รายชื่อตัวละครในพระอภัยมณี
บทความนี้ต้องการการจัดหน้า จัดหมวดหมู่ ใส่ลิงก์ภายใน หรือเก็บกวาดเนื้อหา ให้มีคุณภาพดีขึ้น คุณสามารถปรับปรุงแก้ไขบทความนี้ได้ และนำป้ายออก พิจารณาใช้ป้ายข้อความอื่นเพื่อชี้ชัดข้อบกพร่อง |
บทความนี้ทั้งหมดหรือบางส่วน มีเนื้อหา รูปแบบ หรือลักษณะการนำเสนอที่ไม่เหมาะสมสำหรับสารานุกรม |
วรรณคดีเรื่อง พระอภัยมณี มีตัวละครในลักษณะเดียวกับนิยายแฟนตาซี ประกอบด้วยชนเผ่าและสิ่งมีชีวิตรูปแบบต่าง ๆ ซึ่งบางส่วนนำมาจากวรรณคดีโบราณหรือความเชื่อทางศาสนา ต่อไปนี้เป็นข้อมูลโดยสังเขปของตัวละครต่าง ๆ ที่ปรากฏในเรื่อง พระอภัยมณี
มนุษย์
[แก้]ตัวละครมนุษย์มีชนชาติต่าง ๆ หลายเชื้อชาติ โดยมีตัวละครหลักเป็นชาติไทย นอกจากนี้ยังมีชนชาติจีน และฝรั่งหลายประเทศ พิจารณาตัวละครมนุษย์จากเมืองต่าง ๆ ได้ดังนี้
เมืองของตัวละคร
[แก้]กรุงรัตนา
[แก้]ตัวละครเอกของเรื่องพระอภัยมณี เป็นโอรสองค์โตของท้าวสุทัศน์และพระนางปทุมเกสร[1] เมื่อท้าวสุทัศน์ส่งตัวพระอภัยมณีไปศึกษาศิลปวิทยาปรากฏว่าพระอภัยมณีเลือกเรียนวิชาเพลงปี่ ทำให้ท้าวสุทัศน์ไม่พอใจมาก พระอภัยมณีจึงถูกขับออกจากเมืองพร้อมกับศรีสุวรรณ ระหว่างทางทั้งสองได้พบกับสามพราหมณ์ คือสานน วิเชียร และโมรา พระองค์จึงได้เป่าปี่ขึ้นเพื่ออวดวิชาที่ตนได้ร่ำเรียนมา ปรากฏว่าเพลงปี่ทำให้ศรีสุวรรณและสามพราหมณ์หลับใหลไม่ได้สติ และนางผีเสื้อสมุทรซึ่งอยู่ในบริเวณนั้นได้ยินเสียงเพลงปี่จึงจับตัวพระอภัยไปเป็นสามี[2] เรื่องราวตรงจุดนี้จึงกลายเป็นจุดเริ่มต้นของการผจญภัยอันพิสดารอีกยืดยาวของพระอภัยมณีในเวลาต่อมา
ต่อมาพระอภัยมณีได้ครองเมืองผลึกด้วยการเสกสมรสกับนางสุวรรณมาลี ธิดาของท้าวสิลราช เจ้าเมืองผลึก[3] และได้ทำสงครามกับเมืองลังกาอย่างยืดเยื้อยาวนานหลายปี จนกระทั่งได้นางละเวงวัณฬาเจ้าเมืองลังกาเป็นภรรยา[4] และมีบุตรด้วยกันคนหนึ่ง คือ มังคลา ตอนท้ายเรื่องหลังเสร็จสงครามปราบมังคลาซึ่งได้ก่อสงครามระหว่างญาติวงศ์ด้วยกันจนพระอภัยมณีต้องยกทัพไปปราบปราม พระอภัยมณีก็ได้ตัดสินใจออกบวชเป็นฤๅษีที่เขาสิงคุตร์ในเกาะลังกา โดยนางสุวรรณมาลีและนางละเวงได้ออกบวชตามพระอภัยมณีด้วย
