ข้ามไปเนื้อหา

นินเท็นโด 3ดีเอส

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
(เปลี่ยนทางจาก นินเทนโด ทรีดีเอส)
นินเท็นโด 3ดีเอส
ผู้พัฒนานินเท็นโด รีเสิร์ชแอนด์เอนจิเนียริง
ผู้ผลิตนินเท็นโด, ฟ็อกซ์คอนน์
ชนิดเครื่องเล่นเกมพกพา
ยุคเครื่องเล่นวิดีโอเกมยุคที่แปด
ออกจำหน่ายนินเท็นโด 3ดีเอส:
  • JP: 26 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2011[2]
  • EU: 25 มีนาคม ค.ศ. 2011[1]
  • NA: 27 มีนาคม ค.ศ. 2011[3]
  • AU: 31 มีนาคม ค.ศ. 2011[4]
นินเท็นโด 3ดีเอส เอกซ์แอล:
  • JP: 28 กรกฎาคม ค.ศ. 2012
  • EU: 28 กรกฎาคม ค.ศ. 2012
  • NA: 19 สิงหาคม ค.ศ. 2012
  • AU: 23 สิงหาคม ค.ศ. 2012
วางจำหน่ายค.ศ. 2011 (2011)–2020
ราคาเบื้องต้น
  • 3DS: ¥25,000, US$249.99, A$349.95
  • 3DS เอกซ์แอล: ¥18,900, US$199.99, A$349.95
ยอดจำหน่ายทุกต้นแบบรวมกัน: 75.08 ล้านตลับ (ถึง 31 มีนาคม ค.ศ. 2019)
สื่อ
ระบบปฏิบัติการซอฟตแวร์ระบบนินเท็นโด 3ดีเอส
ซีพียู266 MHz dual-core ARM11 & 133 MHz single-core ARM9
สื่อบันทึกข้อมูล
หน่วยความจำ128 MB FCRAM (32MB Reserved for OS) (Fujitsu MB82M8080-07L FC-RAM)
กราฟิกการ์ด133 MHz Digital Media Professionals PICA200
การเชื่อมต่อ2.4 GHz วายฟาย
บริการออนไลน์
เกมที่ขายดีที่สุดมาริโอคาร์ต 7, 18.94 ล้านตลับ
(ถึง 31 มีนาคม ค.ศ. 2019)[5]
การรองรับเครื่องรุ่นก่อนนินเท็นโด ดีเอส
รุ่นก่อนหน้านินเท็นโด ดีเอสไอ
รุ่นถัดไปนิวนินเท็นโด 3ดีเอส
เว็บไซต์www.nintendo.com/3ds

นินเท็นโด 3ดีเอส (ญี่ปุ่น: ニンテンドー3DS; อังกฤษ: Nintendo 3DS ทับศัพท์: นินเท็นโด ทรีดีเอส) เป็นเครื่องเล่นเกมพกพาที่ผลิตโดยนินเท็นโด ตัวเครื่องมีความสามารถที่จะแสดงระบบภาพสามมิติโดยปราศจากแว่นสามมิติหรืออุปกรณ์เสริมเพิ่มเติม นินเท็นโดได้ประกาศเครื่องเล่นเกมนินเท็นโด 3ดีเอส ครั้งแรกในเดือน มีนาคม ปี ค.ศ. 2010 และได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 15 มิถุนายน ที่งานอี3 2010[6][7] และเป็นเครื่องเล่นเกมที่สืบทอดความสำเร็จมาจากนินเท็นโด DS ซึ่งมีคุณสมบัติความเข้ากันได้ย้อนหลังกับวิดีโอเกมเก่าของนินเท็นโด DS[8] คู่แข่งหลักคือเพลย์สเตชันวิต้าจากโซนี่[9]

นินเท็นโด 3ดีเอสยุติการวางจำหน่ายและเลิกผลิตเครื่องเล่นตระกูลนินเท็นโด 3ดีเอส ตามลำดับ นินเท็นโด 3ดีเอส XL, นินเท็นโด 2DS, Newนินเท็นโด 3ดีเอส, Newนินเท็นโด 3ดีเอส XL, และNewนินเท็นโด 2DS XL ทั่วโลกในวันที่ 16 กันยายน 2020[10][11] โดยยอดจำหน่ายทั่วโลกอยู่ที่ 75.87 ล้านเครื่อง และเกมสุดท้ายของ นินเท็นโด 3ดีเอส คือเกมKirby’s Extra Epic Yarn

ประวัติ

[แก้]

ฮาร์ดแวร์

[แก้]

ซอฟต์แวร์

[แก้]

เกมส์

[แก้]

การตอบรับ

[แก้]

แหล่งข้อมูลอื่น

[แก้]

อ้างอิง

[แก้]
  1. "Supplementary Information about Earnings Release" (PDF). Nintendo. October 29, 2010. p. 9. สืบค้นเมื่อ November 7, 2010.
  2. Harris, Craig (September 28, 2010). "Nintendo Conference 2010 Details". IGN. สืบค้นเมื่อ September 26, 2013.
  3. Kaluszka, Aaron (January 19, 2011). "3DS North American Price, Date, Colors Set". Nintendo World Report.
  4. Daniel Vuckovic (February 8, 2011). "Nintendo 3DS launches in Australia on March 31st for $349". Vooks.net. สืบค้นเมื่อ September 26, 2013.
  5. "Top Selling Software Sales Units". Nintendo. March 31, 2019. สืบค้นเมื่อ April 25, 2019.
  6. Tabuchi, Hiroko (March 23, 2010). "Nintendo to Make 3-D Version of Its DS Handheld Game". The New York Times. The New York Times Company. สืบค้นเมื่อ April 4, 2010.
  7. Snider, Mike (June 15, 2010). "E3 2010: Nintendo 3DS unveiled". USA Today. สืบค้นเมื่อ November 26, 2012.
  8. "Launch of New Portable Game Machine" (PDF) (Press release). Minami-ku, Kyoto: Nintendo. March 23, 2010. สืบค้นเมื่อ March 23, 2010.
  9. "Nintendo 3DS vs. PS Vita: Handheld Wars, The Next Generation". IndustryGamers. September 16, 2011. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ September 23, 2011. สืบค้นเมื่อ November 1, 2011.
  10. Byford, Sam (September 17, 2020). "Nintendo has discontinued the 3DS". The Verge. สืบค้นเมื่อ September 17, 2020.
  11. "Nintendo 3DS discontinued after almost a decade". BBC News. September 17, 2020. สืบค้นเมื่อ September 17, 2020.