อวน

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

อวน (อังกฤษ: movable fishing net) คือ เครื่องมือจับสัตว์น้ำที่ถักเป็นตาข่ายผืนยาว โดยใช้ขึงหรือกางกั้นเป็นวงล้อม ใช้ลาก หรือใช้ช้อนเสย มีทั้งประเภทเคลื่อนที่และประจำที่ เนื้ออวนประกอบจากการถักตาข่ายที่ทำด้วยเส้นด้ายหรือเชือกที่ค่อนข้างบางละเอียด ในยุคแรกถักจากเส้นใยพืชจำพวกหญ้า กก ปอ ป่าน และวัสดุพืชเส้นใยอื่น ๆ ต่อมาใช้เส้นใยฝ้ายหรือแม้แต่เส้นใยขนสัตว์ ปัจจุบันอวนแทบทั้งหมดทำจากเส้นใยโพลีอะไมด์สังเคราะห์เช่น ไนลอน

ประวัติ

มีหลักฐานการใช้อวนจับปลาตั้งแต่สังคมยุคหิน หลักฐานที่เก่าแก่ที่สุดหลายชิ้นได้แก่ อวนอันเตรอา (net of Antrea) ซึ่งพบพร้อมกับอุปกรณ์จับปลาอื่น ๆ ในปีพ. ศ. 2456 ที่คอคอดกาเรเลียน (Karelian isthmus) ในเมืองอันเตรอา (Antrea) ประเทศฟินแลนด์เดิม (ปัจจุบันคือ Kamennogorsk ของรัสเซึย) ตาข่ายทำจากเส้นใยของไม้วิลโลว์มีอายุย้อนไปถึง 8,300 ปีก่อนคริสตกาล[1] อวนที่มีอายุย้อนไปถึงปลายยุคหินกลาง (29,000 ปีก่อน) ในเกาหลี ซึ่งเป็นหนึ่งในอุปกรณ์จับปลาที่เก่าแก่ที่สุดที่ค้นพบจนถึงปัจจุบัน เศษอวนถูกพบร่วมกับตุ้มถ่วงในพื้นที่ที่เคยเป็นก้นทะเลในอดีต[2][3] รูปแกะสลักหินที่เก่าแก่ที่สุดบางส่วนที่ Alta (4200–500 ปีก่อนคริสตกาล) มีภาพที่แสดงลวดลายที่สลับซับซ้อนของเส้นแนวนอนและแนวตั้งซึ่งบางครั้งอธิบายว่าเป็นอวนจับปลา ชาวอินเดียนพื้นเมืองอเมริกันแถบแม่น้ำโคลัมเบียถักอวนจากเส้นใยรากไม้สปรูซหรือหญ้าป่า ใช้ก้อนหินถ่วงน้ำหนัก ใช้ไม้เนื้อเขาอย่างสนซีดาร์ในการลอยและทำให้ปลากลัวและว่ายรวมอยู่ด้วยกันกลางวงล้อมของอวน[4] ชาวเมารียุคก่อนชาวยุโรปเข้าครอบครองรู้จักการติดตั้งอวนล้อมจับกับเรือแคนูขนาดใหญ่ ซึ่งอวนล้อมอาจมีความยาวมากกว่าหนึ่งพันเมตร ตาข่ายทอจากใยป่าน มีหินถ่วงน้ำหนัก ไม้เนื้ออ่อนหรือน้ำเต้าเป็ยทุ่นลอย และอาจต้องใช้คนหลายร้อยคนในการลาก[5]