โดยสรุปแล้ว พระอภัยมณีมีภรรยารวม 4 คน คือ นางผีเสื้อสมุทร (มีบุตรด้วยกันคือ สินสมุทร) นางเงือก (มีบุตรด้วยกันคือ สุดสาคร) นางสุวรรณมาลี (มีบุตรด้วยกันคือ สร้อยสุวรรณและจันทร์สุดา ซึ่งเป็นธิดาฝาแฝด) และนางละเวงวัณฬา (มีบุตรด้วยกันคือ มังคลา) นอกจากนี้ยังปรากฏในเรื่องว่าพระอภัยมณีได้รับสตรีนางหนึ่งเป็นสนม คือ นางวาลี เป็นหญิงมีปัญญา ซึ่งเป็นกำลังสำคัญของฝ่ายพระอภัยมณีและเมืองผลึกในครั้งที่อุศเรนยกทัพมาตีเมืองผลึกจากเรื่องชิงนางสุวรรณมาลี
โอรสองค์รองของท้าวสุทัศน์และพระนางปทุมเกสร และเป็นพระอนุชาของพระอภัยมณี เมื่อคราวที่ท้าวสุทัศน์ให้พระอภัยมณีออกไปศึกษาศิลปวิทยา ศรีสุวรรณก็ได้ออกเดินทางไปกับพระอภัยมณีด้วย โดยได้เลือกเรียนวิชากระบี่กระบอง ทำให้ท้าวสุทัศน์ไม่พอใจและขับศรีสุวรรณออกจากเมืองด้วยเช่นกัน
หลังจากพลัดพรากกับพระอภัยมณี ศรีสุวรรณได้เดินทางร่วมกับสามพราหมณ์ตามหาพระอภัยมณีจนกระทั่งถึงเมืองรมจักร ศรีสุวรรณและสามพราหมณ์ได้พำนักอยู่ในเมืองนั้น และได้อาสาท้าวทศวงศ์ เจ้าเมืองรมจักร ออกรบกับกองทัพท้าวอุเทนชาวแขกชวา ซึ่งยกทัพมาเพื่อชิงนางเกษรา ราชธิดาของท้าวทศวงศ์ จนกระทั่งได้รับชัยชนะ[5]
หลังเสร็จศึกแล้วศรีสุวรรณได้อภิเษกกับนางเกษราและครองเมืองรมจักร มีธิดาด้วยกัน 1 คน คือ นางอรุณรัศมี นอกจากนี้ศรีสุวรรณยังได้นางศรีสุดา ซึ่งเป็นข้าหลวงของเกษราเป็นภรรยาในช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน มีบุตร 1 คน คือ พระกฤษณา (ต่อมาเป็นกำลังสำคัญของฝ่ายรมจักรในศึกปราบมังคลาช่วงท้ายเรื่อง) หลังได้ครองเมืองรมจักร ศรีสุวรรณได้พบกับสินสมุทรและร่วมกันออกตามหาพระอภัยมณีจนพบ และร่วมทัพกับพระอภัยมณีสู้กับทัพลังกา จนกระทั่งเมื่อข้ามไปยังลังกาก็ติดกลเสน่ห์ของนางรำภาสะหรี ซึ่งเป็นบริวารชาวลังกาของนางละเวง ศรีสุวรรณได้นางรำภาสะหรีเป็นชายา[6] มีบุตรด้วยกัน 1 คน ชื่อ วลายุดา
- ท้าวสุทัศน์
เป็นบิดาของพระอภัยมณีและศรีสุวรรณ ครองเมืองรัตนา มีความสำคัญในช่วงต้นเรื่อง คือได้ส่งให้โอรสทั้งสองไปเรียนวิชา แต่ก็ไม่พอใจในวิชาที่โอรสทั้งสองเลือกวิชาที่เรียน จึงไล่ทั้งสองออกจากเมืองไป[7]
- พระนางประทุมเกสร
เป็นมารดาของพระอภัยมณีและศรีสุวรรณ[8]
เมืองรมจักร
[แก้]- ท้าวทศวงศ์
กษัตริย์ผู้ครองเมืองรมจักร เมื่อศรีสุวรรณรบชนะทัพท้าวอุเทนก็ได้ยกเมืองรมจักรให้ศรีสุวรรณครองแทน จนเมื่อครั้งมังคลาได้ก่อศึกสงครามกับพระญาติวงศ์ก็ได้มาจับตัวท้าวทศวงศ์ไปด้วย[9]
- เกษรา
