พระเทพคุณาธาร (ผล ชินปุตฺโต)
บทความนี้ยังต้องการเพิ่มแหล่งอ้างอิงเพื่อพิสูจน์ความถูกต้อง |
พระเทพคุณาธาร (ผล ชินปุตโต) | |
---|---|
ชื่ออื่น | ผล เล็กสมบูรณ์ |
ส่วนบุคคล | |
เกิด | 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2445 (67 ปี) |
มรณภาพ | 7 ตุลาคม พ.ศ. 2512 |
นิกาย | มหานิกาย |
ตำแหน่งชั้นสูง | |
ที่อยู่ | วัดพระพิเรนทร์ กรุงเทพมหานคร |
ตำแหน่ง | อดีตเจ้าอาวาสวัดพระพิเรนทร์ อดีตเจ้าคณะภาค 8 |
พระเทพคุณาธาร (28 พฤษภาคม พ.ศ. 2445 – 7 ตุลาคม พ.ศ. 2512) ฉายา ชินปุตโต นามเดิม ผล เล็กสมบูรณ์ (Phol Leksomboon) เปรียญธรรม 4 ประโยค เป็นพระราชาคณะชั้นเทพฝ่ายมหานิกาย อดีตเจ้าอาวาสวัดพระพิเรนทร์ อดีตเจ้าคณะภาค 8 อดีตรักษาการเจ้าอาวาสวัดชำนิหัตถการ อดีตรักษาการเจ้าอาวาสวัดพลับพลาชัย และเจ้าคณะอำเภอป้อมปราบฯ ปทุมวัน
ชาติภูมิ[แก้]
พระเทพคุณาธาร นามเดิมว่า ปู่ขุ่น แซ่เล็ก ภายหลังเปลี่ยนชื่อและสกุลเป็น ผล เล็กสมบูรณ์
เกิดเมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2445 ตรงกับวันพุธ แรม 7 ค่ำ เดือน 6 ปีขาล ณ หมู่บ้านโรงหีบ-สวนสัก ตำบลบ้านคอย ปัจจุบันอยู่ในเขตหมู่ที่ 4 ตำบลบางงาม อำเภอศรีประจันต์ จังหวัดสุพรรณบุรี
ถือกำเนิดในครอบครัวชาวจีนแต้จิ๋ว เป็นบุตรคนเล็กของ นายกิมหลี แซ่เล็ก และนางเฮียะ แซ่เล็ก มีพี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกัน 3 คนคือ นายปู่เฮ้า แซ่เล็ก, นายปู่เคี้ยง แซ่เล็ก, และพระเทพคุณาธาร นอกจากนี้ยังมีพี่น้องร่วมบิดา เกิดแต่นางแป้น ซึ่งบิดาได้สมรสภายหลังอีก 8 คน คือ นางเน้ย แซ่เล็ก, นางลั้ง แซ่เล็ก, นายใช้ แซ่เล็ก, นายลักษณ์ แซ่เล็ก, นางเก๊ก แซ่เล็ก, นางกี่ แซ่เล็ก, นายกิ้ว แซ่เล็ก, และ นายลี่ แซ่เล็ก ปัจจุบันครอบครัว แซ่เล็ก ได้เปลี่ยนนามสกุลเป็น เล็กสมบูรณ์ ซึ่งตั้งโดยท่านเจ้าคุณพระเทพคุณาธาร
บรรพชา อุปสมบท และการศึกษา[แก้]
พระเทพคุณาธารสมัยก่อนบรรพชา ได้ช่วยบิดามารดาค้าขายทางเรือ ครั้งถึง พ.ศ. 2462 อายุได้ 18 ปี จึงบรรพชาเป็นสามเณรในงานฌาปนกิจศพน้าสาวที่วัดราษฎรบำรุง พระอาจารย์อ้วน วัดสามทอง อำเภอเมือง จังหวัดสุพรรณบุรี เป็นพระอุปัชฌาย์
เมื่อบรรพชานั้นท่านยังไม่รู้หนังสือเลย ครั้นบวชเป็นสามเณรแล้ว ได้เห็นการเรียนหนังสือของพระภิกษุสามเณรและเด็กที่วัดราษฏรบำรุง มีความปรารถนาอยากจะเรียนบ้าง แต่อายุมากแล้ว เข้าเรียนไม่สะดวก ในสมัยนั้นพระใบฎีกาอินทร์ เป็นเจ้าอาวาส จึงแนะนำให้เรียนหนังสือขอม ท่านได้ขออนุญาตโยมบวชต่อ โยมก็อนุญาต แต่โบราณถือว่าการบวชหน้าไฟร้อน จึงให้ลาสิกขา และบรรพชาใหม่ติดต่อกันไป โดยพระใบฎีกาอินทร์ เจ้าอาวาสวัดราษฎรบำรุง เป็นพระอุปัชฌาย์