อวนจับปลาที่ได้รับการบันทึกในสมัยโบราณ ปรากฏในภาพวาดต่าง ๆ เช่น ในสุสานอียิปต์อายุตั้งแต่ 3000 ปีก่อนคริสตกาล ในวรรณคดีกรีกโบราณ โอวิดกล่าวถึงอวนจับปลาหลายครั้งรวมถึงการใช้ทุ่นไม้ก๊อกและตุ้มน้ำหนักตะกั่ว[6][7][8] ภาพหลักฐานการตกปลาของชาวโรมันมาจากโมเสคประดับแสดงถึงอวน[9] เป็นภาพล้อเลียนของนักสู้ประเภทหนึ่งที่ใเรียก เรเทียรีอุส ที่ใช้ตรีศูลและแหเป็นอาวุธ ต่อสู้กับนักรบหุ้มเกราะ (secutor) ที่ถือดาบสั้นและสวมหมวกเกราะปิดหน้าที่มีรูปปลา[10] ในระหว่างปี 177 ถึง 180 นักเขียนชาวกรีก Oppian ได้เขียน Halieutica ซึ่งเป็นบทกวีเกี่ยวกับการสอนการตกปลา เขาอธิบายวิธีการจับปลาแบบต่าง ๆ รวมทั้งการใช้แหที่หว่านจากบนเรือ อวนช้อนแบบห่วงเปิด และกับดักต่าง ๆ "ซึ่งใช้ได้ผลในขณะที่นายของพวกมันหลับ" และคำอธิบายการจับปลาด้วยอวนที่ไม่เคลื่อนที่ (motionless net) ดังนี้

"ชาวประมงตั้งอวนที่ทำด้วยป่านเบาลอยน้ำและล้อมเป็นวงรอบ ขณะเดียวกันใช้ไม้แจวฟาดพื้นผิวน้ำทะเลอย่างแรงและถึ่ กวาดไม้ยาวไปมาด้วยให้เกิดเสียงดังติดๆกัน ทำให้ปลากลัวและรีบว่ายเข้าไปในอวนซึ่งไม่เคลื่อนที่ด้วยคิดว่าเป็นที่หลบภัย ปลาโง่ซึ่งกลัวเสียงแล้วเข้าไปในประตูแห่งความหายนะ จากนั้นคนหาปลารีบลากเชือกปลายอวนทั้งสองข้างรวมทั้งอวนขึ้นฝั่ง"

ในตำนานนอร์ส นางยักษ์แห่งท้องทะเล Rán ใช้อวนจับปลาเพื่อดักจับลูกเรือที่หลงทาง มีการอ้างอิงถึงอวนจับปลายังสามารถพบได้ในพันธสัญญาใหม่[11] พระ​เยซู​คริสต์​เองได้ถูกระบุ​ว่า​เป็น​ผู้​เชี่ยวชาญ​ด้าน​การใช้อวน[12][13][14] เปลือกชั้นในที่แข็งเหนียวของต้นพอว์พอว์ (พืชวงศ์น้อยหน่า) ถูกใช้โดยชนพื้นเมืองอเมริกันและผู้ตั้งถิ่นฐานในมิดเวสต์เพื่อทำเชือกและอวนจับปลา[15][16] แหล่งโบราณคดีที่ León Viejo (1524-1610) พบเครื่องมือช่วยการทำประมงอวน ได้แก่ เครื่องปั้นดินเผาที่ใช้เป็นตุ้มน้ำหนักสำหรับอวนจับปลา[ต้องการอ้างอิง]

รูปแบบของอวนจับสัตว์น้ำในปัจจุบันไม่ได้พัฒนาขึ้นมากนักตั้งแต่ยุคหินใหม่ จำนวนมากยังมีรูปแบบเดิมจากสมัยโบราณ นอกเสียจากการพัฒนาอย่างมากในเรื่องของเส้นใยที่ทำเชือก ทั้งในการจับปลาด้วยเบ็ดและด้วยอวน ปรากฏในเศษโบราณวัตถุต่าง ๆ นับแต่เชือกสองทบที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 7 มิลลิเมตร ที่ถูกพบในถ้ำแห่งหนึ่งที่ลาสโกซ์ มีอายุประมาณ 15,000 ปีก่อนคริสตกาล เชือกของอียิปต์มีอายุย้อนไปถึง 4000 ถึง 3500 ปีก่อนคริสตกาล ซึ่งทำมาจากเส้นใยกกน้ำ เชือกอื่นๆ ในสมัยโบราณทำมาจากเส้นใยของอินทผาลัม ป่าน หญ้า ต้นกก หนังสัตว์ หรือขนของสัตว์ เชือกที่ทำจากเส้นใยป่านถูกนำมาใช้ในประเทศจีนตั้งแต่ประมาณ 2800 ปีก่อนคริสตกาล[ต้องการอ้างอิง]

