ไซ-ฮับ

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
ไซ-ฮับ
ภาษาที่ใช้ได้อังกฤษ
สร้างโดยอเล็กซานดรา เอลบัคยาน
ยูอาร์แอลsci-hub.ru
sci-hub.se
sci-hub.st
scihub22266oqcxt.onion
ก่อนหน้านี้: sci-hub.org, sci-hub.cc, sci-hub.ac, sci-hub.io, sci-hub.bz
เชิงพาณิชย์ไม่
เปิดตัว16 เมษายน 2011; 13 ปีก่อน (2011-04-16)[1]

ไซ-ฮับ (อังกฤษ: Sci-hub) คือ ที่เก็บบทความทางวิทยาศาสตร์มากกว่า 64.5 ล้าน บทความ บนเว็บไซต์ซึ่งช่วยในการเลี่ยงการชำระเงินปกติ[2] บทความใหม่ ๆ ได้รับการอัปโหลดขึ้นเว็บไซต์ทุกวันผ่านพร็อกซี.edu[3] ก่อตั้งโดยอเล็กซานดรา เอลบัคยาน (Alexandra Elbakyan) ในพ.ศ. 2554 ได้รับแรงบันดาลใจจากการที่ต้องเสียเงินจำนวนมากเพื่อซื้อบทความทางวิชาการซึ่งราคาประมาณ 30 ดอลลาร์สหรัฐ (1,055 บาท) ต่อบทความ[4] ต่อมาสำนักพิมพ์ทางวิชาการ แอ็ลเซอเฟียร์ ฟ้องไซ-ฮับในนครนิวยอร์กในพ.ศ. 2558 ข้อหาละเมิดลิขสิทธิ์[5]

ประวัติ[แก้]

โครงการไซ-ฮับเริ่มใช้งานในวันที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2554[6] สร้างขึ้นโดยนักประสาทวิทยาชาวคาซัคสถานที่ชื่อว่า อเล็กซานดรา เอลบัคยาน โดยมีเป้าหมายในการขยายการเข้าถึงของความรู้ผ่านทางการเอื้อให้ผู้คนเข้าถึงเนื้อหาที่มีค่าใช้จ่าย[7][8] โดเมนดั้งเดิมของโครงการได้ถูกปิดลงในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2558 ภายใต้คำสั่งศาล[9] ทว่าโครงการได้กลับมาอีกครั้งภายใต้โดเมน .io[10]

เว็บไซต์นี้ได้เป็นที่นิยมในวงกว้างในประเทศกำลังพัฒนาอย่างประเทศอินเดียและอินโดนิเซีย[11] รวมไปถึง ประเทศอิหร่าน ประเทศจีน ประเทศรัสเซีย และประเทศบราซิล[12] การให้การเข้าถึงต่อสถาบันที่มีโอกาสในการเข้าถึงน้อยกว่าเป็นเป้าหมายหลักของเอลบัคยาน เธอยังกล่าวอีกว่าขณะศึกษาอยู่ในมหาวิทยาลัยที่คาซัคสถาน ด้วยความความจำเป็นต้องให้บทความเป็นร้อยๆบทความผ่านตา เธอก็ทำการละเมิดลิขสิทธิ์และดาวน์โหลดบทความทางวิชาการเช่นเดียวกัน[13]

ไซ-ฮับเป็นเว็บไซต์แรกที่ให้การเข้าถึงบทความทางวิชาการภายใต้เพย์วอลโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายแบบอัตโนมัติในปริมาณมาก ก่อนหน้าไซ-ฮับ คนมักจะขอและแบ่งปันบทความวิจัยด้วยมือผ่านทางฟอรั่มและชุมชนออนไลน์ (ตัวอย่างเช่น แฮชแท็กในทวิตเตอร์อย่างไอแคนแฮซพีดีเอฟ หรือ #ICanHazPDF) โดยวิธีการแบ่งปันแบบนี้นั้นทั้งช้าและไม่สะดวก และมีบทความกว่าร้อยบทความถูกกระจายด้วยวิธีนี้ ขณะที่เว็บไซต์ไซ-ฮับอ้างว่าได้ตอบรับกว่าแสนคำร้องขอต่อวัน

เว็บไซต์[แก้]

