ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ภาษาเกาหลี"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
บรรทัด 82: บรรทัด 82:
|-
|-
| 1
| 1
| ฮา-นา / อิล
| ฮา-นา / อิลฮุน btob
| 하나/일
| 하나/일
|-
|-
บรรทัด 90: บรรทัด 90:
|-
|-
| 3
| 3
| เซด / ซัม
| เซด / ซัมซุงฮีโร่
| 셋/삼
| 셋/삼
|-
|-
| 4
| 4
| เนด / ซา
| เนด / ซารางเฮ
| 넷/사
| 넷/사
|-
|-
บรรทัด 102: บรรทัด 102:
|-
|-
| 6
| 6
| ยอ-ซอด / ยุ
| ยอ-ซอด / ยุกซองแจ กรี้ดๆๆ btob
| 여섯/육
| 여섯/육
|-
|-
บรรทัด 114: บรรทัด 114:
|-
|-
| 9
| 9
| อา-ฮบ / คู
| อา-ฮบ / คูน้ำ
| 아홉/구
| 아홉/구
|-
|-
| 10
| 10
| ยอล / ชิ
| ยอล / ชิบหาย
| 열/십
| 열/십
|}
|}

รุ่นแก้ไขเมื่อ 19:11, 21 มกราคม 2559

ภาษาเกาหลีเช
한국어 ฮันกุกอ, 조선말 โชซอนมัล
ประเทศที่มีการพูดเกาหลีเหนือ, เกาหลีใต้, ตะวันออกเฉียงเหนือของจีนและ ญี่ปุ่น
จำนวนผู้พูด80 ล้าน [1]  (ไม่พบวันที่)
ตระกูลภาษา
ไม่มีการจัด อาจจะเป็นตระกูลภาษาอัลไตอิก หรือ ภาษาเอกเทศ
สถานภาพทางการ
ภาษาทางการเกาหลีเหนือ และ เกาหลีใต้
ผู้วางระเบียบสถาบันภาษาเกาหลีแห่งชาติ
รหัสภาษา
ISO 639-1ko
ISO 639-2kor
ISO 639-3kor

ภาษาเกาหลี (한국어/조선말, ดูในส่วนชื่อ) เป็นภาษาที่ส่วนใหญ่พูดใน ประเทศเกาหลีใต้ และ ประเทศเกาหลีเหนือ ซึ่งใช้เป็นภาษาราชการ และมีคนชนเผ่าเกาหลีที่อาศัยอยู่ในสาธารณรัฐประชาชนจีนพูดโดยทั่วไป(ในจังหวัดเหยียนเปียน มณฑลจี๋หลิน ซึ่งมีพรมแดนติดกับเกาหลี) ทั่วโลกมีคนพูดภาษาเกาหลี 78 ล้านคน รวมถึงกลุ่มคนในอดีตสหภาพโซเวียต สหรัฐอเมริกา แคนาดา บราซิล ญี่ปุ่น และเมื่อเร็วๆ นี้ก็มีผู้พูดใน ฟิลิปปินส์ ด้วย การจัดตระกูลของภาษาเกาหลีไม่เป็นที่ยอมรับกันโดยทั่วไป แต่คนส่วนมากมักจะถือเป็นภาษาเอกเทศ นักภาษาศาสตร์บางคนได้จัดกลุ่มให้อยู่ใน ตระกูลภาษาอัลไตอิกด้วย ทั้งนี้เนื่องจากภาษาเกาหลีมีวจีวิภาคแบบภาษาคำติดต่อ ส่วนวากยสัมพันธ์หรือโครงสร้างประโยคนั้น เป็นแบบประธาน-กรรม-กริยา (SOV)

อักษรเกาหลี เรียกว่าอักษรฮันกึล ใช้แทนเสียงของแต่ละพยางค์ นอกจากนี้ใช้ยังตัวอักขระแบบจีนเรียกว่าอักษรฮันจา ในการเขียนด้วย ในขณะที่คำศัพท์ที่ใช้กันส่วนใหญ่เป็นคำภาษาเกาหลีแท้ โดยที่มีคำศัพท์มากกว่า 50% มาจากภาษาจีนทั้งทางตรงและทางอ้อม

