อะเลคซันดร์ ฟาเดเยฟ (นักเขียน)
อะเลคซันดร์ ฟาเดเยฟ | |
---|---|
![]() อะเลคซันดร์ ฟาเดเยฟ ในปี 1952 | |
เกิด | 24 ธันวาคม ค.ศ. 1901 Kimry, เขตผู้ว่าการตเวียร์, จักรวรรดิรัสเซีย |
เสียชีวิต | 13 พฤษภาคม ค.ศ. 1956 เปเรเดคีนะ, แคว้นมอสโก, สาธารณรัฐรัสเซีย, สหภาพโซเวียต | (54 ปี)
ที่ฝังศพ | สุสานโนโวเดวีชี |
อาชีพ | นักเขียน, นักวิจารณ์ |
สัญชาติ | รัสเซีย |
แนว | นิยาย |
ผลงานที่สำคัญ | โมโลดายากวาร์ดียา |
คู่สมรส | Angelina Stepanova |
อะเลคซันดร์ อะเลคซันโดรวิช ฟาเดเยฟ (รัสเซีย: Алекса́ндр Алекса́ндрович Фаде́ев; 24 ธันวาคม [ตามปฎิทินเก่า: 11 ธันวาคม] 1901 – 13 พฤษภาคม 1956) เป็นนักเขียนชาวโซเวียตซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งสหภาพนักเขียนโซเวียตและเป็นประธานตั้งแต่ ค.ศ. 1946 ถึง ค.ศ. 1956
ฟาเดเยฟเกิดที่ Kimry, เขตผู้ว่าการตเวียร์ ตั้งแต่ปี 1908 ถึงปี 1912 เขาอาศัยอยู่ใน Chuguyevka, ดินแดนปรีมอร์สกี เขาเข้าร่วมพรรคบอลเชวิคในปี 1918 และมีส่วนร่วมในการเคลื่อนไหวแบบกองโจรต่อต้านกองทัพขาวและญี่ปุ่นที่เข้าไปแทรกแซงในช่วงสงครามกลางเมืองรัสเซีย ในปี 1927 เขาได้ตีพิมพ์นวนิยายเรื่อง The Rout (หรือที่เรียกว่า The Nineteen) ซึ่งเขาเล่าถึงนักสู้กองโจรวัยเยาว์ ในปี 1930 เขาได้ตีพิมพ์ส่วนแรกของนวนิยายเรื่อง The Last of the Udege ซึ่งเขายังคงทำงานต่อไปตลอดชีวิต (ฉบับที่มีเล่มที่สองทั้งหมดที่เขาทำได้ทั้งหมดได้รับการตีพิมพ์ในปี 1940[1])
ในปี 1945 ฟาเดเยฟได้ประพันธ์นวนิยายเรื่อง โมโลดายากวาร์ดียา (อิงจากเหตุการณ์จริงในสงครามโลกครั้งที่สอง) โดยที่นิยายเล่าเกี่ยวกับองค์กรคอมโซมอลใต้ดินชื่อยังการ์ด ซึ่งต่อสู้กับพวกนาซีในเมืองคราซโนดอนที่ถูกยึดครอง (ในสาธารณรัฐยูเครน) ฟาเดเยฟได้รับรางวัลสตาลินในปี 1946 สำหรับนวนิยายเรื่องนี้ ในปี 1948 ภาพยนตร์เรื่อง โมโลดายากวาร์ดียา ซึ่งสร้างจากหนังสือเล่มนี้ได้ถูกฉายและได้ถูกปรับแก้ในปี 1964 เพื่อแก้ไขความไม่ถูกต้องในหนังสือ
ฟาเดเยฟได้รับการสนับสนุนจากโจเซฟ สตาลินซึ่งประกาศว่าเขาเป็น "นักมนุษยนิยมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่โลกเคยรู้จัก" ในช่วงทศวรรษที่ 1940 เขาได้ให้ความสำคัญกับลัทธิจดานอฟ ซึ่งเป็นแคมเปญรณรงค์วิพากษ์วิจารณ์และข่มเหงต่อนักเขียนและนักประพันธ์ชั้นนำของสหภาพโซเวียตหลายคน อย่างไรก็ตามเขาเป็นเพื่อนของมิคาอิล โชโลคอฟ ฟาเดเยฟได้แต่งงานกับ Angelina Stepanova (1905–2000) ซึ่งเป็นนักแสดงละครเวทีชื่อดัง
ในช่วงหลายปีสุดท้ายของชีวิต ฟาเดเยฟมีอาการทางประสาทกำเริบจากการดื่มแอลกอฮอล์เป็นเวลานาน แหล่งข่าวบางแห่งอ้างว่าส่วนใหญ่เกิดจากการล้มล้างลัทธิสตาลินในช่วงการผ่อนปรนครุชชอฟ ในที่สุดฟาเดเยฟกระทำอัตวินิบาตกรรมด้วยการยิงตัวตายที่ในบ้านดาช่าของเขาในเปเรเดคีนะ โดยที่ทิ้งจดหมายไว้ให้ใครเห็น เนื้อหาในจดหมายเป็นทัศนคติเชิงลบของเขาต่อทั้งผู้นำเก่าและใหม่ของพรรค[2] เขาเรียกสตาลินว่าเป็น "เซแทร็ป" ในโน้ต การฆ่าตัวตายของเขาเกิดขึ้นจากการที่เขาถูกประณามจากมิคาอิล โชโลคอฟ เพื่อนของเขาและถูกรัฐตำหนิว่าเป็นนักวรรณกรรมโซเวียตที่แย่ในการประชุมครั้งที่ 20[3] ในจดหมายลาตายของเขา เขาโจมตีพวกสตาลินที่ "กำจัด" บุคคลที่ดีที่สุดในวงการวรรณกรรมโซเวียตและกล่าวว่าพวกเขา "นำพวกเรา (นักเขียน) ลงไปสู่ระดับเด็ก พวกเขาทำลายเรา พวกเขาคุกคามเราในเชิงอุดมคติและเรียกสิ่งนี้ว่า 'สปิริตของพรรค'" เขาโจมตีผู้นำโซเวียตคนใหม่ว่าเต็มไปด้วยคนที่ไม่ได้รับการศึกษาซึ่งแสดงให้เห็นว่า "ลัทธินิยมและความโง่เขลา - พร้อมกับความเชื่อมั่นในตนเองที่น่าอัปยศอดสู" ในความพยายามที่จะเป็นผู้นำวรรณกรรมของโซเวียต[4] ร่างของอะเลคซันดร์ ฟาเดเยฟถูกฝังที่สุสานโนโวเดวีชี
อ้างอิง[แก้]
![]() |
บทความเกี่ยวกับชีวประวัตินี้ยังเป็นโครง คุณสามารถช่วยวิกิพีเดียได้โดยการเพิ่มเติมข้อมูล |