ไซ-ฮับให้นักอ่านโหลดบทความทางวิชาการโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกหรือจ่ายเงิน[14] ในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559 เว็บไซต์ไซ-ฮับอ้างว่าตอบรับคำขอดาวน์โหลดกว่า 200,000 ครั้งต่อวัน[15][16][17] เอลบัคยานอ้างว่า เว็บไซต์มีผู้เยี่ยมชมกว่า 80,000 คนต่อวันก่อนโดเมนต้นฉบับ (sci-hub.org) ถูกบล็อก[7] เว็บไซต์เข้าถึงบทความทางวิชาการผ่านเพย์วอลและนำเอกสารจากเว็บไซต์สำนักพิมพ์ ไซ-ฮับมาถึงจุดนี้ได้ต้องขอบคุณสมาชิกจำนวนมากจากทั่วโลกที่ร่วมบริจาค ไซ-ฮับมีสิทธิในการเข้าถึงบทความทางวิชาการใน JSTOR, Springer, Sage, และแอ็ลเซอเฟียร์[18] ในพ.ศ. 2556 ไซ-ฮับเริ่มทำงานร่วมกับลิบเจน ที่เก็บหนังสือและเอกสารเกี่ยวกับการศึกษาซึ่งตั้งระบบอยู่ในประเทศรัสเซีย[19] หากบทความทางวิชาการที่ถูกขอมีอยู่ที่นั่นก็จะถูกส่งต่อให้ผู้ใช้ หากบทความไม่มีในไลบรารี เจเนซิส ไซ-ฮับจะดาวน์โหลดแล้วแชร์เอกสารนั้นให้ลิบเจนเพื่อเก็บไว้ใช้ในอนาคต[14] ทุกวันนี้ ไซ-ฮับพึ่งเครือข่ายที่เก็บเพื่อเก็บและนำบทความทางวิชาการออกมา[ต้องการอ้างอิง] การดำเนินการของเว็บไซต์ได้รับการสนับสนุนจากเงินบริจาคของผู้ใช้ในรูปแบบของบิตคอยน์[17][20][21] ในพ.ศ. 2559 โดเมน .io ของไซ-ฮับถูกปิดลงหลังได้รับคำร้องทุกข์จากแอ็ลเซอเฟียร์ อย่างไรก็ตามเว็บไซต์ยังเข้าถึงได้ผ่านทางโดเมนอื่น ๆ แทน .cc [22]

คดีความ[แก้]

อเล็กซานดรา เอลบัคยาน ในงานสัมมนาที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด (พ.ศ. 2553)
จำนวนดาวน์โหลดของบทความทางวิชาการตามประเทศ สีฟ้าเข้มชี้จำนวนดาวน์โหลดปริมาณมาก สีขาวน้อยกว่า และสีเทาแปลว่าไม่มีข้อมูล[23][24]
ปรับแต่งตามจำนวนประชากรต่อการดาวน์โหลดทำให้เห็นการกระจายที่เท่ากันมากขึ้น โดยมีค่าต่ำกว่าในประเทศของทวีปแอฟริกา[25][23][24]


ขณะนี้เว็บไซต์กำลังอยู่ในระหว่างการสู้คดีความกับแอ็ลเซอเฟียร์[26] แอ็ลเซอเฟียร์อ้างว่าไซ-ฮับได้เข้าใช้บัญชีของนักเรียนและสถาบันทางการศึกษาอย่างผิดกฎหมายเพื่อให้การเข้าถึงอย่างเสรีกับบทความทางวิชาการผ่านทางแพลตฟอร์มของพวกเขาอย่าง ไซแอนซ์ ไดเร็ค[12] คดีมีความซับซ้อนเพราะว่าเว็บไซต์นั้นตั้งอยู่ที่เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ประเทศรัซเซีย ทำให้ยากต่อการตกเป็นเป้าในระบบของกฎหมายสหรัฐ[12] หลายคนเห็นว่าคดีเป็นการเคลื่อนไหวของฝั่งแอ็ลเซอเฟียร์เพื่อต่อต้านการแพร่กระจายความรู้อย่างเสรี และยังตั้งคำถามเกี่ยวกับแรงจูงใจที่แอบแฝงอยู่ในการที่แอ็ลเซอเฟียร์พยายามอย่างต่อเนื่องที่ให้การเข้าถึงบทความทางวิชาการโดยไม่มีค่าใช้จ่ายแก่ผู้แก้ไขวิกิพีเดีย[27] คดีที่ใกล้เคียงกันยังเกิดขึ้นกับเว็บไซต์ ไลบรารี่ เจเนซิส (ลิบเจน)[12][11] ซึ่งอาจมีฐานอยู่ที่ประเทศเนเธอร์แลนด์[12] หรือเป็นไปได้ที่จะมีอยู่ที่ประเทศรัซเซียเช่นเดียวกัน[28] แม้จะถูกสั่งปิดโดยศาลนิวยอร์ก ณ วันที่ 28 ตุลาคม 2558 เว็บไซต์นั้นยังถูกเข้าถึงได้ผ่านทางโดเมนสำรองในเดือนธันวาคม 2558[7][10] เว็บไซต์ยังเข้าถึงได้ผ่านทางทอร์ (เครือข่ายนิรนาม) อีกด้วย[7]

 Electronic Frontier Foundation  ได้อ้างปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน และให้เหตุผลที่ว่า "เพื่อแบ่งปันการพัฒนาด้านวิทยาศาสตร์และผลประโยชน์" ในการสนับสนุนไซ-ฮับและเว็บไซต์น้องอย่างลิบเจน[29] คดีความนี้ยังทำให้เกิดการวิจารณ์ในวงกว้างต่อแอ็ลเซอเฟียร์[30]

ดูเพิ่ม[แก้]

อ้างอิง[แก้]

