บอลเชวิค

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
บอลเชวิค
Большевики
การประชุมพรรคบอลเชวิค ค.ศ. 1920: คนที่นั่ง (จากซ้ายไปขวา); เยนูคิดเซ, คาลีนิน, บูคาริน, ตอมสกี, ลาเชวิช, คาเมเนฟ, เปรโอบราเจนสกี, เซเรบราคอฟ, เลนิน และรืยคอฟอยู่ด้านหน้า
ถัดไปพรรคคอมมิวนิสต์รัสเซีย (บอลเชวิค)
ก่อตั้ง1903; 121 ปีที่แล้ว (1903)
ยุติ1952; 72 ปีที่แล้ว (1952)[1]
สํานักงานใหญ่หลายแห่ง
ผลิตภัณฑ์ปราฟดา (หนังสือพิมพ์)
หัวหน้าวลาดีมีร์ เลนิน
องค์กรปกครอง
พรรคแรงงานสังคมประชาธิปไตยรัสเซีย
ชื่อในอดีต
"กลุ่มแข็ง"

บอลเชวิค (อังกฤษ: Bolshevik รัสเซีย: большеви́к) แผลงมาจากคำว่า Большинство แปลว่า ส่วนใหญ่ หรือ หมู่มาก บอลเชวิค หมายถึงสมาชิกของกลุ่ม ๆ หนึ่งภายในพรรคแรงงานสังคมประชาธิปไตยรัสเซีย (อังกฤษ: RSDLP ย่อมาจาก Russian Social Democratic Labour Party) ซึ่งนิยมลัทธิมากซ์ กลุ่มนี้นำโดยเลนิน

ในพรรคนี้ยังมีอีกลุ่มหนึ่งเรียกกันว่า เมนเชวิค (Menshevik) ซึ่งแผลงมาจากคำในภาษารัสเซีย (Меньшинство) แปลว่า ส่วนน้อย กลุ่มเมนเชวิคนำโดยยูลี มาร์ตอฟ เพื่อนสนิทและเพื่อนร่วมงานที่ใกล้ชิดคนหนึ่งของเลนิน

การแตกคอกันมีขึ้นในการประชุมใหญ่ของพรรคครั้งที่ 2 ที่จัดขึ้นที่กรุงบรัสเซลส์และลอนดอน เมื่อปี ค.ศ. 1903 และท้ายที่สุดแล้วกลุ่มบอลเชวิคก็กลายมาเป็นพรรคคอมมิวนิสต์แห่งสหภาพโซเวียต พวกบอลเชวิคมองเศรษฐกิจในแนวสัมคมนิยมสุดขั้วและเชื่อในความเป็นสากลของชนชั้นกรรมาชีพ พวกเขายึดหลักอำนาจเผด็จการพรรคเดียวและเป้าหมายสูงสุดเรื่องการปฏิวัติโลก พวกเขาปฏิเสธความเป็นชาติรัฐของรัสเซีย ความเชื่อและแนวทางปฏิบัติของพวกเขามักถูกเรียกรวม ๆ ว่า ลัทธิบอลเชวิค (Bolshevism)

จุดเริ่มของการแตกคอ[แก้]

การแตกคอกันของเลนินและมาร์ตอฟ มีขึ้นหลังจากที่เลนินเสนอว่าควรจำกัดสมาชิกพรรคให้เป็นเฉพาะนักปฏิวัติมืออาชีพเท่านั้นแต่มาร์ตอฟไม่เห็นด้วย เบื้องต้นกลุ่มของเลนินถูกเรียกว่า "กลุ่มแข็ง" ซึ่งหมายถึงมีท่าทีที่แข็งกร้าวในเรื่องนี้ ส่วนกลุ่มของมาร์ตอฟเรียกกันว่า "กลุ่มอ่อน" จากท่าทีที่อ่อนโอนมากกว่ากลุ่มของเลนิน แต่ต่อมาก็เรียกกันว่า บอลเชวิค และ เมนเชวิค เนื่องจากเลนินมีผู้สนับสนุนมากกว่าเล็กน้อย และการที่ทั้งสองฝ่ายไม่สามารถหาเสียงสนับสนุนอย่างเด็ดขาดได้ ในที่สุดในการประชุมครั้งนั้นก็มีการแยกกันเป็น 2 กลุ่มชัดเจน เดือนเมษายน ค.ศ. 1905 บอลเชวิคจัดการประชุมสมาชิกกลุ่มที่ลอนดอน โดยเรียกว่าการประชุมใหญ่พรรคครั้งที่ 3 ด้านเมนเชวิคก็จัดการประชุมขึ้นโต้ตอบมาบ้างและนั่นก็เป็นการแบ่งแยกกลุ่มกันอย่างเป็นทางการ

อ้างอิง[แก้]