เมื่อบรรพชาใหม่แล้วท่านได้เริ่มเรียนหนังสือขอม และหาโอกาสไปฟังการเรียนหนังสือไทยบ้าง พออ่านหนังสือขอมได้และหัดเขียดหนังสือไทยได้บ้างแล้ว จึงเริ่มเรียนสนธิ์ โดยมีพระอาจารย์ทองเป็นผู้สอน การเรียนคราวนี้มีนักเรียนเพียงคนเดียว ทำให้รู้สึกเนือยๆ แต่ท่านก็เรียนจบในพรรษาแรกนั้นเอง เมื่อมี่ความรู้ขึ้นบ้างแล้วเช่นนี้ท่านก็มีความปรารถนาจะเรียนให้มากยิ่งขึ้น ประจวบกับเวลานั้นพระมหาพุ่ม วัดพระเชตุพนฯ ไปวัดราษฎรบำรุงกับพระมหาสุนทร ท่านจึงขอให้โยมยายช่วยฝากกับพระมหาพุ่ม เพื่อนำท่านมาอยู่กรุงเทพฯ แต่พระมหาพุ่มไม่สามารถรับได้เพราะไม่ได้เป็นเจ้าอาวาสหรือเจ้าคณะ โยมยายจึงให้น้าชายชื่อล้งนำท่านมาฝากไว้กับพระอธิการปอ ธมฺมกถิโก เจ้าอาวาสวัดพระพิเรนทร์ พระนครเมื่อเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2463 รวมเวลาอยู่ที่วัดราษฎรบำรุง 1 พรรษา
เมื่อมาอยู่วัดพระพิเรนทร์แล้ว ท่านได้เข้าศึกษาพระปริยัติธรรม ที่วัดจักรวรรดิราชาวาส และสอบได้นักธรรมชั้นตรีในปลายปี พ.ศ.2463 นั้นเอง ตัวท่านเคยเล่าว่า เวลานั้นเกิดความทะเยอทะยานในการศึกษาเล่าเรียนมาก อยากเรียนไปทุกอย่าง และรู้สึกเสียดายเวลาที่ผ่านพ้นไปมากแล้ว จึงได้เข้าเรียนภาษาบาลีที่วัดจักรวรรดิราชาวาสนั้นต่ออีก
ปีต่อมาท่านอายุครบ 20 ปี จึงกลับไปอุปสมบทที่บ้านเกิด ณ พัทธสีมาวัดเกาะ ตำบลบางงาม อำเภอศรีประจันต์ จังหวัดสุพรรณบุรี วันที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2465 มีพระครูปลื้ม วัดพร้าว ตำบลโพธิ์พระยา อำเภอท่าพี่เลี้ยง ปัจจุบันเปลี่ยนเป็นอำเภอเมืองจังหวัดสุพรรณบุรี เป็นอุปัชฌาย์ พระครูธรรมสารรักษา (พริ้ง วชิรสุวณฺโณ) วัดวรจันทร์ ตำบลโพธิ์พระยา เป็นกรรมวาจาจารย์ พระอธิการปอ ธมฺมกถิโก วัดพระพิเรนทร์ เป็นอนุสาวนาจารย์ เมื่ออุปสมบทแล้วได้กลับมาจำพรรษาอยู่ที่วัดพระพิเรนทร์ และเรียนพระปริยัติธรรมทั้งนักธรรมและบาลีต่อ กับต้องช่วยพระอธิการปอ เจ้าอาวาส ในกิจการงานต่าง ๆ ของวัดเรื่อยมา
ครั้ง พ.ศ.2466 สอบได้นักธรรมชั้นโท พ.ศ.2468 สอบได้เปรียญธรรม 3 ประโยค พ.ศ.2473 สอบได้เปรียญธรรม 4 ประโยค
พ.ศ. 2471 พระอธิการปอเริ่มป่วย ท่านต้องคอยอยู่ปฏิบัติตลอดเวลา จนพระอธิการปอถึงแก่มรณภาพลงใน พ.ศ. 2472 จากนั้นท่านได้รับแต่งตั้งเป็นกรรมการรักษาวัด เมื่อจัดการปลงศพพระอธิการปอเสร็จใน พ.ศ. 2474 แล้ว แม้จะต้องรับหน้าที่สำคัญในวัด มีภารกิจมาก แต่ท่านก็ยังไม่ละความพยายามในการศึกษาเล่าเรียน และได้ขวนขวายในการเรียนต่อมาอีก 2 ปี จึงต้องหยุดพัก เพราะมีภารกิจการงานมากขึ้น และได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดพระพิเรนทร์ เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2476
