ข้ามไปเนื้อหา

ผลต่างระหว่างรุ่นของ "เชฟกระทะเหล็ก ประเทศไทย"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ป้ายระบุ: แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่
u6t
บรรทัด 44: บรรทัด 44:
}}
}}


'''เชฟกระทะเหล็ก ประเทศไทย''' ({{lang-en|Iron Chef Thailand}}) เป็นรายการ[[เกมโชว์]]แข่งขัน[[การทำอาหาร]] ผลิตโดย [http://www.hgroup.co.th/heliconia/ บริษัท เฮลิโคเนีย เอช กรุ๊ป จำกัด]{{ลิงก์เสีย|date=กันยายน 2021 |bot=InternetArchiveBot |fix-attempted=yes }} (ในเครือ[http://www.hgroup.co.th เอช กรุ๊ป]) เดิมออกอากาศทุก[[วันพุธ]] เวลา 23.00 น. - 01.00 น. (25 มกราคม พ.ศ. 2555 - 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 ได้เพิ่มรายการย่อยอีกหนึ่งรายการ ชื่อว่า '''เชฟกระทะเหล็ก ศึกวันล้างตา''' ออกอากาศทุก[[วันหยุดนักขัตฤกษ์]] เวลา 09.00 น. - 10.00 น.) โดยเริ่มอากาศครั้งแรกเมื่อวันพุธที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2555 ทาง[[ช่อง 7 เอชดี|สถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7]] ตามรูปแบบของรายการ '''[[ยุทธการกระทะเหล็ก]]''' ({{lang-en|[[:en:Iron Chef|Iron Chef]]}} {{lang-ja|料理の鉄人}}) ที่ออกอากาศครั้งแรกวันที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2536 โดยได้รับลิขสิทธิ์จาก[[ฟูจิ ครีเอทีฟ คอร์ปอเรชั่น|บริษัท ฟูจิ ครีเอทีฟ คอร์ปอเรชั่น จำกัด]] ของ[[ประเทศญี่ปุ่น]] โดยได้รับลิขสิทธิ์ในการผลิตรายการนี้ในอีกหลายประเทศ และวันที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2558 ได้ย้ายเวลาออกอากาศเป็นทุก[[วันเสาร์]] เวลา 12.00 น. - 13.00 น. ทาง[[ช่อง 7 เอชดี]] จนกระทั่งวันที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2558 ได้ปรับเวลาออกอากาศเป็นทุกวันเสาร์ เวลา 11.45 - 12.45 น. และในวันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2560 ได้ขยับเวลาออกอากาศเป็น 11.45 - 13.00 น. พร้อมกับเพิ่มเวลาออกอากาศ และช่วงโรงเรียนกระทะเหล็ก ได้ย้ายมาออกอากาศทุกวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 09.00 น. - 10.00 น. โดยใช้ชื่อว่า '''เชฟกระทะเหล็ก ประเทศไทย โรงเรียนกระทะเหล็ก''' เริ่มออกอากาศเมื่อวันที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2558
'''เชฟกระทะเหล็ก ประเทศไทย''' ({{lang-en|Iron Chef Thailand}}) เป็นรายการ[[เกมโชว์]]แข่งขันบริการทางเพศ ผลิตโดย [http://www.hgroup.co.th/heliconia/ (((((((สองหี))))))))))))]{{ลิงก์เสีย|date=กันยายน 2021 |bot=InternetArchiveBot |fix-attempted=yes }} (ในเครือ[http://www.hgroup.co.th เอช กรุ๊ป]) เดิมออกอากาศทุก[[วันพุธ]] เวลา 23.00 น. - 01.00 น. (25 มกราคม พ.ศ. 2555 - 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 ได้เพิ่มรายการย่อยอีกหนึ่งรายการ ชื่อว่า

ต่อมามีการต่อยอดรายการมาเป็นรายการเรียลลิตีเต็มรูปแบบ โดยการนำ[[เชฟมืออาชีพ]]มาแข่งขันกันเพื่อค้นหาเชฟกระทะเหล็กคนใหม่ โดยใช้ชื่อว่า '''[[ศึกค้นหาเชฟกระทะเหล็ก]]''' ({{lang-en|The Next Iron Chef}})


ปัจจุบัน เนื่องจากสถานการณ์ [[การระบาดทั่วของโควิด-19 ในประเทศไทย]] ทางรายการจำเป็นจะต้องยุติการออกอากาศชั่วคราว โดยออกอากาศครั้งล่าสุด ไปเมื่อวันที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2564 ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2564 ทางรายการได้นำตอนที่ออกอากาศในปี 2564 นำมารีรันใหม่ในเวลาเดียวกัน (อาจมีของปี 2563 มาออกอากาศบ้าง) และจะออกอากาศตอนใหม่ตามปกติตั้งแต่วันที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564
ปัจจุบัน เนื่องจากสถานการณ์ [[การระบาดทั่วของโควิด-19 ในประเทศไทย]] ทางรายการจำเป็นจะต้องยุติการออกอากาศชั่วคราว โดยออกอากาศครั้งล่าสุด ไปเมื่อวันที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2564 ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2564 ทางรายการได้นำตอนที่ออกอากาศในปี 2564 นำมารีรันใหม่ในเวลาเดียวกัน (อาจมีของปี 2563 มาออกอากาศบ้าง) และจะออกอากาศตอนใหม่ตามปกติตั้งแต่วันที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564
บรรทัด 61: บรรทัด 59:


