โซคคาร์ ดูคาเยฟ
บทความนี้ต้องการการจัดหน้า จัดหมวดหมู่ ใส่ลิงก์ภายใน หรือเก็บกวาดเนื้อหา ให้มีคุณภาพดีขึ้น คุณสามารถปรับปรุงแก้ไขบทความนี้ได้ และนำป้ายออก พิจารณาใช้ป้ายข้อความอื่นเพื่อชี้ชัดข้อบกพร่อง |
บทความนี้ไม่มีการอ้างอิงจากแหล่งที่มาใด |
โซคคาร์ ดูคาเยฟ (อักษรละติน: Dzhokhar Dudaev; อักษรซีริลลิก: Джоха́р Муса́евич Дуда́ев) (15 เมษายน ค.ศ. 1944 - 21 เมษายน ค.ศ. 1996 เกิดที่หมู่บ้าน ยอฮาริ (Yalkhori) หมู่บ้านเล็กๆแห่งหนึ่งใน เชชเนีย ตอนเด็กเขาและครอบครัวและประชาชาชนในแถบ คอเคซัค หลายล้านคนต้องย้ายไปอยู่ ที่ คาซัตสถาน ตามคำสั่งของ สตาลิน (ผู้นำ สหภาพโซเวียต ขณะนั้น) หลังจากใช้ชีวิต 13 ปีอยู่ที่นั้น เขาก็ได้กลับมา เชชเนียอีกครั้ง เขาเรียนจบสาขา ช่างไฟฟ้าจาก รร.Chencheno-Ingushetia ก่อนไปเรียนต่อ สถาบันฝึกการบินชั้นสูง Tambov ในปี 1966 เขากรอกใบสมัครว่าเป็น คน ของแคว้น Ossetian เพื่อหลีกเลี่ยงการแบ่งแยกคนเชื้อสายเชเชน เขาทำงานในแผนก heavy bomber ประจำอยู่ที่ ไซบีเรีย และยูเครน ในปี 1971 เขาได้เข้าเรียนต่อในสถาบันการบิน Gagarin หลังจบตำแหน่งเขาก็เลื่อนขึ้นอย่างรวดเร็วจนได้เป็น พลตรี ควบคุมหน่วย ยุทธศาตร์การบินของกองทัพ ใน Estonia ในช่วง 1989 กระแสการเรียกร้องเอกราช รุนแรงมากจนประชาชนแห่กันออกมาตามท้องถนน ทาง Moscow สั่งให้ ดูดาเยฟ ใช้กำลังจัดการกับฝูงชนแต่ ดูดาเยฟ ปฏิเสธ ในปี 1990 Estonia ประกาศแยกตัวออกจาก สหภาพโซเวียต ดูดาเยฟ ได้ถูกส่งกลับ Grozny ในปีนั้น เพื่อเป็นเกียรติ์แต่ ดูดาเยฟ ได้มีการตั้งชื่อห้องพักในโรงแรมที่ ดูดาเยฟ นั่งสั่งการในช่วงนั้นว่า Dudaev suit ซึ่งยังมีอยู่จนถึงปัจจุบันนี้
สงครามเชชเนียครั้งที่ 1[แก้]
ตอนนั้นสหภาพโซเวียตใกล้จะแตกเต็มทน มีการลุกขึ้นเรียกร้องเอกราชของชนกลุ่มน้อยทั่วสหภาพโซเวียต และทุกอย่างก็จบลงด้วย บอริส เยลซิน ผู้นำรัสเซียซึ่งเป็นรัฐที่ใหญ่ที่สุดของสหภาพโซเวียตประกาศเอกราช ในปี 1991 มิคาอิล กอร์บาชอฟ กลายเป็นผู้นำคนสุดท้ายของ สหภาพโซเวียต ได้ออกแถลงการ สิ้นสุดระบบคอมมิวนิสต์และสหภาพโซเวียตใน วันคริสต์มาส ปีเดียวกันนั้น
เมื่อ ดูดาเยฟ กลับสู่ เชชเนีย ซึ่งก็เป็นเช่นเดียวกันกับดินแดนหลายๆส่วนของโซเวียตตอนนั้น กระแสชนชาตินิยมรุนแรงมาก รวมกับประวัติศาสตร์ ของพวกเชเชน มีการต่อสู้อย่างนองเลือดกับพวกรัสเซียมาตลอด สืบย้อนกลับไปได้นับ 100 กว่าปี นับจาก อิหม่าม ชามิล ในศตวรรษที่ 19 เป็นต้นมา แล้วดูดาเยฟก็พาชาวเชเชน ประกาศเอกราช ในปี 1991 นั้นเอง เยลซิน ได้ประกาศสงครามกับเชชเนียทันที แต่ตอนนั้นกองทัพรัสเซียไม่ต่างอะไรกับคนอมโรค ด้วยการคอรัปชั่นอย่างหนักในกองทัพ ทหารที่เข้าสู่สงครามมีแต่ คนว่างงาน และแม้กระทั่งเด็กต่ำกว่า 15 ปี พวกเชเชนรู้หลักพิชัยสงครามของรัสเซียหมด แม้ทหารรัสเซียจะเคยรบในสงครามกองโจรกับพวก มูจาฮิดิน ในอัฟกานิสถาน แต่พวกเขาไม่มีประสบการณ์การรบในสงครามกลางเมืองมาก่อน ในขณะที่นักรบของพวกเชเชน เป็นพวกกรำศึกมาจาก อัฟกานิสถานมาก่อน หลายคนก็เป็นมูจาฮิดินในอัฟกานิสถานมาก่อน ไม่ต้องสงสัยเลยว่านักรบของใครมีภาษีสูงกว่ากัน วิทยุทหารของพวกรัสเซียก็ของ เชเชน ดักฟังซะพรุน เนื่องจากใช้วิทยุแบบเดียวกัน จนกระทั่งหน่วยทหารพลร่มซึ่งถือเป็นหน่วยพิเศษที่แข็งแกร่งที่สุดของรัสเซีย ยังถูกถล่มจนตายเกือบหมดทั้งกองร้อย เหตุการณ์นี้ทำให้ ขวัญของกองทัพรัสเซีย เสียหายอย่างหนักจน เยลซิน ยอมเซ็นสัญญาสงบศึกชั่วคราวเป็นเวลา 3 ปี ในปี 1996
![]() |
บทความเกี่ยวกับชีวประวัตินี้ยังเป็นโครง คุณสามารถช่วยวิกิพีเดียได้โดยการเพิ่มเติมข้อมูล |