หน้าที่การงานและสมณศักดิ์[แก้]
ตำแหน่งทางการศึกษา เท่าที่ทราบมีลำดับดังนี้[แก้]
- พ.ศ. 2480 เป็นกรรมการตรวจบาลีสนามหลวง (พ.ศ. โดยประมาณ)
- พ.ศ. 2494 เป็นเจ้าสำนักเรียนวัดพระพิเรนทร์
- พ.ศ. 2495 เป็นกรรมการศึกษาเทศบาล (พ.ศ. โดยประมาณ)
- พ.ศ. 2495 ดำรงตำแหน่งรักษาการกรรมการสงฆ์ องค์การศึกษา อำเภอป้อมปราบฯ เขตปทุมวัน
- พ.ศ. 2500 เป็นกรรมการตรวจธรรมสนามหลวง (หมายถึงปีได้รับตราตั้ง)
- นอกจากนี้ ได้เป็นกรรมการนำข้อสอบบาลีสนามหลวงไปเปิดสอบ ณ สนามสอบส่วนภูมิภาคตลอดมาทุกปี
ตำแหน่งทางการปกครอง[แก้]
- พ.ศ. 2473 ดำรงตำแหน่งกรรมการรักษาการแทนเจ้าอาวาส
- พ.ศ. 2476 ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดพระพิเรนทร์
- พ.ศ. 2487 ดำรงตำแหน่งกรรมการสงฆ์ องค์การสาธารณูปการ อำเภอป้อมปราบฯ เขตปทุมวัน
- พ.ศ. 2490 ได้รับแต่งตั้งเป็นพระอุปัชฌาย์
- พ.ศ. 2494 ดำรงตำแหน่งรักษาการเจ้าอาวาสวัดชำนิหัตถการ จนถึง พ.ศ. 2500
- พ.ศ. 2495 ดำรงตำแหน่งกรรมการสงฆ์ องค์การปกครอง อำเภอป้อมปราบฯ เขตปทุมวัน และรักษาการในตำแหน่งกรรมการสงฆ์ องค์การศึกษา องค์การเผยแผ่ องค์การสาธารณูปการ อำเภอป้อมปราบฯ เขตปทุมวัน
- พ.ศ. 2496 ดำรงตำแหน่งรักษาการเจ้าอาวาสวัดพลับพลาชัยถึง พ.ศ. 2507
- พ.ศ. 2507 ได้รับแต่งตั้งเป็นรองเจ้าคณะภาค 8
- พ.ศ. 2508 ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าคณะภาค 8
สมณศักดิ์[แก้]
- พ.ศ. 2482 เป็นพระครูสัญญาบัตร (พิเศษพัต จปร.) ที่ พระครูศีลขันธโศภิต
- พ.ศ. 2490 เป็นพระครูชั้นเอก ผู้ช่วยเจ้าคณะอำเภอ ในราชทินนามเดิม
- พ.ศ. 2494 เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญที่ พระศีลขันธโศภิต[1]
- พ.ศ. 2501 เป็นพระราชาคณะชั้นราชที่ พระราชศีลโศภิต นิวิฐกรุณาทร ธรรมบัณฑิต ยติคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี[2]
- พ.ศ. 2505 เป็นพระราชาคณะชั้นเทพที่ พระเทพคุณาธาร ไพศาลสุตาธิกร สุนทรศีลาจารวัตร พิพัฒน์หิตานุหิต มหาคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี[3]
มรณภาพ[แก้]
พระเทพคุณาธาร (ผล ชินปุตโต) อาพาธด้วยภาวะแพ้อากาศและหอบเหนื่อย อยู่ในที่อากาศไม่ดีและมีฝุ่นละอองไม่ได้ ทางแพทย์จึงแนะนำให้ท่านไปพักรักษาตัวอยู่ที่มีสภาพอากาศดี เพื่อจะได้พักผ่อนและได้รับอากาศที่ดี เช่น ต่างจังหวัด ท่านจึงเดินทางกลับไปรักษาตัวที่บ้านเกิด โดยจำพรรษาอยู่ที่วัดราษฎรบำรุง อำเภอดอนเจดีย์ จังหวัดสุพรรณบุรี ในปี พ.ศ.2512
