ผลต่างระหว่างรุ่นของ "อุปมานิทัศน์"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
EmausBot (คุย | ส่วนร่วม)
r2.6.4) (โรบอต แก้ไข: yi:אלעגאריע
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 1: บรรทัด 1:
{{รอการตรวจสอบ}}
{{รอการตรวจสอบ}}
{{ลิงก์ไปภาษาอื่น}}
{{ลิงก์ไปภาษาอื่น}}
[[ไฟล์:Filippino Lippi 001.jpg|thumb|260px|right|“สัญลักษณ์แฝงคติของดนตรี” (Allegory of Music) โดย [[ฟิลิปปินโน ลิบปี]] “สัญลักษณ์แฝงคติของดนตรี” เป็นหัวเรื่องที่นิยมกันใน[[จิตรกรรม]]ใน[[ยุคฟื้นฟูศิลปวิทยา]] เช่นการที่ลิบปีใช้ในภาพเขียนภาพนี้ซึ่งใช้ตำนานกรีกเป็นสัญลักษณ์]]
[[ไฟล์:Filippino Lippi 001.jpg|thumb|260px|right|“อุปมานิทัศน์ของดนตรี” (Allegory of Music) โดย[[ฟีลิปปีโน ลิปปี]] “อุปมานิทัศน์ของดนตรี” เป็นหัวเรื่องที่นิยมกันใน[[จิตรกรรม]]ใน[[ยุคฟื้นฟูศิลปวิทยา]] เช่นการที่ลิบปีใช้ในภาพเขียนภาพนี้ซึ่งใช้ตำนานกรีกเป็นสัญลักษณ์]]
'''สัญลักษณ์แฝงคติ''' หรือ '''อุปมานิทัศน์''' ([[ภาษาอังกฤษ]]: Allegory) มาจาก[[ภาษากรีก]] “αλλος” หรือ “allos” ที่แปลว่า “อื่น” และคำว่า “αγορευειν” หรือ “agoreuein” ที่แปลว่า “การพูดในที่สาธารณะ” ซึ่งหมายถึง[[ศิลปะ]]ที่ใช้[[สัญลักษณ์]]แทนความหมายโดยตรงในภาษาเขียน
'''อุปมานิทัศน์'''<ref>[http://rirs3.royin.go.th/coinages/webcoinage.php ศัพท์บัญญัติราชบัณฑิตยสถาน]</ref> ({{lang-en|Allegory}}) มาจาก[[ภาษากรีก]] “αλλος” หรือ “allos” ที่แปลว่า “อื่น” และคำว่า “αγορευειν” หรือ “agoreuein” ที่แปลว่า “การพูดในที่สาธารณะ” ซึ่งหมายถึง[[ศิลปะ]]ที่ใช้[[สัญลักษณ์]]แทนความหมายโดยตรงในภาษาเขียน


สัญลักษณ์แฝงคติมิได้ใช้แต่ในงาน[[วรรณกรรม]] แต่อาจจะใช้ทางจักษุศิลป์ซึ่งมักจะพบใน[[จิตรกรรม]] หรือ [[ประติมากรรม]] หรือ การแสดงสัญลักษณ์ทางศิลปะอื่นๆ
อุปมานิทัศน์มิได้ใช้แต่ในงาน[[วรรณกรรม]] แต่อาจจะใช้ทางจักษุศิลป์ซึ่งมักจะพบใน[[จิตรกรรม]]หรือ[[ประติมากรรม]] หรือ การแสดงสัญลักษณ์ทางศิลปะอื่นๆ


ความหมายทาง[[ภาษาศาสตร์]]จะกว้างกว่าที่ใช้กันโดยทั่วไป ความหมายของ “สัญลักษณ์แฝงคติ” จะมีน้ำหนักกว่ามากกว่าการใช้ “อุปลักษณ์” ([[:en:metaphor|metaphor]]) และเมื่อใช้ก็จะทำให้ผู้รับเกิดแรงบันดาลใจทางจินตนาการมากกว่า ขณะที่ “วจนะเปรียบเทียบ” ([[:en:analogy|analogy]]) จะคำนึงถึงเหตุผลและ[[ตรรกศาสตร์]]มากกว่า เช่น “[[ตำนานแฝงคำสอน]]” ([[:en:parable|parable]]) จะเป็น “วจนะเปรียบเทียบ” ที่มีคำสอนทาง[[จริยธรรม]]เพียงหัวข้อเดียว
ความหมายทาง[[ภาษาศาสตร์]]จะกว้างกว่าที่ใช้กันโดยทั่วไป ความหมายของ “อุปมานิทัศน์” จะมีน้ำหนักกว่ามากกว่าการใช้ “[[อุปลักษณ์]]” (metaphor) และเมื่อใช้ก็จะทำให้ผู้รับเกิดแรงบันดาลใจทางจินตนาการมากกว่า ขณะที่ “[[แนวเทียบ]]” (analogy) จะคำนึงถึงเหตุผลและ[[ตรรกศาสตร์]]มากกว่า เช่น “[[นิทานคติสอนใจ]]” (parable) จะเป็น “แนวเทียบ” ที่มีคำสอนทาง[[จริยธรรม]]เพียงหัวข้อเดียว


