กาเลน มาเรก
ตัวละคร สตาร์ วอร์ส | |
กาเลน มาเรก | |
Galen Marek | |
ตำแหน่ง | ศิษย์ซิธ |
บ้านเกิด | คาชีค |
เกิด | ก่อนปีที่ 19 ก่อนยุทธการยาวิน |
ตาย | ไม่ปรากฏ |
เผ่าพันธุ์ | มนุษย์ |
เพศ | ชาย |
ส่วนสูง | 1.85 เมตร |
สังกัด | จักรวรรดิกาแลกติก, นิกายซิธลอร์ด, พันธมิตรฟื้นฟูสาธารณรัฐ,อัศวินเจได |
นักแสดง | แซม วิตเวอร์ (ให้เสียง) |
หมวดหมู่ ตัวละครในสตาร์ วอร์ส |
กาเลน มาเรก (Galen Marek) เป็นตัวละครในเรื่องแต่งชุดสตาร์ วอร์ส มีบทบาทสำคัญในเรื่องชุด The Force Unleashed ทั้งในรูปแบบเกม นิยาย และหนังสือการ์ตูน
กาเลน มาเรก เป็นมนุษย์เพศชาย บุตรของเจไดเคนโต มาเรก ถูกดาร์ธ เวเดอร์แยกจากบิดามาเมื่อครั้งเข้าโจมตีคาชี้กในการกวาดล้างเจไดครั้งใหญ่ ได้รับการฝึกจากเวเดอร์ในชื่อรหัสสตาร์คิลเลอร์ (Starkiller) ในวิถีแห่งด้านมืดและการสังหารศัตรูอยู่หลายปี รวมถึงเหล่าเจไดที่รอดจากคำสั่งที่ 66 มาเรกได้รับการบอกกล่าวว่าเขาเป็นส่วนหนึ่งของแผนโค่นล้มดาร์ธ ซิเดียส ผู้เป็นนายของเวเดอร์ และจักรพรรดิของจักรวรรดิกาแลกติก ในขณะที่ความจริงแล้ว เวเดอร์และพัลพาทีนได้วางแผนกันเพื่อใช้เขาในการกำจัดเหล่าผู้คิดกบฏต่อจักรวรรดิ ต่อมาในปีที่ 3 ก่อนยุทธการยาวิน เป็นเวลาสิบห้าปีหลังจากเข้าฝึกฝน สตาร์คิลเลอร์ก็ได้เริ่มต้นภารกิจในการสังหารเจได
หลังจากสังหารช้าก ติบนเฟลูเซียแล้ว เขาได้เดินทางกลับมายังเอกซีคิวเตอร์ ยานธงของเวเดอร์ ดาร์ธ ซิเดียสปรากฏตัวขึ้น ออกคำสั่งให้เวเดอร์สังหารสตาร์คิลเลอร์ เวเดอร์เสมือนแสร้งทำโดยใช้พลังเคลื่อนย้ายเขาทะลุผ่านกระจกยานไปยังอวกาศ และได้นำตัวเขากลับมารักษาคืนชีพในหกเดือนต่อมาบนยานวิทย์เอมไพริคัล ซึ่งระหว่างนั้นเขาเป็นที่ขึ้นชื่อในนามซับเจคท์เซต้า เวเดอร์บอกต่อสตาร์คิลเลอร์ว่าช่วยเหลือเขาโดยลับต่อต้านคำสั่งของนายตน และได้มอบเป้าหมายภารกิจใหม่ คือการรวบรวมจัดตั้งพันธมิตรกบฏที่จะโค่นล้มจักรวรรดิ
หลังจากเข้าถึงตัวบุคคลสำคัญได้ มาเรกและเหล่าพันธมิตรกบฏได้นัดพบกันที่คอเรลเลียเพื่อร่างสนธิสัญญาคอเรลเลียน เพื่อจัดตั้งพันธมิตรฟื้นฟูสาธารณรัฐ อย่างไรก็ดี เวเดอร์และทัพจักรวรรดิได้เข้าโจมตีที่ประชุม จับเหล่าผู้นำกบฏ และเปิดเผยต่อมาเรกว่าเขาถูกหลอกใช้เพื่อให้รวบรวมศัตรูของจักรวรรดิเข้าไว้ด้วยกัน มาเรกไล่ตามเวเดอร์และผู้นำพันธมิตรไปจนถึงดาวมรณะ สุดยอดอาวุธขนาดยักษ์ ที่นั่นเขาได้ประลองกับทั้งเวเดอร์และซิเดียส มาเรกได้ซื้อเวลาให้เหล่าพันธมิตรกบฏหลบหนีไปได้ การเสียสละที่ปรากฏเป็นการเสียสละชีวิตของเขาเป็นแรงบันดาลใจให้เหล่ากบฏ โดยการณ์ปรากฏในตอนท้ายพันธมิตรนี้จะเป็นผลงานอันดีงามอย่างหนึ่งของเหล่าซิธที่มีต่อกาแลกซี
อย่างไรก็ดี มาเรกรอดชีวิตจากการปะทะบนดาวมรณะ และจะได้เข้าประลองในงานประลองแห่งหนึ่งซึ่งไม่ปรากฏสถานที่แน่ชัด แต่ในเกม Star war:The Force Unleashed 2 เนื้อเรื่องได้บอกว่ากาเลน มาเรกอาจจะเสียชีวิตไปแล้วจริงๆ แต่ดาร์ธ เวเดอร์ผู้เป็นเจ้านายเก่าได้เก็บยีนของกาเลน มาเรก มาทำเป็นโคลนนิ่งที่ดาวคามิโน่ และออกตามหาความทรงจำที่หายไปกลับคืนมา พร้อมคิดบัญชีกับดาร์ธ เวเดอร์ และหลังจากได้รับชัยชนะในการดวลกับเวเดอร์อีกครั้งที่คามิโน เขากับจูโนก็ออกเดินทางไปยังสุดขอบจักรวาล และสูญหายไปตลอดกาล...