ชายาเอกของศรีสุวรรณและเป็นพระธิดาของท้าวทศวงศ์ พบกันครั้งแรกจากการที่ศรีสุวรรณไปตามหาพระอภัยมณีซึ่งถูกนางผีเสื้อสมุทรลักพาตัวไป แต่กลับต้องมาติดในเมืองรมจักร และถูกจองจำในอุทยานหลวง เมื่อครั้งนางเกษราเสด็จประพาสอุทยานจึงได้เจอกัน เมื่อศรีสุวรรณรบชนะท้าวอุเทนก็ได้อภิเษกกับนางเกษรา ครองเมืองรมจักรต่อไป
นางเกษราเป็นหญิงใจเย็น แม้เมื่อรู้ว่าศรีสุวรรณไปติดพันนางรำภาสะหรีอยู่เมืองลังกาก็ไม่โกรธ กลับร้อนใจสงสารว่านางรำภาสะหรีจะดูแลศรีสุวรรณไม่ดีเท่าตน และได้ติดตามไปหาศรีสุวรรณที่ลังกาด้วยความภักดี[10]
- ศรีสุดา
ชายารองของศรีสุวรรณ พี่เลี้ยงนางเกษรา และเป็นมารดาของพระกฤษณา
พระธิดาของศรีสุวรรณที่เกิดกับนางเกษรา มีอายุไล่เลี่ยกับสินสมุทร เมื่อศรีสุวรรณและสินสมุทรออกตามหาพระอภัยมณีนั้นก็ได้ร่วมเดินทางไปด้วย ทำให้สนิทสนมกับสินสมุทรมาก มีนิสัยขี้งอน เมื่อครั้งสิ้นศึกลังกาถูกจับให้แต่งงานกับสินสมุทร แต่สินสมุทรต้องง้ออยู่นานกว่าจะยอมเข้าหอ เพราะนางไม่ต้องการเป็นชายารองของสินสมุทร ซึ่งได้กับนางยุพาผกาก่อนหน้านี้
- พระกฤษณา
โอรสของศรีสุวรรณกับนางศรีสุดา เป็นกำลังสำคัญในครั้งศึกลังกาครั้งที่ 2 เมื่อมังคลามาจับตัวท้าวทศวงศ์ไป พระกฤษณาก็ออกตามตีมังคลาไปจนสุดเขตแดนเมืองรมจักรเพื่อชิงท้าวทศวงศ์คืน แต่ก็ไม่สำเร็จ และยังได้ร่วมทัพเมืองผลึก เมืองรมจักร และเมืองการะเวกไปปราบปรามมังคลาที่ลังกา[11]
เมืองการเวก
[แก้]- ท้าวสุริโยทัย
กษัตริย์เมืองการะเวก ได้พบกับสุดสาครเมื่องสุดสาครไล่ตามชีเปลือยเข้าไปถึงเมืองการะเวกเพื่อชิงม้าคืน และได้อุปถัมภ์สุดสาครตั้งแต่นั้นจนกระทั่งอายุได้ 17 ปี สุดสาครก็ลาไปตามหาพระอภัยมณีผู้เป็นพ่อต่อไป
- พระนางจันทวดี
มเหสีของท้าวสุริโยทัย
ราชธิดาองค์โตของท้าวสุริโยทัย เชษฐภคินี (พี่สาว) ของหัสไชย อายุไล่เลี่ยกับสุดสาครและเป็นเพื่อนเล่นกันมาจนโต จนกระทั่งสุดสาครออกตามหาพระอภัยมณีต่อไปก็ได้ติดตามสุดสาครไปด้วย และมีบทบาทร่วมรบในศึกเก้าทัพกรุงลังกาตีเมืองผลึก จนกระทั่งสุดสาครไปติดพันนางสุลาลีวันอยู่เมืองลังกา นางเสาวคนธ์ก็ติดตามไปด้วยความหึงหวง จนกระทั่งถึงแก่โทสะ ใช้ธนูยิงแก้มนางสุลาลีวัน ต่อมาเมื่อเสร็จศึกลังกา ท้าวสุริโยทัยจะให้นางเสาวคนธ์แต่งงานกับสุดสาคร ซึ่งนางเสาวคนธ์ไม่พอใจที่จะต้องเป็นชายารองของสุดสาคร จึงปลอมตัวเป็นฤๅษีหนีไปจนถึงเมืองวาหุโลม และตีได้เมืองวาหุโลม จนกระทั่งสุดสาครไปง้องอนจึงกลับมาคืนดีและยอมแต่งงานด้วย หลังศึกลังกาครั้งที่ 2 เมื่อพระอภัยมณีออกบวชและมังคลาหนีไป เสาวคนธ์และสุดสาครได้ครองเมืองลังกา
