ผลต่างระหว่างรุ่นของ "อันดับลิ่น"
ไม่มีความย่อการแก้ไข |
ไม่มีความย่อการแก้ไข |
||
บรรทัด 1: | บรรทัด 1: | ||
{{รอการตรวจสอบ}} |
|||
{{Taxobox |
{{Taxobox |
||
| name = |
| name = |
||
บรรทัด 10: | บรรทัด 9: | ||
| infraclassis = [[Eutheria]] |
| infraclassis = [[Eutheria]] |
||
| superordo = [[Laurasiatheria]] |
| superordo = [[Laurasiatheria]] |
||
| ordo = '''Pholidota''' |
| ordo = '''[[Pholidota]]''' |
||
| ordo_authority = [[Max Wilhelm Carl Weber|Weber]], 1904 |
| ordo_authority = [[Max Wilhelm Carl Weber|Weber]], 1904 |
||
| familia = '''Manidae''' |
| familia = '''[[Manidae]]''' |
||
| familia_authority = [[John Edward Gray|Gray]], 1821 |
| familia_authority = [[John Edward Gray|Gray]], 1821 |
||
| genus = '''''Manis''''' |
| genus = '''''[[Manis]]''''' |
||
| genus_authority = [[Carolus Linnaeus|Linnaeus]], 1758 |
| genus_authority = [[Carolus Linnaeus|Linnaeus]], 1758 |
||
| subdivision_ranks = [[สปีชีส์|ชนิด]] |
| subdivision_ranks = [[สปีชีส์|ชนิด]] |
||
บรรทัด 25: | บรรทัด 24: | ||
* ''[[Indian Pangolin|Manis crassicaudata]]''<br /> |
* ''[[Indian Pangolin|Manis crassicaudata]]''<br /> |
||
* ''[[ลิ่นจีน|Manis pentadactyla]]''<br /> |
* ''[[ลิ่นจีน|Manis pentadactyla]]''<br /> |
||
* ''[[ลิ่นซุนดา|Manis javanica]]'' |
* ''[[ลิ่นซุนดา|Manis javanica]]''<ref>[http://www.itis.gov/servlet/SingleRpt/SingleRpt?search_topic=TSN&search_value=180104 จาก ITIS.gov {{en}}]</ref> |
||
| range_map = Manis ranges.png |
|||
| range_map_caption = [[แผนที่]]แสดงการกระจายพันธุ์ |
|||
}} |
}} |
||
'''ลิ่น''' หรือ '''นิ่ม''' หรือที่นิยมเรียกกันว่า '''ตัวลิ่ม''' หรือ '''ตัวนิ่ม''' ({{lang-en|Pangolin, Pholidotes, Scaly anteater}}) จัดอยู่ใน[[ไฟลัม]][[สัตว์มีแกนสันหลัง]] ชั้น[[สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม]] ที่อยู่ในอันดับ '''[[Pholidota]]''' จัดเป็นสัตว์ที่มีเพียง[[วงศ์ (ชีววิทยา)|วงศ์]]เดียว คือ '''[[Manidae]]''' และ[[genus|สกุล]]เดียว คือ ''[[Manis]]'' |
|||
ลิ่นเป็นสัตว์ที่มีลักษณะคล้ายคลึงกับ[[อาร์มาดิลโล]] หรือ สัตว์ที่อยู่ในอันดับ Cingulata ที่พบได้ใน[[ทวีปอเมริกาเหนือ]]และ[[อเมริกาใต้]] ขณะที่ลิ่นจะพบได้ที่[[ทวีปเอเชีย]]และ[[แอฟริกา]] |
|||
{{ขยายความ}} |
|||
ลิ่นทุกชนิดจะมีส่วนหน้าที่ยาว มีปากขนาดเล็ก มีลักษณะเป็นรูเล็ก ๆ ไม่มี[[ฟัน]] กินอาหารโดยการใช้ลิ้นที่ยื่นยาวและน้ำลายที่เหนียวตวัดกิน[[แมลง]]ตามพื้นดิน จำพวก [[มด]]และ[[ปลวก]]หรือหนอนขนาดเล็ก และมีลำตัวที่ปกคลุมด้วย[[เกล็ด]]เป็นชิ้น ๆ เหมือนกับ[[สัตว์เลื้อยคลาน]] ทำหน้าที่เหมือน[[ชุดเกราะ]]เพื่อใช้ในการป้องกันตัว เมื่อถูกรุกรานลิ่นจะลดลำตัวเป็น[[วงกลม]] ขณะที่ส่วนท้องจะไม่มีเกล็ด ซึ่งจะถูกโจมตีได้ง่าย |
|||
'''นิ่ม''' ''(Pangolin)'' หรือ '''ลิ่น''' เป็น[[สัตว์ป่าคุ้มครอง]]ใน[[ประเทศไทย]] จัดอยู่ใน[[ไฟลัม]][[สัตว์มีแกนสันหลัง]] ชั้น[[สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม]] |
|||
{{โครงสัตว์}} |
|||
