หมายเลขชายธง

หมายเลขชายธง (อังกฤษ: Pennant number) คือสิ่งระบุตัวตนของเรือในกองทัพเรือสหราชอาณาจักร และกองทัพเรืออื่น ๆ ในทวีปยุโรปรวมถึงประเทศในเครือจักรภพแห่งประชาชาติ (แต่เดิมก่อนปี พ.ศ. 2491 ถูกเรียกโดยสากลว่า หมายเลขห้อยกำกับ pendant number) ซึ่งในอดีตนั้น เรือของกองทัพเรือจะชักธงขึ้นเพื่อระบุสังกัดกองเรือหรือประเภทของเรือ ตัวอย่างเช่น กองทัพเรือสหราชอาณาจักรใช้ธงเบอร์กี้ (burgee) สีแดงสำหรับเรือตอร์ปิโด และธงยาวปลายเรียว (pennant) ที่มีตัว H สำหรับเรือพิฆาตตอร์ปิโด โดยการเพิ่มหมายเลขไปบนธงเบอร์กี้อีกนั้นก็เพื่อระบุตัวตนของเรือแต่ละลำโดยไม่ซ้ำกันนั่นเอง
ในระบบปัจจุบัน ตัวอักษรนำหน้า (prefix) จะเรียกว่า อักษรธงหลัก (flag superior) ใช้สำหรับการระบุประเภทของเรือ และคำต่อท้าย (suffix) ที่เป็นตัวเลข เรียกว่า อักษรธงรอง (flag inferior) ใช้ในการระบุตัวตนของเรือแต่ละลำโดยไม่ซ้ำกัน หมายเลขชายธงบางชุดอาจจะประกอบเพียงอักษรธงรอง ไม่มีอักษรธงหลัก
ระบบของราชนาวี
[แก้]ราชนาวีหรือกองทัพเรือของสหราชอาณาจักรใช้ระบบธงยาวปลายเรียว (pennant) เพื่อจำแนกประเภทของเรือครั้งแรกในปี พ.ศ. 2204 โดยการประกาศว่าเรือทุกลำที่เป็นเรือหลวงของพระเจ้าแผ่นดินจะต้องประดับธงยูเนียนแจ็ก (union pennant) โดยมีความแตกต่างเด่นชัดมากขึ้นเมื่อมีการประกาศในปี พ.ศ. 2217 ไม่ให้เรือพาณิชย์ลำใด ๆ ชักธงยาวปลายเรียว (pennant) บนเรือของตน[1]
ระบบตัวเลขชายธงถูกนำมาใช้งานก่อนสงครามโลกครั้งที่หนึ่งเพื่อแยกความแตกต่างระหว่างเรือที่มีชื่อเดียวกันหรือรูปทรงคลายคลึงกัน เพื่อลดความผิดพลาดและความปลอดภัยในการสื่อสาร และใช้เพื่อแยกในการจดจำเมื่อเรือชั้นเดียวกันมาจอดอยู่ด้วยกัน ตามธรรมเนียมแล้ว จะมีการรายงานหมายเลขชายธงด้วยเครื่องหมายมหัพภาค (full stop) "." ระหว่างธงหลักหรือธงรองและหมายเลข แม้ว่าธรรมเนียมปฏิบัตินี้จะค่อย ๆ ถูกเลิกปฏิบัติไป จากภาพถ่ายในช่วงสงครามโลกประมาณปี พ.ศ. 2467 ที่ไม่มีการใช้สัญลักษณ์มหัพภาคบนตัวเรือแล้ว ระบบหมายเลขชายธงนี้ถูกใช้ตลอดช่วงเวลาในยุคของกองทัพเรือจักรวรรดิอังกฤษ เพื่อให้เรือแต่ละลำสามารถถ่ายโอนไปยังกองทัพเรืออื่น ๆ ได้โดยไม่ต้องเปลี่ยนแปลงหมายเลขชายธง
เดิมทีหมายเลขชายธงถูกจัดสรรโดยฐานทัพเรือแต่ละแห่ง และเมื่อเรือเปลี่ยนฐานทัพเรือที่สังกัด ก็จะมีการจัดสรรหมายเลขใหม่ให้ หลังจากนั้นกรมทหารเรือ (Admiralty) เข้ามาดูแลกองทัพเรือทั้งหมด และจัดทำ "บัญชีรายชื่อเรือ" ในปี พ.ศ. 2453 โดยจัดกลุ่มเรือตามประเภทของธงที่อยู่ในประเภทเดียวกัน นอกจากนั้น เรือในกองเรือที่ 2 และกองเรือที่ 3 (เช่น กองหนุน) จะมีอักษรธงหลักชุดรองเพื่อระบุว่าตนมาจากฐานทัพเรือใดที่ประจำการอยู่ เช่น "C" สำหรับ อู่ต่อเรือชาแธม, "D" สำหรับ ฐานทัพเรือเดวอนพอร์ท, "N" สำหรับ นอร์ และ "P" สำหรับ พอร์ตสมัท โดยในตอนแรก เรือพิฆาตถูกจัดอักษรธงหลักว่า "H" แต่เนื่องจากค่าอักษรดังกล่าวสามารถผสมกับชุดตัวเลขได้เพียงหนึ่งร้อยชุดเท่านั้น คือ H00 ถึง H99 จึงได้มีการจัดสรรตัวอักษร "G" และ "R" ด้วย ซึ่งเมื่อมีเรือจม หมายเลขห้อยกำกับ (pendant number) เดิมที่เสียไปจะถูกจัดสรรให้กับเรือลำใหม่หลังจากนั้น
