ข้ามไปเนื้อหา

เจ้าสุริวงศ์ สว่าง

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
สมเด็จเจ้าฟ้าชายสุริวงศ์สว่าง
พระมหากษัตริย์พระราชอาณาจักรลาวพลัดถิ่น

(อ้างสิทธิ์เป็นพระมหากษัตริย์พระราชอาณาจักรลาว)
ครองราชย์พ.ศ. 2523 – ปัจจุบัน
ประสูติ8 พฤษภาคม พ.ศ. 2506 (60 พรรษา) พระราชวังหลวงพระบาง พระนครหลวงพระบาง ประเทศลาว 
คู่อภิเษก เสด็จเจ้าจันทร์ศุกร์ สุขธารา 
พระนามเต็ม
สมเด็จเจ้าฟ้าชายสุริวงศ์สว่าง
ราชวงศ์ ราชวงศ์ล้านช้างร่มขาว 
พระราชบิดาสมเด็จเจ้าฟ้าชายมกุฎราชกุมารวงศ์สว่าง
พระราชมารดา สมเด็จเจ้าฟ้าหญิงมกุฎราชกุมารีมณีไลย 

สมเด็จเจ้าฟ้าชายสุริวงศ์สว่าง (ลาว: ສົມເດັດເຈົ້າຟ້າຊາຍ ສຸລິວົງສ໌ ສວ່າງ ; ประสูติ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2506) เป็นพระราชนัดดาใน พระบาทสมเด็จพระเจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวัฒนา เจ้ามหาชีวิตองค์สุดท้ายแห่งพระราชอาณาจักรลาว ทรงเป็นพระมหากษัตริย์พระราชอาณาจักรลาวผลัดถิ่น ผู้อ้างสิทธิในพระราชบัลลังก์ลาว ปัจจุบันประทับในฐานะผู้ลี้ภัย ณ กรุงปารีส สาธารณรัฐฝรั่งเศส[1]

ในปัจจุบันนั้นพระองค์ได้ทรงดำรงตำแหน่งพระประมุข (พระบาทสมเด็จพระเจ้ามหาชีวิต) แห่งรัฐบาลพระราชอาณาจักรลาวพลัดถิ่นทำให้สถานะของพระองค์ได้ตกเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางจากสังคมชาวลาวว่าพระองค์ทรงเป็นเชื้อพระวงศ์ที่ลงมาเล่นการเมืองอย่างเต็มตัว

พระประวัติ

[แก้]

สมเด็จเจ้าฟ้าชายสุริวงศ์ สว่าง ประสูติ ณ พระราชวังหลวงในเมืองหลวงพระบาง เป็นพระราชโอรสในสมเด็จเจ้าฟ้าชายวงศ์สว่าง องค์มกุฎราชกุมารกับสมเด็จเจ้าฟ้าหญิงมณีไลย องค์มกุฎราชกุมารี หลังจากการปฏิวัติของรัฐบาลคอมมิวนิสต์ มีการสถาปนารัฐบาลสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) พระบรมวงศานุวงศ์หลายพระองค์ทรงถูกนำไปยังค่ายสัมมนา แต่สมเด็จเจ้าฟ้าชายสุริวงศ์ สว่างทรงสามารถหลบหนีออกมาได้พร้อมกับพระอนุชา สมเด็จเจ้าฟ้าชายธัญวงศ์ สว่าง ในปี พ.ศ. 2524 แล้วจึงเสด็จลี้ภัยไปยังกรุงปารีส สาธารณรัฐฝรั่งเศส

การศึกษา

[แก้]

สมเด็จเจ้าฟ้าชายสุริวงศ์ สว่างทรงเข้าศึกษาต่อด้านนิติศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยแคลร์มองต์-เฟร์รองด์

ด้านการเมือง

[แก้]

บทบาทพระประมุขแห่งรัฐบาลราชอาณาจักรลาวพลัดถิ่น

[แก้]