ลิ่นมีเล็บที่แหลมคมและยื่นยาว ใช้สำหรับขุดพื้นดินหาอาหารและขุดโพรงเป็นที่อยู่อาศัยและพักผ่อน และปีนต้นไม้ เป็นสัตว์ที่หากินในเวลา[[กลางคืน]] |
|||
ลิ่นออกลูกเป็นตัว ครั้งละ 1-2 ตัว เมื่อแรกเกิด ลูกลิ่นจะมีเกล็ดติดตัวมาตั้งแต่เกิด และจะเกาะกับแม่ตรงบริเวณโคนหาง ซึ่งลูกลิ่นวัยอ่อนจะยังไม่มีเกล็ดแข็งเหมือนกับลิ่นวัยโต แต่จะค่อย ๆ แข็งขึ้นเรื่อย ๆ ตามการเจริญเติบโต<ref>[http://sarakade.itgo.com/animal6.html ตัวนิ่ม]</ref> |
|||
ลิ่นมีทั้งหมด 8 ชนิด (ดูในตาราง) กระจายพันธุ์ไปในทวีปแอฟริกาและเอเชีย สำหรับใน[[ประเทศไทย]]พบ 2 ชนิด คือ [[ลิ่นซุนดา]] (''M. javanica'') ที่พบได้ทั่วไปทุกภาค กับ[[ลิ่นจีน]] (''M. pentadactyla'') ที่มีรายงานการพบเพียงไม่กี่ครั้งเท่านั้น บริเวณ[[อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์]] เมื่อปี [[พ.ศ. 2483]] ซึ่งมีขนาดลำตัวที่เล็กกว่า หางสั้นกว่า และมีสีที่คล้ำกว่า<ref>[[กองทุนสัตว์ป่าโลก]], ''สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมในประเทศไทยและภูมิภาคอินโดจีน'' ([[กรุงเทพมหานคร]], [[พ.ศ. 2543]]) ISBN 974-87081-5-2</ref> |
|||
ลิ่นซุนดา ในปัจจุบัน เป็น[[สัตว์ป่า]]ที่นิยมอย่างมากในการรับประทานในหมู่ของผู้ที่นิยมรับประทานสัตว์ป่าหรือของแปลก ๆ โดยมีราคาขายสูงถึง[[กิโลกรัม]]ละ 2,000-3,000 บาท หากตัวไหนที่มี[[น้ำหนัก]]มากอาจมีราคาสูงถึง 3,500 บาท ทำให้มีการลักลอบค้าตัวลิ่นอยู่บ่อย ๆ โดยเฉพาะในพื้นที่[[ภาคใต้]] เช่น [[เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาบรรทัด]] และ[[อุทยานแห่งชาติเขาปู่-เขาย่า]] เป็นต้น |
|||
โดยผู้ที่เข้าป่าหาตัวลิ่นจะใช้[[สุนัข]]ดมกลิ่นตามล่า หากลิ่นปีนขึ้นต้นไม้ ก็จะใช้การตัดต้นไม้ต้นนั้นทิ้งเสีย โดยการค้าตัวลิ่นถือว่าเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย เพราะลิ่นไม่ว่าชนิดไหน ในประเทศไทย ถือว่าเป็น[[สัตว์ป่าคุ้มครอง]] ตาม[[พระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พุทธศักราช 2535]] และมีกฎหมายคุ้มครองระหว่างประเทศอีกด้วย ผู้กระทำผิดจะได้รับโทษปรับไม่เกิน 40,000 บาท จำคุก 4 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ <ref>บุญเลิศ ชายเกตุ, '''ตัวนิ่ม' สัตว์ป่าราคาแพง...วันนี้เสี่ยงสูญพันธุ์ นักเปิบยังนิยม'ขบวนการซื้อขาย'ไม่เข็ดขยาดกฎหมาย'' [[เดลินิวส์]] หน้า 12: [[วันศุกร์]]ที่ [[12 มกราคม]] [[พ.ศ. 2555]] ขึ้น 13 ค่ำ เดือน 2 [[ปีเถาะ]]</ref> |
|||
==อ้างอิง== |
|||
{{รายการอ้างอิง}} |
|||
{{ลิ่น}} |
{{ลิ่น}} |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 05:44, 6 มกราคม 2555
อันดับลิ่น ช่วงเวลาที่มีชีวิตอยู่: พาลีโอซีน-ปัจจุบัน | |
---|---|
ลิ่นชวา (Manis javanica) | |
การจำแนกชั้นทางวิทยาศาสตร์ | |
อาณาจักร: | Animalia |
ไฟลัม: | Chordata |
ชั้น: | Mammalia |
ชั้นฐาน: | Eutheria |
อันดับใหญ่: | Laurasiatheria |
อันดับ: | Pholidota Weber, 1904 |
วงศ์: | Manidae Gray, 1821 |
สกุล: | Manis Linnaeus, 1758 |
ชนิด | |
แผนที่แสดงการกระจายพันธุ์ |
