เครื่องสังคโลก

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เครื่องเคลือบสีเขียวหรือเซลาดอน
โถเขียนลายสีดำ หรือสีน้ำตาลใต้เคลือบใส

เครื่องสังคโลก หมายถึง เครื่องปั้นดินเผาที่ผลิตขึ้นในรูปแบบของภาชนะ เครื่องประกอบสถาปัตยกรรม ตุ๊กตา เช่น ถ้วย ชาม จาน ไหดิน โอ่งน้ำ ขวดดิน กระปุก ป้านน้ำชา ช้อน ตลอดจนตุ๊กตารูปคน รูปสัตว์ เช่น ช้าง รูปยักษ์ รูปเทวดา พระพุทธรูป กระเบื้องมุงหลังคา สิงห์สังคโลก ลูกมะหวด ท่อน้ำ ตุ๊กตาเสียกบาล ตัวหมากรุก ช่อฟ้า บราลี ฯลฯ มีทั้งชนิดเคลือบน้ำยาและไม่เคลือบน้ำยา

ประวัติ[แก้]

เครื่องสังคโลกมีการผลิตมาตั้งแต่สมัยสุโขทัยไปจนถึงสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนกลาง โดยมีการพัฒนาทั้งรูปแบบและวิธีการผลิตจนสามารถส่งเป็นสินค้าส่งออกที่สำคัญในช่วงระหว่างพุทธศตวรรษที่ 20–22 การผลิตเครื่องสังคโลกลดลงตั้งแต่พุทธศตวรรษที่ 23 เหตุผลสำคัญประการหนึ่งที่ทำให้ตลาดการค้าสังคโลกเปลี่ยนแปลงคือ การที่จีนหวนกลับมาผลิตเครื่องลายครามน้ำเงิน-ขาว ซึ่งกลายเป็นที่นิยม และการค้าสมัยกรุงศรีอยุธยาเปลี่ยนแปลงไปตามข้อเรียกร้องของชาวตะวันตกที่มีบทบาททางการเมืองในภูมิภาคนี้ เมื่อสุโขทัยอยู่ภายใต้อยุธยา ฝีมือการทำเครื่องปั้นดินเผาก็เสื่อมลงเป็นแค่การปั้นดินหยาบ ๆ เท่านั้น[1]

แหล่งผลิต[แก้]

เครื่องสังคโลกผลิตขึ้นจากเตาในอำเภอเมืองสุโขทัยและอำเภอศรีสัชนาลัย เฉพาะภาชนะขนาดใหญ่ เช่น ไห ได้พบว่า มีแหล่งเตาเผาร่วมสมัยกันอยู่อีก 2 แหล่ง คือ ที่บ้านชีปะขาวหาย อำเภอเมืองพิษณุโลก จังหวัดพิษณุโลก กับที่เตาใกล้วัดพระปรางค์ ตำบลเชิงกลัด อำเภอบางระจัน จังหวัดสิงห์บุรี[2]

ชื่อ[แก้]

คำว่า "สังคโลก" สันนิษฐานว่าคำว่า "สัง" น่าจะเพี้ยนเสียงมาจากคำว่า "ซ้อง" อันเป็นนามราชวงศ์ซึ่งปกครองประเทศจีนระหว่าง พ.ศ. 1503–1819 เหตุด้วยเครื่องเคลือบสีเทาชนิดเดียวกับสังคโลกนั้นเกิดขึ้นในเมืองจีนสมัยของราชวงศ์ซ้องมาก่อน ส่วนคำว่า "โลก" มาจาก คำว่า "โกลก" แปลว่า เตา เมื่อรวมกับคำว่า ซ้อง แล้ว อาจแปลความได้ว่า "เตาแผ่นดินซ้อง" อีกสมมติฐานหนึ่งเชื่อว่า เพี้ยนเสียงมาจาก คำว่า "สวรรคโลก" เป็นชื่อเรียกของเมืองศรีสัชนาลัย โดยให้เหตุผลประกอบว่าคงเป็นสินค้าส่งออกที่แพร่หลายที่เครื่องถ้วยดังกล่าวผลิตจากเมืองศรีสัชนาลัยหรือเมืองสวรรคโลก[3]

ประเภท[แก้]

ลักษณะเนื้อดินและลวดลาย เนื้อดินเป็นประเภทเนื้อแกร่ง ซึ่งใช้อุณหภูมิในการเผาสูงประมาณ 1150-1280 องศาเซลเชียส ลวดลายที่ปรากฏในถ้วยชามสังคโลกที่พบมากในจาน ชาม คือ รูปปลา กงจักร ดอกไม้ โดยเฉพาะรูปปลานั้นสันนิษฐานว่าเป็นปลากา[4]

ส่วนเทคนิคการตกแต่งทั้งการเคลือบและลวดลายมีดังนี้

  • เครื่องปั้นดินเผาเนื้อแกร่งไม่เคลือบ ประดับลวดลายด้วยการใช้แม่พิมพ์กดลวดลายประทับ เช่น ลายก้านขด หรือลายเรขาคณิต มีการประดับด้วยวิธีปั้นดินแล้วแปะติดเข้ากับภาชนะก่อนเผา
  • เครื่องถ้วยสีน้ำตาลเข้ม เป็นการเคลือบสีพื้นเดียว
  • เครื่องถ้วยเคลือบขาวที่เขียนลวดลายใต้เคลือบน้ำตาลดำ
  • เครื่องถ้วยเคลือบขาวที่เขียนลวดลายบนเคลือบสีน้ำตาลทอง
  • เครื่องถ้วยเคลือบสีเขียวไข่กา หรือ เซลาดอน ซึ่งตกแต่งลวดลายด้วยวิธีการขูดและขุดลายในเนื้อดินแล้วเคลือบทับ

อ้างอิง[แก้]

  1. นริศรา ผิวแดง. "เส้นสายลายสังคโลก". มิวเซียมไทยแลนด์.
  2. "เครื่องถ้วยสมัยสุโขทัยและสมัยอยุธยาตอนต้น". สารานุกรมไทยสำหรับเยาวชนฯ.
  3. "สังคโลก คืออะไร?". กลุ่มเผยแพร่และประชาสัมพันธ์.
  4. "เครื่องสังคโลก". มหาวิทยาลัยรามคำแหง.