ผลต่างระหว่างรุ่นของ "อ็องรี เดอ ตูลูซ-โลแทร็ก"
ล บริการเปลี่ยนหมวดหมู่อัตโนมัติด้วยบอต |
ไม่มีความย่อการแก้ไข |
||
บรรทัด 1: | บรรทัด 1: | ||
{{รอการตรวจสอบ}} |
{{รอการตรวจสอบ}} |
||
[[ไฟล์:Photolautrec.jpg|thumb|250px | |
[[ไฟล์:Photolautrec.jpg|thumb|250px |อ็องรี เดอ ตูลูซ-โลแทร็ก]] |
||
[[ไฟล์:Henri de Toulouse-Lautrec 037.jpg|thumb|250px|“ลากูลู (หลุยส์ เวเบ) มาถึง |
[[ไฟล์:Henri de Toulouse-Lautrec 037.jpg|thumb|250px|“ลากูลู (หลุยส์ เวเบ) มาถึงมูแล็งรูฌ” (La Goulue arriving at the Moulin Rouge) (ค.ศ. 1892)]] |
||
''' |
'''อ็องรี เดอ ตูลูซ-โลแทร็ก''' ({{lang-fr|Henri de Toulouse-Lautrec}}; [[24 พฤศจิกายน]] [[พ.ศ. 2407]] - [[9 กันยายน]] [[พ.ศ. 2444]]) จิตรกร, ช่างพิมพ์, ช่างเขียนแบบ และอิลลัสเตรเตอร์ (''Illustrator'') สมัย[[ศิลปะอิมเพรสชันนิสม์สมัยหลัง|อิมเพรสชันนิสม์สมัยหลัง]]คนสำคัญของ[[ประเทศฝรั่งเศส]]ในคริสต์ศตวรรษที่ 19 มีความเชี่ยวชาญทางการเขียน[[โปสเตอร์]]ของชีวิตผู้คนในบริเวณมงมาตร์ และผู้ชอบใช้ชีวิตในวงการของความฟุ้งเฟ้อและโรงละครในสมัยปลายคริสต์ศตวรรษ (fin de siècle) ของ[[ปารีส]] |
||
== ชีวิตเบื้องต้น == |
== ชีวิตเบื้องต้น == |
||
อ็องรี เดอ ตูลูซ-โลแทร็กเกิดที่อาลบีใน[[แคว้นมีดี-ปีเรเน]] เป็นลูกคนแรกของเคานต์อัลฟงส์และเคาน์เตสส์อาแดล เดอ ตูลูซ-โลแทร็กซึ่งเป็นครอบครัวผู้ดีตกยาก เคานต์อัลฟงส์และเคานต์เทสอาแดลเป็นลูกพี่ลูกน้องกันและมิใช่เป็นรุ่นแรกของครอบครัวโลแทร็กที่แต่งงานกันเอง ซึ่งอาจจะเป็นสาเหตุที่อ็องรีมีโรคหลายโรคมาตั้งแต่กำเนิดและโรคที่ว่านี้อาจจะมีสาเหตุมาจากการแต่งงานระหว่างพี่น้องในสายเลือดเดียวกัน น้องชายของอ็องรีเกิดเมื่อปี ค.ศ. 1867 และเสียชีวิตปีต่อมา |
|||
เมื่ออายุ 13 และ 14 ปีกระดูกสะโพกของ |
เมื่ออายุ 13 และ 14 ปีกระดูกสะโพกของอ็องรีหักทั้งสองข้างและไม่หายดี แพทย์สมัยใหม่สันนิษฐานว่าสาเหตุที่ไม่ยอมหายคงเป็นเพราะความไม่ปกติทางกรรมพันธุ์ซึ่งอาจจะมาจากโรค “pycnodysostosis” หรือบางทีก็รู้จักกันในชื่อ “กลุ่มอาการตูลูซ-โลแทร็ก” (Toulouse-Lautrec Syndrome)<ref name="Angier">{{cite web | first = Natalie | last = Angier | title = What Ailed Toulouse-Lautrec? Scientists Zero In on a Key Gene | publisher = The New York Times | date = June 6, 1995 | url = http://query.nytimes.com/gst/fullpage.html?res=990CE7D61338F935A35755C0A963958260&sec=&spon=&pagewanted=all | accessdate = 2007-12-08}}</ref> หรืออาจจะเป็นความผิดปกติเกี่ยวกับโรคกระดูกต่าง ๆ<ref>{{cite web | title = Noble figure | publisher = The Guardian | date = November 20, 2004 | url = http://books.guardian.co.uk/extracts/story/0,6761,1355241,00.html | accessdate = 2007-12-08}}</ref> หรืออาจจะเป็นโรคกระดูกอ่อนและ praecox virilism ผสมกัน ตั้งแต่นั้นส่วนขาของอ็องรีหยุดเจริญเติบโต ฉะนั้นอ็องรีจึงสูงเพียง 1.54 เมตร หรือ 5 ฟุต 1 นิ้ว<ref>{{cite web | title = Why Lautrec was a giant | publisher = The Times | date = [[December 10]], [[2006]] | url = http://entertainment.timesonline.co.uk/tol/arts_and_entertainment/visual_arts/article662158.ece | accessdate = 2007-12-08}}</ref> แต่ร่างกายส่วนบนเติบโตตามปกติแต่เพียงขาเท่านั้นที่สั้นอย่างเด็ก นอกจากนั้นยังกล่าวกันว่าอ็องรีมีปัญหาของการเติบโตอย่างผิดปรกติของอวัยวะเพศ (Hypertrophy))<ref>Ayto, John, and Crofton, Ian, ''Brewer's Dictionary of Modern Phrase & Fable'', page 747. Excerpted from Google Book Search. [http://books.google.com/books?id=3DiHy31K30oC&pg=PA747&lpg=PA747&dq=lautrec+teapot&source=web&ots=B_UkO847yJ&sig=OTXNI8hzmwL5eY-gcCqHSD4iCAU]</ref> |
||
เพราะความที่ไม่สามารถทำอะไรอย่างที่คนอื่น ๆ ทำกันได้ |
เพราะความที่ไม่สามารถทำอะไรอย่างที่คนอื่น ๆ ทำกันได้ อ็องรีจึงหันความสนใจทั้งหมดมาทางศิลปะ และกลายมาเป็นเป็นจิตรกรคนสำคัญของสมัยโพสต์อิมเพรสชันนิสม์, อิลลัสเตรเตอร์แบบ[[อาร์ตนูโว]], และ lithographer อ็องรีบันทึก[[ชีวิตแบบโบฮีเมีย]] (Bohemianism) ในปารีสในปลายคริสต์ศตวรรษที่ 19 ไว้มาก นอกจากนั้นยังเป็นนักเขียนภาพประกอบของนิตยสาร “Le Rire” ระหว่างกลางคริสต์ทศวรรษ 1890 |
||
== ปารีส == |
== ปารีส == |
||
