ข้ามไปเนื้อหา

กลุ่มภาษาคอเคซัสตะวันตกเฉียงเหนือ

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
กลุ่มภาษาคอเคซัสตะวันตกเฉียงเหนือ
West Caucasian
Abkhazo-Circassian[1]
Abkhaz–Adyghean
North Pontic
Pontic
ภูมิภาค:คอเคซัสเหนือในยุโรปตะวันออก
การจําแนก
ทางภาษาศาสตร์
:
หนึ่งในตระกูลของภาษาแรกของโลก
ภาษาดั้งเดิม:Proto-Northwest Caucasian
กลุ่มย่อย:
กลอตโตลอก:abkh1242[2]
{{{mapalt}}}
  Circassian
  Abazgi
  Ubykh (สูญหาย)

กลุ่มภาษาคอเคซัสตะวันตกเฉียงเหนือ (Northwest Caucasian languages)[3] หรือกลุ่มภาษาปอนติก หรืออับคาซ-อะดืยเก เป็นกลุ่มของภาษาที่ใช้พูดในเทือกเขาคอเคซัส[4] โดยเฉพาะในรัสเซีย จอร์เจีย และตุรกี และมีผู้พูดภาษาเหล่านี้กลุ่มเล็กๆในตะวันออกกลาง ทางยูเนสโกจัดให้ภาษาทั้งหมดอยู่ในช่วง "เสี่ยงต่อการสูญหาย" หรือ "เสี่ยงต่อการสูญหายอย่างมาก"[5]

ลักษณะสำคัญ

[แก้]

กลุ่มภาษานี้ทั้งหมดมีเสียงสระน้อย ( 2 หรือ 3 เสียง) แต่มีเสียงพยัญชนะมาก ตัวอย่างเช่น ภาษาอูบึกมีสระเพียง 2 เสียง แต่ถือเป็นภาษาที่มีเสียงพยัญชนะมากที่สุดสำหรับภาษาที่อยู่นอกเขตแอฟริกาตอนใต้ ซึ่งนักภาษาศาสตร์สันนิษฐานว่าการเกิดเสียงพยัญชนะจำนวนมากเกิดจากการรวมกันของเสียงพยัญชนะที่อยู่ใกล้เคียงกันหรือกับเสียงพยัญชนะที่กลายมาจากเสียงกึ่งสระและควบรวมกันกลายเป็นพยัญชนะใหม่ และอาจเกิดจากระบบอุปสรรคในไวยากรณ์สมัยโบราณ ที่เสียงพยัญชนะที่เป็นอุปสรรคควบรวมกับพยัญชนะอีกตัวกลายเป็นเสียงพยัญชนะใหม่ เช่นกัน

ไวยากรณ์

[แก้]

ภาษาในกลุ่มภาษาคอเคซัสตะวันตกเฉียงเหนือมีระบบนามแบบการกที่เรียบง่าย แต่มีระบบของคำกริยาที่ซับซ้อนจนดูเหมือนว่าโครงสร้างของประโยคทั้งหมดรวมอยู่ภายในคำกริยา

การจัดจำแนก

[แก้]

ภาษาในกลุ่มนี้มี 5 ภาษาคือ ภาษาอับฮาเซีย ภาษาอบาซา ภาษากาบาร์เดียหรือภาษาเซอร์คาเซียตะวันออก ภาษาอะดืยเกหรือเซอร์คาเซียตะวันตก และภาษาอูบึกซึ่งตายแล้ว

  • ภาษาอะดืยเก เป็นภาษาที่มีจำนวนผู้พูดมากภาษาหนึ่งในกลุ่มนี้ มี 500,000 คน ในรัสเซียและตะวันออกกลาง แบ่งเป็นในตุรกี 180,000 คน ในรัสเซีย 125,000 คน และเป็นภาษาราชการในสาธารณรัฐอะดืยเกีย ในจอร์แดน 45,000 คน ในซีเรีย 25,000 คน และในอิรัก 20,000 คน มีผู้พูดจำนวนเล็กน้อยในสหรัฐ
  • ภาษากาบาร์เดีย มีผู้พูดทั้งหมดราว 1 ล้านคน แบ่งเป็นในตุรกี 550,000 คน และในรัสเซีย 450,000 คน และเป็นภาษาราชการในสาธารณรัฐกาบาร์ดิโน-บัลกาเรีย และสาธารณรัฐการาเชย์-เซอร์กัสเซีย มีเสียงพยัญชนะน้อยที่สุดในกลุ่มนี้คือมีเพียง 48 เสียง
  • ภาษาอับฮาเซีย มีผู้พูดราว 100,000 คนในอับคาเซีย ซึ่งเป็นเขตปกครองตนเองในจอร์เจียและเป็นภาษาราชการด้วย จำนวนผู้พูดในตุรกีไม่แน่นอน ภาษานี้เริ่มใช้เป็นภาษาเขียนเมื่อพุทธศตวรรษที่ 25 บางครั้งจัดให้เป็นภาษาเดียวกับภาษาอบาซา โดยแยกเป็นคนละสำเนียงเพราะมีความใกล้เคียงกันมาก
  • ภาษาอบาซา มีผู้พูดทั้งหมด 45,000 คน แบ่งเป็นในรัสเซีย 35,000 คน และในตุรกี 10,000 คน มีการใช้เป็นภาษาเขียนแต่ไม่มีสถานะเป็นภาษาราชการ
  • ภาษาอูบึก เป็นภาษาที่ใกล้เคยงกับภาษาอับคาซและภาษาอบาซามากกว่าอีก 2 ภาษาของกลุ่มนี้ ผู้พูดภาษานี้เปลี่ยนไปพูดภาษาอะดืยเก ภาษาอูบึกเป็นภาษาตายอย่างแท้จริงเมื่อ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2535 เมื่อ ผู้พูดภาษานี้คนสุดท้ายคือ เตฟฟิก เอเซนต์ เสียชีวิตลง จัดเป็นภาษาที่มีเสียงพยัญชนะมากที่สุดในโลกเพราะมีถึง 81 เสียง ไม่มีการใช้เป็นภาษาเขียน