ลิ่น หรือ นิ่ม หรือที่นิยมเรียกกันว่า ตัวลิ่ม หรือ ตัวนิ่ม (อังกฤษ: Pangolin, Pholidotes, Scaly anteater) จัดอยู่ในไฟลัมสัตว์มีแกนสันหลัง ชั้นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ที่อยู่ในอันดับ Pholidota จัดเป็นสัตว์ที่มีเพียงวงศ์เดียว คือ Manidae และสกุลเดียว คือ Manis
ลิ่นเป็นสัตว์ที่มีลักษณะคล้ายคลึงกับอาร์มาดิลโล หรือ สัตว์ที่อยู่ในอันดับ Cingulata ที่พบได้ในทวีปอเมริกาเหนือและอเมริกาใต้ ขณะที่ลิ่นจะพบได้ที่ทวีปเอเชียและแอฟริกา
ลิ่นทุกชนิดจะมีส่วนหน้าที่ยาว มีปากขนาดเล็ก มีลักษณะเป็นรูเล็ก ๆ ไม่มีฟัน กินอาหารโดยการใช้ลิ้นที่ยื่นยาวและน้ำลายที่เหนียวตวัดกินแมลงตามพื้นดิน จำพวก มดและปลวกหรือหนอนขนาดเล็ก และมีลำตัวที่ปกคลุมด้วยเกล็ดเป็นชิ้น ๆ เหมือนกับสัตว์เลื้อยคลาน ทำหน้าที่เหมือนชุดเกราะเพื่อใช้ในการป้องกันตัว เมื่อถูกรุกรานลิ่นจะลดลำตัวเป็นวงกลม ขณะที่ส่วนท้องจะไม่มีเกล็ด ซึ่งจะถูกโจมตีได้ง่าย
ลิ่นมีเล็บที่แหลมคมและยื่นยาว ใช้สำหรับขุดพื้นดินหาอาหารและขุดโพรงเป็นที่อยู่อาศัยและพักผ่อน และปีนต้นไม้ เป็นสัตว์ที่หากินในเวลากลางคืน
ลิ่นออกลูกเป็นตัว ครั้งละ 1-2 ตัว เมื่อแรกเกิด ลูกลิ่นจะมีเกล็ดติดตัวมาตั้งแต่เกิด และจะเกาะกับแม่ตรงบริเวณโคนหาง ซึ่งลูกลิ่นวัยอ่อนจะยังไม่มีเกล็ดแข็งเหมือนกับลิ่นวัยโต แต่จะค่อย ๆ แข็งขึ้นเรื่อย ๆ ตามการเจริญเติบโต[2]
ลิ่นมีทั้งหมด 8 ชนิด (ดูในตาราง) กระจายพันธุ์ไปในทวีปแอฟริกาและเอเชีย สำหรับในประเทศไทยพบ 2 ชนิด คือ ลิ่นซุนดา (M. javanica) ที่พบได้ทั่วไปทุกภาค กับลิ่นจีน (M. pentadactyla) ที่มีรายงานการพบเพียงไม่กี่ครั้งเท่านั้น บริเวณอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ เมื่อปี พ.ศ. 2483 ซึ่งมีขนาดลำตัวที่เล็กกว่า หางสั้นกว่า และมีสีที่คล้ำกว่า[3]
ลิ่นซุนดา ในปัจจุบัน เป็นสัตว์ป่าที่นิยมอย่างมากในการรับประทานในหมู่ของผู้ที่นิยมรับประทานสัตว์ป่าหรือของแปลก ๆ โดยมีราคาขายสูงถึงกิโลกรัมละ 2,000-3,000 บาท หากตัวไหนที่มีน้ำหนักมากอาจมีราคาสูงถึง 3,500 บาท ทำให้มีการลักลอบค้าตัวลิ่นอยู่บ่อย ๆ โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคใต้ เช่น เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาบรรทัด และอุทยานแห่งชาติเขาปู่-เขาย่า เป็นต้น
โดยผู้ที่เข้าป่าหาตัวลิ่นจะใช้สุนัขดมกลิ่นตามล่า หากลิ่นปีนขึ้นต้นไม้ ก็จะใช้การตัดต้นไม้ต้นนั้นทิ้งเสีย โดยการค้าตัวลิ่นถือว่าเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย เพราะลิ่นไม่ว่าชนิดไหน ในประเทศไทย ถือว่าเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง ตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พุทธศักราช 2535 และมีกฎหมายคุ้มครองระหว่างประเทศอีกด้วย ผู้กระทำผิดจะได้รับโทษปรับไม่เกิน 40,000 บาท จำคุก 4 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ [4]
อ้างอิง
- ↑ จาก ITIS.gov (อังกฤษ)
- ↑ ตัวนิ่ม
- ↑ กองทุนสัตว์ป่าโลก, สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมในประเทศไทยและภูมิภาคอินโดจีน (กรุงเทพมหานคร, พ.ศ. 2543) ISBN 974-87081-5-2
- ↑ บุญเลิศ ชายเกตุ, 'ตัวนิ่ม' สัตว์ป่าราคาแพง...วันนี้เสี่ยงสูญพันธุ์ นักเปิบยังนิยม'ขบวนการซื้อขาย'ไม่เข็ดขยาดกฎหมาย เดลินิวส์ หน้า 12: วันศุกร์ที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2555 ขึ้น 13 ค่ำ เดือน 2 ปีเถาะ