เหตุโจมตีโครคุสซีตีฮอลล์

พิกัด: 55°49′33″N 37°23′25″E / 55.82583°N 37.39028°E / 55.82583; 37.39028
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เหตุโจมตีโครคุสซีตีฮอลล์
เป็นส่วนหนึ่งของการก่อการร้ายในรัสเซีย, การก่อการร้ายอิสลามในยุโรป
ภายในโถงแสดงดนตรีของโครคุสซีตีฮอลล์หลังเกิดเหตุ
แผนที่
Map
สถานที่โครคุสซีตีฮอลล์ ครัสนอกอร์สก์ แคว้นมอสโก ประเทศรัสเซีย
พิกัด55°49′33″N 37°23′25″E / 55.82583°N 37.39028°E / 55.82583; 37.39028
วันที่22 มีนาคม 2024; 28 วันก่อน (2024-03-22)
20:00 MSK (UTC+3)
ประเภท
ตาย150+[1][2]
เจ็บ145+[3]
ผู้ก่อเหตุรัฐอิสลาม-แคว้นฮอราซัน (อ้างความรับผิดชอบ)[4][5]
จำนวนก่อเหตุ4[6][7]
เหตุจูงใจยังไม่ทราบ

เมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2024 เวลาประมาณ 20:00 MSK (UTC+3) เกิดเหตุโจมตีที่สถานแสดงดนตรีโครคุสซีตีฮอลล์ในนครครัสโนกอร์สค์ ทางเหนือของนครมอสโก ผู้ก่อเหตุจำนวนมากเข้าก่อเหตุกราดยิงผู้คนที่รวมตัวกันภายในสถานแสดงดนตรีและจุดอุปกรณ์วางเพลิงทำให้ตัวอาคารเกิดการลุกไหม้[8] การโจมตีเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 150[9][10]

ราย[11] บาดเจ็บมากกว่า 145 คน ถือเป็นการก่อการร้ายครั้งที่เลวร้ายที่สุดในรัสเซียในรอบสองทศวรรษ นับตั้งแต่เหตุโจมตีที่โรงเรียนในเบสลันเมื่อปี 2004[12][13]

รัฐมนตรีต่างประเทศของรัสเซียเรียกเหตุนี้ว่าเป็นการก่อการร้าย[14] ในประกาศที่เปิดเผยทางเทเลแกรมของสำนักข่าวอามักไม่นานหลังเกิดเหตุ รัฐอิสลาม-แคว้นฮอราซัน (IS-KP หรือ ISIS-K) องค์การก่อการร้ายส่วนภูมิภาคเอเชียใต้และเอเชียกลาง ส่วนย่อยของรัฐอิสลาม ประกาศอ้างความรับผิดชอบ[15][4][16] ก่อนหน้านี้ สื่อทางการของรัสเซีย ตลอดจนทางการและประธานาธิบดีวลาดีมีร์ ปูติน ได้กล่าวหาว่ายูเครนมีส่วนในการโจมตีนี้ ในขณะที่ยูเครนปฏิเสธความรู้เห็น[11]

ในวันที่เกิดเหตุนั้น วงดนตรี ปิกนิก กำลังจะขึ้นแสดงที่โถงแสดงดนตรีของโครคุสซีตีฮอลล์ การแสดงดนตรีครั้งนี้มียอดจำหน่ายตั๋วเต็มทุกที่นั่ง[17][18] ที่เวลาราว 20:00 MSK (UTC+3)[19] ก่อนที่วงดนตรีจะเริ่มการแสดง ผู้ก่อเหตุถือปืนและสวมหน้ากากปิดบังใบหน้าในชุดสู้รบเดินเข้ามาภายในและทำการกราดยิงใส่ผู้ที่รอชมการแสดงโดยใช้ปืนไรเฟิล[20] ขณะเกิดเหตุยังมีเด็กและวัยรุ่นอยู่ในอาคารเดียวกันนี้เพื่อเข้าร่วมการแข่งเต้นบอล[21] เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของโครคุสซีตีไม่ได้มีอาวุธประจำตัว และบางส่วนเชื่อว่าเสียชีวิตในเหตุโจมตีครั้งนี้[22]