เกี่ยวกับชื่อ

ชื่อเรียกคำว่า "ภาษาเกาหลี" ในเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้มีความแตกต่างกัน ในเกาหลีเหนือ ชาวเกาหลีเหนือส่วนใหญ่มักเรียกว่า โชซอนมัล (조선말) หรือหากเป็นทางการขึ้นจะเรียกว่า โชซอนอ (조선어)

ในเกาหลีใต้ ประชาชนส่วนใหญ่เรียกภาษาของตนว่า ฮันกุกมัล (한국말) หรือ ฮันกุกอ (한국어) หรือ กุกอ (국어) บางครั้งอาจเรียกในแบบภาษาพื้นเมืองหรือภาษาถิ่นว่า อูรีมัล (แปลว่า "ภาษาของเรา"; มาจากคำว่า 우리말 (เขียนติดกันในเกาหลีใต้),หรือ 우리 말 (เขียนแยกกันในเกาหลีเหนือ))

สำเนียงท้องถิ่น

สำเนียงท้องถิ่นภาษาเกาหลี

ภาษาเกาหลีมีสำเนียงท้องถิ่นมากมาย ภาษาทางการที่ใช้ในเกาหลีใต้คือสำเนียงท้องถิ่นที่ใช้ในพื้นที่บริเวณโซล และภาษาทางการที่ใช้ในเกาหลีเหนือคือสำเนียงท้องถิ่นที่ใช้บริเวณกรุงเปียงยาง สำเนียงท้องถิ่นโดยทั่วไปจะมีความคล้ายคลึงกัน ยกเว้นสำเนียงท้องถิ่นบนเกาะเชจูที่มีความแตกต่างค่อนข้างมาก ความแตกต่างที่สำคัญที่สุดระหว่างสำเนียงท้องถิ่นแต่ละแห่งคือ การเน้นเสียง (stress) สำเนียงท้องถิ่นของโซลจะเน้นเสียงน้อยมาก และไม่ค่อยมีความสูงต่ำในการเปล่งเสียง ในทางกลับกัน สำเนียงท้องถิ่นของ คยองซัง มีความสูงต่ำของการออกเสียงอย่างมากจนคล้ายกับภาษาทางยุโรป อย่างไรก็ตามเราสามารถจำแนกสำเนียงท้องถิ่นของภาษาเกาหลีออกเป็นภูมิภาคต่างๆได้ดังตาราง โดยพิจารณาจากขอบเขตของภูเขาและทะเล**

สำเนียงทางการ บริเวณที่ใช้
โซล โซล อินชอน เกียงกี (เกาหลีใต้) และ แคซอง (เกาหลีเหนือ)
เปียงยาง เปียงยาง ชากัง (เกาหลีเหนือ)
สำเนียงท้องถิ่น บริเวณที่ใช้
ชุงชอง แตจอน ชุงชอง (เกาหลีใต้)
กังวอน กังวอน (เกาหลีใต้)/ กังวอน (เกาหลีเหนือ)
คยองซัง บูซาน, แทกู, อุลซาน, เขตคยองซัง (เกาหลีใต้)
ฮัมกยึง ราซึน, เขตฮัมกยึง, รยังกัง (เกาหลีเหนือ)
ฮวังแฮ เขตฮังแฮ (เกาหลีเหนือ)
เชจู เกาะเชจู/จังหวัดเชจู (เกาหลีใต้)
จอลลา กวางจู, เขตจอลลา (เกาหลีใต้)