ราชโอรสของท้าวสุริโยทัย อนุชานางเสาวคนธ์ อายุห่างจากเสาวคนธ์ 2 ปี มีบทบาทในศึกเก้าทัพตีเมืองผลึกและศึกลังกา เมื่อพระอภัยมณี ศรีสุวรรณ สินสมุทร สุดสาครติดกลเสน่ห์หญิงลังกาทั้งสี่ หัสไชยก็ทำอุบายเข้าไปแก้เสน่ห์ให้ทั้งสี่พระองค์ แต่ไม่สำเร็จ หัสไชยยังเป็นกำลังสำคัญในการต่อตีกับนางละเวงวัณฬา โดยเป็นสารถีและคุ้มครองนางสุวรรณมาลี ต่อมาหัสไชยได้นางสร้อยสุวรรณและนางจันทร์สุดา ธิดานางสุวรรณมาลีกับพระอภัยมณีเป็นชายาทั้งสองคน
เมืองผลึก
[แก้]- ท้าวสิลราช
ท้าวสิลราชเป็นเจ้าเมืองผลึกและเป็นพระบิดาของนางสุวรรณมาลี คราวหนึ่งนางสุวรรณมาลีเกิดนิมิตประหลาด โหรได้ทำนายว่าถ้านางออกเดินทางทะเลจะได้พบลาภ ท้าวสิลราชจึงพานางออกท่องทะเลจนกระทั่งมาถึงเกาะแก้วพิสดาร กองเรือของท้าวสิลราชและนางสุวรรณมาลีจึงพักอยู่ที่นั้นเพื่อเติมเสบียง หลังจากนั้นเมื่อกองเรือของพระองค์ออกจากเกาะแก้วพิสดารพร้อมกับพระอภัยมณีและสินสมุทรซึ่งขอโดยสารเรือไปด้วย ปรากฏว่านางผีเสื้อสมุทรซึ่งเป็นภรรยาคนแรกของพระอภัยมณีได้ตามมาอาละวาดจนเรือล่มทั้งหมด ท้าวสิลราชได้จมน้ำสิ้นพระชนม์จากเหตุการณ์ครั้งนั้น
- พระนางมณฑา
มเหสีท้าวสิลราช และเป็นผู้ยกนางสุวรรณมาลีให้แก่พระอภัยมณี
นางสุวรรณมาลีเป็นพระธิดาของท้าวสิลราชและพระนางมณฑาแห่งเมืองผลึก และเป็นคู่หมั้นของอุศเรน โอรสเจ้าเมืองลังกา แต่นางไม่ได้รักอุศเรนแม้แต่น้อย คราวหนึ่งนางสุวรรณมาลีเกิดนิมิตประหลาด โหรได้ทำนายว่าถ้านางออกเดินทางทะเลจะได้พบลาภ นางจึงออกเดินทางร่วมกับท้าวสิลราชผู้เป็นพระบิดาจนกระทั่งมาถึงเกาะแก้วพิสดาร นางจึงได้พบกับพระอภัยมณีและสินสมุทรซึ่งบวชเป็นฤๅษี ณ ที่นั้นเป็นครั้งแรก
เมื่อกองเรือของนางสุวรรณมาลีออกจากเกาะแก้วพิสดารพร้อมกับพระอภัยมณีและสินสมุทรซึ่งขอโดยสารเรือไปด้วย ปรากฏว่านางผีเสื้อสมุทรตามมาอาละวาดจนเรือแตกทั้งหมด ตัวนางสุวรรณมาลีนั้นรอดตายมาได้พร้อมกับสินสมุทรโดยความช่วยเหลือของสุหรั่งซึ่งเป็นโจรสลัดในแถบนั้น ภายหลังสุหรั่งคิดล่วงเกินนางสุวรรณมาลี สินสมุทรซึ่งเคารพนางสุวรรณมาลีในฐานะมารดาจึงฆ่าสุหรั่งพร้อมทั้งยึดกองเรือมาเป็นของตนเสีย หลังพบกับกองเรือของพระอภัยมณีและอุศเรนแล้ว นางจึงได้กลับไปที่เมืองผลึกอีกครั้งพร้อมกับพระอภัยมณีและสินสมุทร ต่อมาจึงได้อภิเษกกับพระอภัยมณี มีพระธิดาฝาแฝดด้วยกัน 2 องค์ คือ สร้อยสุวรรณและจันทร์สุดา