== ระยะเวลาในการออกอากาศ ==
== ระยะเวลาในการออกอากาศ ==
{| class="wikitable"
|-
! สถานีโทรทัศน์ที่ออกอากาศ
! วัน
! เวลา
! ช่วงระหว่าง
|-
| rowspan = "6" align = "center" | [[ช่อง 7 เอชดี|สถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7]]
| rowspan = "2" align = "center" | พุธ
| 23:00 - 01:00 น.
| 25 มกราคม พ.ศ. 2555 - 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2557
|-
| 23:15 - 01:15 น.
| 4 มิถุนายน พ.ศ. 2557 - 25 มีนาคม พ.ศ. 2558
|-
| rowspan = "5" align = "center" | เสาร์
| 12:00 - 13:00 น.
| 4 เมษายน พ.ศ. 2558 - 6 มิถุนายน พ.ศ. 2558
|-
| 11:45 - 12:45 น.
| 13 มิถุนายน พ.ศ. 2558 - 24 มิถุนายน พ.ศ. 2560
|-
| 11:45 - 13:00 น.
| 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2560 - 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561
|-
| rowspan = "2" align = "center" | 12:00 - 13:15 น.
| 3 มีนาคม พ.ศ. 2561 - 16 มิถุนายน พ.ศ. 2561
|-
| rowspan = "1" align = "center" | [[ช่อง 7 เอชดี|สถานีโทรทัศน์ช่อง 7 เอชดี]]
| 23 มิถุนายน พ.ศ. 2561 - ปัจจุบัน
|-
|}
== รูปแบบของรายการในอดีต (แบบที่ 1) ==
== รูปแบบของรายการในอดีต (แบบที่ 1) ==
ใช้ในวันที่ 25 มกราคม – 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555
ใช้ในวันที่ 25 มกราคม – 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555
บรรทัด 110: บรรทัด 75:
ประธานสรรหาทั้ง 3 คน จะทำการคัดสรรเชฟที่มีฝีมือจากทั่วสารทิศ มาเป็น เชฟผู้ท้าชิง พร้อมกับดารารับเชิญ 3 ท่าน หรืออาจจะมากกว่านั้น ซึ่งเชฟผู้ท้าชิงจะมาทำอาหารเมนูพิเศษตามความถนัดของตนเอง จากแบบทดสอบพิเศษ ซึ่งจะเปลี่ยนไปในแต่ละสัปดาห์ เวลาที่กำหนดในการทำอาหาร คือ 30 นาที โดยจะมีรูปแบบแบบทดสอบพิเศษต่างๆ กันไป ดังนี้
ประธานสรรหาทั้ง 3 คน จะทำการคัดสรรเชฟที่มีฝีมือจากทั่วสารทิศ มาเป็น เชฟผู้ท้าชิง พร้อมกับดารารับเชิญ 3 ท่าน หรืออาจจะมากกว่านั้น ซึ่งเชฟผู้ท้าชิงจะมาทำอาหารเมนูพิเศษตามความถนัดของตนเอง จากแบบทดสอบพิเศษ ซึ่งจะเปลี่ยนไปในแต่ละสัปดาห์ เวลาที่กำหนดในการทำอาหาร คือ 30 นาที โดยจะมีรูปแบบแบบทดสอบพิเศษต่างๆ กันไป ดังนี้
* แบบเมนูประจำตัว (Signature Dish) เชฟผู้ท้าชิง จะทำอาหารด้วยวัตถุดิบที่เชฟจัดเตรียมมาสำหรับการนำเสนอเมนูของตัวเองโดยเฉพาะ
* แบบเมนูประจำตัว (Signature Dish) เชฟผู้ท้าชิง จะทำอาหารด้วยวัตถุดิบที่เชฟจัดเตรียมมาสำหรับการนำเสนอเมนูของตัวเองโดยเฉพาะ
* สองหี
* แบบอาหารตามสั่ง (Made To Order) เชฟผู้ท้าชิง จะทำอาหารจากโจทย์วัตถุดิบหลักและโจทย์รูปแบบการทำอาหาร ในไตล์ต่างๆ อาทิเช่น ไทย, จีน, ยุโรป และอื่นๆ ที่ทางรายการกำหนดมาให้ ซึ่งเปรียบเสมือนการรับรายการจากลูกค้าในรูปแบบอาหารตามสั่ง ให้ประธานสรรหาและดารารับเชิญ 3 ท่านชิมกัน
* อี-ดอก-ทอง
* แบบ 3 วัตถุดิบปริศนา (Secret Ingredient) เชฟผู้ท้าชิง จะทำอาหารจากโจทย์วัตถุดิบปริศนา ที่ทางรายการกำหนดให้จำนวน 3 อย่าง โดยจะต้องชูรสชาติ ของวัตถุดิบลับทั้ง 3 อย่างให้ได้มากที่สุด ในบางครั้งทางรายการจะบอกวัตถุดิบปริศนามาก่อน 1 อย่าง โดยวัตถุดิบปริศนา 2 อย่างที่เหลือ จะถูกเลือกผ่านมาจาก นักช็อปปริศนา ให้ประธานสรรหาและดารารับเชิญ 3 ท่านชิมกัน
* แบบบอกคำปริศนา (Story Telling) เชฟผู้ท้าชิง จะทำอาหารจากโจทย์ปริศนา 1 ประโยคจากบุคคลพิเศษ เพื่อสื่อถึงปริศนานั้น ซึ่งเปรียบเสมือนการเล่าเรื่องราวศิลปะต่างๆ ผ่านจานอาหารนั้นๆ ให้ประธานสรรหาและดารารับเชิญ 3 ท่านชิมกัน
* แบบเครื่องมือปริศนา (Secret Equipment) เชฟผู้ท้าชิง จะทำอาหารจากโจทย์อุปกรณ์ปริศนา ที่ทางรายการกำหนดให้จำนวน 1 ชิ้น โดยเชฟผู้ท้าชิงต้องใช้อุปกรณ์ปริศนานั้น เป็นอุปกรณ์หลักในการทำอาหาร ให้ประธานสรรหาและดารารับเชิญ 3 ท่านชิมกัน
* แบบนักชิมปริศนา (Mystery Judges) เชฟผู้ท้าชิง จะต้องทำอาหารจานพิเศษ สำหรับกลุ่มนักชิมปริศนา โดยตอบโจทย์ความต้องการของนักชิมปริศนา ให้เสร็จทันเวลาที่กำหนดและครบตามจำนวนนักชิม


===== ช่วงเชฟกระทะเหล็ก =====
===== ช่วงเชฟกระทะเหล็ก =====
บรรทัด 141: บรรทัด 103:


