โทมัส สแตมฟอร์ด แรฟเฟิลส์
ลิงก์ข้ามภาษาในบทความนี้ มีไว้ให้ผู้อ่านและผู้ร่วมแก้ไขบทความศึกษาเพิ่มเติมโดยสะดวก เนื่องจากวิกิพีเดียภาษาไทยยังไม่มีบทความดังกล่าว กระนั้น ควรรีบสร้างเป็นบทความโดยเร็วที่สุด |
โทมัส สแตมฟอร์ด แรฟเฟิลส์ | |
---|---|
ข้อมูลส่วนบุคคล | |
เกิด | 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2324 นอกฝั่งพอร์ตมอแรนต์ จาเมกา |
เสียชีวิต | 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2369 (อายุ 44 ปี) ลอนดอน, อังกฤษ |
ศาสนา | แองกลิคัน |
คู่สมรส | โอลิเวีย มาเรียมน์ ดีเวนนิช (พ.ศ. 2348 – พ.ศ. 2357) โซเฟีย ฮัลล์ (พ.ศ. 2360 – พ.ศ. 2401) |
อาชีพ | เจ้าหน้าที่อาณานิคมอังกฤษ |
เป็นที่รู้จักจาก | ผู้ก่อตั้งสิงคโปร์ |
เซอร์ โทมัส สแตมฟอร์ด แรฟเฟิลส์ (อังกฤษ: Sir Thomas Stamford Bingley Raffles); (6 กรกฎาคม พ.ศ. 2324 – 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2369) ผู้บริหารอาณานิคม ผู้ก่อตั้งเมืองสิงคโปร์ เกิดบนเรือที่ลอยทะเลนอกฝั่งพอร์ตมอแรนต์ จาเมกา แรฟเฟิลส์ได้รับการศึกษาอย่างเป็นทางการน้อยมากแต่ก็ได้เข้าทำงานเป็นสมียนของบริษัทอินเดียตะวันออกของอังกฤษ หลังจากการศึกษาด้วยตนเอง แรฟเฟิลส์ ก็ได้รับตำแหน่งก้าวหน้าเป็นผู้ช่วยเลขานุการเมืองปีนังได้เลื่อนตำแหน่งอย่างรวดเร็วจนถึงตำแหน่งรองผู้ว่าราชการเขตอาณานิคมชวา (พ.ศ. 2354 - พ.ศ. 2359) และ ได้ปฏิรูประบบการบริหารใหม่โดยสิ้นเชิง
เมื่อปี พ.ศ. 2359 แรฟเฟิลส์ต้องกลับบ้านที่อังกฤษเนื่องจากการป่วยไข้ และได้รับการแต่งตั้งเป็นอัศวินชั้นเซอร์
เมื่อแรฟเฟิลส์หายป่วยและกลับมาดำรงตำแหน่งรองผู่ว่าราชการเขตอาณานิคม "เบิงกูลู" (พ.ศ. 2361 - พ.ศ. 2366) ก็ได้จัดตั้งนิคมขึ้นที่เกาะสิงคโปร์อีก แรฟเฟิลส์จึงได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้มีบทบาทมากที่สุดผู้หนึ่งในการพัฒนาจักรวรรดิอังกฤษในตะวันออกไกล
การก่อตั้งนิคมสิงคโปร์
[แก้]แต่เดิมเกาะสิงคโปร์เคยเป็นที่ตั้งหน่วยทหารของอาณาจักรศรีวิชัยในย่านสุมาตรา มีชื่อเป็นภาษาชวาว่า "เทมาเสก" (แปลว่าเมืองทะเล) ซึ่งต่อมาได้กลายเมืองค้าขายที่เพิ่มความสำคัญมากขึ้น แต่หลังจากประมาณ พ.ศ. 1850 เป็นต้นมา ความเจริญทางการค้าเสื่อมถอยลงจนเกือบหาร่องรอยของเมืองเทมาเสกไม่พบ ระหว่าง ประมาณ พ.ศ. 2050 - พ.ศ. 2350 เกาะสิงคโปร์ได้กลายเป็นส่วนของอาณาเขตของสุลต่านยะโฮร์ โดยในช่วงนี้ก็ได้เกิดสงครามระหว่างชาวมลายูกับชาวโปรตุเกส อาคารบ้านเรือนถูกเผาจนราบเรียบและตกอยู่ในการครอบครองของโปรตุเกสอยู่ประมาณ 100 ปี และเปลี่ยนมือมาเป็นของฮอลันดาอีกประมาณ 100 ปี พื้นที่ส่วนใหญ่ของเกาะเป็นป่าดงกลายเป็นที่อยู่ของชาวประมงและโจรสลัด
ใน ปี พ.ศ. 2362 แรฟเฟิลส์ได้แล่นเรือมาขึ้นเกาะ และได้มองเห็นศักยภาพและโอกาสเป็นอย่างมากที่จะใช้เป็นฐานที่ตั้งทางการค้าของบริษัทอินเดียตะวันออกของอังกฤษ แรฟเฟิลส์ได้ทำความตกลงและเซ็นสัญญากับสุลต่านฮุสเซน ชาร์ ในนามของบริษัทอีสต์อินเดียเพื่อสร้างเป็นฐานที่ทำการค้าและการตั้งถิ่นฐาน แรฟเฟิลส์ได้ร่างรัฐธรรมนูญฉบับแรกของสิงคโปร์เมื่อ พ.ศ. 2366 เพื่อสร้างความเป็นระเบียบเรียบร้อย สร้างศีลธรรม ห้ามการพนัน และการค้าทาส ซึ่งต่อมามีผู้คนหลายเชื้อชาติค่อย ๆ อพยพเข้ามาทำงานในสิงคโปร์และเริ่มทะลักมากขึ้น สิงคโปร์กลายเป็นส่วนในอาณัติของอาณานิคมอังกฤษโดยการบริหารจัดการโดยบริษัทอีสต์อินเดียเมื่อ พ.ศ. 2401 และกลายเป็นอาณานิคมของจักวรรดิอังกฤษอย่างเป็นทางการในเวลาต่อมาเมื่อ พ.ศ. 2410 เมื่อถึง พ.ศ. 2412 ปรากฏว่าสิงคโปร์มีประชากรมากถึง 100,000 คน
บั้นปลายชีวิต