ภูมิหลังเหตุการณ์[แก้]

รัสเซียเป็นเป้าหมายของการก่อการร้ายใหญ่มาตั้งแต่อดีต ได้แก่ เหตุระเบิดหลายครั้งที่ตึกอพาร์ตเมนต์ในกรุงมอสโกเมื่อปี ค.ศ. 1999 วิกฤตการณ์ตัวประกันโรงละครในกรุงมอสโกเมื่อปี 2002 และการปิดล้อมโรงเรียนในเบสลันเมื่อปี 2004[23][24] หลังจากนั้นหลายปีในเดือนตุลาคม 2015 กลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลาม (IS) ได้ยิงเครื่องบินโดยสารของรัสเซียตกเหนืออียิปต์ ทำให้ผู้โดยสารและลูกเรือ 224 คนบนเครื่องทั้งหมดเสียชีวิต[23] กลุ่มรัฐอิสลามได้ก่อการโจมตีขนาดใหญ่อย่างเป็นระบบต่อสถานที่จัดแสดงดนตรีทั่วยุโรปมาตั้งแต่ปี 2010 เช่นการโจมตีระหว่างคอนเสิร์ตร็อคในโรงมหรสพบาตากล็องในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เมื่อปี 2015 และการวางระเบิดที่เกิดขึ้นหลังจบการแสดงดนตรีป๊อปในแมนเชสเตอร์อะรีนา ประเทศอังกฤษ เมื่อปี 2017 กลุ่มรัฐอิสลามยังได้ก่อเหตุระเบิดสถานทูตรัสเซียในกรุงคาบูล เมื่อปี 2022[25]

หลังจากที่เหตุการณ์ค่อนข้างเงียบสงบมาหลายปี กลุ่มรัฐอิสลามได้พยายามเพิ่มการโจมตีนอกพื้นที่อีกครั้ง[5] วันที่ 3 มกราคม 2024 กลุ่มรัฐอิสลามสาขาแคว้นฮอราซัน (IS–KP) ได้ก่อเหตุระเบิดในอิหร่าน คร่าชีวิตผู้คนไปอย่างน้อย 103 คน โดยก่อนหน้านี้สหรัฐได้เตือนอิหร่านถึงการโจมตีที่อาจเกิดขึ้น[5] คอลิน คลาร์ก คลังสมองจากองค์การอิสระศูนย์ Soufan กล่าวว่ากลุ่ม IS–KP "จับจ้องไปยังรัสเซียในช่วงสองปีที่ผ่านมา และมักวิพากษ์วิจารณ์ปูตินในโฆษณาชวนเชื่อของกลุ่มตน"[23] นอกจากนี้ กลุ่มรัฐอิสลามยังเคยเป็นเป้าหมายของรัสเซียในช่วงที่รัสเซียแทรกแซงในสงครามกลางเมืองซีเรียและสนับสนุนรัฐบาลบัชชาร อัลอะซัด ประธานาธิบดีซีเรีย[26]

วันที่ 7 มีนาคม 2024 หน่วยความมั่นคงกลางแห่งสหพันธรัฐรัสเซีย (FSB) แถลงว่าได้ปราบกลุ่มก่อการร้ายกลุ่มหนึ่งในมอสโกที่เชื่อมโยงกับ IS และได้วางแผนการโจมตีโบสถ์ยิวแห่งหนึ่งในเมือง[27] ถัดมาอีกไม่กี่ชั่วโมง สถานทูตสหรัฐประจำกรุงมอสโกได้ออกคำเตือนว่า "กลุ่มหัวรุนแรงมีแผนมุ่งเป้าไปที่การชุมนุมใหญ่ในมอสโก รวมถึงคอนเสิร์ต" และแนะนำให้พลเมืองสหรัฐ "หลีกเลี่ยงสถานที่ที่มีผู้คนรวมตัวเป็นจำนวนมากในช่วง 48 ชั่วโมงข้างหน้า"[28][29] ในวันนั้นเอง สหรัฐยังได้เตือนเจ้าหน้าที่รัสเซียเป็นการส่วนตัวถึงอันตรายจากการโจมตีที่กำลังจะเกิดขึ้นจากกลุ่ม IS-KP จากข่าวกรองที่รวบรวมมาเมื่อต้นเดือนมีนาคม ซึ่งอยู่ภายใต้ข้อกำหนด "หน้าที่ในการเตือน" (duty to warn) ของชุมชนข่าวกรองสหรัฐ[5]