===== ช่วงเชฟกระทะเหล็ก =====
===== ช่วงเชฟกระทะเหล็ก =====
เชฟผู้ท้าujyt5teuje6yhu 65 u6
เชฟผู้ท้าชิงจะต้องแข่งขันทำอาหารกับเชฟกระทะเหล็กประจำรายการ โดยผู้ท้าชิงมีสิทธิ์เลือกว่าต้องการอยากประลองยุทธ์กับเชฟกระทะเหล็กท่านใด (เชฟกระทะเหล็ก อาหารไทย, เชฟกระทะเหล็ก อาหารญี่ปุ่น, เชฟกระทะเหล็ก อาหารตะวันตก แนวอินโนเวทีฟ, เชฟกระทะเหล็ก อาหารจีนร่วมสมัย, เชฟกระะทะเหล็ก อาหารหวาน, เชฟกระทะเหล็ก อาหารเอเชี่ยนทวิสต์คิวชีน และเชฟกระทะเหล็ก อาหารยุโรป) โดยทั้งสองฝ่ายจะมีวัตถุดิบหลักและจะมีเวลาในการแข่งขัน 60 นาที เป็นตัวกำหนดสำหรับการแข่งขัน โดยภายใน 20 นาทีแรกนั้น เชฟทั้งสองฝ่ายจะต้องทำอาหาร 1 เมนู ให้เสร็จเรียบร้อย พร้อมเสิร์ฟด้วยตนเองให้กับคณะกรรมการได้ชิมกันจานต่อจาน โดยคณะกรรมการ 3 คน จะทำการชิมพร้อมกับแสดงความคิดเห็นและให้คะแนนกันแบบระบบเวลาจริงเลย มีคะแนนส่วนนี้ให้คนละ 5 คะแนน ถ้าทำไม่ทัน คะแนนส่วนนี้จะเป็น 0 คะแนนโดยทันที จากนั้นอีก 40 นาทีที่เหลือเชฟทั้งสองฝ่าย ต้องรังสรรค์อย่างน้อย 4 เมนูให้เสร็จทันเวลา


===== การตัดสิน =====
คณะกรรมการ 3 คน จะทำการชิมอาหารและแสดงความคิดเห็นให้กับเชฟทั้งสองฝ่าย จากนั้นคณะกรรมการ 3 คน จะทำการให้คะแนน โดยจะพิจารณาจากคะแนนด้านจานแรกคนละ 5 คะแนน, รสชาติความอร่อยคนละ 10 คะแนน, ด้านความสวยงามและความคิดสร้างสรรค์คนละ 5 คะแนน และด้านความสามารถในการดึงรสชาติของวัตถุดิบหลักคนละ 5 คะแนน รวม 75 คะแนน
คณะกรรมการ 3 คน จะทำการชิมอาหารและแสดงความคิดเห็นให้กับเชฟทั้งสองฝ่าย จากนั้นคณะกรรมการ 3 คน จะทำการให้คะแนน โดยจะพิจารณาจากคะแนนด้านจานแรกคนละ 5 คะแนน, รสชาติความอร่อยคนละ 10 คะแนน, ด้านความสวยงามและความคิดสร้างสรรค์คนละ 5 คะแนน และด้านความสามารถในการดึงรสชาติของวัตถุดิบหลักคนละ 5 คะแนน รวม 75 คะแนน



รุ่นแก้ไขเมื่อ 15:22, 25 มีนาคม 2565

เชฟกระทะเหล็ก ประเทศไทย
ประเภทเกมโชว์แข่งขันการทำอาหาร
สร้างโดยบริษัท ฟูจิ ครีเอทีฟ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (ประเทศญี่ปุ่น)
พัฒนาโดยบริษัท เฮลิโคเนีย เอช กรุ๊ป จำกัด (ในเครือเอช กรุ๊ป)
เสนอโดยประธานสถาบัน
สันติ เศวตวิมล (25 มกราคม พ.ศ. 2555 - 21 มีนาคม พ.ศ. 2563 )
ประธานสรรหาผู้ท้าชิง
จำนงค์ นิรังสรรค์
หม่อมหลวงภาสันต์ สวัสดิวัตน์
เมทนี บุรณศิริ
พิธีกร
ชาคริต แย้มนาม (25 มกราคม พ.ศ. 2555 - 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560)
นภัสรัญชน์ มิตรธีรโรจน์ (11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560 - ปัจจุบัน)
ศกุนตลา เทียนไพโรจน์ (11 พฤศจิกายน พ.ศ 2560 - 20 ตุลาคม พ.ศ. 2561)
ไดอาน่า จงจินตนาการ
(2 มิถุนายน พ.ศ. 2561[1] และ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2561 - ปัจจุบัน)
พิธีกรภาคสนาม
ณัฐพงษ์ สมรรคเสวี
ชัชชัย จำเนียรกุล
ไดอาน่า จงจินตนาการ
แสดงนำเชฟกระทะเหล็ก
พงศ์ธวัช เฉลิมกิตติชัย (เชฟเอียน)
ธนรักษ์ ชูโต (เชฟป้อม)
บุญธรรม ภาคโพธิ์ (เชฟบุญธรรม)
ธนัญญา วิลคินซัน (เชฟไก่)
ประสพโชค ตระกูลแพทย์ (เชฟอาร์ท)
ณัฐวุฒิ ธรรมพันธุ์ (เชฟอ๊อฟ)
พฤกษ์ สัมพันธวรบุตร (เชฟพฤกษ์)
ธีรภัทร ตียาสุนทรานนท์( เชฟอาร์)
เสียงของณัฐพงษ์ สมรรคเสวี
ประเทศแหล่งกำเนิดไทย ไทย
ภาษาต้นฉบับไทย
จำนวนฤดูกาล9
จำนวนตอน231 (รายชื่อตอน)
การผลิต
กล้องMulti-camera
ความยาวตอน1 ชั่วโมง 15 นาที
ออกอากาศ
เครือข่ายช่อง 7 เอชดี
ออกอากาศ25 มกราคม พ.ศ. 2555 –
ปัจจุบัน
การแสดงที่เกี่ยวข้อง
ยุทธการกระทะเหล็ก
เชฟกระทะเหล็ก ศึกวันล้างตา
เชฟกระทะเหล็ก ประเทศไทย โรงเรียนกระทะเหล็ก
เชฟกระทะเด็ก เชฟกระทะเหล็ก ประเทศไทย
สุดยอดเซเลบริตี้เชฟ เชฟกระทะเหล็ก ประเทศไทย
ศึกค้นหาเชฟกระทะเหล็ก

เชฟกระทะเหล็ก ประเทศไทย (อังกฤษ: Iron Chef Thailand) เป็นรายการเกมโชว์แข่งขันบริการทางเพศ ผลิตโดย (((((((สองหี))))))))))))[ลิงก์เสีย] (ในเครือเอช กรุ๊ป) เดิมออกอากาศทุกวันพุธ เวลา 23.00 น. - 01.00 น. (25 มกราคม พ.ศ. 2555 - 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 ได้เพิ่มรายการย่อยอีกหนึ่งรายการ ชื่อว่า