อักษรธงหลักสำหรับชั้นเรือทั้งหมดมักจะถูกเปลี่ยนในขณะที่จำนวนทั้งหมดยังจำนวนเท่าเดิม ตัวอย่างเช่น ในปี พ.ศ. 2483 ราชนาวีเปลี่ยนตัวอักษร "I" และ "D" สลับกันไปมา (เช่น D18 เปลี่ยนเป็น I18 และ I18 เปลี่ยนเป็น D18) และในปี พ.ศ. 2491 อักษร "K", "L" และ "U" ทั้งหมดเปลี่ยนเป็นอักษร "F" หากมีความขัดแย้งกันในชุดตัวเลข ให้เติมเลข 2 หน้าหมายเลขห้อยกำกับ
ในช่วงทศวรรษที่ 1970 กองเรือได้หยุดการออกหมายเลขชายธงให้กับเรือดำน้ำหลังจากเข้าสู่ยุคของเรือนิวเคลียร์ ด้วยเหตุผลว่า เรือเหล่านี้ใช้เวลาบนผิวน้ำน้อยเกินไป อย่างไรก็ตาม ก็ยังคงมีการออกหมายเลขให้กับเรือดำน้ำต่อหลังจากนั้น
เรือหลวงแลงคาสเตอร์ ได้รับการจัดหมายเลขชายธงเป็น F232 ในครั้งแรก จนกระทั่งราชนาวีทราบในภายหลังว่า หมายเลข 232 เป็นรูปแบบตัวเลขมาตรฐานสำหรับเรือที่เกยตื้น ด้วยเหตุผลด้านโชคลางซึ่งชาวเรือเชื่อถือเป็นอย่างมาก เรือจึงถูกเปลี่ยนหมายเลขชายธงเป็น F229
สงครามโลกครั้งที่สอง
[แก้]ไม่มีอักษรธงหลัก
[แก้]หมายเลขห้อยกำกับหมายเลข 13 ไม่มีการจัดสรรให้ใช้งาน
- เรือบัญชาการ (Capital Ship), เรือบรรทุกอากาศยาน (Aircraft carrier), เรือลาดตระเวน (Cruiser)
อักษรธงหลัก
[แก้]หมายเลขห้อยกำกับหมายเลข 13 ไม่มีการจัดสรรให้ใช้งานกับหมายเลขธงหลัก และตัวอักษร J กับ K ใช้กับตัวเลขสามชุดเนื่องจากจำนวนเรือในชุดอักษรมีมากเกินกว่าเลขสองชุด
- D — เรือพิฆาต (จนถึง พ.ศ. 2483), เรือบัญชาการ, เรือบรรทุกอากาศยาน, เรือลาดตระเวน (ตั้งแต่ พ.ศ. 2483)
- F — เรือพิฆาต (จนถึง พ.ศ. 2483) และ เรือช่วยรบขนาดใหญ่ (ตั้งแต่ พ.ศ. 2483)
- G — เรือพิฆาต (ตั้งแต่ พ.ศ. 2483)
- H — เรือพิฆาต
- I — เรือบรรทุกอากาศยาน, เรือลาดตระเวนบางลำ (จนถึง พ.ศ. 2483), เรือพิฆาต (ตั้งแต่ พ.ศ. 2483)[2]
- J — เรือกวาดทุ่นระเบิด
- K — เรือคอร์เวต, เรือฟริเกต
- L — เรือพิฆาตคุ้มกัน, เรือสลุปศึก (จนถึง พ.ศ. 2484)
- M — เรือวางทุ่นระเบิด
- N — เรือกวาดทุ่นระเบิด
- P — เรือสลุปศึก (จนถึง พ.ศ. 2482), เรือวางแนวทุ่นป้องกัน (Boom defence vessels) (จนถึง พ.ศ. 2483)
- R — เรือพิฆาต (ตั้งแต่ พ.ศ. 2485), เรือสลุปศึก
- T — เรือปืนลำน้ำ, เรือวางอวน
- U — เรือสลุปศึก (ตั้งแต่ พ.ศ. 2484)
- W — เรือลากจูงและกู้ภัย
- X — เรือหน่วยปฏิบัติการพิเศษ
- Z — เรือวางแนวทุ่นป้องกัน ประตูแนวทุ่น และพื้นที่จอดเรือ
- 4 — เรือช่วยรบต่อต้านอากาศยาน
- FY — เรือประมง (เรือประมงอวนลากช่วยรบ, เรือประมงพื้นบ้าน เป็นต้น)
อักษรธงรอง