อักษรเกาหลี

ดูบทความหลักที่ อักษรฮันกึล
พยัญชนะเกาหลี 14 ตัว

อักษรเกาหลี เรียกว่าอักษรฮันกึล โดยผิวเผินแล้ว อักษรฮันกึลคล้ายกับอักษรรูปภาพเหมือนอักษรจีน แต่จริงๆ แล้ว อักษรฮันกึลอยู่ในระบบอักษรแทนเสียง (ตัวพยัญชนะเป็นอักษรรูปภาพเลียนแบบอวัยวะการออกเสียงในขณะที่ออกเสียงนั้นๆ สระเป็นอักษรรูปภาพใช้แนวคิดเชิงปรัชญา เกี่ยวกับ ท้องฟ้า พื้นดิน และมนุษย์)คือประกอบด้วยพยัญชนะและสระ ซึ่งมีทั้งหมด 24 ตัว ประกอบด้วย

  • พยัญชนะ 14 ตัว คือ ㄱ ㄴ ㄷ ㄹ ㅁ ㅂ ㅅ ㅇ ㅈ ㅊ ㅋ ㅌ ㅍ และ ㅎ
  • สระ 10 ตัว คือ ㅏ ㅑ ㅓ ㅕ ㅗ ㅛ ㅜ ㅠ ㅡ และ ㅣ

พยัญชนะและสระดังกล่าวเรียกว่า พยัญชนะเดี่ยว และสระเดี่ยว ตามลำดับ นอกจากนี้ยังมีส่วนที่เรียกว่าพยัญชนะซ้ำ และสระประสมด้วย คือ

  • พยัญชนะซ้ำ 5 ตัว ได้แก่ ㄲ ㄸ ㅃ ㅆ และ ㅉ
  • สระประสม 11 ตัว ได้แก่ ㅐ ㅒ ㅔ ㅖ ㅚ ㅟ ㅘ ㅙ ㅝ ㅞ และ ㅢ

อักษรเกาหลีมีลำดับการเขียนคล้ายอักษรจีน คือ ลากจากบนลงล่าง และจากซ้ายไปขวา นอกจากนี้การเขียนพยางค์หนึ่งๆ จะเริ่มเขียนจากพยัญชนะต้น ไปสระ และตัวสะกดตามลำดับ

เลขเกาหลี

จำนวน คำอ่าน
แบบเกาหลีแท้/แบบจีน
ภาษาเขียน
แบบเกาหลีแท้/แบบจีน
1 ฮา-นา / อิลฮุน btob 하나/일
2 ทูล / อีบ้า 둘/이
3 เซด / ซัมซุงฮีโร่ 셋/삼
4 เนด / ซารางเฮ 넷/사
5 ทา-ซอด / โอเค 다섯/오
6 ยอ-ซอด / ยุกซองแจ กรี้ดๆๆ btob 여섯/육
7 อิล-กบ / ชิล 일곱/칠
8 ยอ-ดอล / พัล 여덟/팔
9 อา-ฮบ / คูน้ำ 아홉/구
10 ยอล / ชิบหาย 열/십

การเทียบเสียง

ในภาษาเกาหลี ได้มีการกำหนดระบบในการถอดภาษาเกาหลีด้วยอักษรโรมัน ไว้ โดยเป็นที่นิยมมาก 2 ระบบ คือ ระบบกระทรวงวัฒนธรรมเกาหลี 2000 ระบบที่ใช้อย่างเป็นทางการในประเทศเกาหลีใต้ปัจจุบัน และ ระบบแมกคูน-ไรซ์ชาวเออร์ ใช้ในประเทศเกาหลีเหนืออย่างเป็นทางการในปัจจุบัน และเคยใช้ในเกาหลีใต้อย่างเป็นทางการในช่วง พ.ศ. 2527-2543

ข้อมูลการเทียบเสียงต่อไปนี้เป็นเพียงการเทียบเสียงเบื้องต้น ซึ่งอาจจะไม่ถูกต้องมากนัก พยัญชนะทุกตัวในภาษาเกาหลีมีเสียงแตกต่างกัน แต่พบว่าบางครั้งการได้ยินของคนไทยไม่สามารถแยกแยะความแตกต่างได้เหมือนคนเกาหลี เช่น คำว่า 자 กับ 차 เป็นต้น