ประวัติ
[แก้]วัยเด็ก
[แก้]กาเลน มาเรก เป็นบุตรชายของเคนโตและมิลลี มาเรก ทั้งคู่เป็นเจไดที่รอดชีวิตจากคำสั่งที่ 66 ซึ่งเดินทางหาที่หลบภัยจนมาพบกับเหล่าวูกีแห่งคาชี้ก มารดาของเขาถูกสังหารในขณะช่วยป้องกันคาชี้กจากทาสทรานโดชานที่ถูกว่าจ้างโดยสมาพันธ์แบ่งแยก ทำให้เคนโตต้องเลี้ยงดูกาเลนเพียงลำพัง และจากการเสียชีวิตของมิลลีนี้เองทำให้จักรวรรดิรู้ว่าเคนโตอยู่ที่คาชี้ก
ไม่นานหลังจากการกวาดล้างเจไดครั้งใหญ่เริ่มต้นขึ้น จักรวรรดิเข้าโจมตีคาชี้ก ดาร์ธ เวเดอร์มาถึงคาชี้กด้วยยานกระสวยส่วนตัวสำหรับภารกิจสังหารเจได เคนโตเข้าต่อสู้กับเวเดอร์อย่างดุเดือดแต่ก็ไม่อาจเอาชนะได้ ในขณะที่เวเดอร์กำลังจะสังหารเคนโตในดาบสุดท้ายนั้นเอง กระบี่แสงของเขาถูกดึงหลุดออกจากมือ เมื่อหันไปดูกลับพบเด็กชายคนหนึ่งถือกระบี่แสงของเขาเอาไว้ เวเดอร์สัมผัสได้ว่าเด็กคนนี้มีสัมผัสแรงกล้าในพลัง
หลังจากเวเดอร์สังหารบิดาของเด็กชายแล้ว ผู้บังคับบัญชาสตอร์มทรูปเปอร์ที่เป็นผู้นำการเข้าโจมตีก็มาถึง และกลับเข้าใจผิดว่าเด็กชายคิดทำร้ายเวเดอร์ เขาจึงสั่งให้ทหารในบังคับบัญชาโจมตีสังหารเด็กชาย เวเดอร์ดึงดาบจากเด็กชายอย่างรวดเร็วและปัดป้องกระสุนเป็นผลสังหารทหารสตอร์มทรูปเปอร์เหล่านั้น เพื่อกำจัดผู้รู้เห็นตัวตนของเด็กชาย จากนั้นเขาจึงนำกาเลนน้อยเดินทางออกจากคาชี้กไปพร้อมกัน และฝึกเขาให้เป็นศิษย์ของตนโดยลับ
ฝึกฝนกับเวเดอร์
[แก้]ภายใต้การกักกัน เวเดอร์ฝึกสอนวิถีแห่งพลังให้กับมาเรกด้วยตัวเอง ในช่วงแรกเด็กชายต้องตกอยู่ภายใต้ความกลัว มิได้ถูกฝึกสอนชี้นำทุกย่างก้าวโดยนายใหม่แต่อย่างใด แต่ต้องพยายามหาหนทางให้ได้ด้วยตัวเอง เฉพาะเมื่อเห็นว่าหลงทางชัดแล้วเท่านั้นที่เวเดอร์จะมอบคำแนะนำสั่งสอนเล็กน้อยให้ ในบทเรียนส่วนตัวนับหลายครั้งซึ่งมักมีกระบี่แสงและอำนาจพลังมาเกี่ยวข้องกัน เวเดอร์ไม่เคยมอบคำชื่นชมให้กำลังใจแก่มาเรกแม้แต่น้อย ยิ่งไปกว่านั้นเวเดอร์ยังไม่เคยร่วมถกประเด็นหรือสนทนาลึกซึ้งกับเด็กชายแต่อย่างใดด้วย และในระหว่างกิจกรรมฝึกฝนอันโหดร้ายนั้น กาเลนต้องเค้นความสามารถออกมาใช้ถึงขีดสุด การฝึกฝนทางร่างกายนั้นเกือบจะเรียกได้ว่าเป็นการทรมาน และต้องเฉียดตายหลายต่อหลายครั้ง
กำจัดเจไดที่เหลือรอด
[แก้]ราห์ม โคตา
[แก้]ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
พบกับเอคลิปส์
[แก้]ต้องไม่มีพยาน
[แก้]ประลองกับโคตา
[แก้]บททดสอบแห่งทักษะ
[แก้]แคซเดน พาราตัส
[แก้]มาถึงวิหาร
[แก้]เผชิญหน้าพาราตัส
[แก้]บททดสอบแห่งการรู้ตัวตน
[แก้]ล่าช้าก ติ