[แก้]อักษรธงรองถูกนำไปใช้งานกับเรือดำน้ำ ซึ่งเรือดำน้ำของราชนาวีที่ใช้อักษร "H" และ "L" และเรือของสหรัฐบางลำที่มีการถ่ายโอนมา มีเพียงแค่ตัวเลขเท่านั้น ในกรณีเหล่านี้ หมายเลขห้อยกำกับเป็นเพียงแค่หมายเลขตัวเรือที่ถูกกลับด้านเท่านั้น (เช่น L24 เมื่อนำมาใช้ห้อยกำกับจะเป็น "24L") ซึ่งภาพถ่ายก่อนสงครามแสดงให้เห็นหมายเลขห้อยกำกับอยู่กับหมายเลขธงรองอย่างถูกต้อง แต่ภาพถ่ายในช่วงสงครามแสดงให้เห็นว่าตัวเลขมักจะถูกวาดถอยหลัง และอักษรธงรองมักจะถูกวาดไว้ในตำแหน่งธงหลัก นอกจากนี้ มีการไม่ใช้อักษร "U" ในธงรองเนี่องจากเป็นการป้องกันไม่ให้ดูสับสนว่าเรือลำดังกล่าวเป็นเรือชนิดเดียวกันกับเรืออู (U-boat) ของเยอรมนี และด้วยเหตุผลเดียวกัน จึงไม่มีการใช้อักษร "V" ด้วย หมายเลขห้อยกำกับ 00–10, 13 รวมถึงหมายเลขที่ลงท้ายด้วย 0 จะไม่ได้รับการจัดสรรให้กับอักษรธงรอง
A — พันธมิตร (โปแลนด์ เรือ ORP Orzeł (85A))เรือ HMS Tribune มีเลขชายธงคือ N76 มีเลขอักษรธงรองคือ 76T - C (จากคำว่า "coastal") — เรือดำน้ำชั้นยู ของอังกฤษ (ต่อก่อนสงคราม)
- F (จากคำว่า "fleet") — เรือดำน้ำชั้นริเวอร์
- H — เรือดำน้ำชั้นเฮช ของอังกฤษ
- L — เรือดำน้ำชั้นแอล ของอังกฤษ
- M (จากคำว่า "minelayer") — เรือดำน้ำชั้นแกรมพัส
- N — จัดสรรให้กับเรือดำน้ำที่มีอยู่ตั้งแต่ พ.ศ. 2483.[2]
- P — เรือดำน้ำชั้นโอดิน, เรือดำน้ำชั้นพาร์เธีย
- 31P— เรือดำน้ำชั้นยู (ต่อในช่วงสงคราม), เรือดำน้ำชั้นวี ของอังกฤษ
- 211P ถึง 299P — เรือดำน้ำชั้นเอส ของอังกฤษ (ต่อในช่วงสงคราม)
- 311P ถึง 399P— เรือดำน้ำชั้นที ของอังกฤษ
- 411P ถึง 499P— เรือดำน้ำชั้นแอมฟิออน
- 511P ถึง 599P— เรือดำน้ำให้ยืม-เช่าของกองทัพเรือสหรัฐ
- 611P ถึง 699P— commandeered foreign construction
- 711P ถึง 799P— เรือดำน้ำข้าศึกที่ยึดได้
- R — เรือดำน้ำชั้นเรนโบว์
- S — เรือดำน้ำชั้นเอส (ต่อก่อนสงคราม)
- T — เรือดำน้ำชั้นที (ต่อก่อนสงคราม)
หลัง พ.ศ. 2491
[แก้]หลังสงครามโลกครั้งที่สอง ในปี พ.ศ. 2491 ราชนาวีได้นำหมายเลขชายธงมาปรับใช้ โดยอักษรธงหลักจะระบุประเภทพื้นฐานของเรือ ซึ่ง "F" และ "A" ใช้ตัวเลขสองหลักหรือสามหลัก และ "L" และ "P" ใช้ตัวเลขไม่เกินสี่หลัก และหลักการเดิมเกี่ยวกับเลข 13 ยังคงเดิมอยู่ คือไม่มีการนำมาใช้งาน (เช่น เรือบรรทุกเฮลิคอปเตอร์ เรือหลวงโอเชียน (L12) ตามด้วย เรือหลวงอัลเบียน (L14))
- A — เรือช่วยรบ (เรือของ กองเรือสนับสนุนฝ่ายพลเรือน (Royal Fleet Auxiliary), กองกำลังบริการสนับสนุนการเดินเรือ (Royal Maritime Auxiliary Service) และ กองกำลังสนับสนุนการรบราชนาวี (Royal Naval Auxiliary Service), รวมถึงเรือบรรทุกอะไหล่เรือ, เรือวางแนวทุ่นป้องกัน เป็นต้น)
- C — เรือลาดตระเวน (ปัจจุบันไม่มีในประจำการ จึงไม่มีการใช้งาน)
- D — เรือพิฆาต
- F — เรือฟริเกต (อดีตเรือพิฆาตคุ้มกัน, เรือสลุปศึก และ เรือคอร์เวต)
- H — สถานีส่งสัญญาณชายฝั่ง (ทางทหาร) ; เรือสำรวจ
- K — เรือเบ็ดเตล็ด (เช่น เรือปฏิบัติการสำรวจพื้นทะเล เรือหลวงชาเลนเจอร์ หรือเรือสนับสนุนเฮลิคอปเตอร์ เรือหลวงโลโฟเทน)
- L — เรือยกพลขึ้นบก
- M — เรือกวาดทุ่นระเบิด
- N — เรือวางทุ่นระเบิด (ปัจจุบันไม่มีในประจำการ จึงไม่มีการใช้งาน)
- P — เรือตรวจการณ์