อ็องรี เดอ ตูลูซ-โลแทร็กเป็นที่รู้จักกันว่าเป็น “หัวใจของมงมาทร์” (The soul of Montmartre) ซึ่งเป็นบริเวณที่อ็องรีและศิลปินอื่นอาศัยอยู่ อ็องรีชอบเขียนภาพชีวิตที่[[มูแล็งรูฌ]] (Moulin Rouge) ซึ่งเป็นคาบาเรต์ที่สร้างเมื่อ ค.ศ. 1889; ชีวิตในมงมาตร์และในคาบาเรต์อื่น ๆ ในปารีส; ชีวิตในโรงละคร และโดยเฉพาะในซ่องโสเภณีที่อ็องรีชอบไป และกล่าวกันว่าไปติด[[ซิฟิลิส]]มาจากโรซา ลารูฌผู้ทำงานในซ่อง อ็องรีอาศัยอยู่กับผู้หญิงเหล่านี้เป็นเวลานานจนมีความสนิทสนมและเป็นที่ไว้วางใจจนสามารถเข้าสังเกตในสิ่งที่เป็นส่วนตัวต่าง ๆ ได้ อ็องรีนำประสบการณ์ที่เห็นนี้มาวาดและเขียนในฉาก[[เลสเบี้ยน]] และอื่นของมงมาตร์และมูแล็งรูฌ ในบรรดาภาพที่เขียนอ็องรีเขียนภาพอีแว็ต กีลแบร์ (Yvette Guilbert), หลุยส์ เวเบ (Louise Weber) ผู้รู้จักกันบนเวทีในนาม “ลากูลู” หรือคนตะกละ ผู้เป็นผู้เริ่มการเต้นรำแบบ “แคน-แคน”, และนักเต้นรำ เจน อาวริล (Jane Avril) ส่วนซูซาน วาลาดง (Suzanne Valadon) อ็องรีสอนวาดภาพให้กับ ซูซาน อาจจะเป็นผู้หญิงคนหนึ่งของอ็องรี |
|||
อ็องรีป็นโรคติดสุราเรื้อรังเกือบตลอดชีวิต และในที่สุดก็ถูกส่งไปโรงพยาบาลสำหรับผู้เป็นโรคเรื้อรังไม่นานก่อนที่จะเสียชีวิต และในที่สุดก็ตายด้วยโรคพิษสุราเรื้อรังและซิฟิลิสที่บ้านของครอบครัวที่มาลโรเม (Malromé) เมื่ออายุได้เกือบ 37 ปี ร่างของอ็องรีถูกฝังไว้ไม่ไกลจากบ้านเกิด กล่าวกันว่าคำสุดท้ายก่อนตายของอ็องรี คือ “Le vieux con” (เจ้าโง่!)<ref>{{cite web | title = Toulouse Lautrec: The Full Story | publisher = [[Channel 4]] | url = http://www.channel4.com/culture/microsites/T/toulouse_lautrec/lautrec.html | accessdate = 2007-12-08}}</ref> |
|||
อ็องรีใช้เวลาทั้งหมดกว่า 20 ปีในการสร้างงานศิลปะ เขียนภาพบนผ้าใบทั้งหมด 737 ภาพ, ภาพสีน้ำ 275 ภาพ, ภาพพิมพ์และโพสเตอร์ 363 ภาพ, ภาพวาด 5,084 ภาพ, และงานเขียนภาพลามกอีก 300 ภาพ, งานเซรามิก [[งานกระจกสี]] และงานอื่นที่สูญไป<ref name = "Angier" /> หลังจากที่อ็องรีเสียชีวิตไปแล้ว เคาน์เตสอาเดล ผู้เป็นแม่และ มอริซ โจยังท์ผู้ซึ้อขายงานศิลปะก็ช่วยกันเผยแพร่งานเขียนของอ็องรี นอกจากนั้นเคาน์เตสอาแดลก็ยังอุทิศเงินสร้างพิพิธภัณฑ์ที่อัลบีที่บ้านเกิดของอ็องรีเพื่อใช้เป็นที่ตั้งแสดงผลงาน |
|||
ประวัติชีวิตของ |
ประวัติชีวิตของอ็องรีสร้างเป็นภาพยนตร์สองเรื่อง: |
||
::* “Moulin Rouge” (ค.ศ. 1952) สร้างโดยจอห์น ยูสตัน โดยมีโฮเซ เฟร์เรร์แสดงเป็น |
::* “Moulin Rouge” (ค.ศ. 1952) สร้างโดยจอห์น ยูสตัน โดยมีโฮเซ เฟร์เรร์แสดงเป็นอ็องรี |