[แก้]ต่อสู้กับช้าก ติ
[แก้]"การหักหลัง" ของเวเดอร์
[แก้]ฟื้นคืนชีพและเป้าหมายใหม่
[แก้]เยือนวิหารเจไดครั้งสุดท้าย
[แก้]ตามหาราห์ม โคตา
[แก้]ช่วยเหลือเจ้าหญิง
[แก้]ตามหาวุฒิสมาชิกฯ
[แก้]ต่อสู้กับจักรวรรดิ
[แก้]ความพยายามครั้งสุดท้ายของพร็อกซี่
[แก้]คำประกาศการกบฏ
[แก้]การประลองบนดาวมรณะ
[แก้]มาเรกทำสมาธิเพื่อค้นหาที่อยู่ของอดีตอาจารย์ของเขาจนในที่สุดสามารถได้พลังหยั่งรู้อนาคตมาได้ทำให้ทราบว่าดาวมรณะนั้นอยู่ระหว่างการก่อสร้างที่ระบบดาวโฮรุซ หลังจากที่จูโนได้ใช่ความเชี่ยวชาญบังคับยานโร้ก ชาโดว์โดยใช้ระบบพรางตาเดินทางเข้ามาใกล้พอจนสามารถลงไปยังดาวมรณะได้แล้ว มาเรกได้บอกลาจูโน โดยทั้งสองมีความรู้สึกเหมือนกันว่าคงไม่ได้เจอกันอีก ทั้งสองสวมกอดกันและจุมพิตซึ่งกันและกัน หลังจากนั้นมาเรกจึงกระโดดออกจากยานและร่วงผ่านอุโมงค์ยาวเข้าไปในสถานีอวกาศ มาเรกสังหารทหารจักรวรรดิทั้งหมดที่ขวางทางขณะที่พยายามตั้งจิตไปอยู่ที่การเข้าถึงจักรพรรดิ ระหว่างทางเขาได้กระตุ้นการปฏิวัติโกลาหลโดยปล่อยทาสวูกีออกจากที่คุมขัง ซึ่งวูกีเหล่านี้ได้ชี้นำทางไปต่อให้เขา
พัลพาทีนรับรู้ถึงการมาของมาเรกและได้ส่งดาร์ธ เวเดอร์ออกตามล่า สุดท้ายแล้วมาเรกกับเวเดอร์ก็พบกันในระยะไม่กี่ร้อยเมตรจากพัลพาทีนและเหล่าผู้นำกบฏ ทั้งสองต่อสู้กันดุเดือดและมาเรกก็ได้ถามหาความจริงเกี่ยวกับอดีตของเขาจากเวเดอร์ระหว่างการต่อสู้ สุดท้ายแล้วจึงสรุปได้ว่าพัลพาทีนเป็นผู้ชักใยอยู่เบื้องหลังมาตลอด ตั้งแต่ออกคำสั่งสังหารบิดาของเขา สั่งให้เวเดอร์เลี้ยงดูมาเรก โดยเวเดอร์เพียงทำทุกอย่างตามที่จักรพรรดิต้องการ การต่อสู้จบลงโดยมาเรกใช้พลังจับขว้างทั้งเสาทั้งอะไรก็ตามใกล้มือเข้าใส่เวเดอร์ หลังจากที่ปราบนายเก่าลงได้สำเร็จจนใกล้สิ้นชีพแล้วมาเรกเกิดสัมผัสได้ถึงความปรารถนาแรงกล้าที่จะปลิดชีวิตเวเดอร์และเข้าเป็นศิษย์คนใหม่ของพัลพาทีน พัลพาทีนได้ใช้พลังเคลื่อนย้ายบังคับมาเรกให้สังหารดาร์ธ เวเดอร์และเข้าแทนที่ลอร์ดมืด เมื่อรู้ทันกลของพัลพาทีนแล้วโคตาได้ใช้พลังดึงเอากระบี่แสงของพัลพาทีนมาและต่อสู้กับองครักษ์จักรพรรดิปลดปล่อยตัวเขาและผู้นำกบฏคนอื่นๆ หลังจากนั้นจึงพยายามโจมตีจักรพรรดิ พัลพาทีนหันมารับมือโคต้าและใช้พลังสายฟ้าเข้าใส่ มาเรกสับสนในจิตใจอยู่ชั่วขณะก่อนที่จะตัดสินใจต่อสู้เพื่อปกป้องเพื่อนและครูของตน