พยัญชนะ

ฐานริมฝีปาก ฐานปุ่มเหงือก ฐานหลังปุ่มเหงือก ฐานเพดานอ่อน ฐานเส้นเสียง
เสียงกักและ
เสียงกึ่งเสียดแทรก
สิถิลเบา /p/, /b/ ป-บ /t/, /d/ ต-ด /t͡ɕ/, /d͡ʑ/ จ-จ͡ย /k/, /g/ ก-ก͡ง
สิถิลหนัก /p͈/ ป* /t͈/ ต* /t͡ɕ͈/ จ* /k͈/ ก*
ธนิต /pʰ/ /tʰ/ /t͡ɕʰ/ /kʰ/
เสียงเสียดแทรก เบา /s/หรือ/ɕ/ /h/
หนัก /s͈/หรือ/ɕ͈/ ซ*
เสียงนาสิก /m/ /n/ /ŋ/ ง (ตัวสะกด)
เสียงข้างลิ้น /l/

พยัญชนะที่กำกับดอกจันไว้หมายถึงพยัญชนะเสียงหนัก

สำหรับ ㅇ เมื่อเป็นพยัญชนะต้นแต่มีคำอื่นมาก่อน จะนำพยัญชนะสะกดของคำก่อนหน้ามาเป็นเสียงพยัญชนะต้น ดูที่ การอ่านโยงเสียง

ตัวอย่างคำศัพท์

หน่วยเสียง ตัวอย่าง ทับศัพท์ คำแปล
/p/ [pal] bal เท้า
/p͈/ 빨다 [p͈alda] ppalda ซักผ้า
/pʰ/ [pʰal] pal แขน
/m/ [mal] mal ม้า
/t/ [tal] dal พระจันทร์
/t͈/ [t͈al] ttal ลูกสาว
/tʰ/ 타다 [tʰada] tada ขี่
/n/ [nal] nal วัน
/t͡ɕ/ [t͡ɕal] jal บ่อน้ำ
/t͡ɕ͈/ 짜다 [t͡ɕ͈ada] jjada คั้น
/t͡ɕʰ/ 차다 [t͡ɕʰada] chada เตะ
/k/ 가다 [kada] gada ไป
/k͈/ 깔다 [k͈alda] kkalda กระจาย
/kʰ/ [kʰal] kal มีด
/ŋ/ [paŋ] bang ห้อง
/s/ [sal] sal เนื้อหนัง
/s͈/ [s͈al] ssal ข้าวสาร
/l/ 바람 [paɾam] baram ลม
/h/ 하다 [hada] hada ทำ

สระ

สระเสียงสั้น สระเสียงยาว
สระเกาหลีพื้นฐาน
ฐาน +อี
ฐาน /a/ a อา /ʌ/ eo ออ (ปากเหยียด) /o/ o โอ /u/ u อู /ɯ/ eu อือ /i/ i อี /ɛ/ ae แอ /e/ e เอ /ø/ oe เออ /y/ ui อวี /ɰi/ eui งึย (อึย)
ย+ /ja/ ya ยา /jʌ/ yeo ยอ (ปากเหยียด) /jo/ yo โย /ju/ yu ยู /jɛ/ yae แย /je/ ye เย
ว+ /wa/ wa วา /wʌ/ weo วอ (ปากเหยียด) /wɛ/ wae แว /we/ we เว
  • /ʌ/ eo ออกเสียง "ออ" ปากเหยียด บางตำราก็ใช้ /ə/ "เออ"
  • /ø/ oe ออกเสียง "เอ" ปากห่อ

สระเกาหลีไม่เหมือนภาษาไทยซึ่งมีเสียงสั้นเสียงยาวแยกกัน เช่น สระอิ หรือ สระอี จะรวมเป็นสระเดียว คือ /i/ แต่จะเป็นเสียงสั้นหรือเสียงยาวนั้นขึ้นอยู่กับการเน้นเสียง แม้คำที่เขียนเหมือนกันแต่อ่านด้วยเสียงที่ต่างกัน ความหมายก็อาจเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง ดังตัวอย่างต่อไปนี้

