นินเท็นโด 3ดีเอส
บทความนี้ต้องการการจัดหน้า จัดหมวดหมู่ ใส่ลิงก์ภายใน หรือเก็บกวาดเนื้อหา ให้มีคุณภาพดีขึ้น คุณสามารถปรับปรุงแก้ไขบทความนี้ได้ และนำป้ายออก พิจารณาใช้ป้ายข้อความอื่นเพื่อชี้ชัดข้อบกพร่อง |
ผู้พัฒนา | นินเท็นโด รีเสิร์ชแอนด์เอนจิเนียริง |
---|---|
ผู้ผลิต | นินเท็นโด, ฟ็อกซ์คอนน์ |
ชนิด | เครื่องเล่นเกมพกพา |
ยุค | เครื่องเล่นวิดีโอเกมยุคที่แปด |
ออกจำหน่าย | นินเท็นโด 3ดีเอส:
นินเท็นโด 3ดีเอส เอกซ์แอล: |
วางจำหน่าย | ค.ศ. 2011 –2020 |
ราคาเบื้องต้น | |
ยอดจำหน่าย | ทุกต้นแบบรวมกัน: 75.08 ล้านตลับ (ถึง 31 มีนาคม ค.ศ. 2019) |
สื่อ | |
ระบบปฏิบัติการ | ซอฟตแวร์ระบบนินเท็นโด 3ดีเอส |
ซีพียู | 266 MHz dual-core ARM11 & 133 MHz single-core ARM9 |
สื่อบันทึกข้อมูล |
|
หน่วยความจำ | 128 MB FCRAM (32MB Reserved for OS) (Fujitsu MB82M8080-07L FC-RAM) |
กราฟิกการ์ด | 133 MHz Digital Media Professionals PICA200 |
การเชื่อมต่อ | 2.4 GHz วายฟาย |
บริการออนไลน์ |
|
เกมที่ขายดีที่สุด | มาริโอคาร์ต 7, 18.94 ล้านตลับ (ถึง 31 มีนาคม ค.ศ. 2019)[5] |
การรองรับเครื่องรุ่นก่อน | นินเท็นโด ดีเอส |
รุ่นก่อนหน้า | นินเท็นโด ดีเอสไอ |
รุ่นถัดไป | นิวนินเท็นโด 3ดีเอส |
เว็บไซต์ | www |
นินเท็นโด 3ดีเอส (ญี่ปุ่น: ニンテンドー3DS; อังกฤษ: Nintendo 3DS ทับศัพท์: นินเท็นโด ทรีดีเอส) เป็นเครื่องเล่นเกมพกพาที่ผลิตโดยนินเท็นโด ตัวเครื่องมีความสามารถที่จะแสดงระบบภาพสามมิติโดยปราศจากแว่นสามมิติหรืออุปกรณ์เสริมเพิ่มเติม นินเท็นโดได้ประกาศเครื่องเล่นเกมนินเท็นโด 3ดีเอส ครั้งแรกในเดือน มีนาคม ปี ค.ศ. 2010 และได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 15 มิถุนายน ที่งานอี3 2010[6][7] และเป็นเครื่องเล่นเกมที่สืบทอดความสำเร็จมาจากนินเท็นโด DS ซึ่งมีคุณสมบัติความเข้ากันได้ย้อนหลังกับวิดีโอเกมเก่าของนินเท็นโด DS[8] คู่แข่งหลักคือเพลย์สเตชันวิต้าจากโซนี่[9]
นินเท็นโด 3ดีเอสยุติการวางจำหน่ายและเลิกผลิตเครื่องเล่นตระกูลนินเท็นโด 3ดีเอส ตามลำดับ นินเท็นโด 3ดีเอส XL, นินเท็นโด 2DS, Newนินเท็นโด 3ดีเอส, Newนินเท็นโด 3ดีเอส XL, และNewนินเท็นโด 2DS XL ทั่วโลกในวันที่ 16 กันยายน 2020[10][11] โดยยอดจำหน่ายทั่วโลกอยู่ที่ 75.87 ล้านเครื่อง และเกมสุดท้ายของ นินเท็นโด 3ดีเอส คือเกมKirby’s Extra Epic Yarn
ประวัติ
[แก้]ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
ฮาร์ดแวร์
[แก้]ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
ซอฟต์แวร์
[แก้]ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
เกมส์
[แก้]ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
การตอบรับ
[แก้]ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
แหล่งข้อมูลอื่น
[แก้]- เว็บไซต์อย่างเป็นทางการของนินเท็นโด 3ดีเอส (อังกฤษ)
- เว็บไซต์อย่างเป็นทางการของนินเท็นโด 3ดีเอส (ญี่ปุ่น)
อ้างอิง
[แก้]- ↑ "Supplementary Information about Earnings Release" (PDF). Nintendo. October 29, 2010. p. 9. สืบค้นเมื่อ November 7, 2010.
- ↑ Harris, Craig (September 28, 2010). "Nintendo Conference 2010 Details". IGN. สืบค้นเมื่อ September 26, 2013.
- ↑ Kaluszka, Aaron (January 19, 2011). "3DS North American Price, Date, Colors Set". Nintendo World Report.
- ↑ Daniel Vuckovic (February 8, 2011). "Nintendo 3DS launches in Australia on March 31st for $349". Vooks.net. สืบค้นเมื่อ September 26, 2013.
- ↑ "Top Selling Software Sales Units". Nintendo. March 31, 2019. สืบค้นเมื่อ April 25, 2019.
- ↑ Tabuchi, Hiroko (March 23, 2010). "Nintendo to Make 3-D Version of Its DS Handheld Game". The New York Times. The New York Times Company. สืบค้นเมื่อ April 4, 2010.
- ↑ Snider, Mike (June 15, 2010). "E3 2010: Nintendo 3DS unveiled". USA Today. สืบค้นเมื่อ November 26, 2012.
- ↑ "Launch of New Portable Game Machine" (PDF) (Press release). Minami-ku, Kyoto: Nintendo. March 23, 2010. สืบค้นเมื่อ March 23, 2010.
- ↑ "Nintendo 3DS vs. PS Vita: Handheld Wars, The Next Generation". IndustryGamers. September 16, 2011. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ September 23, 2011. สืบค้นเมื่อ November 1, 2011.
- ↑ Byford, Sam (September 17, 2020). "Nintendo has discontinued the 3DS". The Verge. สืบค้นเมื่อ September 17, 2020.
- ↑ "Nintendo 3DS discontinued after almost a decade". BBC News. September 17, 2020. สืบค้นเมื่อ September 17, 2020.