มาเรกใช้พลังยกเอาเศษชิ้นส่วนต่างๆ ทุ่มเข้าใส่จักรพรรดิจนพัลพาทีนต้องหันมารับมือการโจมตีนี้ เกิดเป็นการต่อสู้ด้วยพลังครั้งใหญ่ แต่จู่ๆ พัลพาทีนกลับทรุดลงกับพื้นและร้องไห้มาเรกฆ่าตน มาเรกเดินเข้าไปเตรียมสังหารพัลพาทีน พัลพาทีนบอกว่าให้มาเรกยอมจำนนต่อความโกรธและสืบต่อสายเลือดแห่งซิธแทนตัวเขา อย่างไรก็ดี ด้วยความช่วยเหลือจากโคตา มาเรกปฏิเสธคำชวนนี้และไว้ชีวิตจักรพรรดิ เมื่อมาเรกหันหลังกลับพัลพาทีนก็ลุกขึ้นยืนและใช้พลังสายฟ้าโจมตีโคตา มาเรกกระโดดเข้าบังโคตาไว้และพยายามใช้พลังสะท้อนสายฟ้ากลับไป ค่อยๆ เดินเข้าหาซิเดียส
สายฟ้าของจักรพรรดิเข้มข้นมากราวกับทำให้มีการกำเนิดของดาวฤกษ์บนหน้าอกของ มาเรก ขณะเดียวกันดาร์ธ เวเดอร์กลับเข้าสู่การต่อสู้อีกครั้งพร้อมหมู่ทหารสตอร์มทรูปเปอร์ เมื่อมาเรกเห็นสหายตนอยู่ในอันตรายด้วยแสงจากพลังสายฟ้าเขาเปิดตัวเองเข้ารับพลังและปลดปล่อยทุกสิ่งในตัวออกมาทำให้เกิดเป็นการระเบิดครั้งใหญ่ของพลังที่ทำให้ทหารสตอร์มทรูปเปอร์ทั้งหมดกระจายออกไปและทำลายหอคอยจักรพรรดิลง เป็นโอกาสให้จูโน โคตา และเหล่าวุฒิฯ คนอื่นๆ หนีไปกับยานโร้ก ชาโดว์ได้ พัลพาทีนกับเวเดอร์ใช้พลังป้องกันตัวเองได้ทันและเชื่อทันทีว่ามาเรกเสียชีวิตแล้ว สุดท้ายมาเรกก็ได้ทำลายแผนการของจักรพรรดิและทำให้กองกบฏถือกำเนิดขึ้นมาได้
สิ่งสืบทอด
[แก้]ผลของการต่อสู้ทำให้พัลพาทีนไม่พึงพอใจอย่างยิ่ง ไม่เพียงแต่เขาจะต้องเสียศิษย์ใหม่ทรงพลังไปและยังต้องอยู่กับเวเดอร์ที่อ่อนพลังลงเท่านั้น แต่เหล่านักโทษยังสามารถหลบหนีซิธลอร์ดทั้งสองไปได้ และได้ก่อตั้งทัพกบฏขึ้นมา อย่างไรก็ได้ เพราะมาเรก ทำให้จักรวรรดิทราบแล้วว่าศัตรูของตนเป็นใคร เวเดอร์สาบานจะตามล่าศัตรูเหล่านี้ให้สิ้นตามที่นายตนหวังไว้ก่อนหน้านี้ ซิเดียสมองเห็นล่วงหน้าได้ถูกต้องว่าหากไม่สามารถจัดการพวกกบฏได้อย่างรวดเร็วเด็ดขาดแล้วพวกนี้จะเป็นภัยต่อการครองบัลลังก์ของเขา การต่อสู้ครั้งนั้นยังมีผลอีกอย่างหนึ่งคือยิ่งเพิ่มความบาดหมางระหว่างซิธลอร์ดทั้งสอง บัดนี้เวเดอร์ทราบแล้วว่าซิเดียสปรารถนาศิษย์คนใหม่ ทำให้เขายิ่งตั้งใจค้นหาศิษย์ที่มีความสามารถในพลังเพื่อโค่นล้มจักรพรรดิให้ได้
แม้จะสามารถรอดชีวิตมาได้ แต่การที่มาเรกเสมือนได้สละชีวิตลงในครั้งนี้ก็ได้เป็นแรงบันดาลใจให้เหล่ากบฏสืบสานงานต่อจากเขา คือเริ่มการปฏิวัติครั้งใหญ่ต่อจักรวรรดิ จูโนและเบลได้เก็บเอาพร็อกซี่จากกองหิมะบนคอเรลเลียซึ่งพร็อกซี่ได้เปิดเผยว่าหากเกิดอะไรขึ้นกับมาเรก ให้ถือว่าพร็อกซี่เป็นสมบัติของจูโน หลังจากกู้พร็อกซี่มาได้แล้วทั้งสองไปสมทบกับเหล่าผู้ก่อตั้งทัพกบฏคนอื่นบนคาชี้ก เจ้าหญิงเลอาได้เสนอให้ทัพกบฏนำเอาตราประจำตระกูลมาเรกมาใช้เป็นสัญลักษณ์แห่งความหวังเพื่อรวมตัวกัน ทั้งหมดเห็นด้วยตามนั้น