ปัจจุบัน เนื่องจากสถานการณ์ การระบาดทั่วของโควิด-19 ในประเทศไทย ทางรายการจำเป็นจะต้องยุติการออกอากาศชั่วคราว โดยออกอากาศครั้งล่าสุด ไปเมื่อวันที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2564 ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2564 ทางรายการได้นำตอนที่ออกอากาศในปี 2564 นำมารีรันใหม่ในเวลาเดียวกัน (อาจมีของปี 2563 มาออกอากาศบ้าง) และจะออกอากาศตอนใหม่ตามปกติตั้งแต่วันที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564

พิธีกร

รายการเชฟกระทะเหล็ก ประเทศไทย ได้มีการปรับเปลี่ยนพิธีกรมาหลายต่อหลายรุ่น ดังนี้

ผู้ดำเนินรายการปัจจุบัน

ผู้ดำเนินรายการอดีต

ระยะเวลาในการออกอากาศ

รูปแบบของรายการในอดีต (แบบที่ 1)

ใช้ในวันที่ 25 มกราคม – 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

ช่วงประลองยุทธ์

3 ผู้เข้าแข่งขันที่ได้รับการคัดเลือกจากประธานสรรหาทั้ง 3 ท่าน จะต้องทำการประลองยุทธ์กับทีม เชฟกระทะแหลก (ดารารับเชิญ 6 ท่าน) ซึ่งภายหลังได้เปลี่ยนมาเป็นแสดงภาพผู้เข้าแข่งขันทั้ง 3 ท่าน เวลาแข่งขัน โดยตัดภาพทีม เชฟกระทะแหลก ออกไป เนื่องจากมีผู้ชมจำนวนมากไม่พอใจเกี่ยวกับท่าทางในการทำอาหารด้าน เชฟกระทะแหลก ผู้เข้าแข่งขันจะได้รับวัตถุดิบหลักในการทำอาหารคนละ 1 อย่างตามจำนวนที่จำกัดไว้ โดยทำการจับฉลากล่วงหน้า ซึ่งผู้เข้าแข่งขัน ก็ไม่สามารถทราบว่า ได้วัตถุดิบคืออะไร และจะทำอย่างไร ให้วัตถุดิบปริศนาถูกแปลงสภาพมาเป็นอาหารชั้นเลิศตามเวลาที่กำหนดให้ (เวลาที่กำหนดในการแข่งขัน คือ 15 นาที)

ช่วงนักชิมปริศนา

3 ผู้เข้าแข่งขัน จะได้รับโจทย์การทำอาหาร ให้กลุ่มผู้ชิมที่แตกต่างกันออกไปในแต่ละสัปดาห์ ยกตัวอย่างเช่น “ทำอาหารแคลลอร์รี่ต่ำ” ให้สาวงาม 20 คน หรือ นักมวย 30 คน เป็นต้น ผู้แข่งขันเพียง 1 คน จะได้รับการคัดเลือกเข้าไปเป็น ผู้ท้าชิง กับ เชฟกระทะเหล็กประเทศไทย (เวลาที่กำหนดในการแข่งขัน คือ 20 นาที)

ช่วงเชฟกระทะเหล็ก

เชฟผู้ท้าชิงจะต้องแข่งขันทำอาหารกับเชฟกระทะเหล็กประจำรายการ โดยผู้ท้าชิงมีสิทธิ์เลือกว่าต้องการอยากประลองยุทธ์กับเชฟกระทะเหล็กท่านใด (เชฟกระทะเหล็ก อาหารไทย, เชฟกระทะเหล็ก อาหารญี่ปุ่น, เชฟกระทะเหล็ก อาหารตะวันตก และ เชฟกระทะเหล็ก อาหารจีน) โดยทั้งสองฝ่ายจะมีวัตถุดิบหลักและเวลาเป็นตัวกำหนดสำหรับการแข่งขัน (เวลาที่กำหนดในการแข่งขัน คือ 60 นาที) มีการนำเสนอ, การแสดงความคิดเห็น และการตัดสิน หลังผู้ท้าชิงและเชฟกระทะเหล็ก ทำอาหารเสร็จเรียบร้อย จะต้องนำเสนออาหารของตัวเองต่อกรรมการก่อนชิม จากนั้นคณะกรรมการจะทำการแสดงความคิดเห็น พร้อมตัดสินว่า...อาหารจานใดระหว่าง เชฟผู้ท้าชิง หรือ เชฟกระทะเหล็ก จะมีรสชาติชนะใจกรรมการ ในกรณีที่ผลการแข่งขันเสมอกัน จะมีการแข่งขันแบบต่อเวลาพิเศษอีก 30 นาที โดยเชฟทั้งสองฝ่ายจะต้องทำอาหารเพิ่มขึ้นอีก 1 เมนู โดยใช้วัตถุดิบพิเศษที่รายการกำหนดไว้ให้

รูปแบบของรายการในอดีต (แบบที่ 2)

ช่วงสรรหาผู้ท้าชิงและเมนูพิเศษเฉพาะตัว

ประธานสรรหาทั้ง 3 คน จะทำการคัดสรรเชฟที่มีฝีมือจากทั่วสารทิศ มาเป็น เชฟผู้ท้าชิง พร้อมกับดารารับเชิญ 3 ท่าน หรืออาจจะมากกว่านั้น ซึ่งเชฟผู้ท้าชิงจะมาทำอาหารเมนูพิเศษตามความถนัดของตนเอง จากแบบทดสอบพิเศษ ซึ่งจะเปลี่ยนไปในแต่ละสัปดาห์ เวลาที่กำหนดในการทำอาหาร คือ 30 นาที โดยจะมีรูปแบบแบบทดสอบพิเศษต่างๆ กันไป ดังนี้

  • แบบเมนูประจำตัว (Signature Dish) เชฟผู้ท้าชิง จะทำอาหารด้วยวัตถุดิบที่เชฟจัดเตรียมมาสำหรับการนำเสนอเมนูของตัวเองโดยเฉพาะ
  • สองหี
  • อี-ดอก-ทอง
ช่วงเชฟกระทะเหล็ก