ความหมายของ “สัญลักษณ์แฝงคติ” มักจะเป็นสัญลักษณ์แทนความหมายของหัวข้อที่กว้างกว่าการใช้ “วจนะเปรียบเทียบ” ฉนั้นในงาน “สัญลักษณ์แฝงคติ” ชิ้นหนึ่งก็อาจจะมี “วจนะเปรียบเทียบ” หลายประเด็น จึงทำให้ตีความหมายกันไปได้หลายอย่าง ซึ่งบางครั้งก็อาจจะบิดเบือนไปจากความหมายที่ศิลปินตั้งใจเอาไว้ เช่นบางคนให้ความเห็นว่า “สัญลักษณ์แฝงคติ” ของ “[[เดอะลอร์ดออฟเดอะริงส์]]” คือ[[สงครามโลก]]เป็นต้น แต่วรรณกรรมชิ้นนี้เขียนก่อนที่[[สงครามโลกครั้งที่ 2]] จะเกิดขึ้น และถึงแม้ว่า [[เจ. อาร์. อาร์. โทลคีน]] ผู้ประพันธ์จะกล่าวไว้ในคำนำในฉบับพิมพ์อเมริกันว่า “(หนังสือเล่มนี้)ไม่ใช่สัญลักษณ์แฝงคติหรือหัวข้อ....กระผมไม่ชอบสัญลักษณ์แฝงคติไม่ว่าจะเป็นรูปแบบใหน ...”<ref>เจ. อาร์. อาร์. โทลคีน (1991), ''The Lord of the Rings'', สำนักพิมพ์ฮาร์เปอร์คอลลินส์, ISBN 0-261-10238-9</ref>
ความหมายของ “อุปมานิทัศน์” มักจะเป็นสัญลักษณ์แทนความหมายของหัวข้อที่กว้างกว่าการใช้ “แนวเทียบ” ฉนั้นในงาน “อุปมานิทัศน์” ชิ้นหนึ่งก็อาจจะมี “แนวเทียบ” หลายประเด็น จึงทำให้ตีความหมายกันไปได้หลายอย่าง ซึ่งบางครั้งก็อาจจะบิดเบือนไปจากความหมายที่ศิลปินตั้งใจเอาไว้ เช่นบางคนให้ความเห็นว่า “อุปมานิทัศน์” ของ “[[เดอะลอร์ดออฟเดอะริงส์]]” คือ[[สงครามโลก]]เป็นต้น แต่วรรณกรรมชิ้นนี้เขียนก่อนที่[[สงครามโลกครั้งที่ 2]] จะเกิดขึ้น และถึงแม้ว่า [[เจ. อาร์. อาร์. โทลคีน]] ผู้ประพันธ์จะกล่าวไว้ในคำนำในฉบับพิมพ์อเมริกันว่า “(หนังสือเล่มนี้)ไม่ใช่อุปมานิทัศน์หรือหัวข้อ....กระผมไม่ชอบอุปมานิทัศน์ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบใหน ...”<ref>เจ. อาร์. อาร์. โทลคีน (1991), ''The Lord of the Rings'', สำนักพิมพ์ฮาร์เปอร์คอลลินส์, ISBN 0-261-10238-9</ref>