- R — เรือบรรทุกอากาศยาน
- S — เรือดำน้ำ
- Y — อู่ต่อเรือ
กองเรือ
[แก้]พ.ศ. 2468 – 2482
[แก้]ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2468 ในเรือของผู้นำกองเรือ (Flotilla leaders) นั้นจะไม่มีการเขียนหมายเลขห้อยกำกับ แต่จะมีการทาแถบสีความกว้าง 4 ฟุต (1.2 เมตร) แทน บริเวณวงรอบด้านหน้า สำหรับผู้นำหมู่เรือ (Division) จะมีการเขียนเลขห้อยกำกับ และมีแถบสีทีแคบกว่าคือความยาว 2 ฟุต (0.61 เมตร) บริเวณช่องด้านหน้า พร้อมกับแถบสียาว 3 ฟุต (0.91 เมตร) บริเวณด้านบน ซึ่งในกองเรือเมดิเตอร์เรเนียน (Mediterranean Fleet) และกองเรือแอตแลนติก (Atlantic Fleet) จะใช้แถบผู้นำกองเรือสีดำ และท้ายสุดกองเรือบ้าน (Home Fleet) จะใช้แถบผู้นำกองเรือสีขาว โดยเรือภายในกองเรือต่าง ๆ จะใช้แถบสีต่าง ๆ ในการระบุสังกัดและตัวตนของตนเอง ซึ่งตั้งแต่ปี พ.ศ. 2468 มีการใช้แถบสีดังต่อไปนี้
- กองเรือพิฆาตที่ 1 — แถบสีดำหนึ่งแถบ
- กองเรือพิฆาตที่ 2 — แถบสีดำสองแถบ (แถบสีแดงหนึ่งแถบ ตั้งแต่ พ.ศ. 2478)
- กองเรือพิฆาตที่ 3 — แถบสีดำสามแถบ
- กองเรือพิฆาตที่ 4 — ไม่มีแถบสี
- กองเรือพิฆาตที่ 5 — แถบสีขาวหนึ่งแถบ
- กองเรือพิฆาตที่ 6 — แถบสีขาวสองแถบ
- กองเรือพิฆาตที่ 8 (ตั้งแต่ พ.ศ. 2478) — แถบสีดำและขาวอย่างละแถบ
สงครามโลกครั้งที่สอง
[แก้]เมื่อมีเรือพิฆาตแบบปล่องเดี่ยว (Single funnelled destroyer) เข้าประจำการกองเรือชั้นเจในปี พ.ศ. 2482 และด้วยจำนวนของกองเรือที่เพิ่มขึ้น ระบบก็ได้เปลี่ยนแปลงไปตามจำนวนที่เพิ่มขึ้นนั้น โดยเรือแบบปล่องเดี่ยวจะใช้แถบความลึก 3 ฟุต (0.91 เมตร) สำหรับผู้นำกองเรือ และสำหรับผู้นำหมู่เรือจะใช้แถบแนวตั้งความกว้าง 2 ฟุต (0.61 เมตร) และแถบความยาว 6 ฟุต (1.8 เมตร) ด้านใต้แถบของผู้นำกองเรือ แถบผู้นำสีขาวจะใช้สำหรับกองเรือบ้าน (Home Fleet) สีแดงใช้สำหรับกองเรือเมดิเตอร์เรเนียน (Mediterranean Fleet) และระบบแถบสีของกองเรือเปลี่ยนเป็นดังต่อไปนี้
- กองเรือพิฆาตที่ 1 (เมดิเตอร์เรเนียน) — 1 แถบสีแดง, เรือพิฆาตชั้นจี
- กองเรือพิฆาตที่ 2 (เมดิเตอร์เรเนียน) — 2 แถบสีแดง, เรือพิฆาตชั้นเฮช
- กองเรือพิฆาตที่ 3 (เมดิเตอร์เรเนียน) — 3 แถบสีแดง, และไม่มีแถบ, เรือพิฆาตชั้นไอ
- กองเรือพิฆาตที่ 4 (เมดิเตอร์เรเนียน) — ไม่มีแถบ, เรือพิฆาตชั้นไทรบัล
- กองเรือพิฆาตที่ 5 (เมดิเตอร์เรเนียน) — ไม่มีแถบ, เรือพิฆาตชั้นเค
- กองเรือพิฆาตที่ 6 (บ้าน) — 1 แถบสีขาว, เรือพิฆาตชั้นไทรบัล
- กองเรือพิฆาตที่ 7 (บ้าน) — 2 แถบสีขาว, เรือพิฆาตชั้นเจ
- กองเรือพิฆาตที่ 8 (บ้าน) — 3 แถบสีขาว, เรือพิฆาตชั้นเอฟ
- กองเรือพิฆาตที่ 9 (บ้าน) — 1 แถบสีดำ และ 2 แถบสีขาว, เรือพิฆาตชั้นวี และเรือพิฆาตชั้นดับเบิลยู
- กองเรือพิฆาตที่ 10 (บ้าน) — ไม่มีแถบ, เรือพิฆาตชั้นวี และเรือพิฆาตชั้นดับเบิลยู
- กองเรือพิฆาตที่ 11 (Western Approaches) — 1 แถบสีดำ ทับ 2 แถบสีแดง, เรือพิฆาตชั้นวี และเรือพิฆาตชั้นดับเบิลยู