จูโนถามโคตาว่าเขารู้หรือไม่ว่าคนที่ก่อตั้งพันธมิตรกบฏนี้คือคนคนเดียวกันกับคนที่พยายามฆ่าโคตาเมื่อไม่ถึงปีก่อนหน้านี้ โคตาเผยว่าเขารู้มาโดยตลอดแต่ก็ยังคงยินดีช่วยเหลืออยู่เพราะเขาเห็นประกายสว่างในใจของมาเรกเป็นสิ่งที่เขายึดถืออย่ นั่นคือจูโน
กาเลน มาเรก เปลี่ยนชะตาของกาแลกซี พันธมิตรกบฏของเขาอยู่รอดและเปลี่ยนกาแลกซีไปตลอดกาล พันธมิตรกบฏนี้ชนะสงครามกลางเมืองกาแลกติกในท้ายที่สุด สาธารณรัฐกาแลกติกได้รับการฟื้นฟูขึ้นมาเป็นสาธารณรัฐกาแลกติกใหม่ และต่อมาได้สถาปนาใหม่เป็นสหพันธ์กาแลกติก
บุคลิกและลักษณะเฉพาะตัว
[แก้]แม้จะถูกลงโทษอย่างโหดร้ายต่อเนื่องโดยดาร์ธ เวเดอร์ผู้เป็นนาย กาเลน มาเรกก็ยอมรับวิธีการฝึกฝนของลอร์ดมืด ส่วนหนึ่งเพราะเขาไม่รู้จักสิ่งอื่นใดๆ นอกจากนั้นยังเชื่อด้วยว่าสิ่งใดไม่ทำให้เขาตายก็จะทำให้เขาแข็งแกร่งขึ้น เป็นลักษณะอันยิ่งเหมาะต่อการเข้าสู่ด้านมืดของพลัง อย่างเช่นความรู้สึกของมาเรกในตอนท้ายของการฝึกกับเวเดอร์ ส่วนหนึ่งในตัวเขาเกือบจะร้องขอความตาย นอกจากนั้นแล้ว ตลอดชีวิตของเขาแทบจะแยกจากคนอื่นตลอดเวลา ได้พบเจอผู้คนไม่มากนัก มาเรกกลายเป็นคนสันโดษแยกตัวเว้นแต่กับพร็อกซี่ และกับจูโน่ เอคลิปส์นั้นก็ต้องใช้เวลานานกว่าเขาจะยอมเปิดใจให้
ในขณะที่ไล่ล่าสังหารเป้าหมายอยู่นั้น มาเรกพึงพอใจเสมอที่เขาได้มีส่วนช่วยรักษาจักรวรรดิกาแลกติกและตอบสนองความปรารถนาของนายของเขา ถึงที่สุดแล้วเขาก็ไม่สบายใจอยู่ที่ต้องสังหารทหารจักรวรรดิเพื่อที่จะฆ่านายพลโคตา เนื่องจากรู้สึกว่าความผิดอย่างเดียวของพวกนั้นคือการมาขวางทางเขา แต่มาเรกปิดบังความรู้สึกของตนเองจากนายของตนได้ดี ในขณะเดียวกัน หลายๆ ครั้งเขาเฝ้าคอยจะเผชิญหน้ากับอัศวินเจได และตื่นเต้นกับโอกาสที่ชี้ชวนอย่างมาก
มาเรกถูกเลี้ยงมาโดยดาร์ธ เวเดอร์ ผู้ซึ่งไม่มีคุณสมบัติเป็นพ่อที่ดีนัก เวเดอร์ทำให้เกิดมีความคุกรุ่น ความโกรธเกรี้ยว และความเย็นชาขึ้นในใจของมาเรก มาเรกถูกฝึกให้มีความภักดีแต่ก็เป็นมือสังหารอำมหิต เป็นพลังอำนาจอันไม่อาจหยุดยั้ง ในขณะเดียวกันกับที่ทรงพลังและมีความมั่นใจ เขาก็ยังมีบุคลิกด้านอื่นๆ อีก เขาเฝ้าสังเกตจุดมุ่งหมายในชีวิตของตนเองและว่าเขาควรจะเป็นอะไร ทำอะไร แรกเริ่มเขามีความตั้งใจแน่วแน่ว่าจะเข้าร่วมหนทางลิขิตแห่งซิธที่เวเดอร์ฝึกเขา อย่างไรก็ดี เมื่อถูกเผยตัวต่อเจได ด้านสว่างของพลัง และความจริงของวิถีซิธทำให้ความตั้งใจของเขาสั่นคลอน ในที่สุดแล้ว ความรู้สึกลึกๆ ของความภักดีของเขาก็อยู่เหนือปรัชญาซิธ และทำให้เขาเลือกหนทางชีวิตไปตามนั้น