นางสุวรรณมาลีนั้นรักและหึงหวงพระอภัยมณีมาก ในคราวที่พระอภัยมณีทำศึกกับเมืองลังกาจนพลาดท่าตกเป็นสามีของนางละเวงนั้น นางสุวรรณมาลีต้องเป็นคนนำทัพต่อสู้กับลังกาแทนพระอภัยมณีด้วยความแค้นและความหึงหวง นางได้โต้คารมกับนางละเวงอย่างเจ็บแสบ แต่เมื่อศึกสงบลงพร้อมกับการเทศนาของพระฤๅษีแห่งเกาะแก้วพิสดาร นางก็หันมาปรองดองกับนางละเวงได้ในที่สุด
ในตอนท้ายเรื่อง นางสุวรรณมาลีได้ออกบวชพร้อมกับนางละเวง เพื่อติดตามไปรับใช้พระอภัยมณีที่ออกบวชเป็นฤๅษีเพราะเบื่อหน่ายเรื่องทางโลก
- สร้อยสุวรรณและจันทร์สุดา
ธิดาฝาแฝดของนางสุวรรณมาลีกับพระอภัยมณี ต่อมาได้เป็นชายาพระหัสไชยแห่งเมืองการะเวก
- วาลี
นางวาลีเป็นชาวเมืองผลึก นางมีหน้าตาไม่สะสวยแต่มีสติปัญญาที่เฉียบแหลม พระอภัยมณีจึงตั้งให้นางอยู่ตำแหน่งนางสนม นางวาลีเป็นผู้วางแผนช่วยให้พระอภัยมณีสามารถอภิเษกกับนางสุวรรณมาลีได้สำเร็จ และเป็นกำลังสำคัญที่ช่วยพระอภัยมณีรบกับอุศเรนซึ่งมาตีเมืองผลึกด้วยเรื่องชิงนางสุวรรณมาลีจนฝ่ายพระอภัยมณีได้รับชัยชนะ ทั้งยังได้พูดจายั่วให้อุศเรนแค้นใจตาย แต่หลังเสร็จศึกไม่นาน นางก็ป่วยด้วยถูกปีศาจอุศเรนสิงและเสียชีวิตในเวลาต่อมา
เมืองลังกา
[แก้]พระบิดาของอุศเรนและนางละเวงวัณฬา
คู่หมั้นของนางสุวรรณมาลี เมื่อพบกับพระอภัยมณีและสินสมุทรไม่ยอมคืนนางสุวรรณมาลีให้ก็โกรธและตามตีพระอภัยมณีจากทะเลไปจนถึงเมืองผลึก ต่อมาพระอภัยมณีได้อภิเษกกับนางสุวรรณมาลี ทำให้อุศเรนโกรธยิ่งขึ้นและจัดทัพมาตีเมืองผลึก พระอภัยมณีตีทัพอุศเรนแตกและอุศเรนถูกอุบายยั่วของนางวาลีจนอกแตกตาย
เป็นธิดากษัตริย์เมืองลังกาและเป็นน้องของอุศเรน เมื่อพ่อและพี่ชายของนางตาย นางก็ครองเมืองแทนโดยมีตราราหูเป็นของวิเศษประจำตัว นางต้องการแก้แค้นแทนพ่อและพี่ชายจึงส่งภาพวาดของนางซึ่งทำเสน่ห์ไว้พร้อมกับแนบจดหมายชักชวนให้ทำศึกกับเมืองผลึกไปถึงเจ้าเมืองต่าง ๆ โดยสัญญาว่าถ้าใครมีชัยชนะ นางก็พร้อมจะเป็นภรรยาและยกเมืองลังกาให้ครองด้วย บรรดาเจ้าเมืองเหล่านั้นหลงรูปของนางจึงยกทัพมารบกับเมืองผลึก แต่ก็พ่ายแพ้ไปหมดทุกกองทัพ พระอภัยมณีจึงยกทัพไปตีเมืองลังกาบ้าง นางละเวงใช้วิธีทำเสน่ห์ให้พระอภัยมณีหลงรักนาง รวมทั้งให้ลูกเลี้ยงและนางบริวารทำเสน่ห์นายทัพฝ่ายพระอภัยมณีหมดสิ้น แล้วนางก็ยุให้พระอภัยมณีสู้รบกับกองทัพฝ่ายเมืองผลึก จนโยคีแห่งเกาะแก้วพิสดารมาเทศนาโปรด สันติสุขจึงกลับคืนมา เมื่อพระอภัยมณีออกบวช นางก็บวชตามไปปรนนิบัติรับใช้เช่นเดียวกับนางสุวรรณมาลี