ประเภท

ยอยกปลาตามชายฝั่ง
อวนทับตลิ่งแบบใช้ม้าลาก (beach seine)

อวนแบ่งประเภทจากลักษณะวิธึการจับสัตว์น้ำ ได้แก่[17]

ประเภทของอวน ภาพ ชนิดของสัตว์น้ำ การใช้งาน ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
ประเภทเคลื่อนที่

(movable fishing nets)

อวนลาก

(trawl net หรือ bottom trawl)

อวนลากคู่

(pair trawl)

ปลาหน้าดิน อวนลากเป็นถุงตาข่ายขนาดใหญ่มากรูปกรวย อวนลากคู่ใช้เรือสองลำช่วยถ่างปากอวน (เรียก "เรือลากอวน" – trawlers หรือ draggers) ทำหน้าที่ลากอวนและถ่างปากอวนโดยการรักษาระยะห่างและความเร็วเรือขณะลากให้เท่ากัน[17] การลากอวนหน้าดิน ส่งผลให้เกิดการดักจับจำนวนมากและอาจทำให้พื้นทะเลเสียหายได้ การลากผ่านพื้นทะเลเพียงครั้งเดียวสามารถกำจัดชีวิตใต้ทะเลได้ร้อยละ 5 ถึง 25[18] รายงานของโครงการสหัสวรรษแห่งสหประชาชาติ (UN Millennium Project) ปี 2548 ซึ่งได้รับมอบหมายจากนายโคฟี อันนัน เลขาธิการสหประชาชาติ แนะนำให้กำจัดการใช้อวนลากในทะเลหลวงภายในปี 2549 เพื่อปกป้องภูเขาใต้ทะเลและแหล่งที่อยู่อาศัยอื่น ๆ ของสัตว์น้ำที่อ่อนไหวในระบบนิเวศ ในช่วงกลางเดือนตุลาคม พ.ศ. 2549 ประธานาธิบดีสหรัฐ บุช ได้เข้าร่วมกับผู้นำโลกคนอื่น ๆ ในการเรียกร้องให้ระงับการลากอวนในทะเลลึก
อวนลากแผ่นตะเฆ่

(otter board trawl)

ปลาหน้าดิน เช่นปลาลิ้นหมา ปลาค็อด และอาจใช้กับปลากลางน้ำและหมึกกล้วย อวนลากที่ใช้เรือลำเดียว โดยใช้แผ่นตะเฆ่ (otter board) ช่วยถ่างปากอวน[17]
อวนลากคานถ่าง

(beam trawl)

กุ้ง แมงกะพรุน อวนลากที่ใช้คานช่วยถ่างปากอวน มี 2 ชนิด คือ อวนลากคานถ่างแบบลากกุ้ง และอวนลากคานถ่างแบบลากแมงกะพรุน[17]
อวนลากกลางน้ำ

(midwater trawl)

ปลาทะเลกลางน้ำ เช่น ปลากะตัก กุ้ง ปลาทูน่า และปลาแมคเคอเรล เช่นเดียวกับอวนลากอื่น ๆ แต่ไม่ลากไปบนหน้าดิน การลากอวนลากกลางน้ำนั้นค่อนข้างนุ่มนวลและสร้างความเสียหายได้ที่ก้นทะเลน้อยกว่าการลากอวนลากหน้าดิน
อวนล้อมจับ

(surrounding net)