- กองเรือพิฆาตที่ 12 (Rosyth) — 1 แถบสีขาว ทับ 1 แถบสีแดง, เรือพิฆาตชั้นอี
- กองเรือพิฆาตที่ 13 (ยิบรอลตาร์) — 1 แถบสีขาว ทับ 2 แถบสีแดง, เรือพิฆาตชั้นวี และเรือพิฆาตชั้นดับเบิลยู
- กองเรือพิฆาตที่ 14 (บ้าน) — 1 แถบสีแดง ทับ 1 แถบสีดำ, เรือพิฆาตชั้นวี และเรือพิฆาตชั้นดับเบิลยู
- กองเรือพิฆาตที่ 15 (Rosyth) — 1 แถบสีแดง ทับ 2 แถบสีดำ, เรือพิฆาตชั้นวี และเรือพิฆาตชั้นดับเบิลยู
- กองเรือพิฆาตที่ 16 (พอร์ตสมัท) — 1 แถบสีแดง ทับ 1 แถบสีขาว, เรือพิฆาตชั้นวี และเรือพิฆาตชั้นดับเบิลยู
- กองเรือพิฆาตที่ 17 (Western Approaches) (ตั้งแต่ พ.ศ. 2483) — 1 แถบสีแดง ทับ 2 แถบสีขาว, เรือพิฆาตชั้นทาวน์
- กองเรือพิฆาตที่ 18 (ช่องแคบอังกฤษ) — 1 แถบสีขาว & 1 แถบสีดำ, เรือพิฆาตชั้นเอ
- กองเรือพิฆาตที่ 19 (โดเวอร์) — 1 แถบสีขาว ทับ 2 แถบสีดำ, เรือพิฆาตชั้นบี
- กองเรือพิฆาตที่ 20 (พอร์ตสมัท) — 2 แถบสีขาว ทับ 1 แถบสีดำ, เรือพิฆาตชั้นซี
- กองเรือพิฆาตที่ 21 (สถานีจีน) — 2 แถบสีขาว ทับ 1 แถบสีแดง, เรือพิฆาตชั้นดี
แถบกองเรือถูกนำมาใช้งานตลอดช่วงของสงครามแม้ว่าจะเกิดความสูญเสียระหว่างการปฏิบัติการก็ตาม ซึ่งจากทั้งข้อกำหนดในการปฏิบัติระหว่างปฏิบัติการ และการต่อเรือใหม่เพิ่มเติมเพื่อนำเข้าประจำการในกองเรือจะทำลายรูปแบบที่ถูกจำแนกไว้อยู่ก่อนแล้วของกองเรือพิฆาต เรือหลายลำถูกนำไปใช้งานในภารกิจต่าง ๆ ตามความจำเป็นหรือความพร้อมของเรือ และมักถูกจัดกลุ่มขึ้นใหม่กลายเป็นกลุ่มเรือคุ้มกัน ที่ประกอบไปด้วยเรือหลากหลายประเภท เช่น เรือสลุปศึก เรือคอร์เวต เรือฟริเกต และเรือบรรทุกเครื่องบินคุ้มกัน ซึ่งกลุ่มเรือคุ้มกันบางกลุ่มใช้ระบบแถบบนปล่องควันเรือ ส่วนอีกหลายกลุ่มใช้ระบบตัวอักษรบนปล่องควัน เช่น กลุ่มเรือคุ้มกัน B7
หลังสงคราม
[แก้]หลังจากสงคราม กองเรือไม่ได้ถูกแบ่งอัตลักษณ์ผ่านรูปแบบของแถบสีอีกต่อไป แต่ด้วยพื้นผิวโลหะจำนวนมากที่ถูกยึดติดกับปล่องควันของเรือ เรือผู้นำกองเรือหลายลำยังคงใช้สัญลักษณ์ขนาดใหญ่บนส่วนยอดของปล่องควันเรือ และเรือรองผู้นำกองเรือจะทาแถบสีดำที่หน้าน้อยกว่าผู้นำกองเรือรอบปล่องควันเรือ
รหัสดาดฟ้าเรือ
[แก้]เรือบรรทุกอากาศยาน และเรือที่มีอากาศยานปฏิบัติการ จะมีการติดรหัสบนดาดฟ้าบินเพื่อช่วยระบุตัวตนของเรือสำหรับเครื่องบินที่จะลงจอด โดยจะอยู่ในตำแหน่งที่สามารถมองเห็นได้ชัดเจนในระยะไกลบนเส้นทางที่จะนำเครื่องร่อนลงจอด ซึ่งกองทัพเรือสหราชอาณาจักรใช้อักษรตัวเดียว (ปกติจะใช้จากอักษรตัวแรกของชื่อเรือ) สำหรับเรือบรรทุกอากาศยานและเรือขนาดใหญ่ที่มีอากาศยานปฏิบัติการ และตัวอักษรคู่ (โดยปกติจะใช้จากตัวอักษรชื่อเรือ) สำหรับเรือขนาดเล็กลงมา สำหรับกองทัพเรือสหรัฐที่มีกองเรือขนาดใหญ่ จะใช้หมายเลขที่เป็นส่วนหนึ่งของหมายเลขการจัดประเภทตัวเรือ (มีระบบคล้ายคลึงกันกับระบบหมายเลขชายธง)
รหัสดาดฟ้าเรือที่ใช้งานโดยเรือหลักของกองทัพเรือสหราชอาณาจักรประกอบไปด้วย
เรือหลวงอัลเบียน (HMS Albion) — ANเรือหลวงควีนเอลิซาเบธ (R08) ลำล่างสุด มีรหัสดาดฟ้าเรือคืออักษร Q - เรือหลวงบูลวาร์ค (HMS Bulwark) — BK
