สถาปัตยกรรมกอทิกแบบฝรั่งเศส

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
มหาวิหารน็อทร์-ดามแห่งชาทร์ของสมัยกอทิกตอนกลางราว ค.ศ. 1194 ถึง ค.ศ. 1260

สถาปัตยกรรมกอทิกฝรั่งเศส (อังกฤษ: French Gothic architecture) เป็นลักษณะสถาปัตยกรรมที่รุ่งเรืองในฝรั่งเศสระหว่าง ค.ศ. 1140 จนถึง ค.ศ. 1500

ลำดับสมัยของสถาปัตยกรรมกอทิกฝรั่งเศส[แก้]

สมัยของสถาปัตยกรรมกอทิกฝรั่งเศสแบ่งออกเป็น:

  • สถาปัตยกรรมกอทิกตอนต้น (Early Gothic)
  • สถาปัตยกรรมกอทิกตอนกลาง (High Gothic)
  • สถาปัตยกรรมแรยอน็อง (Rayonnant)
  • สถาปัตยกรรมกอทิกตอนปลาย หรือ สถาปัตยกรรมกอทิกวิจิตร (Late Gothic หรือ Flamboyant)

การแบ่งนี้เป็นการแบ่งที่ได้ผลแต่ก็ยังมีบางกรณีที่ยังเป็นที่โต้แย้งกันอยู่ การก่อสร้างสิ่งก่อสร้างแบบกอทิกมักจะใช้เวลานานที่อาจจะคาบลักษณะสถาปัตยกรรมหลายสมัย และผู้ก่อสร้างก็มักจะมิได้ทำตามความประสงค์ของแผนงานที่วางไว้ในสมัยก่อนหน้านั้น ลักษณะเด่นของสถาปัตยกรรมในสิ่งก่อสร้างหนึ่งจึงอาจจะแปรเปลี่ยนไปตามสมัยและอัธยาศัยของผู้สร้าง ฉะนั้นจึงยากที่จะกำหนดสิ่งก่อสร้างว่าเป็นลักษณะแท้ของสถาปัตยกรรมสมัยใดสมัยหนึ่งของสถาปัตยกรรมกอทิก ฉะนั้นการระบุสมัยจึงมีประโยชน์ต่อการระบุส่วนหนึ่งส่วนใดของโครงสร้างมากกว่าที่จะระบุทั้งโครงสร้างโดยรวม

สถาปัตยกรรมแบบกอทิก[แก้]

สถาปัตยกรรมกอทิกตอนต้น[แก้]

ทางเดินกลางที่มีผนังข้างสี่ชั้นที่ประกอบด้วย หน้าต่างชั้นบน และ ระเบียงแนบ ใต้ เพดานโค้งแหลมหกแฉก

สถาปัตยกรรมกอทิกตอนต้นเริ่มต้นขึ้นราว ค.ศ. 1140 ที่มีลักษณะเด่นคือการใช้โค้งแหลม และ การวิวัฒนาการจากสถาปัตยกรรมโรมาเนสก์ตอนปลาย สถาปนิกสร้างผนังให้สูงขึ้นโดยการแบ่งออกเป็นสี่ระดับชั้น: ชั้นซุ้มโค้งและเสา (Arcade), แกลอรี (Gallery), ระเบียงแนบ (Triforium), และช่องรับแสง (Clerestory) ตามลำดับ ส่วนการรับน้ำหนักของผนังและกำแพงก็ใช้การค้ำยันแบบใหม่ที่เรียกว่าครีบยันแบบปีกนกซึ่งมีวิวัฒนาการถึงจุดสูงสุดในสมัยสถาปัตยกรรมกอทิกตอนกลางในคริสต์ศตวรรษที่ 13 เพดานโค้งที่ใช้เป็นแบบเพดานโค้งแหลมหกแฉก (Sexpartite vault) ที่มีสันแยกออกจากศูนย์กลางหกสัน

สถาปัตยกรรมกอทิกตอนกลาง[แก้]

ลักษณะของสถาปัตยกรรมของคริสต์ศตวรรษที่ 13 วางรากฐานของความมีสัดส่วนและรูปทรงของสถาปัตยกรรมกอทิกตอนต้น และวิวัฒนาการต่อไปเพื่อให้สิ่งก่อสร้างมีลักษณะเบาขึ้นและ สูงสง่าขึ้น โครงสร้างของกำแพงก็ลดจากสี่ชั้นมาเป็นสามชั้น: ชั้นซุ้มโค้งและเสา, หน้าต่างชั้นบน และระเบียงแนบ หัวเสาที่ใช้ก็เล็กลงเพื่อไม่ให้กีดขวางทัศนะเมื่อมองสูงขึ้นไปบนตัวอาคาร หน้าต่างชั้นบนเปลี่ยนจากบานเดียว หรือ ช่องบนกำแพง เป็นสองบานที่เชื่อมต่อกันด้วยหน้าต่างกุหลาบ เพดานโค้งสันลดจากหกแฉกเป็นสี่แฉก การใช้ครีบยันแบบปีกนกก็วิวัฒนาการดีขึ้นจนถึงจุดสูงสุด และ หลังจากที่ใช้กับมหาวิหารน็อทร์-ดามแห่งปารีสและมหาวิหารน็อทร์-ดามแห่งชาทร์แล้ว การใช้ครีบยันที่ว่านี้ก็กลายเป็นบัญญัติของการค้ำยันผนังหรือกำแพงที่สูง เพราะเป็นสิ่งที่ช่วยรับน้ำหนักขณะที่เป็นสิ่งตกแต่งสิ่งก่อสร้างเพื่อความสวยงามด้วยในขณะเดียวกัน

สิ่งก่อสร้างที่เด่นๆ[แก้]

มหาวิหารน็อทร์-ดามแห่งคูทองซ์

สถาปัตยกรรมกอทิกตอนต้น[แก้]

สถาปัตยกรรมกอทิกตอนกลาง[แก้]

สถาปัตยกรรมแรยอน็อง[แก้]

สถาปัตยกรรมกอทิกตอนปลาย[แก้]

นอกไปจากลักษณะแบบกอทิกดังกล่าวแล้ว ก็ยังมีอีกแบบหนึ่งที่เรียกว่า สถาปัตยกรรมกอทิกเมรีดียอนาล (Gothique Méridional) หรือสถาปัตยกรรมกอทิกตอนใต้ ที่ตรงข้ามกับสถาปัตยกรรมกอทิกตอนเหนือ สถาปัตยกรรมกอทิกแซ็ปต็องทรียอนาล (Gothique Septentrional) ลักษณะสถาปัตยกรรมแบบนี้จะมีลักษณะเด่นคือ ทางเดินกลางที่กว้าง และไม่มีแขนกางเขน ตัวอย่างที่สำคัญได้แก่

อ้างอิง[แก้]

ดูเพิ่ม[แก้]

แหล่งข้อมูลอื่น[แก้]

วิกิมีเดียคอมมอนส์มีสื่อเกี่ยวกับ สถาปัตยกรรมกอทิกฝรั่งเศส วิกิมีเดียคอมมอนส์มีสื่อเกี่ยวกับ มหาวิหารในฝรั่งเศส