พลังและความสามารถ
[แก้]การใช้กระบี่แสง
[แก้]มาเรกได้รับการฝึกฝนการต่อสู้ด้วยกระบี่แสงจากดาร์ธ เวเดอร์ ต้องฝึกซ้อมต่อสู้กับเวเดอร์และดรอยด์ฝึกพร็อกซี่หลายต่อหลายครั้ง ฝีมือกระบี่แสงของมาเรกนั้นเก่งกาจเพียงพอที่จะปราบโปรแกรมฝึกของพร็อกซี่ที่จำลองนักประลองในตำนานหลายต่อหลายคนลงได้ อย่างเช่น โอบีวัน เคโนบี และดาร์ธ มอล รวมทั้งตัวจริงอย่างช้าก ติ และดาร์ธ เวเดอร์
มาเรกมีความคุ้นเคยกับรูปแบบพื้นฐานทั้งเจ็ดของการต่อสู้ด้วยกระบี่แสง สามารถสังเกตรูปแบบที่คู่ต่อสู้ใช้ได้ ส่วนตัวเขาเองนั้นมีความถนัดพิเศษในจูโยและโซเรสุ การประยุกต์ใช้จูโยของเขานั้นมีความแน่วแน่และก้าวร้าวมาก มีรูปแบบที่หลากหลายและทำนายได้ยาก ใช้ร่วมกับการใช้พลังโจมตีประสานกับกระบวนท่ากระบี่แสงที่ซับซ้อน ความมุ่งมั่นและสมาธิของเขาทำให้เขาสามารถปราบคู่ต่อสู้ลงได้โดยใช้ความสามารถของตัวเองแม้จะทำให้เขามักจะละเลยสิ่งรอบตัวจนโดนโจมตีจากทิศทางอื่นได้ง่าย
เมื่อต้องเข้าสู่กระบวนท่าป้องกัน เขามักกลับไปใช้โซเรสุ รูปแบบที่สามของมาเรกนั้นส่วนใหญ่ได้มาจากการฝึกฝนด้วยตนเองและมาจากการลอกเลียนแบบวิชาต่อสู้ของโอบีวัน เคโนบีที่พร็อกซี่มีอยู่ โซเรสุของมาเรกนั้นมีความสมบูรณ์มากแม้จะไม่ได้รับการฝึกฝนอย่างเป็นรูปแบบก็ตาม ตัวอย่างการใช้โซเรสุของเขาที่เห็นชัดคือเมื่อครั้งที่เขาประลองกับราห์ม โคตา ซึ่งความสามารถของมาเรกทำให้เขาสามารถรับมือการใช้จูโยของโคตาได้นานพอที่จะทำให้โคตาอ่อนแรงลง นอกจากนั้นยังสามารถป้องกันตัวเองจากนักประลองที่ก้าวร้าวมากอย่างแคซเดน พาราตัส และมาริส บรูด ได้ จนทำให้เขาสามารถปราบทั้งสองลงได้
นอกจากรูปแบบที่สามและรูปแบบที่เจ็ดแล้ว มาเรกยังมีความสามารถในรูปแบบที่ห้าอีกด้วย เขาฝึกฝนรูปแบบประยุกต์ของรูปแบบนี้ที่เรียกว่า ชิเอ็นซิธ ซึ่งเป็นรูปแบบที่นำเอาการโจมตีอย่างรวดเร็วเฉียบพลันมาใช้เพื่อปราบศัตรูลงให้ได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนั้นแล้วมาเรกยังชอบและถนัดที่จะใช้วิธีการจับกระบี่แสงแบบกลับข้างซึ่งเป็นวิธีนอกมาตรฐานของรูปแบบชิเอ็น
ความสามารถทางพลัง
[แก้]กาเลน มาเรก มีความสามารถในการใช้พลังกายภาพของพลังได้อย่างมาก บ่อยครั้งมักใช้ท่าทางการต่อสู้ผสานพลังอย่างผาดโผนร่วมกับทักษะการใช้กระบี่แสง ความสามารถในการใช้พลังสายฟ้าของเขานับว่าน่าทึ่ง ทรงพลังพอที่จะสังหารแรนคอร์ได้ด้วยการโจมตีที่ใช้พลังเข้มข้น เชี่ยวชาญการใช้พลังเคลื่อนย้ายอย่างมาก มักใช้บ่อยในการต่อสู้ ทำลายสนามรบด้วยคลื่นจลน์และพลังจับขว้าง พลังเคลื่อนย้ายของเขานั้นแข็งแกร่งมากจนเมื่อใช้ความพยายามประกอบแล้วสามารถดึงเอา Imperial I-class Star Destroyer ลงจากอากาศได้ นอกจากนั้นยังสามารถใช้พลังในการทำงานที่อาศัยความละเอียดอย่างการปรับประกอบกระบี่แสงของเขาระหว่างการทำสมาธิได้อีกด้วย