เชฟผู้ท้าชิงจะต้องแข่งขันทำอาหารกับเชฟกระทะเหล็กประจำรายการ โดยผู้ท้าชิงมีสิทธิ์เลือกว่าต้องการอยากประลองยุทธ์กับเชฟกระทะเหล็กท่านใด (เชฟกระทะเหล็ก อาหารไทย, เชฟกระทะเหล็ก อาหารญี่ปุ่น, เชฟกระทะเหล็ก อาหารตะวันตก และ เชฟกระทะเหล็ก อาหารจีน) โดยทั้งสองฝ่ายจะมีวัตถุดิบหลักและเวลาเป็นตัวกำหนดสำหรับการแข่งขัน (เวลาที่กำหนดในการแข่งขัน คือ 60 นาที) มีการนำเสนอ, การแสดงความคิดเห็น และการตัดสิน หลังผู้ท้าชิงและเชฟกระทะเหล็ก ทำอาหารเสร็จเรียบร้อย จะต้องนำเสนออาหารของตัวเองต่อกรรมการก่อนชิม จากนั้นคณะกรรมการจะทำการแสดงความคิดเห็น พร้อมตัดสินว่า...อาหารจานใดระหว่าง เชฟผู้ท้าชิง หรือ เชฟกระทะเหล็ก จะมีรสชาติชนะใจกรรมการ ในกรณีที่ผลการแข่งขันเสมอกัน จะมีการแข่งขันแบบต่อเวลาพิเศษอีก 30 นาที โดยเชฟทั้งสองฝ่ายจะต้องทำอาหารเพิ่มขึ้นอีก 1 เมนู โดยใช้วัตถุดิบพิเศษที่รายการกำหนดไว้ให้

ช่วงโรงเรียนกระทะเหล็ก

เชฟกระทะเหล็ก จะมาสาธิตการทำอาหารให้แก่ดารารับเชิญและผู้ชมทางบ้านที่สมัครเข้ารวมรายการ รวม 6 ท่าน หรืออาจจะมากกว่านั้น และทุกวันพุธสุดท้ายของแต่ละเดือน เชฟผู้ท้าชิงที่เคยแข่งขันในรายการ จะมาสาธิตการทำอาหารแทนเชฟกระทะเหล็ก หลังจากนั้นจะเลือกผู้ร่วมรายการ 2 ท่าน มาทำอาหารตามเชฟกระทะเหล็กหรือเชฟผู้ท้าชิงที่เคยแข่งขันในรายการ ซึ่งผู้ร่วมรายการที่เหลือ 4 คน จะทำการชิมและให้คะแนนว่าอาหารที่คนไหนทำ อร่อยกว่ากัน คนที่ได้คะแนนมากกว่า จะได้เป็น นักเรียนดีเด่น และได้รับประกาศนียบัตรเป็นของที่ระลึก

รูปแบบของรายการในอดีต (แบบที่ 3)

ประชันวัตถุดิบ

จะมีวัตถุดิบ 2 ชนิดออกมาให้ได้ชมกัน โดยหนึ่งในนั้นจะเป็นวัตถุดิบหลักที่ใช้แข่งในวันนั้นจริงๆ หรือบางครั้งอาจจะไม่เกี่ยวกับวัตถุดิบเลย แต่จะเป็นการทำอาหารให้แขกรับเชิญได้รับประทานกัน โดยจะมี เชฟประสพโชค ตระกูลแพทย์ (เชฟอาร์ต) , เชฟบรรณ บริบูรณ์ (เชฟอิ๊ค) , เชฟธัชพล ชุมดวง (เชฟตูน) สลับเปลี่ยนหมุนเวียนกันมา สัปดาห์ละ 2 คนเพื่อเป็นตัวแทนและนำเสนอวัตถุดิบอย่างละฝ่าย พร้อมทั้งทำอาหารจากวัตถุดิบนั้นๆ ให้กับแขกรับเชิญได้รับประทานด้วย

ช่วงเชฟกระทะเหล็ก

เชฟผู้ท้าชิงจะต้องแข่งขันทำอาหารกับเชฟกระทะเหล็กประจำรายการ โดยผู้ท้าชิงมีสิทธิ์เลือกว่าต้องการอยากประลองยุทธ์กับเชฟกระทะเหล็กท่านใด (เชฟกระทะเหล็ก อาหารไทย, เชฟกระทะเหล็ก อาหารญี่ปุ่น, เชฟกระทะเหล็ก อาหารตะวันตก และ เชฟกระทะเหล็ก อาหารจีน) โดยทั้งสองฝ่ายจะมีวัตถุดิบหลักและเวลาเป็นตัวกำหนดสำหรับการแข่งขัน (เวลาที่กำหนดในการแข่งขัน คือ 60 นาที) มีการนำเสนอ, การแสดงความคิดเห็น และการตัดสิน หลังผู้ท้าชิงและเชฟกระทะเหล็ก ทำอาหารเสร็จเรียบร้อย จะต้องนำเสนออาหารของตัวเองต่อกรรมการก่อนชิม จากนั้นคณะกรรมการจะทำการแสดงความคิดเห็น พร้อมตัดสินว่า...อาหารจานใดระหว่าง เชฟผู้ท้าชิง หรือ เชฟกระทะเหล็ก จะมีรสชาติชนะใจกรรมการ ในกรณีที่ผลการแข่งขันเสมอกัน อาจจะมีการแข่งขันแบบต่อเวลาพิเศษอีก 30 นาที โดยเชฟทั้งสองฝ่ายจะต้องทำอาหารเพิ่มขึ้นอีก 1 เมนู โดยใช้วัตถุดิบพิเศษที่รายการกำหนดไว้ให้ หรืออาจจะไม่มีการต่อเวลา และคงผลเสมอไว้เช่นเดิม

รูปแบบของรายการในอดีต (แบบที่ 4)

