีวิตผู้คนในบริเวณมงมาตร์ และผู้ชอบใช้ชีวิตในวงการของความฟุ้งเฟ้อและโรงละครในสมัยปลายคริสต์ศตวรรษ (fin de siècle) ของปารีส

ชีวิตเบื้องต้น

อ็องรี เดอ ตูลูซ-โลแทร็กเกิดที่อาลบีในแคว้นมีดี-ปีเรเน เป็นลูกคนแรกของเคานต์อัลฟงส์และเคาน์เตสส์อาแดล เดอ ตูลูซ-โลแทร็กซึ่งเป็นครอบครัวผู้ดีตกยาก เคานต์อัลฟงส์และเคานต์เทสอาแดลเป็นลูกพี่ลูกน้องกันและมิใช่เป็นรุ่นแรกของครอบครัวโลแทร็กที่แต่งงานกันเอง ซึ่งอาจจะเป็นสาเหตุที่อ็องรีมีโรคหลายโรคมาตั้งแต่กำเนิดและโรคที่ว่านี้อาจจะมีสาเหตุมาจากการแต่งงานระหว่างพี่น้องในสายเลือดเดียวกัน น้องชายของอ็องรีเกิดเมื่อปี ค.ศ. 1867 และเสียชีวิตปีต่อมา

เมื่ออายุ 13 และ 14 ปีกระดูกสะโพกของอ็องรีหักทั้งสองข้างและไม่หายดี แพทย์สมัยใหม่สันนิษฐานว่าสาเหตุที่ไม่ยอมหายคงเป็นเพราะความไม่ปกติทางกรรมพันธุ์ซึ่งอาจจะมาจากโรค “pycnodysostosis” หรือบางทีก็รู้จักกันในชื่อ “กลุ่มอาการตูลูซ-โลแทร็ก” (Toulouse-Lautrec Syndrome)[1] หรืออาจจะเป็นความผิดปกติเกี่ยวกับโรคกระดูกต่าง ๆ[2] หรืออาจจะเป็นโรคกระดูกอ่อนและ praecox virilism ผสมกัน ตั้งแต่นั้นส่วนขาของอ็องรีหยุดเจริญเติบโต ฉะนั้นอ็องรีจึงสูงเพียง 1.54 เมตร หรือ 5 ฟุต 1 นิ้ว[3] แต่ร่างกายส่วนบนเติบโตตามปกติแต่เพียงขาเท่านั้นที่สั้นอย่างเด็ก นอกจากนั้นยังกล่าวกันว่าอ็องรีมีปัญหาของการเติบโตอย่างผิดปรกติของอวัยวะเพศ (Hypertrophy))[4]

เพราะความที่ไม่สามารถทำอะไรอย่างที่คนอื่น ๆ ทำกันได้ อ็องรีจึงหันความสนใจทั้งหมดมาทางศิลปะ และกลายมาเป็นเป็นจิตรกรคนสำคัญของสมัยโพสต์อิมเพรสชันนิสม์, อิลลัสเตรเตอร์แบบอาร์ตนูโว, และ lithographer อ็องรีบันทึกชีวิตแบบโบฮีเมีย (Bohemianism) ในปารีสในปลายคริสต์ศตวรรษที่ 19 ไว้มาก นอกจากนั้นยังเป็นนักเขียนภาพประกอบของนิตยสาร “Le Rire” ระหว่างกลางคริสต์ทศวรรษ 1890