||
::* “Lautrec” (ค.ศ. 1998) กำกับโดยโรเจอร์ พลานชอง<ref>[http://www.imdb.com/title/tt0123952/ www.imdb.com]</ref> |
::* “Lautrec” (ค.ศ. 1998) กำกับโดยโรเจอร์ พลานชอง<ref>[http://www.imdb.com/title/tt0123952/ www.imdb.com]</ref> |
||
::* “Moulin Rouge” (ค.ศ. 2001) โดยมีจอห์น เลกุยซาโมแสดงเป็น |
::* “Moulin Rouge” (ค.ศ. 2001) โดยมีจอห์น เลกุยซาโมแสดงเป็นอ็องรี |
||
== อ้างอิง == |
== อ้างอิง == |
||
บรรทัด 32: | บรรทัด 32: | ||
== แหล่งข้อมูลอื่น == |
== แหล่งข้อมูลอื่น == |
||
{{commonscat|Henri de Toulouse-Lautrec| |
{{commonscat|Henri de Toulouse-Lautrec|อ็องรี เดอ ตูลูซ-โลแทร็ก}} |
||
* [http://www.abtei-ottobeuren.de/ เว็บไซต์ของ |
* [http://www.abtei-ottobeuren.de/ เว็บไซต์ของอ็องรี เดอ ตูลูซ-โลแทร็ก] {{en icon}} |
||
* [http://www.abtei-ottobeuren.de/ เว็บไซต์ของ |
* [http://www.abtei-ottobeuren.de/ เว็บไซต์ของอ็องรี เดอ ตูลูซ-โลแทร็ก] {{en icon}} |
||
==สมุดภาพ== <!-- กรุณาอย่ารวมภาพจากตัวบทความ สงวนเพื่อให้ผู้ขยายบทความใช้เป็นตัวอย่างในอนาคต --> |
==สมุดภาพ== <!-- กรุณาอย่ารวมภาพจากตัวบทความ สงวนเพื่อให้ผู้ขยายบทความใช้เป็นตัวอย่างในอนาคต --> |
||
<center> |
<center> |
||
<gallery perrow="5"> |
<gallery perrow="5"> |
||
ภาพ:Toulouse-Lautrec - Moulin Rouge - La Goulue.jpg|“ |
ภาพ:Toulouse-Lautrec - Moulin Rouge - La Goulue.jpg|“มูแล็งรูฌ” “ลากูลู” - (ค.ศ. 1891) |
||
ภาพ:Alone.jpg|“สันโดษ” (Alone)' |
ภาพ:Alone.jpg|“สันโดษ” (Alone)' |
||
ภาพ:Lautrec ambassadeurs, aristide bruant (poster) 1892.jpg|“ทูตอารีสตีด บรูออง” (Ambassadeurs: Aristide Bruant) |
ภาพ:Lautrec ambassadeurs, aristide bruant (poster) 1892.jpg|“ทูตอารีสตีด บรูออง” (Ambassadeurs: Aristide Bruant) |
||
ภาพ:Henri de Toulouse-Lautrec 008.jpg|“ที่ |
ภาพ:Henri de Toulouse-Lautrec 008.jpg|“ที่มูแล็งรูฌ” |
||
ภาพ:Lautrec at the moulin rouge two women waltzing 1892.jpg|“ที่ |
ภาพ:Lautrec at the moulin rouge two women waltzing 1892.jpg|“ที่มูแล็งรูฌ: ผู้หญิงสองคนวอลทซ์” |
||
ภาพ:Lautrec woman at her toilette 1896.jpg|“ห้องน้ำ” |