- เรือหลวงดอน์ทเลส (HMS Dauntless) — DT
- เรือหลวงโอเชียน (HMS Ocean) — O
- เรือหลวงอาร์ครอยัล (HMS Ark Royal) — R
- เรือหลวงอินวิซิเบิล (HMS Invincible) — N
- เรือหลวงอิลัสเทรียส (HMS Illustrious) — L
- เรือหลวงควีนเอลิซาเบธ (MHS Queen Elizabeth) — Q
- เรือหลวงปรินซ์ออฟเวลส์ (HMS Prince of Wales) — P
- เรืออาร์เอฟเอ อาร์กัส (RFA Argus) — AS
- เรืออาร์เอฟเอ ลายม์เบย์ (RFA Lyme Bay) — YB
- เรืออาร์เอฟเอ คาร์ดิแกนเบย์ (RFA Cardigan Bay) — CB
- เรืออาร์เอฟเอ เมาท์เบย์ (RFA Mounts Bay) — MB
หมายเลขชายธงสากล
[แก้]กองทัพเรือในเนโทและเครือจักรภพแห่งประชาชาติหลายชาติตกลงกันทีจะใช้งานระบบหมายเลขชายธงตามแบบของกองทัพเรือสหราชอาณาจักร ซึ่งตัวระบบนี้สามารถรับประกันได้ว่าในบรรดากองทัพเรือที่กล่าวมาข้างต้นหรือกองทัพเรือชาติอื่น ๆ นอกเหนือจากนี้ที่จะมาเข้าร่วมในภายหลัง จะได้ใช้ระบบหมายเลขชายธงที่ระบุตัวตนเฉพาะไม่ซ้ำกันอย่างแน่นอน ในขณะที่สหรัฐไม่เข้าร่วมการใช้งานระบบนี้ เนื่องจากเรือของกองทัพเรือสหรัฐมีการจำแนกประเภทด้วยระบบสัญลักษณ์การจัดประเภทตัวเรือ (Hull classification symbol) อยู่แล้ว
รายชื่อประเทศที่เข้าร่วมใช้ระบบหมายเลขชายธง พร้อมทั้งช่วงหมายเลขที่ใช้งาน[3][4] ประกอบไปด้วย
อาร์เจนตินา — (D: 1x, 2x; P: 3x, 4x; S: 2x, 3x; C: x; V: x)เรือฟริเกต FS Prairial มีหมายเลขชายธงคือ F731 - ออสเตรเลีย (เดิมเป็นส่วนหนึ่งของกองทัพเรือสหราชอาณาจักรจนถึงปี พ.ศ. 2512; ปัจจุบันใช้รูปแบบตามกองทัพเรือสหราชอาณาจักรและระบบสัญลักษณ์การจัดประเภทตัวเรือของสหรัฐ)[5]
- เบลเยี่ยม — (A:9xx; F: 9xx; M: 9xx; P:9xx)
- เดนมาร์ก — (N: 0xx; A/M/P: 5xx; F/S/Y: 3xx; L: 0xx)
- ฝรั่งเศส — (R: 9x; C/D/S: 6xx; F: 7xx; M/P/A: 6xx, 7xx; L: 9xxx)
- เยอรมนี — (A: 5x, 51x, 14xx; D: 1xx; F: 2xx; L: 76x; M: 10xx, 26xx; P: 61xx; S: 1xx)
- กรีซ — (D/P: 0x, 2xx; A/F: 4xx; L/S/M: 1xx)
- อิตาลี — (5xx; D 5xx; F 5xx; P 4xx; 5xxx; A 5xxx; L 9xxx; Y 5xx)
- เคนยา
- มาเลเซีย
- นิวซีแลนด์ (F111-HMNZS Te Mana)
- เนเธอร์แลนด์ (8xx; Y: 8xxx)
- นอร์เวย์ (F/S/M: 3xx; P: 9xx; L: 45xx)
- โปรตุเกส (F/M: 4xx; S: 1xx; P: 11xx0)
- สเปน (A: xx, F: 0x 1x 2x.., R: 01, 11, L: 0x, 1x.., P: 0x, 1x.., Y: xxx)
- ศรีลังกา
- แอฟริกาใต้
- ตุรกี (D/S: 3xx; F: 2xx; N: 1xx; A/M: 5xx; P: 1xx, 3xx, L: 4xx; Y: 1xxx)
- สหราชอาณาจักร (R: 0x; D: 0x & 1xx; F: 0x, 1xx, 2xx; S: 0x, 1xx; M: 0x, 1xx, 1xxx, 2xxx; P: 1xx, 2xx, 3xx; L: 0x, 1xx, 3xxx, 4xxx; A: ตามที่มีการกำหนดใช้)
ระบบหมายเลขชายธงขององค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (NATO) ได้เพิ่มสัญลักษณ์ Y (จากคำว่า yard) เป็นสัญลักษณ์สำหรับ เรือลากจูง, ปั้นจั่นลอยน้ำ, ท่าเทียบเรือ และอื่น ๆ
รหัสดาดฟ้าเรือสากล
[แก้]กองทัพเรือสหราชอาณาจักร