ช่วงเชฟกระทะเหล็ก

รูปแบบจะคล้ายคลึงกับ เชฟกระทะเหล็ก ประเทศสหรัฐอเมริกา (อังกฤษ: Iron Chef America) ซึ่งเชฟทั้งสองฝ่ายจะมีเวลาในการแข่งขัน 60 นาที เหมือนเดิม โดยภายใน 20 นาทีแรกนั้น เชฟทั้งสองฝ่ายจะต้องทำอาหาร 1 เมนู ให้เสร็จเรียบร้อย พร้อมเสิร์ฟด้วยตนเองให้กับคณะกรรมการได้ชิมกันจานต่อจาน โดยคณะกรรมการ 3 คน จะทำการชิมพร้อมกับแสดงความคิดเห็นและให้คะแนนกันแบบระบบเวลาจริงเลย มีคะแนนส่วนนี้ให้ 5 คะแนน ถ้าทำไม่ทัน คะแนนส่วนนี้จะเป็น 0 คะแนนโดยทันที จากนั้นอีก 40 นาทีที่เหลือเชฟทั้งสองฝ่าย ต้องรังสรรค์อย่างน้อย 4 เมนูให้เสร็จทันเวลา ที่มากไปกว่านั้นเพื่อเพิ่มความท้าทายและความกดดันให้กับเชฟทั้งสองฝ่าย ท่านประธานสันติได้เพิ่ม โจทย์พิเศษ (Culinary Curve Ball) ที่สามารถเป็นได้ทั้งวัตถุดิบหรืออุปกรณ์เสริม ซึ่งเชฟทั้งสองฝ่าย ต้องใช้โจทย์พิเศษนี้เป็นองค์ประกอบในเมนูใดเมนูหนึ่งให้ได้นั้นเอง ซึ่งเราจะได้ประหลาดใจไปกับวิธีการแก้ไขสถานการณ์เฉพาะหน้าของเชฟแต่ละท่าน แถมยังได้เห็นถึงจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์ของพวกเขา มีคะแนนส่วนนี้ให้ 5 คะแนน และคณะกรรมการ 3 คน ทำการให้คะแนน โดยจะพิจารณาจากคะแนนด้านรสชาติความอร่อย 10 คะแนน, ด้านความสวยงามและความคิดสร้างสรรค์ 5 คะแนน และด้านความสามารถในการดึงรสชาติของวัตถุดิบหลัก 5 คะแนน

ช่วงโรงเรียนกระทะเหล็ก

เชฟกระทะเหล็ก จะมาสาธิตการทำอาหารให้แก่ดารารับเชิญและผู้ชมทางบ้านที่สมัครเข้ารวมรายการ รวม 6 ท่าน หรืออาจจะมากกว่านั้น และทุกวันพุธสุดท้ายของแต่ละเดือน เชฟผู้ท้าชิงที่เคยแข่งขันในรายการ จะมาสาธิตการทำอาหารแทนเชฟกระทะเหล็ก หลังจากนั้นจะเลือกผู้ร่วมรายการ 2 ท่าน มาทำอาหารตามเชฟกระทะเหล็กหรือเชฟผู้ท้าชิงที่เคยแข่งขันในรายการ ซึ่งผู้ร่วมรายการที่เหลือ 4 คน จะทำการชิมและให้คะแนนว่าอาหารที่คนไหนทำ อร่อยกว่ากัน คนที่ได้คะแนนมากกว่า จะได้เป็น นักเรียนดีเด่น และได้รับประกาศนียบัตรเป็นของที่ระลึก

รูปแบบของรายการในอดีต (แบบที่ 5)

ช่วงเชฟกระทะเหล็ก

เชฟผู้ท้าujyt5teuje6yhu 65 u6

คณะกรรมการ 3 คน จะทำการชิมอาหารและแสดงความคิดเห็นให้กับเชฟทั้งสองฝ่าย จากนั้นคณะกรรมการ 3 คน จะทำการให้คะแนน โดยจะพิจารณาจากคะแนนด้านจานแรกคนละ 5 คะแนน, รสชาติความอร่อยคนละ 10 คะแนน, ด้านความสวยงามและความคิดสร้างสรรค์คนละ 5 คะแนน และด้านความสามารถในการดึงรสชาติของวัตถุดิบหลักคนละ 5 คะแนน รวม 75 คะแนน

รูปแบบของรายการในอดีต (แบบที่ 6)

ใช้ในวันที่ 8 กรกฎาคม – 9 กันยายน พ.ศ. 2560

ช่วง World Ingredient ภารกิจตามล่าวัตถุดิบสุดขอบโลก

ในช่วงนี้ จะมีลักษณะคล้ายกับช่วงประชันวัตถุดิบในรูปแบบที่ 3 แต่จะเป็นการให้พิธีกรร่วม 2 ท่านคือ เบญจพล เชยอรุณ (กอล์ฟ) และ ชล วจนานนท์ (ชลลี่) มานำเสนอวัตถุดิบที่จะให้ประธานสันติเป็นผู้คัดเลือก เพื่อนำมาใช้ในการแข่งขัน และผู้ชมทางบ้านจะสามารถร่วมสนุกว่าประธานสันติจะเลือกวัตถุดิบชนิดใด เพื่อชิงบัตรกำนัลมูลค่า 10,000 บาท

ช่วงเชฟกระทะเหล็ก

เชฟผู้ท้าชิงจะต้องแข่งขันทำอาหารกับเชฟกระทะเหล็กประจำรายการ โดยผู้ท้าชิงมีสิทธิ์เลือกว่าต้องการอยากประลองยุทธ์กับเชฟกระทะเหล็กท่านใด (เชฟกระทะเหล็ก อาหารไทย, เชฟกระทะเหล็ก อาหารญี่ปุ่น, เชฟกระทะเหล็ก อาหารตะวันตก แนวอินโนเวทีฟ, เชฟกระทะเหล็ก อาหารจีนร่วมสมัย, เชฟกระะทะเหล็ก อาหารหวาน, เชฟกระทะเหล็ก อาหารเอเชี่ยนทวิสต์คิวชีน และเชฟกระทะเหล็ก อาหารยุโรป) โดยทั้งสองฝ่ายจะมีวัตถุดิบหลักและจะมีเวลาในการแข่งขัน 60 นาที เป็นตัวกำหนดสำหรับการแข่งขัน โดยภายใน 20 นาทีแรกนั้น เชฟทั้งสองฝ่ายจะต้องทำอาหาร 1 เมนู ให้เสร็จเรียบร้อย พร้อมเสิร์ฟด้วยตนเองให้กับคณะกรรมการได้ชิมกันจานต่อจาน จากนั้นอีก 40 นาทีที่เหลือเชฟทั้งสองฝ่าย ต้องรังสรรค์อย่างน้อย 4 เมนูให้เสร็จทันเวลา

การตัดสิน

คณะกรรมการ 3 คน จะทำการชิมอาหารและแสดงความคิดเห็นให้กับเชฟทั้งสองฝ่าย จากนั้นคณะกรรมการ 3 คน จะทำการให้คะแนน โดยจะพิจารณาจากคะแนนด้านจานแรกคนละ 5 คะแนน, รสชาติความอร่อยคนละ 10 คะแนน, ด้านความสวยงามและความคิดสร้างสรรค์คนละ 5 คะแนน และด้านความสามารถในการดึงรสชาติของวัตถุดิบหลักคนละ 5 คะแนน รวม 75 คะแนน

รูปแบบของรายการในปัจจุบัน (แบบที่ 7)