ภาพ:Lautrec woman at her toilette 1896.jpg|“ห้องน้ำ” |
||
ภาพ:Toulouse-lautrec two girlfriends.jpg|“เพื่อนผู้หญิงสองคน” (The Two Girlfriends) |
ภาพ:Toulouse-lautrec two girlfriends.jpg|“เพื่อนผู้หญิงสองคน” (The Two Girlfriends) |
||
บรรทัด 57: | บรรทัด 57: | ||
{{จิตรกรตะวันตก}} |
{{จิตรกรตะวันตก}} |
||
[[หมวดหมู่:จิตรกรชาวฝรั่งเศส|ตู |
[[หมวดหมู่:จิตรกรชาวฝรั่งเศส|ตูลูซ-โลแทร็ก]] |
||
[[หมวดหมู่:จิตรกรในคริสต์ศตวรรษที่ 19|ตู |
[[หมวดหมู่:จิตรกรในคริสต์ศตวรรษที่ 19|ตูลูซ-โลแทร็ก]] |
||
[[หมวดหมู่:จิตรกรยุคอิมเพรสชันนิสม์สมัยหลัง|ตู |
[[หมวดหมู่:จิตรกรยุคอิมเพรสชันนิสม์สมัยหลัง|ตูลูซ-โลแทร็ก]] |
||
[[หมวดหมู่:ใบปิด|ตู |
[[หมวดหมู่:ใบปิด|ตูลูซ-โลแทร็ก]] |
||
[[หมวดหมู่:ศิลปินภาพพิมพ์หิน]] |
[[หมวดหมู่:ศิลปินภาพพิมพ์หิน]] |
||
รุ่นแก้ไขเมื่อ 16:07, 3 ตุลาคม 2553
อ็องรี เดอ ตูลูซ-โลแทร็ก (ฝรั่งเศส: Henri de Toulouse-Lautrec; 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2407 - 9 กันยายน พ.ศ. 2444) จิตรกร, ช่างพิมพ์, ช่างเขียนแบบ และอิลลัสเตรเตอร์ (Illustrator) สมัยอิมเพรสชันนิสม์สมัยหลังคนสำคัญของประเทศฝรั่งเศสในคริสต์ศตวรรษที่ 19 มีความเชี่ยวชาญทางการเขียนโปสเตอร์ของชีวิตผู้คนในบริเวณมงมาตร์ และผู้ชอบใช้ชีวิตในวงการของความฟุ้งเฟ้อและโรงละครในสมัยปลายคริสต์ศตวรรษ (fin de siècle) ของปารีส
ชีวิตเบื้องต้น
อ็องรี เดอ ตูลูซ-โลแทร็กเกิดที่อาลบีในแคว้นมีดี-ปีเรเน เป็นลูกคนแรกของเคานต์อัลฟงส์และเคาน์เตสส์อาแดล เดอ ตูลูซ-โลแทร็กซึ่งเป็นครอบครัวผู้ดีตกยาก เคานต์อัลฟงส์และเคานต์เทสอาแดลเป็นลูกพี่ลูกน้องกันและมิใช่เป็นรุ่นแรกของครอบครัวโลแทร็กที่แต่งงานกันเอง ซึ่งอาจจะเป็นสาเหตุที่อ็องรีมีโรคหลายโรคมาตั้งแต่กำเนิดและโรคที่ว่านี้อาจจะมีสาเหตุมาจากการแต่งงานระหว่างพี่น้องในสายเลือดเดียวกัน น้องชายของอ็องรีเกิดเมื่อปี ค.ศ. 1867 และเสียชีวิตปีต่อมา