[แก้]กองทัพเรือสหราชอาณาจักรใช้อักษรเดี่ยว (ปกติจะใช้จากอักษรตัวแรกของชื่อเรือ) สำหรับเรือบรรทุกอากาศยานและเรือขนาดใหญ่ที่มีอากาศยานปฏิบัติการ และตัวอักษรคู่ (โดยปกติจะใช้จากตัวอักษรชื่อเรือ) สำหรับเรือขนาดเล็กลงมา
ชั้น Albion
- HMS Albion — AN
- HMS Bulwark — BK
ชั้น River
- HMS Forth — FH
- HMS Medway — MY
- HMS Trent — TT
- HMS Tamar — TM
- HMS Spey — SP
ชั้น Daring
- HMS Daring — DA
- HMS Dauntless — DT
- HMS Diamond — DM
- HMS Dragon — DN
- HMS Defender — DF
- HMS Duncan — DU
ชั้น Duke
- HMS Argyll — AY
- HMS Lancaster — LA
- HMS Iron Duke — IR
- HMS Montrose — MR
- HMS Westminster — WM
- HMS Northumberland — NL
- HMS Richmond — RM
- HMS Somerset — SM
- HMS Sutherland — SU
- HMS Kent — KT
- HMS Portland — PD
- HMS St Albans — SB
ชั้น Invincible
- HMS Invincible — N
- HMS Illustrious — L
- HMS Ark Royal — R
ชั้น Queen Elizabeth
- HMS Queen Elizabeth — Q
- HMS Prince of Wales — P
ชั้น Bay
- RFA Cardigan Bay — CB
- RFA Lyme Bay — YB
- RFA Mounts Bay — MB
ชั้น Tide
- RFA Tidespring — TS
- RFA Tiderace — TR
- RFA Tidesurge — TU
- RFA Tideforce — TF
ชั้น Wave
- RFA Wave Knight — WK
- RFA Wave Ruler — WR
ชั้น Fort Rosalie
- RFA Fort Rosalie — FR
- RFA Fort Austin — FA
รูปแบบเรือลำอื่น ๆ
- RFA Argus — AS
- RFA Fort Victoria — FV
กองทัพเรือเนเธอร์แลนด์
[แก้]
ชั้น De Zeven Provinciën
- HNLMS De Zeven Provinciën — ZP
- HNLMS Tromp — TR
- HNLMS De Ruyter — DR
- HNLMS Evertsen — EV
ชั้น Holland
- HNLMS Holland — HL
- HNLMS Zeeland — ZL
- HNLMS Friesland — FR
- HNLMS Groningen — GR
เรือสนับสนุนการยกพลขึ้นบก
- HNLMS Rotterdam — RD
- HNLMS Johan de Witt — JW
- HNLMS Karel Doorman — KD
กองทัพเรือแคนาดา
[แก้]ชั้น Halifax
- HMCS Halifax — HX
- HMCS Vancouver — VR
- HMCS Ville de Québec — VC
- HMCS Toronto — TO
- HMCS Regina — RA
- HMCS Calgary — CY
- HMCS Montréal — ML
- HMCS Fredericton — FN
- HMCS Winnipeg — WG
- HMCS Charlottetown — CN
- HMCS St. John's — SJ
- HMCS Ottawa — OA
ชั้น Harry DeWolf
- HMCS Harry DeWolf — HF
กองทัพเรืออียิปต์
[แก้]- ENS Anwar El Sadat — AS
- ENS Gamal Abdel Nasser — GN
- ENS Tahya Misr — TM
- ENS El Fateg — FT
กองทัพเรือเยอรมัน
[แก้]ชั้น Braunschweig
Braunschweig — BSเรือ Hamburg (F220) ของกองทัพเรือเยอรมันใช้รหัสดาดฟ้าเรือ HA - Magdeburg — MD
- Erfurt — EF
- Oldenburg — OL
- Ludwigshafen am Rhein — LR
เรือฟริเกตชั้น Sachsen
- Sachsen — SN
- Hamburg — HA
- Hessen — HE
เรือสนับสนุนการรบ
- Main — MA
- Mosel — MO
กองทัพเรือฝรั่งเศส
[แก้]เรือบรรทุกอากาศยานชั้น Charles de Gaulle
- FS Charles de Gaulle — G
ชั้น Mistral
- FS Tonnerre — TO
- FS Dixmude — DX