- รำภาสะหรี
บุตรอิเรนแม่ทัพลังกา บริวารนางละเวงวัณฬา เป็นผู้ทำเสน่ห์ศรีสุวรรณ ทำให้ศรีสุวรรณหลงรักและติดพันอยู่ในเมืองลังกา มีบุตรกับศรีสุวรรณคือวลายุดา
- ยุพาผกา
ลูกเลี้ยงของนางละเวงวัณฬา พี่สาวนางสุลาลีวัน ซึ่งนางละเวงวัณฬาไปขอมาจากบาทหลวงปีโปจากบ้านสิกคารนำ เป็นผู้ทำเสน่ห์สินสมุทร ทำให้สินสมุทรหลงรักและติดพันอยู่ในเมืองลังกา มีบุตรกับสินสมุทรคือวายุพัฒน์
- สุลาลีวัน
ลูกเลี้ยงของนางละเวงวัณฬา น้องสาวนางยุพาผกา ซึ่งนางละเวงวัณฬาไปขอมาจากบาทหลวงปีโปจากบ้านสิกคารนำ เป็นผู้ทำเสน่ห์สุดสาคร ทำให้สุดสาครหลงรักและติดพันอยู่ในเมืองลังกา มีบุตรกับสุดสาครคือหัสกัน
- สังฆราชบาทหลวง
สังฆราชเมืองลังกา เป็นผู้คอยส่งอุบายต่าง ๆ ให้แก่นางละเวงวัณฬา และเมื่อนางละเวงวัณฬายอมหย่าศึกกับฝ่ายผลึก พระบาทหลวงก็ไม่พอใจ เมื่อมังคลาขึ้นครองลังกาแทนมารดาแล้ว พระบาทหลวงได้ยุยงให้มังคลาไปชิงโคตรเพชรที่นางเสาวคนธ์ขอจากนางละเวงวัณฬาและเปิดศึกทะเลาะเบาะแว้งกับพระญาติวงศ์ ทำให้เกิดเรื่องวุ่นวายตามมา ตอนปลายเรื่องพระบาทหลวงพาพระมังคลาหนีจากการจับกุมของพระญาติวงศ์ไปได้
- บาทหลวงปีโป
บาทหลวงมีปัญญาแห่งบ้านสิกคารนำ ได้ช่วยเหลือนางละเวงวัณฬาไว้จากการถูกตีทัพแตก และมอบนางยุพาผกาและสุลาลีวันซึ่งตนรับเลี้ยงไว้ให้แก่นางละเวงวัณฬา
พระโอรสของพระอภัยมณีและนางละเวงวัณฬา ถูกพระบาทหลวงยุยงให้ทำสงครามกับพระญาติวงศ์ของตนเอง
พระโอรสของศรีสุวรรณกับนางรำภาสะหรี ช่วยพระมังคลารบพระญาติวงศ์ด้วย
พระโอรสของสินสมุทรกับนางยุพาผกา มีเขี้ยวเป็นยักษ์เหมือนสินสมุทร ช่วยพระมังคลารบพระญาติวงศ์ด้วย
พระโอรสของสุดสาครกับนางสุลาลีวัน ช่วยพระมังคลารบพระญาติวงศ์ด้วย
- ย่องตอด
เดิมทีเป็นชายร่างเล็ก มีนิสัยประหลาด ชอบอยู่คนเดียว ต่อมาได้หนีจากหมู่บ้านไปอยู่ในป่า มีตาเดียว มีฤทธิ์สะกดคนหลับได้ นางละเวงวัณฬาจับได้เมื่อย่องเข้ามาจะกินม้าศึก และเอาไว้ใช้งาน
- นางสุนีบาต
เป็นนางนาคมีฤทธิ์ คอยช่วยเหลือพระมังคลารบกับพระญาติวงศ์
เกาะแก้วพิสดาร
[แก้]- พระฤๅษีแห่งเกาะแก้วพิสดาร
เป็นฤๅษีมีตบะญาณมาก อาศัยบนเกาะแก้วพิสดารคอยช่วยเหลือพวกเรือแตก จึงมีศิษย์บนเกาะหลายชาติหลายภาษาทั้งจีน แขก มลายู ไทย ฝรั่ง, เป็นผู้ช่วยพระอภัยมณีและนางเงือกจากนางผีเสื้อสมุทรและไล่นางผีเสื้อสมุทรไป