ปารีส

อ็องรี เดอ ตูลูซ-โลแทร็กเป็นที่รู้จักกันว่าเป็น “หัวใจของมงมาทร์” (The soul of Montmartre) ซึ่งเป็นบริเวณที่อ็องรีและศิลปินอื่นอาศัยอยู่ อ็องรีชอบเขียนภาพชีวิตที่มูแล็งรูฌ (Moulin Rouge) ซึ่งเป็นคาบาเรต์ที่สร้างเมื่อ ค.ศ. 1889; ชีวิตในมงมาตร์และในคาบาเรต์อื่น ๆ ในปารีส; ชีวิตในโรงละคร และโดยเฉพาะในซ่องโสเภณีที่อ็องรีชอบไป และกล่าวกันว่าไปติดซิฟิลิสมาจากโรซา ลารูฌผู้ทำงานในซ่อง อ็องรีอาศัยอยู่กับผู้หญิงเหล่านี้เป็นเวลานานจนมีความสนิทสนมและเป็นที่ไว้วางใจจนสามารถเข้าสังเกตในสิ่งที่เป็นส่วนตัวต่าง ๆ ได้ อ็องรีนำประสบการณ์ที่เห็นนี้มาวาดและเขียนในฉากเลสเบี้ยน และอื่นของมงมาตร์และมูแล็งรูฌ ในบรรดาภาพที่เขียนอ็องรีเขียนภาพอีแว็ต กีลแบร์ (Yvette Guilbert), หลุยส์ เวเบ (Louise Weber) ผู้รู้จักกันบนเวทีในนาม “ลากูลู” หรือคนตะกละ ผู้เป็นผู้เริ่มการเต้นรำแบบ “แคน-แคน”, และนักเต้นรำ เจน อาวริล (Jane Avril) ส่วนซูซาน วาลาดง (Suzanne Valadon) อ็องรีสอนวาดภาพให้กับ ซูซาน อาจจะเป็นผู้หญิงคนหนึ่งของอ็องรี

อ็องรีป็นโรคติดสุราเรื้อรังเกือบตลอดชีวิต และในที่สุดก็ถูกส่งไปโรงพยาบาลสำหรับผู้เป็นโรคเรื้อรังไม่นานก่อนที่จะเสียชีวิต และในที่สุดก็ตายด้วยโรคพิษสุราเรื้อรังและซิฟิลิสที่บ้านของครอบครัวที่มาลโรเม (Malromé) เมื่ออายุได้เกือบ 37 ปี ร่างของอ็องรีถูกฝังไว้ไม่ไกลจากบ้านเกิด กล่าวกันว่าคำสุดท้ายก่อนตายของอ็องรี คือ “Le vieux con” (เจ้าโง่!)[5]

อ็องรีใช้เวลาทั้งหมดกว่า 20 ปีในการสร้างงานศิลปะ เขียนภาพบนผ้าใบทั้งหมด 737 ภาพ, ภาพสีน้ำ 275 ภาพ, ภาพพิมพ์และโพสเตอร์ 363 ภาพ, ภาพวาด 5,084 ภาพ, และงานเขียนภาพลามกอีก 300 ภาพ, งานเซรามิก งานกระจกสี และงานอื่นที่สูญไป[1] หลังจากที่อ็องรีเสียชีวิตไปแล้ว เคาน์เตสอาเดล ผู้เป็นแม่และ มอริซ โจยังท์ผู้ซึ้อขายงานศิลปะก็ช่วยกันเผยแพร่งานเขียนของอ็องรี นอกจากนั้นเคาน์เตสอาแดลก็ยังอุทิศเงินสร้างพิพิธภัณฑ์ที่อัลบีที่บ้านเกิดของอ็องรีเพื่อใช้เป็นที่ตั้งแสดงผลงาน

ประวัติชีวิตของอ็องรีสร้างเป็นภาพยนตร์สองเรื่อง:

  • “Moulin Rouge” (ค.ศ. 1952) สร้างโดยจอห์น ยูสตัน โดยมีโฮเซ เฟร์เรร์แสดงเป็นอ็องรี
  • “Lautrec” (ค.ศ. 1998) กำกับโดยโรเจอร์ พลานชอง[6]
  • “Moulin Rouge” (ค.ศ. 2001) โดยมีจอห์น เลกุยซาโมแสดงเป็นอ็องรี

อ้างอิง

  1. 1.0 1.1 Angier, Natalie (June 6, 1995). "What Ailed Toulouse-Lautrec? Scientists Zero In on a Key Gene". The New York Times. สืบค้นเมื่อ 2007-12-08.
  2. "Noble figure". The Guardian. November 20, 2004. สืบค้นเมื่อ 2007-12-08.
  3. "Why Lautrec was a giant". The Times. December 10, 2006. สืบค้นเมื่อ 2007-12-08. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |date= (help)
  4. Ayto, John, and Crofton, Ian, Brewer's Dictionary of Modern Phrase & Fable, page 747. Excerpted from Google Book Search. [1]
  5. "Toulouse Lautrec: The Full Story". Channel 4. สืบค้นเมื่อ 2007-12-08.
  6. www.imdb.com

ดูเพิ่ม

แหล่งข้อมูลอื่น

สมุดภาพ

แม่แบบ:Link FA แม่แบบ:Link FA แม่แบบ:Link FA