ปลากะตัก ปลาทู ปลาทูน่า เป็นผืนอวนคล้ายสี่เหลี่ยมผืนผ้ายาว ใช้ล้อมรอบเป็นวงเพื่อจับสัตว์น้ำ โดยสกัดกั้นการเคลื่อนที่ของสัตว์น้าในแนวราบ ส่วนในแนวดิ่งใช้ความลึกของอวนสกัดกั้นตัดหน้าฝูงสัตว์น้ำ แล้วปิดด้านล่างของผืนอวนทำการกู้อวนแล้วตักสัตว์น้าขึ้นเรือ[17][19]อวนล้อมอาจใช้ซั้งล่อฝูงปลา
อวนกางกั้นแล้วลาก

(seine net)

อวนทับตลิ่ง

(beach seine)

เคย ปลากะตัก เครื่องมือประมงที่ทาการลากหรือดึงไกลไม่เกิน 5 เท่าของความยาวของอวน โดยใช้วิธีล้อมและลากผสมกัน ในประเทศไทยเป็นแบบลากเข้าหาชายหาดด้วยแรงคนจับสัตว์น้าที่เข้ามาในเขตน้าขึ้นน้าลงบริเวณชายหาด ลึก 1-3 เมตร[17]
อวนถุง

(purse seine)

ปลาฝูง (schooling fish) อวนถุงที่ชาวประมงใช้กันอย่างแพร่หลายเป็นวิวัฒนาการของอวนล้อมจับปลา ใช้ล้อมรอบปลาฝูงเป็นวง จากนั้นปิดด้านล่างของอวนโดยดึงเส้นที่จัดเรียงเหมือนเชือกที่ใช้ปิดปากถุงเงิน สิ่งนี้ดักจับปลาได้อย่างสมบูรณ์ มีโอกาสได้สัตว์น้ำอื่น ๆ ที่ไม่พึงประสงค์ติดมากับอวนด้วยมาก (bycatch)
อวนครอบ

(falling net)

แห

(cast net)

ปลาฝูง และปลาขนาดเล็ก แห เป็นอวนรูปกลมขนาดเล็กที่ถ่วงน้ำหนักที่ขอบ ซึ่งชาวประมงใช้หว่าน มีขนาดแตกต่างกันโดยทั่วไปมีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณสี่เมตร ตาข่ายถูกโยนด้วยมือในลักษณะที่กระจายออกไปในน้ำและจมลง (การหว่าน) ปลาถูกจับได้ในขณะที่ดึงอวนกลับมา[20] สามารถเลือกจับได้ และปล่อยปลาที่ไม่ต้องการได้โดยไม่เป็นอันตราย
อวนครอบหมึก หรือ แหยักษ์ หมึก มีลักษณะคล้ายแห หรือกล่อง จะปล่อยอวนลงมาจากด้านบนเพื่อครอบสัตว์น้าที่อยู่ด้านล่าง

บางครั้งเรียก แหยักษ์ หรือเรียกว่าเรือไดหมึก ใช้วิธีปล่อยอวนรูปแห หรือกล่องลงมาจากด้านบน เพื่อครอบสัตว์น้าที่อยู่ด้านล่าง ดังนั้นขอบล่างหรือตีนอวนจึงใช้น้าหนักถ่วงค่อนข้างมาก เพื่อให้ผืนอวนจมตัว สกัดกั้นสัตว์น้าได้ทัน

อวนรุน

(push net)

อวนรุนใช้แรงคน กุ้ง อวนรุนคือ อวนจับปลารูปสามเหลี่ยมขนาดเล็กที่มีโครงแข็งซึ่งถูกดันไปที่ก้นทะเลที่ไม่ลึกมาก และใช้ในพื้นที่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของมหาสมุทรแปซิฟิกในการจับกุ้งและปลาขนาดเล็กที่อาศัยที่หน้าดิน[21]
อวนรุนใช้เรือกลหรือเครื่องยนต์ กุ้ง ปลาหน้าดิน
อวนช้อน อวนยก

(lift net)

อวนช้อนปลากะตัก

(Anchovy lift nets)

ยอยกปลา

(fish lift net)