ใช้ในวันที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560 – ปัจจุบัน

ช่วงเชฟกระทะเหล็ก

เชฟผู้ท้าชิงจะต้องแข่งขันทำอาหารกับเชฟกระทะเหล็กประจำรายการ โดยผู้ท้าชิงมีสิทธิ์เลือกว่าต้องการอยากประลองยุทธ์กับเชฟกระทะเหล็กท่านใด (เชฟกระทะเหล็ก อาหารญี่ปุ่น, เชฟกระทะเหล็ก อาหารตะวันตก แนวอินโนเวทีฟ, เชฟกระทะเหล็ก อาหารจีนร่วมสมัย, เชฟกระะทะเหล็ก อาหารหวาน, เชฟกระทะเหล็ก อาหารเอเชี่ยนแนวผสมผสาน, เชฟกระทะเหล็ก อาหารตะวันตกแนวผสมผสาน และเชฟกระทะเหล็ก อาหารตะวันตกร่วมสมัย) โดยทั้งสองฝ่ายจะมีวัตถุดิบหลักและจะมีเวลาในการแข่งขัน 60 นาที เป็นตัวกำหนดสำหรับการแข่งขัน เชฟทั้งสองฝ่ายจะต้องรังสรรค์ 5 เมนู ให้เสร็จทันเวลา จากนั้นเมื่อผ่านไป 45 นาที จะมีวัตถุดิบปริศนา (Culinary Curve Ball) ซึ่งเชฟทั้งสองฝ่ายจะต้องนำวัตถุดิบปริศนามาใช้ทำอาหารเป็นวัตถุดิบหลักในเมนูสุดท้ายจาก 5 เมนู (มีเพียงเทปวันที่ 11 และ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560 ที่ใช้กติกาจากรูปแบบรายการแบบที่ 4 คือเชฟทั้งสองฝ่ายจะต้องนำวัตถุดิบปริศนานำมาประกอบการรังสรรค์อย่างน้อย 1 เมนูจาก 5 เมนู)

การตัดสิน

จะมีคณะกรรมการ 3 และ 4 คน จะทำการให้คะแนน ซึ่งเกณฑ์การตัดสินคะแนนจะพิจารณาด้านความอร่อย 50 คะแนน, ความคิดสร้างสรรค์เมนู 25 คะแนน, ความคิดสร้างสรรค์ตกแต่งจาน 25 คะแนน และการชูวัตถุดิบหลัก 50 คะแนน รวม 150 คะแนน (ในช่วงวันที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560 - 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2561 จะใช้เกณฑ์การตัดสินจะพิจารณาด้านความอร่อย 10 คะแนน, ความคิดสร้างสรรค์และตกแต่งจาน 5 คะแนน, การชูวัตถุดิบหลัก 5 คะแนน และวัตถุดิบปริศนา 5 คะแนน (ในเทปวันที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2561 ซึ่งจะมีคะแนนพิเศษซึ่งก็คือ โจทย์พิเศษ 2 อีกคนละ 5))

รูปแบบที่ 1 Blind Tasting

ในรูปแบบ Blind Tasting คณะกรรมการจะไม่ทราบมาก่อนว่าเมนูอาหารแต่ละจานที่จะได้รับประทานนั้นเป็นของเชฟท่านใด เพื่อป้องกันปัญหาการล็อกผล โดยกรรมการทั้งสี่จะเก็บตัวในระหว่างที่เชฟทั้งสองทำการรังสรรค์เมนู และเมื่อเข้าสู่ช่วงการตัดสิน เชฟทั้งสองจะถูกนำไปเก็บตัวและดูการตัดสินผ่านทางจอมอนิเตอร์ และอาหารของเชฟทั้งสองจะถูกเสิร์ฟให้แก่คณะกรรมการทำการตัดสิน โดยคณะกรรมการจะทำการตัดสินหน้าเวทีของ Kitchen Stadium (ในวันที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560 – 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563) ต่อมาเปลี่ยนเป็นห้อง Bidding Battle ของ ศึกค้นหาเชฟกระทะเหล็ก (28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564 - ปัจจุบัน) โดยจะใช้อักษรย่อว่าเป็นเชฟ A หรือ B ในการแทนตัวเชฟผู้ท้าชิงและเชฟกระทะเหล็ก เริ่มใช้ในวันที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560 – 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563 และ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564 - ปัจจุบัน

รูปแบบที่ 2 เปิดเผย

ในรูปแบบเปิดเผย จะให้ทั้งเชฟกระทะเหล็กและเชฟผู้ท้าชิงเข้าไปในห้อง Bidding Battle ของ ศึกค้นหาเชฟกระทะเหล็ก โดยจะมีคณะกรรมการมานั่งชิมอาหารของเชฟกระทะเหล็กและเชฟผู้ท้าชิงพร้อมกัน โดยมีการเปิดเผยหน้าเชฟกระทะเหล็กและเชฟผู้ท้าชิงแบบให้เห็นแบบต่อหน้าต่อตา แต่จะยังมีการวิจารณ์คล้าย ๆ กับรูปแบบ Blind Tasting เริ่มใช้ในวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2563 – 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564

เชฟกระทะเหล็ก

รายชื่อเชฟกระทะเหล็กที่ปรากฏในรายการ ซึ่งแสดงสถิติการแข่งขันผลชนะ เสมอ แพ้ ของเชฟกระทะเหล็กแต่ละคน โดยกล่องสีจะแทนแถบสีของชุดเชฟกระทะเหล็ก

เชฟกระทะเหล็ก ความเชี่ยวชาญด้านอาหาร ชนะ เสมอ แพ้ ทั้งหมด % ชนะ สถานะ
  ชัยเทพ ภัทรพรไพศาล เชฟกระทะเหล็ก อาหารจีน (I) 1 0 1 2 50.0%
  พงษ์ธวัช เฉลิมกิตติชัย เชฟกระทะเหล็ก อาหารตะวันตก แนวอินโนเวทีฟ 59 4 9 72 84.3%
  บุญธรรม ภาคโพธิ์ เชฟกระทะเหล็ก อาหารญี่ปุ่น 42 4 15 61 73.8%
  ชุมพล แจ้งไพร เชฟกระทะเหล็ก อาหารไทย 45 4 5 54 87.0%
  เฮง ชุง ไล เชฟกระทะเหล็ก อาหารจีน (II) 1 1 5 7 21.4%
  ธนรักษ์ ชูโต เชฟกระทะเหล็ก อาหารจีนร่วมสมัย 57 4 6 67 88.1%
  ธนัญญา วิลคินซัน เชฟกระทะเหล็ก อาหารหวาน 41 3 30 74 56.8%
  ธนินธร จันทรวรรณ เชฟกระทะเหล็ก อาหารโมเดิร์น แนวอิตาเลี่ยน 6 2 4 12 58.3%
  ประสพโชค ตระกูลแพทย์ เชฟกระทะเหล็ก อาหารเอเชี่ยน แนวผสมผสาน 40 0 13 53 75.5%
  ธรรมศักดิ์ ชูทอง เชฟกระทะเหล็ก อาหารยุโรป 5 0 3 8 62.5%
  ณัฐวุฒิ ธรรมพันธุ์ เชฟกระทะเหล็ก อาหารตะวันตก แนวผสมผสาน 8 0 5 13 61.5%
  พฤกษ์ สัมพันธวรบุตร เชฟกระทะเหล็ก อาหารตะวันตกร่วมสมัย 5 0 6 11 45.5%
  ธีรภัทร ตียาสุนทรานนท์ เชฟกระทะเหล็ก อาหารยุโรปร่วมสมัย 6 0 2 8 71.4%

