ข้ามไปเนื้อหา

ตะยอ กินปู้น

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
แชมพู ตะยอ กินปู้น แบบดั้งเดิม

ตะยอ กินปู้น (พม่า: တရော် ကင်ပွန်း, ออกเสียง: [təjò kìɰ̃mʊ́ɰ̃] หรือ ออกเสียง: [təjò kìɰ̃bʊ́ɰ̃]; ทับศัพท์ ตะยอ กินมู้น[1][2] หรือ ตะยอ กินบู้น[3][4]) เป็นแชมพูแบบดั้งเดิมที่ใช้ในประเทศพม่า ส่วนผสมหลักคือเปลือกของต้น มาลัย (ตะยอ) และผล ส้มป่อย (กินปู้น) อาจเติมผลไม้ตระกูลมะนาวและมะกรูดลงในส่วนผสมด้วย การสระผมด้วย ตะยอ กินปู้น เป็นประเพณีสำคัญในวัฒนธรรมพม่ามาตั้งแต่สมัยโบราณ กษัตริย์พม่าล้วนเคยสระผมด้วย ตะยอ กินปู้น ในพระราชพิธีสระผม (ခေါင်းဆေး မင်္ဂလာပွဲ) โดยเชื่อว่าการใช้แชมพูนี้จะขจัดโชคร้ายและนำโชคดีมาให้[5] ปัจจุบันยังคงเป็นธรรมเนียมที่ชาวพม่าจำนวนมากจะสระผมด้วย ตะยอ กินปู้น ใน วันปีใหม่ของชาวพม่า เพื่อชำระล้างสิ่งสกปรกและโชคร้ายในอดีตไว้เบื้องหลัง[6][7]

นอกเหนือจากการใช้ในพิธีกรรม ตะยอ กินปู้น ยังคงใช้อย่างแพร่หลายโดยชาวพม่า และมีจำหน่ายทั่วไปในตลาดกลางแจ้ง โดยทั่วไปจะใส่ในถุงพลาสติก[8][9]

ตำนาน[แก้]

รูปเคารพราชินีพานตะวา

ตามตำนาน พระเจ้าดุตะบอง (ဒွတ္တဘောင်) แห่ง อาณาจักรศรีเกษตร ทรงมีอิทธิฤทธิ์เหนือธรรมชาติจากไฝที่อยู่โดดเด่นกลางหน้าผาก เป็นที่รู้จักในนามกษัตริย์สามตา พระเจ้าดุตะบองได้พิชิต เบะตะโน่ และรับ พานตะวา (ပန်ထွာ) ผู้ปกครองรัฐเข้ามาเป็นมเหสีของพระองค์[10][11] แม้ว่าจะปราชัย แต่ราชินีพานตะวาก็สาบานว่าจะยึดอาณาจักรของพระองค์กลับคืนมา เมื่อพบว่าไฝของกษัตริย์เป็นที่มาของอิทธิฤทธิ์ พระองค์จึงวางแผนที่จะลดอิทธิฤทธิ์ของไฝ โดยมอบผ้าเช็ดหน้าซึ่งทำจาก ทะเมียน (โสร่ง) ของพระองค์ให้แก่กษัตริย์ เมื่อใช้ผ้าเช็ดหน้าพระองค์สูญเสียอิทธิฤทธิ์ ในไม่ช้าพระองค์ก็เผชิญกับการกบฏมากมาย และต้องหลบหนีออกจากเมืองหลวง ขณะหลบหนีพระองค์พักอยู่ใต้ต้น ตะยอ ขนาดใหญ่ ที่รายล้อมด้วยต้น กินปู้น เมื่อฝนเริ่มตก เศียรของพระองค์ชุ่มไปด้วยยาจากต้น ตะยอ และ กินปู้น ซึ่งขจัดมนต์จากผ้าเช็ดหน้าของพานตะวา และอิทธิฤทธิ์ของพระองค์ก็ปรากฏขึ้นอีกครั้ง นับจากนั้นกษัตริย์พม่าที่สืบทอดต่อ ๆ มา ก็ใช้ส่วนผสม ตะยอ กินปู้น สระผมตามพิธีกรรมเพื่อขับไล่ความชั่วร้ายออกไป และเพิ่มพลังให้กับพวกเขา[10]

วัฒนธรรมสมัยนิยม[แก้]

อ้างอิง[แก้]

  1. Hardiman, John Percy (1901). Sir James George Scott (บ.ก.). Gazetteer of Upper Burma and Shan States Part 2. Vol. 2. Government Press, British Burma. p. 252. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2022-08-17. สืบค้นเมื่อ 2022-08-07.
  2. United States National Herbarium, United States National Museum (2003). Contributions from the United States National Herbarium. Smithsonian Institution Press. p. 419. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2022-08-17. สืบค้นเมื่อ 2022-08-07.
  3. Burma Research Group (1987). Burma and Japan: Basic Studies on Their Cultural and Social Structure. Burma Research. p. 299. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2022-08-17. สืบค้นเมื่อ 2022-08-07.
  4. SEAMEO Regional Centre for History and Tradition (2005). Traditions, 2005. Yangon. p. 51. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2022-08-17. สืบค้นเมื่อ 2022-08-07.
  5. "Soap Nut (ကင်ပွန်းသီး)". Hello Sayarwon (ภาษาพม่า). 25 September 2017. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 24 January 2021. สืบค้นเมื่อ 2 August 2022.
  6. "နှစ်ဆန်းတစ်ရက်နေ့". Eleven Media Group (ภาษาพม่า). 17 April 2019. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 8 August 2022. สืบค้นเมื่อ 2 August 2022.
  7. "မြန်မာရိုးရာ အတာနှစ်ကူး ခေါင်းဆေးမင်္ဂလာ". DVB (ภาษาพม่า). 14 April 2021. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 8 August 2022. สืบค้นเมื่อ 2 August 2022.
  8. "Myanmar Shampoo". www.myanmars.net (ภาษาอังกฤษแบบบริติช). 13 November 2018. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 17 August 2022. สืบค้นเมื่อ 2 August 2022.
  9. "Yan Win (Taung Da Gar) – Myanmar Shampoo". THIT HTOO LWIN (Daily News) (ภาษาพม่า). 16 April 2011. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 8 September 2019. สืบค้นเมื่อ 2 August 2022.
  10. 10.0 10.1 "ဆေးဖက်ဝင်အပင်များနှင့် အဓိကပျောက်ကင်းနိုင်သောရောဂါများ". Myawawady News. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2022-08-17. สืบค้นเมื่อ 2022-08-03.
  11. "တရော်ကင်းပွန်းဖြစ်လာပုံ". Ayeyar Myay (ภาษาพม่า). 12 July 2020. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 17 August 2022. สืบค้นเมื่อ 3 August 2022.
  12. "စစ်အာဏာရှင်ကို တရော်ကင်ပွန်းနှင့် တော်လှန်သည့် မန္တလေး". Mizzima (ภาษาพม่า). 14 April 2021. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 17 August 2022. สืบค้นเมื่อ 2 August 2022.