ยอยกปลามีช่องเปิดด้านบน เนื้ออวน (ตาข่าย) จะจมลงสู่ระดับความลึกที่ต้องการก่อนแล้วจึงยกหรือลากขึ้นจากน้ำ สามารถยกได้ด้วยมือ หรือแบบกลไก (อวนยกที่ทำงานบนฝั่ง) และสามารถใช้งานบนเรือได้ (อวนยกที่บังคับด้วยเรือ)[22]
บาม ยอขนาดใหญ่ ใช้จับปลา พบในลุ่มน้ำปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช
อวนลอย หรือ อวนติดตา

(gill net and entangling net)

อวนลอยผิวน้ำ

(surface gill net)

ปลาอินทรี อวนลอยเป็นตาข่ายที่ไม่ได้ทอดสมอ แต่ลอยไปตามกระแสน้ำ โดยปกติจะเป็นตาข่ายหรือตาข่ายพันกันและนิยมใช้ในน่านน้ำชายฝั่งของหลายประเทศ ห้ามใช้ในทะเลหลวง แต่ก็ยังคงเกิดขึ้น
อวนลอยกลางน้ำ

(drift gill net)

อวนลอยหน้าดิน

(bottom gill net)

ปูม้า
อวนบ่วง

(tangle net)

อวนบ่วง (tangle net หรือ tooth nets) เป็นอวนลอยประเภทหนี่ง แต่มีหลักการจับปลาที่ต่างออกไปคือ เนื้ออวนตรงกลางละเอียดมากทำให้ปลาที่มาชนต้องพยายามว่ายออก และติดในบ่วงด้านบนหรือล่างแทน[23]
อวนสามชั้น

(trammel net)

สัตว์น้ำหน้าดินจำพวกปลา และกุ้งกั้งปู เป็นอวนจับปลาที่มีตาข่ายสามชั้นที่ใช้ดักปลาหรือกุ้งกั้งปูที่หน้าดิน[24] ชั้นกลางหย่อนที่มีตาอวนขนาดเล็กคั่นระหว่างชั้นนอกที่ตึงสองข้างด้วยตาอวนที่ใหญ่กว่ามาก อวนจะถูกคงรูปในแนวตั้งโดยลอยด้วยการขึงเชือกแนวบน (headrope) ร้อยกับลูกลอยอาจมีขนาดเล็กทรงกระบอกหรือรูปไข่ของแข็งและพลาสติก และถ่วงน้ำหนักด้านล่างกระจายไปตามเชือกแนวล่าง (ground rope)[25] สูญหายไปในทะเลได้ง่าย และจับแบบไม่เลือกโดยสัตว์น้ำอื่น ๆ ที่ไม่พึงประสงค์ติดมากับอวน โดยเฉพาะที่มีขนาดเล็กกว่าที่ต้องการ

เครื่องมือประมงประเภทประจำที่

เครื่องมือจับสัตว์น้ำที่ถักเป็นตาข่ายประเภทประจำที่ (stationary fishing net) คือ เครื่องมือประมงประเภทที่ใช้วิธีดักจับ (fish trap) โดยลงหลัก ปัก ผูก ขึง รั้ง ถ่วง หรือวิธีอื่นใด อันทำให้เครื่องมือและส่วนประกอบอยู่กับที่ในเวลาทำการจับสัตว์น้ำ โดยมากใช้ทำการจับสัตว์น้ำตรงจุดที่ตั้งเครื่องมือนั้น ๆ ทุกครั้ง (ซ้ำที่เดิม) โดยไม่มีการเคลื่อนย้ายส่วนประกอบของเครื่องมือไปบริเวณอื่น ได้แก่ โป๊ะ รั้วไซมาน โพงพาง

  • โป๊ะ (pound net หรือ set net) ซึ่งอาจใช้ต่าข่ายในการขังสัตว์น้ำที่ว่ายเข้าไป
  • โพงพาง (set bag net หรือ stow net) เป็นเครื่องมือประมงที่ใช้อวนลักษณะคล้ายถุง ปากโพงพางกางยึดอยู่กับที่ทำการประมงโดยวิธีดักจับจากกระแสน้ำที่พัดเข้าปากโพงพางไปติดที่ถุงอวน
  • ลอบ (pots และ fyke net)