- FS Mistral — MI
ชั้น Horizon
- FS Forbin — FB
- FS Chevalier Paul — PL
ชั้น Aquitaine
- FS Aquitaine — QN
- FS Provence — PC
- FS Languedoc — LD
- FS Auvergne — VG
- FS Bretagne — BT
ชั้น La Fayette
- FS La Fayette — YE
- FS Surcouf — SF
- FS Courbet — CO
- FS Aconit — AT
- FS Guépratte — GT
กองทัพเรือนิวซีแลนด์
[แก้]- HMNZS Otago — OTA
- HMNZS Canterbury — CAN
กองทัพเรือโปรตุเกส
[แก้]
ชั้น Vasco da Gama
- NRP Vasco da Gama — VG
- NRP Corte Real — CR
- NRP Álvares Cabral — AC
ชั้น Bartolomeu Dias
- NRP Bartolomeu Dias — BD
- NRP Dom Francisco de Almeida — FA
กองทัพเรืออินโดนีเซีย
[แก้]กองทัพเรืออินโดนีเซียใช้รหัสสามตัวสำหรับเรือฟริเกตและเรืออู่ลำเลียงพลสะเทินน้ำสะเทินบกเท่านั้น ตัวอักษรมักจะประกอบไปด้วยตัวอักษรตัวแรก ตัวที่สาม และตัวที่สี่ (หรือตัวสุดท้าย) ของชื่อเรือ
ชั้น Ahmad Yani
- KRI Ahmad Yani — AMY
- KRI Oswald Siahaan — OWA
- KRI Karel Satsuit Tubun — KST
- KRI Abdul Halim Perdanakusumah — AHP
- KRI Slamet Riyadi — SRI
- KRI Yos Sudarso — YSO
ชั้น Martadinata
- KRI Raden Eddy Martadinata — REM
- KRI I Gusti Ngurah Rai — GNR
ชั้น Bung Tomo
- KRI Bung Tomo — BTO
- KRI John Lie — JLI
- KRI Usman HARUN — USH
เรือคอร์เวตชั้น Fatahillah
- KRI Fatahillah — FTI
- KRI Malayahati — MLH
- KRI Nala — NLA
ชั้น Makassar
- KRI Makassar — MKS
- KRI Banda Aceh — BAC
- KRI Surabaya — SBY
- KRI Banjarmasin — BJM
- KRI Semarang — SMR
ชั้น Cakra
- KRI Cakra — CKA
- KRI Nanggala — NGA
ชั้น Nagapasa
- KRI Nagapasa — NPS
- KRI Ardadedali — ARD
- KRI Alugoro — AGR
ดูเพิ่ม
[แก้]- คำนำหน้าชื่อเรือ
- สัญลักษณ์การจัดประเภทตัวเรือ สำหรับเรือของกองทัพเรือสหรัฐและชาติพันธมิตร
- สัญลักษณ์การจัดประเภทตัวเรือของไทย
อ้างอิง
[แก้]- ↑ Perrin, william Gordon (1922). British Flags, Their Early History, and Their Development at Sea: With an Account of the Origin of the Flag as a National Device. Cambridge University Press archive. p. 202.
- ↑ 2.0 2.1 แม่แบบ:Cite page
- ↑ "sci.military.naval FAQ, Part B – General Terminology & Definitions". Hazegray.org. 2002-04-28. สืบค้นเมื่อ 2013-10-08.
- ↑ "ACP 113 (AI) Call Sign Book for Ships" (PDF). CCEB. January 2012. pp. 199–226. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 28 August 2017. สืบค้นเมื่อ 25 August 2017.
- ↑ Jones, Peter (2001). "Towards Self Reliance". ใน Stevens, David (บ.ก.). The Royal Australian Navy. The Australian Centenary History of Defence (vol III). South Melbourne, VIC: Oxford University Press. p. 213. ISBN 0-19-554116-2. OCLC 50418095.
แหล่งข้อมูลอื่น
[แก้]- "หมายเลขชายธงกองทัพเรืออังกฤษ" naval-history.net