พระราชมุนี (โฮม โสภโณ)
มีข้อสงสัยว่าบทความนี้อาจละเมิดลิขสิทธิ์ แต่ระบุไม่ได้ชัดเจนเพราะขาดแหล่งที่มา หรืออ้างถึงสิ่งพิมพ์ที่ยังตรวจสอบไม่ได้ หากแสดงได้ว่าบทความนี้ละเมิดลิขสิทธิ์ ให้แทนป้ายนี้ด้วย {{ละเมิดลิขสิทธิ์}} หากคุณมั่นใจว่าบทความนี้ไม่ได้ละเมิดลิขสิทธิ์ ให้แสดงหลักฐานในหน้าอภิปราย โปรดอย่านำป้ายนี้ออกก่อนมีข้อสรุป |
บทความนี้ต้องการการจัดหน้า จัดหมวดหมู่ ใส่ลิงก์ภายใน หรือเก็บกวาดเนื้อหา ให้มีคุณภาพดีขึ้น คุณสามารถปรับปรุงแก้ไขบทความนี้ได้ และนำป้ายออก พิจารณาใช้ป้ายข้อความอื่นเพื่อชี้ชัดข้อบกพร่อง |
พระราชมุนี (โฮม โสภโณ) | |
---|---|
ส่วนบุคคล | |
เกิด | 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2448 (71 ปี 284 วัน ปี) |
มรณภาพ | 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2519 |
นิกาย | ธรรมยุติกนิกาย |
การศึกษา | เปรียญธรรม 6 ประโยค นักธรรมชั้นเอก |
ตำแหน่งชั้นสูง | |
ที่อยู่ | วัดปทุมวนารามราชวรวิหาร กรุงเทพมหานคร |
อุปสมบท | 11 กรกฎาคม 2468 |
พรรษา | 51 |
ตำแหน่ง | อดีตผู้รักษาการเจ้าอาวาสวัดปทุมวนารามราชวรวิหาร |
พระราชมุนี (โฮม โสภโณ โพธิ์ศรีทอง) หรือ หลวงปู่โฮม โสภโณ ประชนชนทั่วไปมักเรียกองค์ท่านว่า เจ้าคุณราชมุนี ได้รับการขนานนามว่า ช้างเผือกกลางกรุง เป็นพระภิกษุคณะธรรมยุติกนิกายชาวอำเภอมหาชนะชัย จังหวัดยโสธร เคยดำรงตำแหน่งเป็นผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดปทุมวนารามราชวรวิหาร เขตปทุมวัน จังหวัดกรุงเทพมหานคร
ประวัติ
[แก้]พระราชมุนี (โฮม โสภโณ) เกิดเมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2448 ณ บ้านโนนทรายน้อย ตำบลบึงแก อำเภอฟ้าหยาด จังหวัดอุบลราชธานี (ปัจจุบันแยกขึ้นกับจังหวัดยโสธร) (ปัจจุบันคือ บ้านราชมุนี ตำบลโนนทราย) โยมบิดาชื่อ นายมูล โยมมารดาชื่อ นางสีกา โพธ์ศรีทอง ท่านเป็นบุตรคนที่ 3 ในจำนวนพี่น้อง 5 คน ดังนี้
- นายบัวลา โพธิ์ศรีทอง
- นางคำ โพธิ์ศรีทอง
- พระราชมุนี (โฮม โสภโณ)
- นางน้อย โพธิ์ศรีทอง
- น.ส.จันทรา โพธิ์ศรีทอง
การศึกษา
[แก้]- จบชั้นประถมศึกษาที่โรงเรียนวัดศรีทอง จังหวัดอุบลราชธานี
- พ.ศ. 2467 สอบไล่ได้นักธรรมชั้นตรี
- พ.ศ. 2468 สอบไล่ได้นักธรรมชั้นโท
- พ.ศ. 2470 สอบไล่ได้นักธรรมชั้นเอก
- พ.ศ. 2472 สอบไล่ได้เปรียญธรรม 3 ประโยค
- พ.ศ. 2477 สอบไล่ได้เปรียญธรรม 4 ประโยค
- พ.ศ. 2479 สอบไล่ได้เปรียญธรรม 5 ประโยค
- พ.ศ. 2481 สอบไล่ได้เปรียญธรรม 6 ประโยค
การสาธารณสงเคราะห์
[แก้]- ปี พ.ศ. 2514 พระราชมุนี (โฮมโสภโณ) ได้มาเริ่มพัฒนาหมู่บ้านโนนทรายน้อย ให้เป็นหมู่บ้านพัฒนาตัวอย่าง โดยมีการจัดตั้งสถานศึกษาหลายแห่ง เช่น โรงเรียนตระกูลประเทืองวิทยาคม โรงเรียนเกษตรกรรมยโสธร (ต่อมาคือวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยียโสธร) ตลอดจนสถานีอนามัยบ้านโนนทราย เพื่อมุ่งหวังจะให้บ้านโนนทราย เป็นกิ่งอำเภอโนนทราย จึงได้เสนอต่อนายทะเบียนจัดตั้งตำบลโนนทราย ประมาณ ปี พ.ศ. 2517 ต่อมาพระราชมุนี (โฮม โสภโณ) ได้มรณภาพเสียก่อน ต่อมาบ้านโนนทรายได้เจริญรุ่งเรือง และขยายออกใหญ่โตจนต้องแยกออกเป็นอีก 1 หมู่บ้าน ตั้งชื่อว่า บ้านราชมุนี