เมื่ออายุ 13 และ 14 ปีกระดูกสะโพกของอ็องรีหักทั้งสองข้างและไม่หายดี แพทย์สมัยใหม่สันนิษฐานว่าสาเหตุที่ไม่ยอมหายคงเป็นเพราะความไม่ปกติทางกรรมพันธุ์ซึ่งอาจจะมาจากโรค “pycnodysostosis” หรือบางทีก็รู้จักกันในชื่อ “กลุ่มอาการตูลูซ-โลแทร็ก” (Toulouse-Lautrec Syndrome)[1] หรืออาจจะเป็นความผิดปกติเกี่ยวกับโรคกระดูกต่าง ๆ[2] หรืออาจจะเป็นโรคกระดูกอ่อนและ praecox virilism ผสมกัน ตั้งแต่นั้นส่วนขาของอ็องรีหยุดเจริญเติบโต ฉะนั้นอ็องรีจึงสูงเพียง 1.54 เมตร หรือ 5 ฟุต 1 นิ้ว[3] แต่ร่างกายส่วนบนเติบโตตามปกติแต่เพียงขาเท่านั้นที่สั้นอย่างเด็ก นอกจากนั้นยังกล่าวกันว่าอ็องรีมีปัญหาของการเติบโตอย่างผิดปรกติของอวัยวะเพศ (Hypertrophy))[4]
เพราะความที่ไม่สามารถทำอะไรอย่างที่คนอื่น ๆ ทำกันได้ อ็องรีจึงหันความสนใจทั้งหมดมาทางศิลปะ และกลายมาเป็นเป็นจิตรกรคนสำคัญของสมัยโพสต์อิมเพรสชันนิสม์, อิลลัสเตรเตอร์แบบอาร์ตนูโว, และ lithographer อ็องรีบันทึกชีวิตแบบโบฮีเมีย (Bohemianism) ในปารีสในปลายคริสต์ศตวรรษที่ 19 ไว้มาก นอกจากนั้นยังเป็นนักเขียนภาพประกอบของนิตยสาร “Le Rire” ระหว่างกลางคริสต์ทศวรรษ 1890
ปารีส
อ็องรี เดอ ตูลูซ-โลแทร็กเป็นที่รู้จักกันว่าเป็น “หัวใจของมงมาทร์” (The soul of Montmartre) ซึ่งเป็นบริเวณที่อ็องรีและศิลปินอื่นอาศัยอยู่ อ็องรีชอบเขียนภาพชีวิตที่มูแล็งรูฌ (Moulin Rouge) ซึ่งเป็นคาบาเรต์ที่สร้างเมื่อ ค.ศ. 1889; ชีวิตในมงมาตร์และในคาบาเรต์อื่น ๆ ในปารีส; ชีวิตในโรงละคร และโดยเฉพาะในซ่องโสเภณีที่อ็องรีชอบไป และกล่าวกันว่าไปติดซิฟิลิสมาจากโรซา ลารูฌผู้ทำงานในซ่อง อ็องรีอาศัยอยู่กับผู้หญิงเหล่านี้เป็นเวลานานจนมีความสนิทสนมและเป็นที่ไว้วางใจจนสามารถเข้าสังเกตในสิ่งที่เป็นส่วนตัวต่าง ๆ ได้ อ็องรีนำประสบการณ์ที่เห็นนี้มาวาดและเขียนในฉากเลสเบี้ยน และอื่นของมงมาตร์และมูแล็งรูฌ ในบรรดาภาพที่เขียนอ็องรีเขียนภาพอีแว็ต กีลแบร์ (Yvette Guilbert), หลุยส์ เวเบ (Louise Weber) ผู้รู้จักกันบนเวทีในนาม “ลากูลู” หรือคนตะกละ ผู้เป็นผู้เริ่มการเต้นรำแบบ “แคน-แคน”, และนักเต้นรำ เจน อาวริล (Jane Avril) ส่วนซูซาน วาลาดง (Suzanne Valadon) อ็องรีสอนวาดภาพให้กับ ซูซาน อาจจะเป็นผู้หญิงคนหนึ่งของอ็องรี
อ็องรีป็นโรคติดสุราเรื้อรังเกือบตลอดชีวิต และในที่สุดก็ถูกส่งไปโรงพยาบาลสำหรับผู้เป็นโรคเรื้อรังไม่นานก่อนที่จะเสียชีวิต และในที่สุดก็ตายด้วยโรคพิษสุราเรื้อรังและซิฟิลิสที่บ้านของครอบครัวที่มาลโรเม (Malromé) เมื่ออายุได้เกือบ 37 ปี ร่างของอ็องรีถูกฝังไว้ไม่ไกลจากบ้านเกิด กล่าวกันว่าคำสุดท้ายก่อนตายของอ็องรี คือ “Le vieux con” (เจ้าโง่!)[5]
