ผลต่างระหว่างรุ่นของ "พระยาพิมพิสารราชา"
ไม่มีความย่อการแก้ไข |
ไม่มีความย่อการแก้ไข |
||
บรรทัด 1: | บรรทัด 1: | ||
{{กล่องข้อมูล เชื้อพระวงศ์ |
{{กล่องข้อมูล เชื้อพระวงศ์ |
||
| สีพิเศษ = #ffcc00 |
| สีพิเศษ = #ffcc00 |
||
| image = [[ไฟล์:เจ้าหลวงพิมพิสาร.jpg|200px]] |
|||
| image = |
|||
|ภาพกว้าง = |
|ภาพกว้าง = |
||
|คำบรรยายภาพ = |
|คำบรรยายภาพ = |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 22:02, 17 กรกฎาคม 2559
พระยาพิมพิสารราชา | |||||
---|---|---|---|---|---|
เจ้าพิมพิสาร | |||||
พระยาแพร่ | |||||
ครองราชย์ | พ.ศ. 2490 – พ.ศ. 2429[1] | ||||
รัชกาลก่อนหน้า | พระยาอินทวิไชย | ||||
รัชกาลถัดไป | เจ้าพิริยเทพวงษ์ | ||||
ประสูติ | พ.ศ. 2356 | ||||
พิราลัย | พ.ศ. 2429 | ||||
พระชายา | แม่เจ้าแก้วไหลมาราชเทวี | ||||
| |||||
พระบุตร | 5 พระองค์ | ||||
ราชวงศ์ | ราชวงศ์เทพวงศ์ | ||||
พระบิดา | พระยาวังขวา | ||||
พระมารดา | แม่เจ้าปิ่นแก้ว |
เจ้าผู้ครองนครแพร่แห่ง ราชวงศ์แสนซ้าย | |
---|---|
* | พระยาแสนซ้าย |
* | พระยาเทพวงศ์ |
* | พระยาอินทวิไชย |
พระยาพิมพิสารราชา | |
เจ้าพิริยเทพวงษ์ | |
พระยาพิมพิสารราชา หรือ เจ้าหลวงพิมพิสาร ทรงเป็นเจ้าผู้ครองนครแพร่ องค์ที่ 21 ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระองค์ได้สืบตำแหน่งพระยาแพร่ต่อจาก พระยาอินทวิไชยผู้เป็นปิตุลาของพระองค์
พระประวัติ
พระยาพิมสารราชา หรือ เจ้าหลวงพิมพิสารขาเค[1] (พ.ศ. 2356 – พ.ศ. 2429) มีพระนามเดิมว่าเจ้าพิมพิสาร เป็นโอรสของพระยาวังขวา (เฒ่า) กับเจ้าปิ่นแก้ว ซึ่งพระราชพงศาวดารรัชกาลที่ 4 ระบุว่าเป็นน้องสาวพระยาแสนซ้าย (บิดาพระยาศรีสุริยวงศ์ (มังไชย)) แต่ในหนังสือเชื้อสายเจ้าหลวงเมืองแพร่ 4 องค์สุดท้ายได้กล่าวว่าเจ้าปิ่นแก้วเป็นราชธิดาพระยาเทพวงศ์ เป็นขนิษฐาพระยาอินทวิไชย ดังนั้นพระยาพิมพิสารจึงมีศักดิ์เป็นหลานลุงของพระยาอินทวิไชย[2]
เจ้าพิมพิสารได้รับราชการมีบรรดาศักดิ์เป็นพระยาราชวงศ์ เมื่อพระยาอินทวิไชยผู้เป็นปิตุลาถึงแก่พิราลัยในปี พ.ศ. 2390 พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวจึงโปรดเกล้าฯ ตั้งเป็นพระยาแพร่ ขณะมีชนมายุ 34 ชันษา เมื่อพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวขึ้นครองราชย์ พระยาพิมพิสารไม่ลงไปเข้าเฝ้า จึงไม่ได้รับพระราชทานนามใหม่ขึ้นเป็นเจ้าอย่างเจ้านครเชียงใหม่ เจ้านครลำพูน เจ้านครลำปาง และเจ้านครเมืองน่าน[3]