ต่อมาในวันที่ 19 มีนาคม ปูตินออกมากล่าวว่าคำเตือนของสถานทูตสหรัฐ "มีลักษณะคล้ายกับการแบล็กเมล์อย่างโจ่งแจ้งและคล้ายกับตั้งใจข่มขวัญและสั่นคลอนเสถียรภาพทางสังคมของพวกเรา"[30][29][31] ก่อนหน้านี้ในปี 2017 และ 2019 ปูตินเคยขอบคุณสหรัฐและซีไอเอที่ได้ให้คำเตือนที่ทำให้สามารถระงับเหตุก่อการร้ายในรัสเซียได้[32][33] เจ้าหน้าที่สหรัฐยืนยันกับ เดอะนิวยอร์กไทมส์ ว่าการโจมตีดังกล่าวเกี่ยวข้องกับคำเตือนของสหรัฐก่อนหน้านี้[29] และยังระบุด้วยว่ารายงานข่าวกรองที่มีพื้นฐานมาจากคำเตือนนั้นได้มีการส่งต่อให้เจ้าหน้าที่รัสเซียก่อนเกิดการโจมตี[23]

อ้างอิง[แก้]

  1. Death toll in Crocus City Hall terrorist attack rises to 150 - UPDATED
  2. Death Toll Rises To 150 In Russia Concert Hall Attack, 11 Gunmen Arrested: What We Know So Far
  3. "145 people injured in attack, says Moscow health ministry". The Guardian. 22 March 2024. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 22 March 2024. สืบค้นเมื่อ 22 March 2024.
  4. 4.0 4.1 Schmitt, Eric (22 March 2024). "What We Know About ISIS-K, the Group That Claimed Responsibility for the Moscow Attack". The New York Times. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 23 March 2024. สืบค้นเมื่อ 23 March 2024.
  5. 5.0 5.1 5.2 5.3 Barnes, Julian E.; Schmitt, Eric (22 March 2024). "U.S. Says ISIS Was Responsible for Deadly Moscow Concert Hall Attack". The New York Times. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 22 March 2024. สืบค้นเมื่อ 22 March 2024.
  6. "Директор ФСБ доложил Президенту о задержании террористов, участвовавших в атаке на «Крокус Сити Холл»". kremlin.ru (ภาษารัสเซีย). 2024-03-23. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 23 March 2024. สืบค้นเมื่อ 2024-03-23.
  7. "Moscow attack: Gunmen kill dozens at Crocus City Hall in Moscow". BBC. 23 March 2024. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 22 March 2024. สืบค้นเมื่อ 23 March 2024.
  8. "Islamic State group claims responsibility for Moscow attack in a statement posted on social media". ABC News (ภาษาอังกฤษ). The Associated Press. 22 March 2024. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 22 March 2024. สืบค้นเมื่อ 22 March 2024.
  9. Death toll in Crocus City Hall terrorist attack rises to 150 - UPDATED
  10. Death Toll Rises To 150 In Russia Concert Hall Attack, 11 Gunmen Arrested: What We Know So Far
  11. 11.0 11.1 Belam, Martin (2024-03-23). "Moscow concert hall attack: Putin tells Russians Ukraine linked to attack which killed 115, claims denied by Kyiv officials – live updates". the Guardian (ภาษาอังกฤษแบบบริติช). ISSN 0261-3077. สืบค้นเมื่อ 2024-03-23.
  12. Singh, Maanvi (22 March 2024). "145 people injured in attack, says Moscow health ministry". the Guardian (ภาษาอังกฤษแบบบริติช). ISSN 0261-3077. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 23 March 2024. สืบค้นเมื่อ 22 March 2024.
  13. Bennetts, Marc (22 March 2024). "Moscow terror attack: 62 people killed and concert hall on fire". The Times (ภาษาอังกฤษ). ISSN 0140-0460. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 22 March 2024. สืบค้นเมื่อ 22 March 2024.
  14. Kirby, Paul; Rhoden-Paul, Andre (22 March 2024). "Full statement from Russia's security service". BBC News (ภาษาอังกฤษแบบบริติช). เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 23 March 2024. สืบค้นเมื่อ 22 March 2024.
  15. Knight, Mariya; Chernova, Anna; Tarasova, Darya (22 March 2024). "ISIS claims responsibility for attack in busy Moscow-area concert venue that left at least 40 dead". CNN. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 22 March 2024. สืบค้นเมื่อ 22 March 2024.
  16. "Islamic State group claims responsibility for Moscow attack in a statement posted on social media". ABC News (ภาษาอังกฤษ). เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 22 March 2024. สืบค้นเมื่อ 22 March 2024.