สระเสียงสั้น สระเสียงยาว
/i/ อิ 시장 (sijang [ɕiˈʥaŋ], ความหิว) /iː/ อี 시장 (sijang [ˈɕiːʥaŋ], ตลาด)
/e/ เอะ 베개 (begae [peˈɡɛ], หมอน) /eː/ เอ 베다 (beda [ˈpeːda], ตัด)
/ɛ/ แอะ 태양 (taeyang [tʰɛˈjaŋ], พระอาทิตย์) /ɛː/ แอ 태도 (taedo, [ˈtʰɛːdo], ความคิดเห็น)
/a/ อะ (mal [ˈmal], ม้า) /aː/ อา (mal [ˈmaːl], คำ, ภาษา)
/o/ โอะ 보리 (bori [poˈɾi], ข้าวบาร์เล่ย์) /oː/ โอ 보수 (bosu [ˈpoːsu], เงินเดือน)
/u/ อุ 구리 (guri [kuˈɾi], ทองแดง) /uː/ อู 수박 (subak [ˈsuːbak], แตงโม)
/ʌ/ เอาะ (beol [ˈpʌl], การลงโทษ) /əː/ เออ (beol [ˈpəːl], ผึ้ง)
/ɯ/ อึ 어른 (eoreun [ˈəːɾɯn], ผู้อาวุโส) /ɯː/ อือ 음식 (eumsik [ˈɯːmɕik], อาหาร)

^ ชาวเกาหลีส่วนใหญ่ออกเสียง /ʌː/ "ออ" (เสียงยาว) เป็น /əː/ "เออ"

ตัวสะกด

แม้พยัญชนะเกาหลีจะมีหลายตัว และแต่ละตัวเสียงแตกต่างกัน แต่เมื่อนำมาใช้เป็นตัวสะกดแล้ว จะมีทั้งหมด 7 แม่เท่านั้น ดังตาราง จะเห็นว่าคล้ายคลึงกับภาษาไทย โดยที่ต่างออกไปคือ เสียง "ล" เมื่อนำไปเป็นตัวสะกดแล้วจะไม่ใช่เสียง "น" นอกจากนี้อาจพบตัวสะกดแบบที่มีพยัญชนะสะกดสองตัว เช่น 여덟, 앉다 ฯลฯ ตัวสะกดลักษณะนี้จะเลือกออกเสียงเฉพาะตัวใดตัวหนึ่งเท่านั้น และอีกตัวจะไม่ออกเสียง เช่น 여덟 อ่านว่า /ยอ-ดอล/ ไม่ใช่ /ยอ-ดอบ/ การที่จะทราบว่าตัวสะกดคู่จะออกเสียงพยัญชนะตัวใด แสดงดังตาราง อย่างไรก็ตามมีตัวสะกดคู่บางส่วนที่ออกเสียงไม่แน่นอนขึ้นกับคำ คือ ㄺ และ ㄼ

ตัวสะกด พยัญชนะ ตัวอย่าง
กง 성 = /ซอง/
กน ㄴ ㄵ ㄶ 원 = /วอน/
กม ㅁ ㄻ 남 = /นัม/
กก ㄱ ㄲ ㅋ ㄳ 밖 = /ผัก/
กด ㄷ ㅅ ㅆ ㅈ ㅉ ㅊ ㅌ ㅎ 이것 = /อี-กอด/
กบ ㅂ ㅍ ㅄ ㄿ 십 = /ฉิบ/, 없 = /ออบ/
กล ㄹ ㄽ ㄾ ㅀ 팔 = /พัล/
ไม่แน่นอน ㄺ ㄼ 여덟 = /ยอ-ดอล/

การอ่านโยงเสียง

ในพยางค์หนึ่งๆ กรณีที่พยัญชนะต้นเป็นตัวอีอึง (ㅇ) เสียงของมันอาจไม่ใช่เสียง "อ" แต่จะเป็นเสียงของตัวสะกดในพยางค์ก่อนหน้าแทน เช่น