โครงสร้างและส่วนประกอบ

เนื้ออวน

เนื้ออวน คือ ตาอวน (mesh) จำนวนมากที่ถักรวมต่อเนื่องกันเป็นเนื้ออวนหรือผืนอวน (net) โดยปกติตาอวน 1 ตาจะประกอบด้วยเงื่อนหรือปม (knot) จำนวน 4 ปม และเส้นด้ายหรือขา (leg or bar) 4 ขา

ปม ที่ใช้ในการผูกอวนสาหรับการประมงนั้น มีอยู่หลายชนิดในอดีตนิยมใช้เงื่อนแน่น (flat knot) เนื่องจากวัสดุเป็นพวกเส้นใยจากธรรมชาติ มีความลื่นน้อย ในปัจจุบันเงื่อนที่นิยมใช้เงื่อนหัก (trawler knot) และเงื่อนหักคู่ (double trawler knot) ซึ่งมีข้อดีคือเงื่อนไม่หลุดง่าย พบได้โดยทั่ว ๆ ไปในอวนโพลีอะไมด์สังเคราะห์เช่น อวนไนลอน เนื้ออวนบางชนิดผลิตขึ้นมาโดยไม่มีการผูกตาเงื่อน เช่น เนื้ออวนแบบไร้เงื่อน (knotless net) และเนื้ออวนแบบมินเนา (minnow net)

ทุ่นและลูกกระสง

ทุ่นและลูกกระสง (buoy หรือ float) ทำหน้าที่ในการพยุงให้อวนคงรูปอยู่ได้ หรือพยุงให้อยู่ในระดับความลึกที่ต้องการ เพื่อให้การจับสัตว์น้าเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ วัสดุที่นำมาใช้สร้างทุ่นและลูกกระสงนั้นมีมากมายหลายชนิด แต่เดิมนิยมใช้วัสดุจากธรรมชาติที่มีเนื้อเบาลอยตัวได้ดีในน้ำ เช่น ไม้ไผ่ ไม้ทองหลาง ไม้นุ่น และไม้แคป่า ต่อมามีการประดิษฐ์ลูกกระสงจากวัสดุอย่างอื่น เช่น เหล็ก อลูมิเนียม และแก้ว ปัจจุบันนิยมใช้ลูกกระสงที่ประดิษฐ์จากวัสดุสังเคราะห์ เช่น พลาสติก โฟมยาง

ลูกถ่วง

ลูกถ่วง หรือ ตุ้มถ่วง (sinker หรือ weight) เป็นส่วนประกอบของอวน ใช้ผูกด้านตรงข้ามกับลูกกระสงทำให้อวนแผ่ออกในแนวตั้ง วัสดุที่นำมาใช้ต้องเป็นวัสดุที่มีค่าความถ่วงจำเพาะมากเพื่อเพิ่มแรงจมตัว (sinking force) วัสดุที่ใช้ทาลูกถ่วงมีหลายชนิด เช่น เหล็ก และก้อนหิน แต่ที่นิยมใช้กันมาก คือ ตะกั่ว ซึ่งค่าความถ่วงจำเพาะมาก แข็งแรงและราคาไม่แพง

ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

เต่าทะเลที่พันติดในอวน
เครื่องมือแยกเต่าทะเล (turtle excluder device – TED)

การประมงมักใช้อวนขนาดใหญ่ที่จับแบบไม่เลือกและจับได้สัตว์น้ำอื่น ๆ ที่ไม่พึงประสงค์ติดมากับอวนด้วย (bycatch) ได้แก่ โลมา หรือฉลาม โดยเฉพาะจำนวนมากเป็นเต่าทะเล

การจับสัตว์น้ำด้วยเบ็ดราว อวนลากและอวนติด เป็นการจับสัตว์น้ำ 3 ประเภทที่เกิดอุบัติเหตุกับเต่าทะเลมากที่สุด การเสียชีวิตมักเกิดขึ้นเนื่องจากการติดกับดักและไม่สามารถขึ้นมาบนอากาศได้ (จมน้ำ)