ระหว่างพักรักษาตัวอยู่นั้นมีอาการดีขึ้น จึงได้รับอาราธนาไปอบรมพระภิกษุสงฆ์สามเณรในเขตคณะสงฆ์อำเภอดอนเจดีย์ จากนั้นร่างกายจึงทรุดลง วันที่ 4 ตุลาคม พ.ศ.2512 ทางญาติและคณะศิษย์จึงนำท่านไปตรวจที่โรงพยาบาลเจ้าพระยายมราช จังหวัดสุพรรณบุรี และในวันเดียวกันนั้นจึงนำท่านกลับไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลสงฆ์ กรุงเทพมหานคร
กระทั่งวันที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2512 เวลา 06:20 นาฬิกา จึงมรณภาพ ด้วยสิริอายุ 68 ปี อุปสมบทได้ 48 พรรษา
วันที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2512 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงพระกรุณาโปรดพระราชทานน้ำหลวงสรงศพท่านเจ้าคุณพระเทพคุณาธาร
วันที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2514 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงพระกรุณาโปรดพระราชทานเพลิงศพ ท่านเจ้าคุณพระเทพคุณาธาร โดยท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระวันรัต วัดพระเชตุพนฯ ในฐานะประธานสหภูมิสุพรรณและองค์อุปถัมภ์สมาคมสุพรรณ พระนคร ได้โปรดเมตตาให้คณะสหภูมิสุพรรณและองค์อุปถัมภ์สมาคมสุพรรณ พระนคร เป็นเจ้าภาพบำเพ็ญกุศลทั้งหมดในวันพระราชทานเพลิงศพ
อ้างอิง[แก้]
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, แจ้งความสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานสัญญาบัตรตั้งสมณศักดิ์, เล่ม 68, ตอนที่ 74, 11 ธันวาคม 2494, หน้า 5622
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, แจ้งความสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานสัญญาบัตรตั้งสมณศักดิ์, เล่ม 75, ตอนที่ 109, 23 ธันวาคม 2501, หน้า 3135
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, แจ้งความสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานสัญญาบัตรตั้งสมณศักดิ์, เล่ม 80, ตอนที่ 3, 4 มกราคม 2506, ฉบับพิเศษ หน้า 3
- สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ. ประชุมพระนิพนธ์เกี่ยวกับตำนานทางพระพุทธศาสนา (พิมพ์เป็นอนุสรณ์ในงานพระราชทานเพลิงศพ พระเทพคุณาธาร (ผล ชินปุตโต)). กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพ์รุ่งเรืองธรรม พระนคร, 2514. หน้า 293.
- https://www.posttoday.com/dhamma/519063
- https://soclaimon.wordpress.com/2012/06/18/%E0%B8%97%E0%B8%B3%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B8%88%E0%B8%B6%E0%B8%87%E0%B9%84%E0%B8%94%E0%B9%89%E0%B8%8A%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%A7%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%9E%E0%B8%A3/
- http://www.sookjai.com/index.php?topic=110028.0;wap2