== ตัวอย่างงานที่ถือกันว่าเป็นงานสัญลักษณ์แฝงคติ ==
== ตัวอย่างงานที่ถือกันว่าเป็นงานสัญลักษณ์แฝงคติ ==
* [[อีสป|นิทานอีสป]]
* [[อีสป|นิทานอีสป]]
* “The Republic” โดย [[เพลโต]] (สัญลักษณ์แฝงคติเรื่องถ้ำ)
* “The Republic” โดย [[เพลโต]] (อุปมานิทัศน์เรื่องถ้ำ)
* “Phaedrus” โดย [[เพลโต]] (สัญลักษณ์แฝงคติเรื่องรถแข่ง)
* “Phaedrus” โดย [[เพลโต]] (อุปมานิทัศน์เรื่องรถแข่ง)
* “[[ไตรภูมิดานเต]]” โดย [[ดานเต อลิเกียริ]]
* “[[ดีวีนากอมเมเดีย]]” โดย [[ดันเต อาลีกีเอรี]]
* “The Crucible” โดย [[อาเธอร์ มิลเลอร์]] (Arthur Miller)
* “The Crucible” โดย [[อาร์เธอร์ มิลเลอร์]] (Arthur Miller)


== อ้างอิง ==
== อ้างอิง ==

รุ่นแก้ไขเมื่อ 10:16, 22 กุมภาพันธ์ 2555

“อุปมานิทัศน์ของดนตรี” (Allegory of Music) โดยฟีลิปปีโน ลิปปี “อุปมานิทัศน์ของดนตรี” เป็นหัวเรื่องที่นิยมกันในจิตรกรรมในยุคฟื้นฟูศิลปวิทยา เช่นการที่ลิบปีใช้ในภาพเขียนภาพนี้ซึ่งใช้ตำนานกรีกเป็นสัญลักษณ์

อุปมานิทัศน์[1] (อังกฤษ: Allegory) มาจากภาษากรีก “αλλος” หรือ “allos” ที่แปลว่า “อื่น” และคำว่า “αγορευειν” หรือ “agoreuein” ที่แปลว่า “การพูดในที่สาธารณะ” ซึ่งหมายถึงศิลปะที่ใช้สัญลักษณ์แทนความหมายโดยตรงในภาษาเขียน

อุปมานิทัศน์มิได้ใช้แต่ในงานวรรณกรรม แต่อาจจะใช้ทางจักษุศิลป์ซึ่งมักจะพบในจิตรกรรมหรือประติมากรรม หรือ การแสดงสัญลักษณ์ทางศิลปะอื่นๆ

ความหมายทางภาษาศาสตร์จะกว้างกว่าที่ใช้กันโดยทั่วไป ความหมายของ “อุปมานิทัศน์” จะมีน้ำหนักกว่ามากกว่าการใช้ “อุปลักษณ์” (metaphor) และเมื่อใช้ก็จะทำให้ผู้รับเกิดแรงบันดาลใจทางจินตนาการมากกว่า ขณะที่ “แนวเทียบ” (analogy) จะคำนึงถึงเหตุผลและตรรกศาสตร์มากกว่า เช่น “นิทานคติสอนใจ” (parable) จะเป็น “แนวเทียบ” ที่มีคำสอนทางจริยธรรมเพียงหัวข้อเดียว

ความหมายของ “อุปมานิทัศน์” มักจะเป็นสัญลักษณ์แทนความหมายของหัวข้อที่กว้างกว่าการใช้ “แนวเทียบ” ฉนั้นในงาน “อุปมานิทัศน์” ชิ้นหนึ่งก็อาจจะมี “แนวเทียบ” หลายประเด็น จึงทำให้ตีความหมายกันไปได้หลายอย่าง ซึ่งบางครั้งก็อาจจะบิดเบือนไปจากความหมายที่ศิลปินตั้งใจเอาไว้ เช่นบางคนให้ความเห็นว่า “อุปมานิทัศน์” ของ “เดอะลอร์ดออฟเดอะริงส์” คือสงครามโลกเป็นต้น แต่วรรณกรรมชิ้นนี้เขียนก่อนที่สงครามโลกครั้งที่ 2 จะเกิดขึ้น และถึงแม้ว่า เจ. อาร์. อาร์. โทลคีน ผู้ประพันธ์จะกล่าวไว้ในคำนำในฉบับพิมพ์อเมริกันว่า “(หนังสือเล่มนี้)ไม่ใช่อุปมานิทัศน์หรือหัวข้อ....กระผมไม่ชอบอุปมานิทัศน์ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบใหน ...”[2]

ตัวอย่างงานที่ถือกันว่าเป็นงานสัญลักษณ์แฝงคติ

อ้างอิง

  1. ศัพท์บัญญัติราชบัณฑิตยสถาน
  2. เจ. อาร์. อาร์. โทลคีน (1991), The Lord of the Rings, สำนักพิมพ์ฮาร์เปอร์คอลลินส์, ISBN 0-261-10238-9

ดูเพิ่ม