อวนจับสัตว์น้ำในปัจจุบันเกือบทั้งหมดทำจากพลาสติก และมีจำนวนมากที่ชาวประมงทิ้งทั้งที่ตั้งใจทิ้งลงทะเล และไม่ตั้งใจ (เช่น เกี่ยวขาดด้วยหิน หรือซากปะการัง) หรือสูญหายไปในทะเล เศษอวนที่ไม่ใช้แล้ว (ghost net หรือ ghost fishing net) เหล่านี้พันเข้ากับ ปลาวาฬ โลมา เต่าทะเล ฉลาม พะยูน จระเข้ นกทะเล ปู และสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ ถูกจำกัดการเคลื่อนไหว ทำให้เกิดความอดอยาก ผิวฉีกขาดและติดเชื้อ ยากต่อการกลับขึ้นไปที่พื้นน้ำเพื่อหายใจ และขัดขวางการหายใจโดยตรง[26] และยังเป็นอันตรายกับเรือเดินทะเลจากความเสี่ยงเข้าไปพันกับใบพัดหรือเครื่องยนต์เรือ[27] ขยะพลาสติกลอยตัวอยู่ในน้ำรวมทั้งเศษอวนจะค่อย ๆ สลายตัวเปลี่ยนเป็นไมโครพลาสติก (พลาสติกที่มีขนาดเล็กกว่า 5 มิลลิเมตร จนถึงขนาดมองไม่เห็น) ซึ่งมีผลกระทบกับปลาทะเล และมนุษย์ที่บริโภคสัตว์น้ำเหล่านี้[28]

ประมาณการว่า ทุก ๆ ปี มีขยะทะเลที่เป็นเศษอวนใช้แล้ว ถูกทิ้งลงมหาสมุทรมากถึง 640,000 ตัน[28] หรือคิดเป็นร้อยละ 10 ของปริมาณขยะทะเลทั้งหมด และในแต่ละปีมีสัตว์ทะเลเสียชีวิตเพราะติดเศษอวนมากกว่า 100,000 ตัว[27]

ในประเทศไทย

ประมาณการจากการคำนวนจำนวนเรือประมง ทั้งเรือประมงพื้นบ้านและเรือประมงพาณิชย์ กับขยะจำพวกเศษอวน อุตสาหกรรมประมงในประเทศไทยอาจผลิตขยะจำพวกเศษอวนกว่า 700,000 กิโลกรัมต่อเดือน[28] โครงการ Net Free Seas เป็นหนี่งในโครงการแรก ๆ ในประเทศไทยที่ลดปริมาณเศษอวนจากทะเล ด้วยการจัดกิจกรรม Clean Up Dive และการนำเศษอวนไปรีไซเคิล กับชุมชนที่เข้าร่วมโครงการ 47 ชุมชน ทั้งจากจังหวัดระยอง จันทบุรี นครศรีธรรมราช สงขลา สุราษฎร์ธานี และพังงา[28]