อ็องรีใช้เวลาทั้งหมดกว่า 20 ปีในการสร้างงานศิลปะ เขียนภาพบนผ้าใบทั้งหมด 737 ภาพ, ภาพสีน้ำ 275 ภาพ, ภาพพิมพ์และโพสเตอร์ 363 ภาพ, ภาพวาด 5,084 ภาพ, และงานเขียนภาพลามกอีก 300 ภาพ, งานเซรามิก งานกระจกสี และงานอื่นที่สูญไป[1] หลังจากที่อ็องรีเสียชีวิตไปแล้ว เคาน์เตสอาเดล ผู้เป็นแม่และ มอริซ โจยังท์ผู้ซึ้อขายงานศิลปะก็ช่วยกันเผยแพร่งานเขียนของอ็องรี นอกจากนั้นเคาน์เตสอาแดลก็ยังอุทิศเงินสร้างพิพิธภัณฑ์ที่อัลบีที่บ้านเกิดของอ็องรีเพื่อใช้เป็นที่ตั้งแสดงผลงาน
ประวัติชีวิตของอ็องรีสร้างเป็นภาพยนตร์สองเรื่อง:
- “Moulin Rouge” (ค.ศ. 1952) สร้างโดยจอห์น ยูสตัน โดยมีโฮเซ เฟร์เรร์แสดงเป็นอ็องรี
- “Lautrec” (ค.ศ. 1998) กำกับโดยโรเจอร์ พลานชอง[6]
- “Moulin Rouge” (ค.ศ. 2001) โดยมีจอห์น เลกุยซาโมแสดงเป็นอ็องรี
อ้างอิง
- ↑ 1.0 1.1 Angier, Natalie (June 6, 1995). "What Ailed Toulouse-Lautrec? Scientists Zero In on a Key Gene". The New York Times. สืบค้นเมื่อ 2007-12-08.
- ↑ "Noble figure". The Guardian. November 20, 2004. สืบค้นเมื่อ 2007-12-08.
- ↑ "Why Lautrec was a giant". The Times. December 10, 2006. สืบค้นเมื่อ 2007-12-08.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|date=
(help) - ↑ Ayto, John, and Crofton, Ian, Brewer's Dictionary of Modern Phrase & Fable, page 747. Excerpted from Google Book Search. [1]
- ↑ "Toulouse Lautrec: The Full Story". Channel 4. สืบค้นเมื่อ 2007-12-08.
- ↑ www.imdb.com
ดูเพิ่ม
แหล่งข้อมูลอื่น
- เว็บไซต์ของอ็องรี เดอ ตูลูซ-โลแทร็ก (อังกฤษ)
- เว็บไซต์ของอ็องรี เดอ ตูลูซ-โลแทร็ก (อังกฤษ)
สมุดภาพ
-
“มูแล็งรูฌ” “ลากูลู” - (ค.ศ. 1891)
-
“สันโดษ” (Alone)'
-
“ทูตอารีสตีด บรูออง” (Ambassadeurs: Aristide Bruant)
-
“ที่มูแล็งรูฌ”
-
“ที่มูแล็งรูฌ: ผู้หญิงสองคนวอลทซ์”
-
“ห้องน้ำ”
-
“เพื่อนผู้หญิงสองคน” (The Two Girlfriends)
-
“ผู้หญิงกึ่งเปลือยมองจากข้างหลังที่ซ่องที่ถนนมูแลง” (Two Half-Naked Women Seen from behind in the Rue des Moulins Brothel)
-
“อีแวต กีลแบร์ทักทายกับผู้ชม” (Yvette Guilbert Greeting the Audience)
-
“เม แบลฟอร์ร้องเพลง” (May Belfort (singing Daddy Wouldn't Buy Me a Bow-wow)