ความสัมพันธ์กับภาษาอื่น

[แก้]

ความเชื่อมโยงกับภาษาฮัตติก

[แก้]

ในอดีตจนถึง 1,257 ปีก่อนพุทธศักราช บริเวณอนาโตเลียรอบๆฮัตตูซา ซึ่งต่อมาถูกยึดครองโดยชาวฮิตไตต์ เคยเป็นดินแดนของชาวฮัตเตียนมาก่อน ซึ่งพูดภาษาที่ไม่ใช่ตระกูลภาษาอินโด-ยุโรเปียน และไม่เกี่ยวข้องกับภาษาฮิตไตต์ ภาษาฮัตติกที่เป็นภาษาโดดเดี่ยวนี้อาจจะมีความเกี่ยวข้องกับกลุ่มภาษานี้ได้

ความเชื่อมโยงกับตระกูลภาษาอินโด-ยุโรเปียน

[แก้]

กลุ่มภาษาคอเคซัสตะวันตกเฉียงเหนืออาจเคยมีความเกี่ยวข้องกับตระกูลภาษาอินโด-ยุโรเปียนมาก่อนเมื่อ 12,000 ปีก่อนหน้านี้ โดยมีภาษษปอนดิกดั้งเดิมเป็นภาษาในยุคเริ่มแรกแต่แนวคิดนี้ไม่ได้รับการยอมรับเท่าใดนัก[6][7]

ความเชื่อมโยงกับกลุ่มภาษาคอเคซัสเหนือ

[แก้]

นักภาษาศาสตร์ส่วนใหญ่รวมกลุ่มภาษาคอเคซัสตะวันตกเฉียงเหนือเข้ากับกลุ่มภาษาคอเคซัสตะวันออกเฉียงเหนือเป็นกลุ่มภาษาคอเคซัสเหนือแต่ความเชื่อมโยงของภาษาสองกลุ่มนี้มีไม่มากนัก

ความเชื่อมโยงระดับสูง

[แก้]

มีนักภาษาศาสตร์บางคนพยายามเชื่อมโยงในระดับที่สูงกว่านี้ เช่นเชื่อมโยงเข้ากับภาษาเดเน-คอเคเซียน ภาษาบาสก์ ภาษาบูรูศัสกี ภาษาเยนิสเซียน ตระกูลภาษาจีน-ทิเบต เป็นต้น นอกจากนั้นยังมีความพยายามเชื่อมโยงกับตระกูลภาษาอินโด-ยุโรเปียน ตระกูลภาษายูราลิก ตระกูลภาษาอัลไตอิก ตระกูลภาษาคาร์ทเวเลียน แต่ยังไม่มีข้อสรุปแน่ชัด

อ้างอิง

[แก้]
  1. Matthews, W. K. (2013). Languages of the USSR. Cambridge University Press. p. 147. ISBN 9781107623552.
  2. Nordhoff, Sebastian; Hammarström, Harald; Forkel, Robert; Haspelmath, Martin, บ.ก. (2013). "Abkhaz–Adyge". Glottolog 2.2. Leipzig: Max Planck Institute for Evolutionary Anthropology.
  3. "Archived copy" (PDF). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-08-13. สืบค้นเมื่อ 2017-05-20.{{cite web}}: CS1 maint: archived copy as title (ลิงก์)
  4. Hoiberg, Dale H. (2010)
  5. "UNESCO Atlas of the World's Languages in danger". www.unesco.org (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2018-06-03.
  6. Colarusso, John (2003). "Further Etymologies between Indo-European and Northwest Caucasian". Current Trends in Caucasian, East European and Inner Asian Linguistics, Papers in Honor of Howard Aronson. Amsterdam: Dee Ann Holisky and Kevin Tuite. pp. 41–60.
  7. Colarusso, John (1997), "Phyletic Links between Proto-Indo-European and Proto-Northwest Caucasian", The Journal of Indo-European Studies, 25 (1–2): 119–151

ข้อมูล

[แก้]

อ่านเพิ่ม

[แก้]

แหล่งข้อมูลอื่น

[แก้]