เป็นโอรสของ พระอภัยมณีกับนางผีเสื้อสมุทร เป็นคนที่ผลักหินเปิดปากถ้ำให้พระอภัยมณีหนีนางผีเสื้อสมุทรโดยความช่วยเหลือของพวกเงือก ซึ่งตัวเขาเองก็หนีตามพ่อไปด้วยจนไปถึงเกาะแก้วพิสดาร ต่อมานางสุวรรณมาลีได้รับสินสมุทรเป็นลูกบุญธรรม
สินสมุทรมีบทบาทสำคัญในศึกเก้าทัพตีเมืองผลึก และเมื่อไปรบลังกาก็ได้ติดตามพระอภัยมณีไปด้วย จนไปหลงกลเสน่ห์นางยุพาผกาติดพันอยู่ที่เมืองลังกา
เป็นชายาของพระอภัยมณี มารดาของสุดสาคร
โอรสของพระอภัยมณีกับนางเงือก เมื่อพระอภัยมณีออกจากเกาะแก้วพิสดารไปได้ราว 6 เดือน สุดสาครก็เกิด ด้วยเลือดเงือกทำให้สามารถดำน้ำได้เก่ง มีพาหนะคือม้านิลมังกร
เมื่อเติบโตขึ้น สุดสาครได้ออกติดตามหาพระบิดาจนพบและมีบทบาทสำคัญในศึกเก้าทัพตีเมืองผลึก และได้ติดตามพระอภัยมณีไปตีลังกาจนไปหลงกลเสน่ห์นางสุลาลีวันติดพันอยู่ที่เมืองลังกา เมื่อเสร็จศึกลังกาท้าวสุริโยทัยจะตบแต่งนางเสาวคนธ์ให้ แต่นางเสาวคนธ์หนีไปเมืองวาหุโลม ทำให้สุดสาครต้องตามง้องอน
เมืองวาหุโลม
[แก้]กษัตริย์ครองเมืองวาหุโลม มีโอรสคือวาโหม
เป็นผู้นับถือนางเสาวคนธ์ (ฤๅษีแปลง) มาก และช่วยให้นางเสาวคนธ์ตีด่านชั้นในต่อ ๆ ไปจนกระทั่งจับเจ้าวาหุโลมได้ และได้เมืองวาหุโลม
นายด่านชั้นนอก คิดจับนางเสาวคนธ์ แต่ถูกนางเสาวคนธ์จับและได้เป็นพวกพ้อง ตีเมืองวาหุโลม
นายด่านชั้นกลาง คิดจับนางเสาวคนธ์ แต่ถูกนางเสาวคนธ์จับและได้เป็นพวกพ้อง ตีเมืองวาหุโลม
นายด่านชั้นใน คิดจับนางเสาวคนธ์ แต่ถูกนางเสาวคนธ์จับและได้เป็นพวกพ้อง ตีเมืองวาหุโลม
โอรสเจ้าวาหุโลม ต่อมาเมื่อเสร็จศึกวาหุโลม นางเสาวคนธ์ได้ให้เป็นเจ้าครองวาหุโลมต่อไป และมีความภักดีต่อนางเสาวคนธ์มาก เมื่อมีศึกมังคลาก็ช่วยยกทัพไปปราบปรามด้วย
เมืองอื่น ๆ ที่กล่าวถึง
[แก้]- เมืองเจ้าละมาน
- เมืองท้าวอุเทน
สัตว์
[แก้]- ม้านิลมังกร
- ผีเสื้อค้างคาว
ยักษ์
[แก้]ยักษ์ที่ปรากฏในเรื่องได้แก่ นางผีเสื้อสมุทร นอกจากนี้ยังมีตัวละครที่เป็นลูกครึ่งมนุษย์-ยักษ์ ได้แก่ สินสมุทร
นางผีเสื้อสมุทรเป็นยักษ์ อาศัยอยู่ในถ้ำซึ่งอยู่กลางทะเล สามารถแปลงร่างเป็นหญิงสาวสวยได้ ชาติก่อนได้พรจากพระอิศวรให้ถอดดวงใจใส่ไว้ในก้อนหินได้ นางจึงกำเริบใจไปต่อสู้กับพระเพลิงจึงถูกไฟกรดเผาจนร่างมอดไหม้ นางจึงกลายเป็นปีศาจสิงอยู่ในก้อนหินที่ฝากดวงใจไว้ ครั้นเวลาผ่านไปเนิ่นนานหลายปี ก้อนหินก็มีแขน ขา หน้าตา งอกออกมา แล้วในที่สุดก็มีชีวิตขึ้นมาอีก วันหนึ่งนางเห็นพระอภัยมณีก็นึกรัก จึงอุ้มไปอยู่กับนางในถ้ำ จนมีลูกชายด้วยกันชื่อสินสมุทร ต่อมาพระอภัยมณีกับสินสมุทรก็พากันหนีไปจากนาง นางผีเสื้อสมุทรออกติดตามไปด้วยความรัก แต่แล้วนางก็ต้องตายด้วยเสียงปี่ของพระอภัยมณี ร่างของนางก็กลับกลายเป็นหินอยู่ที่ชายหาดริมทะเลนั่นเอง