  17. Hopkins, Valerie; Toler, Aric (22 March 2024). "Gunmen Open Fire at Arena Outside Moscow, Russian News Agencies Report". The New York Times. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 23 March 2024. สืบค้นเมื่อ 22 March 2024.
  18. Wertheimer, Tiffany (22 March 2024). "Russian rock band was due to perform at concert hall". BBC News. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 22 March 2024. สืบค้นเมื่อ 22 March 2024.
  19. Abbruzzese, Jason (22 March 2024). "Russian journalist says they were inside concert venue when gunmen entered". NBC News. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 22 March 2024. สืบค้นเมื่อ 22 March 2024.
  20. Faulconbridge, Guy (22 March 2024). "Gunmen kill at least 40 in attack at concert hall near Moscow, state news agency says". Reuters. สืบค้นเมื่อ 22 March 2024.
  21. อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref> ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อ :1
  22. "Russian authorities say at least 60 killed in Moscow concert hall attack". Al Jazeera. 22 March 2024. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 23 March 2024. สืบค้นเมื่อ 23 March 2024.
  23. 23.0 23.1 23.2 23.3 "At least 60 dead in Moscow concert hall attack as ISIS claims responsibility". CBC News. The Associated Press. 22 March 2024. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 22 March 2024. สืบค้นเมื่อ 23 March 2024.
  24. อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref> ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อ :42
  25. "Moscow concert hall attack: Why is ISIL targeting Russia?". Al Jazeera. 23 March 2024. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 23 March 2024. สืบค้นเมื่อ 23 March 2024.
  26. อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref> ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อ ajbryansk
  27. Williams, Alison, บ.ก. (7 March 2024). "Russia says it neutralized ISIS cell plotting attack on Moscow synagogue". Reuters. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 22 March 2024. สืบค้นเมื่อ 22 March 2024.
  28. Timotija, Filip (8 March 2024). "US Embassy warns 'extremists' planning attack in Moscow". The Hill. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 20 March 2024. สืบค้นเมื่อ 23 March 2024.
  29. 29.0 29.1 29.2 Barnes, Julian; Méheut, Constant; Troianovski, Anton (22 March 2024). "U.S. Warned About Possible Moscow Attack Before Concert Hall Shooting". The New York Times. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 22 March 2024. สืบค้นเมื่อ 23 March 2024.
  30. Troianovski, Anton (March 23, 2024). "U.S. Warned About Possible Moscow Attack Before Concert Hall Shooting". New York Times.
  31. Заседание коллегии ФСБ России [Meeting of the FSB board]. kremlin.ru (ภาษารัสเซีย). 19 March 2024. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 20 March 2024. สืบค้นเมื่อ 23 March 2024. Let me remind you of recent, frankly, provocative statements by a number of official Western structures about the possibility terrorist attacks in Russia. All this resembles frank blackmail and intention intimidate, destabilize our society. You know this well, now I will not go into details. (translation)
  32. "Trump Putin call: CIA helped stop Russia terror attack". BBC News. 17 December 2017. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 17 September 2023. สืบค้นเมื่อ 23 March 2024.
  33. "Putin thanks Trump for foiling New Year attacks". BBC News. 29 December 2019. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 14 November 2023. สืบค้นเมื่อ 23 March 2024.