พระยาพิมพิสาร เป็นเจ้าเมืองที่ปลูกฝังนิสัยเรื่องการประหยัด และการรู้จักประมาณตนแก่ชาวเมืองแพร่เป็นอย่างดี ดังมีเรื่องเล่ากันว่า หม้อน้ำที่ท่านตั้งไว้ข้างถนนสำหรับผู้สัญจรนั้น จะมีกระบวยใหญ่และกระบวยเล็กอย่างละ 1 อัน หากใครใช้กระบวยใหญ่ตักดื่มน้ำแล้ว เทน้ำที่เหลือทิ้ง หรือใช้กระบวยเล็กตักดื่มซ้ำเมื่อไม่อิ่ม ต่างก็โดนก๋งยิง (เป็นอาวุธที่ใช้ลูกหินขนาดเล็กเป็นกระสุนสามารถทำให้เจ็บตัวหรือเป็นแผลได้) ด้วยเหตุผลที่ว่าไม่รู้จักประมาณตนเอง หรือไม่ประหยัด นอกจากนี้เจ้าหลวงพิมพิสารยังมีกิจการค้าไม้สัก ทำรายได้เข้าเมืองแพร่นับหลายล้านบาทต่อปี ทำให้เศรษฐกิจในเมืองแพร่มีความต่อเนื่องและเป็นไปได้ดี[4]
พระยาพิมพิสาร ถึงแก่พิราลัยเวลาบ่าย 5 โมง แรม 7 ค่ำ เดือน 11 ปีจอ พ.ศ. 2429 ชันษา 73 ปี
ชายา โอรส และธิดา
พระยาพิมพิสารมีชายาและโอรสธิดา ดังนี้[4]
- เจ้าแก้วไหลมาราชเทวี (มีหลักฐานในแผ่นศิลา-จารึกที่วัดหลวง) แต่ไม่ปรากฏมีโอรส-ธิดา ด้วยกันหรือไม่
- แม่เจ้าธิดา มีโอรส-ธิดา 4 องค์ คือ
- แม่เจ้าไข สมรสกับ เจ้าชัยลังกา ไม่มีบุตร-ธิดา
- แม่เจ้าเบาะ สมรสกับ เจ้าหัวหน้า มีบุตรธิดา 2 คน
- 1.เจ้าฟองคำ สามีไม่ทราบนาม
- 2.เจ้าน้อยทวงศ์ สมรสกับแม่เจ้าขันคำ
รสเข้ม(ไม่มีบุตรธิดา)
- แม่เจ้าอินทร์ลงเหลา สมรสกับเจ้าหนานศรีทิ (เจ้านายเมืองน่าน) มีบุตรธิดา 3 คน
- 1.เจ้าศรีเมือง
- 2.แม่เจ้าฟอง บรรเลง สมรสกับนายหนานแสน บรรเลง
- 3.แม่เจ้าแก้ว เหลี่ยมเพชร
- เจ้าพิริยเทพวงษ์ เจ้าผู้ครองนครแพร่ องค์สุดท้าย
- แม่เจ้าคำใย้ มีโอรส 1 องค์ คือ
- เจ้าสุริยะจางวาง สมรส 4 ครั้ง
- สมรสครั้งที่1 กับแม่เจ้าสุชาดา (ไม่มีบุตรธิดา)
- สมรสครั้งที่2 กับนางฟองแก้ว มีธิดา 1 คน คือ
- เจ้าบุญนำ วังซ้าย (สารศิริวงศ์)
- สมรสครั้งที่3 กับนางเป็ง มีบุตร 1 คน คือ
- เจ้าน้อย สารศิริวงศ์
- สมรสครั้งที่4 กับนางแก้ว มีบุตร 1 คน คือ
- เจ้านอยเป็ด สารศิริวงศ์
พงศาวลี
พงศาวลีของพระยาพิมพิสารราชา | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
|
อ้างอิง
- ↑ 1.0 1.1 แม่แบบ:หนังสือ
- ↑ หมู่บ้าน วังฟ่อน. ประวัติเจ้าหลวงพิมพิสาร
- ↑ เจ้าพระยาทิพากรวงศ์ (ขำ บุนนาค). พระราชพงศาวดารกรุงรัตนโกสินทร์ รัชกาลที่ ๑-๔. กรุงเทพฯ : ศรีปัญญา, 2555. 2,136 หน้า. หน้า 1559. ISBN 978-616-7146-30-0
- ↑ 4.0 4.1 "เจ้าหลวงพิมพิสาร (พิมสาร หรือขาเค)". วังฟ่อนดอตคอม. 18 สิงหาคม 2011. สืบค้นเมื่อ 9 กุมภาพันธ์ 2559.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help)
ก่อนหน้า | พระยาพิมพิสารราชา | ถัดไป | ||
---|---|---|---|---|
พระยาอินทวิไชย เจ้าผู้ครองนครแพร่ |
เจ้าผู้ครองนครแพร่ (พ.ศ. 2390 - พ.ศ. 2429) |
เจ้าพิริยเทพวงษ์ เจ้าผู้ครองนครแพร่ |