- ผู้ดำริก่อสร้างวัดศรีวีรวงศาราม (ธ) ต่อในวันที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2522 เวลา 14.00 น. พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี เสด็จทรงประกอบพิธียกช่อฟ้า และตัดลูกนิมิตพระอุโบสถวัดศรีวีรวงศาราม (ธ) บ้านราชมุนี ตำบลโนนทราย อำเภอมหาชนะชัย จังหวัดยโสธร
- ผู้ริเริ่มพัฒนาวัดพระพุทธบาทยโสธร บ้านหนองยาง ตำบลหัวเมือง อำเภอมหาชนะชัย จังหวัดยโสธร
สมณศักดิ์
[แก้]- วันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2497 ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะช้นสามัญที่ พระโสภณปัญญาจารย์[1]
- วันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2508 ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นราชที่ พระราชมุนี ตรีปิฏกาลังการ ไวยัติญาณ ยติคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี[2]
ตำแหน่ง และหน้าที่การงาน
[แก้]- พ.ศ. 2479 ได้รับแต่งตั้งเป็นกรรมการตรวจธรรมสนามหลวง
- พ.ศ. 2481-2518 เป็นครูสอนปริยัติธรรม
- พ.ศ. 2481 เป็นครูสอนแผนกภาษาบาลี
- วันที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2509 ได้รับแต่งตั้งให้เป็นพระอุปัชฌายะ
- พ.ศ. 2511 ได้รับแต่งตั้งเป็นรองเจ้าอาวาสวัดปทุมวนารามราชวรวิหาร
- วันที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2519 เป็นผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดปทุมวนารามราชวรวิหาร
อาพาธ และมรณภาพ
[แก้]พระราชมุนี (โฮม โสภโณ) เริ่มมีอาการเจ็บป่วยตั้งแต่เดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2519 จนถึงวันที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2519 อาการป่วยขององค์ท่านเริ่มจะไม่ดีขึ้น คณะศิษยานุศิษย์จึงนำตัวองค์ท่านส่งโรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า และในวันที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2519 ได้นำตัวท่านไปรักษาที่โรงพยาบาลเวชศาสตร์เขตร้อน อาการป่วยขององค์ท่านก็ยิ่งทรุดหนักลงตามลำดับ จนถึงวันที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2519 เวลา 09.24 น. องค์ท่านก็ได้ถึงแก่มรณภาพอย่างสงบด้วยโรคมะเร็งในตับ สิริรวมอายุได้ 70 ปี 9 เดือน 5 วัน[3]
อ้างอิง
[แก้]- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, แจ้งความสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานสัญญาบัตรตั้งสมณศักดิ์, เล่ม 71, ตอนที่ 84, 14 ธันวาคม 2497, หน้า 2777
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, แจ้งความสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานสัญญาบัตรตั้งสมณศักดิ์, เล่ม 82,ตอนที่ 111, 23 ธันวาคม 2508, ฉบับพิเศษ หน้า 1-2
- ↑ "สำเนาที่เก็บถาวร" (PDF). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2020-10-23. สืบค้นเมื่อ 2019-05-21.
- ↑ https://sangkhatikan.com/monk_view.php?ID=15466
- ↑ https://sites.google.com/site/rachmunibanhea7/phra-rach-muni-hom-soph[ลิงก์เสีย]
- ↑ "สำเนาที่เก็บถาวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2019-05-09. สืบค้นเมื่อ 2019-05-21.