เงือก
[แก้]มีปรากฏในเรื่องคือ นางเงือกชายาพระอภัยมณี และพ่อเงือก แม่เงือก
เงือกในเรื่องพระอภัยมณีนั้นเป็นสัตว์ครึ่งคนครึ่งปลา แต่ไม่มีหลักฐานว่าจะมีลักษณะที่แน่นอนอย่างใด นักวิชาการบางท่านออกความเห็นว่าเงือกของสุนทรภู่นั้นได้รับอิทธิพลจากเงือกของทางตะวันตก คือมีกายท่อนบนเป็นมนุษย์ แต่มีท่อนล่างเป็นหางปลา
แต่บางท่านก็ออกความเห็นว่า จากลักษณะที่สุนทรภู่อธิบายไว้ เงือกในเรื่องนี้น่าที่จะมีลักษณะเหมือนมนุษย์ทุกประการ และมีขาเหมือนมนุษย์ เพียงแต่มีหางเพิ่มขึ้นมา ซึ่งเงือกที่มีขาเหมือนมนุษย์นี้ เรียกว่า เงือกน้ำ และมียังปรากฏอยู่ในวรรณคดีเรื่องอื่นๆ เช่น ดาราวงศ์ สุวรรณหงส์(สุวรรณหงส์ยนต์) และ โสวัตกลอนสวด อีกด้วย
อ้างอิง
[แก้]- ↑ สุนทรภู่. พระอภัยมณี เล่ม 1 ตอน พระอภัยมณีกับศรีสุวรรณเรียนวิชา. กรุงเทพฯ : ศิลปาบรรณาคาร. 2544.
- ↑ สุนทรภู่. พระอภัยมณี เล่ม 1 ตอน นางผีเสื้อลักพระอภัยมณี. กรุงเทพฯ : ศิลปาบรรณาคาร. 2544.
- ↑ สุนทรภู่. พระอภัยมณี เล่ม 1 ตอน พระอภัยมณีอภิเษกกับนางสุวรรณมาลี. กรุงเทพฯ : ศิลปาบรรณาคาร. 2544.
- ↑ สุนทรภู่. พระอภัยมณี เล่ม 2 ตอน พระอภัยมณีทำผูกคอตายได้นางละเวง. กรุงเทพฯ : ศิลปาบรรณาคาร. 2544.
- ↑ สุนทรภู่. พระอภัยมณี เล่ม 1 ตอน ศรีสุวรรณรบท้าวอุเทน. กรุงเทพฯ : ศิลปาบรรณาคาร. 2544.
- ↑ สุนทรภู่. พระอภัยมณี เล่ม 2 ตอน ศรีสุวรรณกับสินสมุทรถูกเสน่ห์. กรุงเทพฯ : ศิลปาบรรณาคาร. 2544.
- ↑ สุนทรภู่. พระอภัยมณี เล่ม 1 ตอน พระอภัยมณีกับศรีสุวรรณเรียนวิชา. กรุงเทพฯ : ศิลปาบรรณาคาร. 2544.
- ↑ สุนทรภู่. พระอภัยมณี เล่ม 1 ตอน พระอภัยมณีกับศรีสุวรรณเรียนวิชา. กรุงเทพฯ : ศิลปาบรรณาคาร. 2544.
- ↑ สุนทรภู่. พระอภัยมณี เล่ม 2 ตอน มังคลาจับท้าวทศวงศ์และนางสุวรรณมาลี. กรุงเทพฯ : ศิลปาบรรณาคาร. 2544.
- ↑ สุนทรภู่. พระอภัยมณี เล่ม 2 ตอน นางสุวรรณมาลีข้ามไปลังกา. กรุงเทพฯ : ศิลปาบรรณาคาร. 2544.
- ↑ สุนทรภู่. พระอภัยมณี เล่ม 2 ตอน มังคลาจับท้าวทศวงศ์และนางสุวรรณมาลี. กรุงเทพฯ : ศิลปาบรรณาคาร. 2544.