พระองค์ได้ทรงเป็นพระประมุขแห่งรัฐบาลพระราชอาณาจักรลาวพลัดถิ่นโดยทรงประทับอยู่ที่คฤหาสน์หรูส่วนที่ประเทศฝรั่งเศสซึ่งพระองค์ใช้ประทับเสมือนแทนพระราชวังที่นครหลวงพระบาง

ส่วนในด้านรายจ่ายส่วนพระองค์นั้นในระยะแรกแรกเริ่มของการที่พระองค์ลี้ภัยมาพำนักที่ฝรั่งเศส รัฐบาลฝรั่งเศสได้เป็นผู้รับผิดชอบในเรื่องค่าใช้จ่ายส่วนพระองค์ แต่ต่อมาภายหลังนั้นทางราชวงศ์ลาวได้จัดพิธีบายศรีสู่ขวัญซึ่งมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูงอย่างต่อเนื่อง ทางฝรั่งเศสจึงลดเงินสนับสนุนรายจ่ายของพระองค์ลง ดังนั้นพระองค์จึงทรงหันไปประกอบอาชีพเพื่อหารายได้ส่วนพระองค์และอีกส่วนมาจากเงินบริจาคของชาวลาวโพ้นทะเลที่มีจิตศรัทธาในระบอบกษัตริย์

การก่อการร้ายที่ด่านวังเตา

[แก้]

รัฐบาลราชอาณาจักรลาวพลัดถิ่นได้มีก่อการร้ายเพื่อเปลี่ยนแปลงการปกครองของสปป.ลาวและฟื้นฟูระบอบกษัตริย์โดยได้รับเงินสนับสนุนจากรัฐบาลพระราชอาณาจักรลาวพลัดถิ่นอย่างต่อเนื่อง

เมื่อวันที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2543 เจ้าสุลิวงศ์ สว่างได้ทรงแต่งตั้งให้ ท้าวสีสุก ไชยแสง เป็นหัวหน้ากลุ่มขบวนการต่อต้านรัฐบาลสปป.ลาว ได้นำกำลังติดอาวุธบุกยึดด่านวังเตา เมืองโพนทอง แขวงจำปาสัก ประเทศลาว เมื่อเช้ามืดวันที่ 3 กรกฎาคม 2543 ในภารกิจดังกล่าวได้มีการจับชาวบ้านในพื้นที่ดังกล่าวเป็นตัวประกันไว้จำนวนหนึ่ง เพื่อต่อรองกับกองทัพประชาชนลาว ถือเป็นการก่อการร้ายข้ามพรมแดนระหว่างประเทศ[2]

หมายเหตุ

[แก้]

ในพระราชสำนักลาว มีการเรียกพระนามของพระองค์ว่า สมเด็จเจ้าฟ้าชายสุริวงศ์ สว่าง[ต้องการอ้างอิง]

เครื่องราชอิสรยาภรณ์

[แก้]

ไทย

[แก้]

อ้างอิง

[แก้]
  1. "'สุริวงศ์ สว่าง' รัชทายาทไร้บัลลังก์เพรียกหาประชาธิปไตยในฝัน!". สุภลักษณ์ กาญจนขุนดี ในเนชั่นสุดสัปดาห์. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-06-21. สืบค้นเมื่อ 2010-11-03.
  2. "ย้อนรอยขบวนการกู้ชาติลาว..."ท้าวอนุวงศ์" หนุน ขตล.บุกยึดด่านวังเตาปี 43". ผู้จัดการออนไลน์ MGR Online. 25 มกราคม 2549. สืบค้นเมื่อ 22 July 2020.
  3. แจ้งความสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเหรียญรัตนาภรณ์
ก่อนหน้า เจ้าสุริวงศ์ สว่าง ถัดไป
สมเด็จเจ้าฟ้าชายวงศ์สว่าง องค์มกุฎราชกุมาร
ผู้อ้างสิทธิในราชบัลลังก์
พระมหากษัตริย์ลาว

(พ.ศ. 2524 - ปัจจุบัน)
ดำรงตำแหน่ง