  • 직업 อ่านว่า /지겁/ (ชี-กอบ) ไม่ใช่ /직-업/ (ชิก-ออบ)
  • 당신은 อ่านว่า /당시는/ (ทัง-ชี-นึน) ไม่ใช่ /당-신-은/ (ทัง-ชิน-อึน)

ถ้าไม่มีคำใดมาก่อนจะออกเสียงคล้าย อ หรือถ้าคำก่อนหน้าไม่มีพยัญชนะสะกด จะออกเสียงเชื่อมสระเข้าด้วยกัน

กฎการอ่านแบบกลมกลืนเสียง*

ในพยางค์ใดที่ลงท้ายด้วยตัวสะกดและพยัญชนะต้นในพยางค์ถัดไปที่ติดกัน

เสียงของตัวสะกดจะเปลี่ยนเพื่อให้ออกเสียงได้สะดวกกลมกลืนและไม่ขัดกัน โดยจำแนกไว้เป็นกฎต่างๆดังต่อไปนี้

1. พยางค์ใดลงท้ายด้วยตัวสะกดในแม่ /ㄱ/, /ㄷ/, /ㅂ/ และพยัญชนะต้นในพยางค์ถัดไปเป็นเสียงนาสิก เสียงตัวสะกดจะเปลี่ยนเป็น /ㅇ/,/ㄴ/,/ㅁ/ ตามลำดับ เพื่อให้ออกเสียงได้สะดวกกลมกลืนและไม่ขัดกัน


ตัวอย่างเช่น

집는다 -> /짐는다/ เขียนว่า "ชิบนึนดา" แต่จะอ่านเป็น "ชิมนึนดา" เพื่อให้ออกเสียงได้สะดวกกลมกลืนและไม่ขัดกัน

받는다 -> /반는다/ เขียนว่า "พัดนึนดา" แต่จะอ่านเป็น "พันนึนดา" เพื่อให้ออกเสียงได้สะดวกกลมกลืนและไม่ขัดกัน

속는다 -> /송는다/ เขียนว่า "ซกนึนดา" แต่จะอ่านเป็น "ซงนึนดา" เพื่อให้ออกเสียงได้สะดวกกลมกลืนและไม่ขัดกัน


ที่คุ้นเคยกันดีได้แก่ ไวยากรณ์ลงท้ายประโยคอย่างสุภาพ "~습니다" ถึงแม้ว่าจะเขียนเป็น ซึ่บนิดา แต่เพื่อให้เป็นไปตามเหตุผลดังที่กล่าวไว้ข้างต้นแล้ว เราก็จะอ่านว่า ซึมนิดา

ตัวอย่างประโยคหรือวลีที่มักพบ

ประโยคเกาหลี คำอ่านไทย คำแปล
안녕하세요. อัน-นยอง-ฮา-เซ-โย สวัสดี
감사합니다./고맙습니다. คัม-ซา-ฮัม-นิ-ดะ / โค-มับ-ซึม-นิ-ดะ ขอบคุณ
사랑해. ซา-รัง-แฮ ฉันรักคุณ
실례지만. ชิล-รเย-จี-มัน ขอประทานโทษครับ
안녕히 주무세요. อัน-นยอง-ฮี๊ จู-มู-เซ-โย ราตรีสวัสดิ์
반갑습니다. พัน-กั๊บ-ซึม-นี-ดา ยินดีที่ได้รู้จัก
죄송합니다. 저 먼저 갑니다 ชเว-ซง-ฮัม-นี-ดา. ชอ-มอน-จอ-กัม-นี-ดา. ขอโทษครับ ผมไปก่อนนะครับ