แม้จะมีความสามารถทางพลังทางการต่อสู้อย่างมากเช่นนี้ แต่มาเรกก็ยังไม่ถนัดที่จะใช้ความสามารถหยั่งรู้อนาคต จนกว่าเขาจะเข้าสู่ด้านสว่างของพลัง
เบื้องหลัง
[แก้]กาเลน มาเรก เป็นตัวละครเอกของเรื่องชุด The Force Unleashed โดยในฉบับเกมนั้นให้เสียงโดย Sam Witwer ซึ่งเป็นที่รู้จักจากการแสดงในบท Lt. Crashdown ในภาพยนตร์ชุดทางโทรทัศน์เรื่อง Battlestar Galactica นักแสดงผู้นี้ระบุว่าสนใจจะมารับบทตัวละครนี้ในภาพยนตร์ชุดคนแสดงทางโทรทัศน์ของสตาร์ วอร์ส[1] หน้าตาและการแสดงออกทางสีหน้าของเขาถูกเอามาใช้เป็นหน้าตาของตัวละครนี้ด้วย
ตอนจบแบบอื่น
[แก้]ในตอนจบอีกแบบหนึ่งของ Star Wars: The Force Unleashed มาเรกเลือกที่จะฆ่าเวเดอร์ ล้างแค้นให้บิดาและตนเอง หลังจากต่อสู้กันยาวนาน มาเรกกระชากกระบี่แสงออกจากมือของเวเดอร์ เหมือนอย่างที่เวเดอร์เคยทำกับเขาเมื่อตอนเด็ก หลังจากนั้นจึงฟันผ่านร่างของเวเดอร์ ต่อมามาเรกกลับไปยังท่าหลักซึ่งมีจักรพรรดิกับโคตาที่บาดเจ็บอยู่ จักรพรรดิบอกให้มาเรกฆ่าโคตา จำนนสู่ด้านมืดและเติมเต็มชะตาตน มาเรกจุดกระบี่แสงขึ้นมา เตรียมจะฟันลงอาจารย์ตน แต่เบนกระบี่ไปยังพัลพาทีน พัลพาทีนจุดกระบี่ขึ้นทันทีและปัดป้องการโจมตีได้โดยง่าย เขายอมรับว่าเห็นการที่มาเรกจะโจมตีนี้อยู่ล่วงหน้าแล้ว แล้วจึงใช้พลังสายฟ้าใส่มาเรกก่อนที่จะโยนเขาผ่านกระจกออกไปยังท่าจอดยานซึ่งจูโนขับโร้ก ชาโดว์เข้ามาจอดพอดี ขณะที่มาเรกยังอยู่บนพื้นเขาเห็นเบลและผู้นำกบฏคนอื่นถูกสังหารแล้วเรียบร้อย พัลพาทีนใช้พลังจับยึดยานโร้ก ชาโดว์เอาไว้แล้วโยนมายังมาเรก มาเรกกรีดร้องและหมดสติลงหลังจากที่ยานทับลงบนตัว
ต่อมามาเรกตื่นขึ้นบนเตียงผ่าตัดในศูนย์ศัลยกรรมจักรพรรดิพัลพาทีน แทบจะเหมือนกันกับที่ดาร์ธ เวเดอร์ เคยใช้เมื่อครั้งเขาต้องใส่ชุด บัดนี้มาเรกต้องใส่ชุดช่วยชีวิตเอาไว้ พัลพาทีนยืนอยู่ตรงหน้ากล่าวว่าเขาหวังไว้มากกับมาเรก เชื่อว่าวันหนึ่งจะได้เป็นซิธที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในจักรวาล มาเรกเข้าเป็นศิษย์ต่อพัลพาทีนเหมือนอย่างที่เวเดอร์เคยทำ กรีดร้องด้วยความเจ็บปวดเมื่อชุดสำเร็จเสร็จสิ้น เขามีกระบี่แสงหกด้ามบนเข็มขัด ได้แก่ กระบี่เดิมของเขา กระบี่ของดาร์ธ เวเดอร์ กระบี่ของราห์ม โรตา ครึ่งหนึ่งของกระบี่ของดาร์ธ มอล กระบี่ซิธเล่มใหม่ของเขา และด้านปลายของกระบี่ด้ามยาวของแคซเดน พาราตัส