[แก้]ในระยะหลังๆ เซอร์ โทมัส สแตมฟอร์ด แรฟเฟิลส์เริ่มเบื่อหน่ายการงานเนื่องจากมีศัตรูทางการเมืองมากจึงหันความสนใจไปในด้านธรรมชาติวิทยา เขาอยู่ดูแลการก่อตั้งสิงคโปร์จริงๆ เพียง 8 เดือน เมือเห็นว่าเรียบร้อยดีก็ออกเดินทางกลับประเทศอังกฤษเมื่อวันที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2367 แต่แม้จะเป็นช่วงเวลาที่สั้น แรฟเฟิลส์ก็ได้รับการยอมรับว่าเป็นผู้ก่อตั้งสิงคโปร์
ในปี พ.ศ. 2368 เซอร์ โทมัส สแตมฟอร์ด แรฟเฟิลส์ได้ร่วมก่อตั้งสมาคมสัตวศาสตร์แห่งลอนดอนและสวนสัตว์ลอนดอนและได้รับเลือกเป็นนายกสมาคมคนแรก แต่ในปีต่อมาแรฟเฟิลส์ก็ได้เสียชีวิตจากการตกเลือดในสมองก่อนที่จะมีอายุครบ 45 ปี เพียง 1 วัน แรฟเฟิลส์นับได้ว่าเป็นบุคคลที่มีความโศกเศร้าในชีวิตในโลกตะวันออกไม่น้อย เขาเสียภริยาในชวาและลูกอีก 3 คนในเบงคูเลน และเนื่องจากการเป็นนักต่อต้านการค้าทาส ศพแรฟเฟิลส์ถูกห้ามมิให้ฝังในบริเวณโบสถ์ที่บ้านเกิด (โบสถ์เซนต์แมรี่ เมืองเฮนดอน) โดยพระราชาคณะของเขตปกครองนั้นซึ่งมีครอบครัวที่เคยมีรายได้จากการค้าทาส แต่ในภายหลังเมื่อมีการขยายตัวโบสถ์เมื่อประมาณ พ.ศ. 2465 หลุมฝังศพของแรฟเฟิลส์จึงได้เข้ามาอยู่ในตัวอาคาร
มรดกของ "แรฟเฟิลส์"
[แก้]ทั้งในประเทศสิงคโปร์และในที่อื่นๆ ชื่อของเซอร์ โทมัส สแตมฟอร์ด แรฟเฟิลส์ได้ปรากฏในรูปแบบต่างๆ มากมาย
ชีววิทยา
[แก้]- Raffles Museum of Biodiversity Research
- Rafflesia[1] (ไม้ดอกประเภทกาฝากชนิดหนึ่ง)
- Megalaima rafflesi (Red-crowned Barbet)
- Dinopium rafflesii (Olive-backed Woodpecker)
- Chaetodon rafflesi (Latticed Butterflyfish)
- Nepenthes rafflesiana[2] (หม้อข้าวหม้อแกงลิงชนิดหนึ่ง)
สัญลักษณ์หรือที่หมายตา
[แก้]- แรฟเฟิลส์ซิตี[3]
- Raffles City Convention Centre
- Raffles City Shopping Centre
- Raffles Hospital
- Raffles Hotel
- Raffles The Plaza
- Stamford House
- Swissôtel The Stamford
ธุรกิจ
[แก้]- Raffles Holdings
- Raffles International Patients Centre
- Raffles International Training Centre
- Raffles Investments Limited
- Raffles Medical Group
- Raffles Tailor
- Yantai Raffles Shipyard
- Raffles Class (business class) of Singapore Airlines
การศึกษา
[แก้]- Raffles College (Presently the National University of Singapore)
- Raffles Design International
- Raffles Girls' Primary School
- Raffles Girls' School (Secondary)
- Raffles Hall, National University of Singapore
- Raffles Institution
- Raffles Junior College
- Raffles-BICT International College
- Stamford Primary School
การกีฬาและนันทนาการ
[แก้]การขนส่ง
[แก้]- Raffles Avenue
- Raffles Boulevard
- Raffles Institution Lane
- Raffles Lighthouse
- Raffles Link
- Raffles Place
- Raffles Place MRT Station
- Raffles Quay
- Stamford Road
อ้างอิง
[แก้]- Wurtzburg, Charles Edward (1953). Raffles of the Eastern Isles. Oxford University Press. ISBN 978-0195826050
- Chandler, David P., et al (1988). In Search of Southeast Asia. University of Hawaii Press. ISBN 978-0824811105
- David Crystal, Biographical Encyclopedia, The Cambridge, Second edition, 2000
ดูเพิ่ม
[แก้]- ประวัติศาสตร์สิงคโปร์ (อังกฤษ)
- Raffles' Landing Site (อังกฤษ)
แหล่งข้อมูลอื่น
[แก้]- Biography เก็บถาวร 2005-04-04 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน at the Raffles Museum of Biodiversity Research