ไวยากรณ์

การวางคำในประโยคภาษาเกาหลีมีลักษณะใกล้เคียงกับการเรียงในภาษาญี่ปุ่นและภาษาตุรกีรวมไปถึงภาษาในประเทศอินเดีย โดยเรียงลำดับคำในประโยคเป็น "ประธาน-กรรม-กริยา" ซึ่งแตกต่างกับประโยคในภาษาไทยที่เป็น "ประธาน-กริยา-กรรม" เช่นประโยค "ฉันกินข้าว" ในภาษาไทย จะเขียนลำดับเป็น "ฉันข้าวกิน" ในภาษาเกาหลี

ภาษาเกาหลีมีคำช่วยเพื่อบอกหน้าที่ของคำต่างๆ ในประโยค เช่น เป็นคำช่วยที่ใช้วางหลังสถานที่เพื่อระบุตำแหน่ง และ หรือ เป็นคำช่วยที่วางหลังคำเพื่อระบุว่าคำนั้นเป็นประธานของประโยค เป็นต้น นอกจากนี้ภาษาเกาหลียังมีการผันรูปกริยาหลายรูปแบบเพื่อเปลี่ยนแปลงกาลเทศะ เช่น ระดับความสุภาพและความเป็นทางการของประโยค สภาพกาลของประโยคว่าเป็นอดีต อนาคต หรือปัจจุบัน

อ้างอิง

  • Sohn, H.-M. (1999). The Korean Language. Cambridge: Cambridge University Press. ISBN 978-0-521-36943-5.
  • Song, J.J. (2005). The Korean Language: Structure, Use and Context. London: Routledge. ISBN 0-415-32802-0.

หนังสืออ่านเพิ่ม

  • Chang, Suk-jin (1996). Korean. Philadelphia: John Benjamins Publishing Company. ISBN 1556197284. (Volume 4 of the London Oriental and African Language Library).
  • Hulbert, Homer B. (1905): A Comparative Grammar of the Korean Language and the Dravidian Dialects in India. Seoul.
  • Lee, Ki-Moon Lee and S. Robert Ramsey. A History of the Korean Language (Cambridge University Press; 2011) 352 pages.
  • Martin, Samuel E. (1966): Lexical Evidence Relating Japanese to Korean. Language 42/2: 185–251.
  • Martin, Samuel E. (1990): Morphological clues to the relationship of Japanese and Korean. In: Philip Baldi (ed.): Linguistic Change and Reconstruction Methodology. Trends in Linguistics: Studies and Monographs 45: 483-509.
  • Miller, Roy Andrew (1971): Japanese and the Other Altaic Languages. Chicago: University of Chicago Press. ISBN 0-226-52719-0.
  • Miller, Roy Andrew (1996): Languages and History: Japanese, Korean and Altaic. Oslo: Institute for Comparative Research in Human Culture. ISBN 974-8299-69-4.
  • Ramstedt, G. J. (1928): Remarks on the Korean language. Mémoires de la Société Finno-Oigrienne 58.
  • Rybatzki, Volker (2003): Middle Mongol. In: Juha Janhunen (ed.) (2003): The Mongolic languages. London: Routledge. ISBN 0-7007-1133-3: 47–82.
  • Starostin, Sergei A.; Anna V. Dybo; Oleg A. Mudrak (2003): Etymological Dictionary of the Altaic Languages, 3 volumes. Leiden: Brill Academic Publishers. ISBN 90-04-13153-1.
  • Sohn, H.-M. (1999): The Korean Language. Cambridge: Cambridge University Press.
  • Sohn, Ho-Min (2006). Korean Language in Culture and Society. Boston: Twayne Publishers. ISBN 9780824826949.
  • Song, J.-J. (2005): The Korean Language: Structure, Use and Context. London: Routledge.
  • Trask, R. L. (1996): Historical linguistics. Hodder Arnold.
  • Vovin, Alexander: Koreo-Japonica. University of Hawai'i Press.
  • Whitman, John B. (1985): The Phonological Basis for the Comparison of Japanese and Korean. Unpublished Harvard University Ph.D. dissertation.

ดูเพิ่ม

แหล่งข้อมูลอื่น