ที่มาของตัวละคร
[แก้]Haden Blackman หนึ่งในทีมเขียนบทของ Force Unleashed เคยกล่าวไว้ว่ากาเลน มาเรก เป็นตัวแทนของสิ่งที่ลุค สกายวอล์คเกอร์จะเป็น หากลุคเข้าร่วมกับดาร์ธ เวเดอร์
ผู้ฝึกเป็นเหมือนภาพเหมือนแบบเนกาทีฟของลุค สกายวอล์คเกอร์ เขาถูกเลี้ยงมาโดยดาร์ธ เวเดอร์ เขาเป็นสิ่งที่ลุคจะกลายเป็นหากเลือกที่จะร่วมกับพ่อของเขา เวเดอร์ไม่ใช่พ่อที่ดีเท่าไรนัก นายคนนี้ถูกเลี้ยงมาเพื่อเป็นเจได เมื่อพวกเจไดใช้พลัง พวกเขาจะให้เกียรติแก่พลัง ไม่ใช้มันมากเกินไป ส่วนพวกตัวร้าย พวกซิธ จะคอยทดสอบขีดจำกัดของตัวเองเสมอ เวเดอร์ค้นพบคนคนนี้ที่มีศักยภาพที่อาจจะเป็นผู้ใช้พลังที่ทรงพลังที่สุดเท่าที่เคยมีมา เขาอยู่ในแถวหน้า ทรงพลังอย่างมาก เวเดอร์ได้ฝึกเขาแบบที่คอยให้เขาไปถึงขีดจำกัดตัวเองอยู่เสมอเพื่อคอยดูว่าเขาจะใช้พลังได้แค่ไหน เพราะฉะนั้น เมื่อเจไดธรรมดาใช้พลังเพื่อซ่อนกลพรางตัวเองผ่านสตอร์มทรูปเปอร์จำนวนหนึ่ง ผู้ฝึกคนนี้อาจใช้พลังถล่มตึกลงมาทับสตอร์มทรูปเปอร์พวกนั้น เขามีความมั่นใจอย่างมากต่อสิ่งที่ตัวเองทำ เขาถูกเวเดอร์ฝึกมาเป็นนักฆ่า เป็นพลังที่ไม่อาจหยุดยั้งได้
— Haden Blackman จาก Star Wars Insider ฉบับที่ 100
ชื่อ
[แก้]Haden Blackman ผู้เขียนเรื่องชุด The Force Unleashed ได้กล่าวไว้ในบทสัมภาษณ์รายการ Spike TV ว่า ชื่อรหัสของตัวละครผู้ฝึกจะขึ้นต้นด้วยอักษร "S" ซึ่งต่อมาถูกเปิดเผยว่าเป็นชื่อ "Starkiller" ชื่อนี้เคยปรากฏในร่างแรกๆ ของ สตาร์ วอร์ส
ชื่อในร่างแรกของตัวละครนี้คือเจคอบ ไนออน (อังกฤษ: Jacob Nion) แต่ถูกเปลี่ยนชื่อก่อนที่เกมจะวางจำหน่ายไม่นานนัก ดังนั้นเนื่องจากหนังสือนิยายและหนังสือการ์ตูนฉบับแปลของบางประเทศได้รับการวางจำหน่ายก่อน ชื่อตัวละครนี้ในหนังสือนิยายฉบับแปลภาษาเยอรมันและเกมเวอร์ชันภาษาฝรั่งเศสจึงเป็นเจคอบ ไนออน ส่วนเสริมฐานข้อมูลในเกมฉบับ PS2 ก็เช่นกัน โดยระบุชื่อของเคนโต มาเรก เป็นเคนโต ไนออน
ชื่อของลุค สกายวอล์คเกอร์นั้นแต่เดิมจะเป็นแอนนิคิน สตาร์คิลเลอร์ (อังกฤษ: Annikin Starkiller) โดย Sam Witwer กล่าวไว้ในบทสัมภาษณ์ว่า "นี่จะเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นถ้าลุคเข้าร่วมกับเวเดอร์"
นามสกุลของกาเลน คือ มาเรก เป็นชื่อมาร์โก (Marco) แบบภาษาโปแลนด์ เช็ค และสโลวาเกีย ในขณะที่ชื่อต้นคือกาเลนนั้นเป็นภาษาสวีเดนแปลว่า บ้า (crazy และ mad)