อ้างอิง

  1. "The palaeoenvironment of the Antrea Net Find". University of Helsinki Research Portal. Finnish Antiquarian Society. 2008.
  2. Kriiska, Aivar (1996) "Stone age settlements in the lower reaches of the Narva River, north-eastern Estonia" Coastal Estonia: Recent Advances in Environmental and Cultural History. PACT 51. Rixensart. Pages 359–369.
  3. Indreko R (1932) "Kiviaja võrgujäänuste leid Narvas" (Stone Age find of fishing net remnants), in Eesti Rahva Muuseumi Aastaraamat VII, Tartu, pp. 48–67 (in Estonian).
  4. Smith, Courtland L Seine fishing Oregon Encyclopedia. Retrieved 23 March 2012.
  5. Meredith, Paul "Te hī ika – Māori fishing" Te Ara - the Encyclopedia of New Zealand. Updated 2 March 2009.
  6. Radcliffe W (1926) Fishing from the Earliest Times John Murray, London.
  7. Johnson WM and Lavigne DM (1999) Monk Seals in Antiquity[ลิงก์เสีย] Fisheries, pp. 48–54. Netherlands Commission for International Nature Protection.
  8. Gilroy, Clinton G (1845) "The history of silk, cotton, linen, wool, and other fibrous substances: including observations on spinning, dyeing and weaving" pp. 455–464. Harper & Brothers, Harvard University.
  9. Image of fishing illustrated in a Roman mosaic เก็บถาวร 2011-07-17 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน.
  10. Auguet, Roland [1970] (1994). Cruelty and Civilization: The Roman Games. London: Routledge. ISBN 0-415-10452-1.
  11. Luke 5:4-6; John 21:3-7a
  12. ลูกา 5:1-11 ครั้งเมื่อประชาชนกำลังเบียดเสียดพระองค์เพื่อฟังพระวจนะของพระเจ้า พระองค์ทรงยืนอยู่ที่ฝั่งทะเลสาบเยนเนซาเรท และพระองค์ทรงเห็นเรือสองลำจอดอยู่ริมฝั่งทะเลสาบนั้น แต่ชาวประมงขึ้นจากเรือแล้วกำลังซักอวนอยู่ | พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971 (TH1971) | ดาวน์โหลดแอพพระคัมภีร์ฟรีเดี๋ยวนี้.
  13. ยอห์น 21:1-14 ต่อมาพระเยซูทรงสำแดงพระองค์แก่พวกสาวกอีกครั้งหนึ่งที่ทะเลทิเบเรียส พระองค์ทรงสำแดงพระองค์อย่างนี้ คือ ซีโมนเปโตร โธมัสที่เรียกว่าดิดุโมส นาธานาเอลชาวบ้านคานาแคว้นกาลิลี บุตรทั้งสองของเศเบดี และสาวกของ | ฉบับมาตรฐาน (THSV11) | ดาวน์โหลดแอพพระคัมภีร์ฟรีเดี๋ยวนี้.
  14. "2. อวน". www.kamsonbkk.com.
  15. Werthner, William B. (1935). Some American Trees: An intimate study of native Ohio trees. New York: The Macmillan Company. pp. xviii + 398 pp.
  16. Bilton, Kathy. "Pawpaws: A paw for you and a paw for me". สืบค้นเมื่อ 21 July 2011.
  17. 17.0 17.1 17.2 17.3 17.4 17.5 ทิพสุคนธ์ พิมพ์พิมล. เครื่องมือทำการประมง. http://www.fishtech.mju.ac.th/e-learning/FM416/ สืบค้น 31 พฤษภาคม 2564.
  18. "Archived copy". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2006-09-09. สืบค้นเมื่อ 2012-05-12.{{cite web}}: CS1 maint: archived copy as title (ลิงก์)
  19. "MONOGRAPH". map.seafdec.org.
  20. Casting net.
  21. Commission of the European Communities, Multilingual dictionary of fishing gear, 2nd edition, 1992 (n° 3247 p.[183]205).
  22. FAO, Lift net Fishing Gear Types. Retrieved 12 October 2013.
  23. Selective Fishing Methods Washington Department of Fish and Wildlife. Retrieved 13 November 2011.
  24. Fishing Gear Types: Trammel nets, Food and Agriculture Organization of the United Nations, สืบค้นเมื่อ 2010-09-27
  25. Michael, mbuhme. "Food and agricultural Organization of the United Nations". FAO. {{cite web}}: ตรวจสอบค่า |first= (help)
  26. "เศษอวน: มัจจุราชแห่งท้องทะเล". Greenpeace Thailand (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน).
  27. 27.0 27.1 "เศษอวน: มัจจุราชแห่งท้องทะเล". Greenpeace Thailand (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน).
  28. 28.0 28.1 28.2 28.3 "Net Free Seas ครั้งแรกของการรีไซเคิลซากอวนประมงจากท้องทะเลไทย". ngthai.com.