การแข่งขัน

วัตถุดิบหลักที่นำมาใช้รายการบางครั้งก็จะมีราคาแพงและแปลกใหม่ เช่น ปลาเก๋ามังกร, ปลาแซลมอน, ปลาหมึกยักษ์, ปูทาราบะ แต่บางครั้งก็จะเป็นวัตถุดิบที่หาได้ง่ายโดยทั่วไป เช่น กุ้งแม่น้ำ, กะหล่ำปลี เป็นต้น ซึ่งบางครั้งก็แสดงถึงความเป็นพื้นบ้านในประเทศไทย เช่น ปลาร้า, ไก่บ้าน โดยวัตถุดิบหลักในแต่ละสัปดาห์ทั้งเชฟผู้ท้าชิงและเชฟกระทะเหล็กจะต้องนำมาทำอาหาร 5 เมนู ซึ่งจำนวนจานของอาหารแต่ละอย่างที่ต้องเตรียมในการตัดสินนั้นจะมีอย่างน้อย 6 จาน กล่าวคือ เตรียมให้ประธานสันติ 1 จาน และคณะกรรมการ 5 จานหรืออาจจะน้อยกว่านั้นขึ้นอยู่กับจำนวนคณะกรรมการในแต่ละสัปดาห์และต้องเตรียม 1 จาน ของอาหารแต่ละอย่างออกมาต่างหากสำหรับการถ่ายภาพและการนำเสนอ โดยอาหารทั้งหมดจะทำด้วยเชฟกระทะเหล็กและมีผู้ช่วย ปกติแล้วทั้งเชฟผู้ท้าชิงและเชฟกระทะเหล็กจะเตรียมผู้ช่วยเชฟ 2 คนมาเองและอุปกรณ์เครื่องครัว นอกเหนือจากทางรายการที่มีอยู่นำมาใช้ในรายการได้

กรรมการตัดสินในรายการ

ในการตัดสินแต่ละครั้งจะมีกรรมการ 5 คน แต่บางครั้งอาจมี 4-6 คน ทั้งนี้อาจมีแขกรับเชิญเป็นดารา นักแสดงหรือผู้มีชื่อเสียงในวงการบันเทิง 1-2 คนรวมอยู่ด้วย ต่อมาภายหลังมีการเปลี่ยนแปลงจนเหลือกรรมการเพียง 4 ท่าน โดยกรรมการส่วนใหญ่เป็นผู้ทรงคุณวุฒิทางด้านวงการอาหาร และมีชาวต่างชาติด้วยเป็นบางครั้ง เนื่องจากเป็นเชฟที่ประจำอยู่ตามภัคตาคารต่างๆ ที่มีชื่อเสียงนั่นเอง

กรรมการประจำรายการ

ตัวอย่างเช่น

  • สมศักดิ์ รารองคำ (เชฟสมศักดิ์) นายกสมาคมเชฟประเทศไทย กรรมการผู้ตัดสินการแข่งขันทำอาหารเวทีโลก
  • หม่อมหลวงภาสันต์ สวัสดิวัตน์ (คุณอิงค์) สุดยอดนักชิมและนักวิจารณ์อาหาร ผู้รอบรู้เรื่องวัตถุดิบ เดินทางชิมอาหารมาแล้วทั่วทุกมุมโลก
  • ลลนา พานิช (แมว) นักเดินทาง และนักชิมอาหารทั่วโลก
  • วรรณศิริ ศรีวราธนบูลย์ (กุ้ง) บรรณาธิการบริหาร ไทยคลาส มีเดียกรุป
  • พีระพัฒน์ ตุลยาเดชานนท์ (พีท) Food Blogger ชื่อดัง เจ้าของแฟนเพจ และยูทูปช่อง กินกับพีท
  • สิริวธู รักษาเกียรติ (ตั๊ก) เค้กดีไซน์เนอร์ และ Food And Bakery คอนเซาท์แท่น ที่ปรึกษาด้านอาหารคาวหวาน นักชิมและนักวิจารณ์อาหาร
  • เนตรอำไพ สาระโกเศศ (เชฟเนตร) Executive Chef แถวหน้าของประเทศไทย ที่ดูแลร้านอาหารมากกว่า 20 สาขา (ปัจจุบันทำหน้าที่ Commentator ให้กับทางรายการ)
  • ชลทิพย์ ระยามาศ (โบว์ลิ่ง) บล็อกเกอร์ชื่อดัง จากอี้ดแอนด์เช้า กูรูนักชิมระดับประเทศ และคนไทยคนแรกที่ได้รับรางวัล ฟู้ดอินฟอเรนเซอร์ จากสิงคโปร์ (ปัจจุบันทำหน้าที่ Commentator ให้กับทางรายการ)
  • แมทธิว เบลเล็ค (เชฟแมทธิว) ผู้อำนวยการฝ่ายอาหารและเครื่องดืม โรงแรมรอยัลออคิดเชอราตัน กรุงเทพมหานคร
  • กิตติเดช วิมลรัตน์ (แทน) นักวิจารณ์อาหารและ Blogger เจ้าของเพจ ITan - แทนไร้เทียมทาน
  • อุบลรัตน์ ช่อธีระพฤกษ์ (มาดามตวง) Food Celeb แถวหน้าของประเทศไทย พิธีกรรายการอาหาร ที่ปรึกษาธุรกิจด้านอาหาร

ฯลฯ

แหล่งข้อมูลอื่น

อ้างอิง