  1. "sci-hub.org". ICANN WHOIS. สืบค้นเมื่อ 28 August 2016.
  2. "About Sci-Hub". Sci-Hub. สืบค้นเมื่อ 30 April 2017. papers we have in our library: more than 62,000,000 and growing
  3. Storm, Darlene (19 August 2015). "Jump paywalls, score academic research for free, share it without being busted". Computerworld. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-03-10. สืบค้นเมื่อ 6 December 2015.
  4. Russon, Mary-Ann (15 February 2016). "Sci-Hub: Russian neuroscientist running 'Pirate Bay for scientists' with 48 million free academic papers". International Business Times. สืบค้นเมื่อ 15 February 2016.
  5. Ernesto (9 June 2015). "Elsevier Cracks Down on Pirated Scientific Articles". TorrentFreak (Blog). Lennart Renkema. สืบค้นเมื่อ 5 October 2015.
  6. "About Sci-Hub". สืบค้นเมื่อ 2015-12-13.
  7. 7.0 7.1 7.2 7.3 "Pirate research-paper sites play hide-and-seek with publishers". Nature News & Comment. สืบค้นเมื่อ 2015-12-06.
  8. "Sci-Hub Tears Down Academia's "Illegal" Copyright Paywalls - TorrentFreak". สืบค้นเมื่อ 2015-10-05.
  9. "Court Orders Shutdown Of LibGen, Bookfi And Sci-Hub - TorrentFreak". สืบค้นเมื่อ 2015-12-13.
  10. 10.0 10.1 "Sci-Hub, BookFi and LibGen Resurface After Being Shut Down - TorrentFreak". TorrentFreak (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). TorrentFreak. สืบค้นเมื่อ 2015-12-13.
  11. 11.0 11.1 Stone, Maddie. "Academic Publishing Giant Fights To Keep Science Paywalled". สืบค้นเมื่อ 2015-10-05.
  12. 12.0 12.1 12.2 12.3 12.4 Glance, David. "Elsevier acts against research article pirate sites and claims irreparable harm". สืบค้นเมื่อ 2015-10-05.
  13. "Science "Pirate" Attacks Elsevier's Copyright Monopoly in Court - TorrentFreak". สืบค้นเมื่อ 2015-10-05.
  14. 14.0 14.1 Cabanac, Guillaume (April 2015). "Bibliogifts in LibGen? A study of a text-sharing platform driven by biblioleaks and crowdsourcing" (PDF). Journal of the Association for Information Science and Technology: n/a–n/a. doi:10.1002/asi.23445. สืบค้นเมื่อ 18 February 2016.
  15. Brouwers, Lucas (23 February 2016). "Gratis wetenschap via Kazachstan". NRC Handelsblad (ภาษาดัตช์). Egeria.
  16. @Sci_Hub (17 February 2016). "last 24 hour: 217276 different papers downloaded by 69532 users. The top five countries are India, China, Iran, Russia and United States" (ทวีต). สืบค้นเมื่อ 8 March 2016 – โดยทาง ทวิตเตอร์.
  17. 17.0 17.1 John Bohannon (29 April 2016). "Who's downloading pirated papers? Everyone". Science. 352 (6285): 508–512. doi:10.1126/science.aaf5664.
  18. MacDonald, Fiona (12 February 2016). "Researcher illegally shares millions of science papers free online to spread knowledge". ScienceAlert (Blog). สืบค้นเมื่อ 12 February 2016.
  19. @Sci_Hub (14 February 2013). "Новости ресурса: интеграция с Либгеном (libgen.org - более 18,000,000 статей) и новый сервер фронт-энда" (ทวีต) (ภาษารัสเซีย). สืบค้นเมื่อ 8 March 2016 – โดยทาง ทวิตเตอร์.
  20. "Why Sci-Hub is the true solution for Open Access: reply to criticism". engineuring.wordpress.com. สืบค้นเมื่อ 30 April 2016.
  21. Tereshchenko, Alexey. "Pirate research papers website asks for bitcoin donations". coinfox.info. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-05-25. สืบค้นเมื่อ 30 April 2016.
  22. https://torrentfreak.com/elsevier-complaint-shuts-down-sci-hub-domain-name-160504/
  23. 23.0 23.1 "Data from: Who's downloading pirated papers? Everyone".
  24. 24.0 24.1 "Who's downloading pirated papers? Everyone". Science - AAAS.
  25. http://data.stats.gov.cn/
  26. "Piratentunnel.
  27. Stone, Maddie. "Is A Giant Academic Publisher Trying To Paywall Wikipedia?". สืบค้นเมื่อ 2015-10-05.
  28. Mance, Henry; Correspondent, Media (2015-05-26). "Publishers win landmark case against ebook pirates". Financial Times. ISSN 0307-1766. สืบค้นเมื่อ 2015-10-05.
  29. "What If Elsevier and Researchers Quit Playing Hide-and-Seek?". Electronic Frontier Foundation. Electronic Frontier Foundation. สืบค้นเมื่อ 18 December 2015.
  30. "Simba Information: Five Professional Publishing News Events of 2015 Signal Times Are A-Changin'". PR Newswire. PR Newswire. สืบค้นเมื่อ 18 December 2015.

แหล่งข้อมูลอื่น[แก้]