ซัมซุง กาแลคซีเอส 8

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
(เปลี่ยนทางจาก ซัมซุง กาแล็คซี่ เอส 8)
ซัมซุง กาแลคซีเอส 8
ซัมซุง กาแลคซีเอส 8+
ซัมซุง กาแลคซีเอส 8 และเอส 8+
รหัสชื่อProject Dream
ตราสินค้าซัมซุง กาแลคซี
ผู้พัฒนาซัมซุง
ผู้ผลิตซัมซุง
สโลแกนUnbox Your Phone
ซีรีส์ซัมซุง กาแลคซีเอส
เปิดตัวครั้งแรก21 เมษายน 2017; 7 ปีก่อน (2017-04-21)
ขายในประเทศ
28 เมษายน 2017
5 พฤษภาคม 2017
รุ่นก่อนหน้าซัมซุง กาแลคซีเอส 7
รุ่นถัดไปซัมซุง กาแลคซีเอส 9
รุ่นที่เกี่ยวข้องซัมซุง กาแลคซี โน้ต 7
รูปแบบสมาร์ตโฟนจอสัมผัส
ขนาดS8:
สูง 148.9 mm (5.86 in)
กว้าง 68.1 mm (2.68 in)
หนา 8.0 mm (0.31 in)
S8+:
สูง 159.5 mm (6.28 in)
กว้าง 73.4 mm (2.89 in)
หนา 8.1 mm (0.32 in)
น้ำหนัก
  • S8: 155 g (5.5 oz)
  • S8+: 173 g (6.1 oz)
ระบบปฏิบัติการดั้งเดิม: แอนดรอยด์ 7.0 "นูกัต" พร้อมซัมซุง เอกซ์พีเรียนซ์ 8.1
ปัจจุบัน: แอนดรอยด์ 9 "พาย" พร้อม วัน ยูไอ
ระบบบนชิป
ซีพียู
  • เอ็กซีนอส: Octa-core (4×2.5 GHz M2 Mongoose & 4×1.7 GHz Cortex-A53 (GTS)
  • สแนปดรากอน: Octa-core (4×2.45 GHz Kryo & 4×1.9 GHz Kryo)
จีพียู
หน่วยความจำระบบ4 GB LPDDR4X
หน่วยความจำ64 GB UFS 2.1
หน่วยความจำภายนอกmicroSDXC, รองรับได้ถึง 256 GB
แบตเตอรี่
  • S8: 3000 mAh
  • S8+: 3500 mAh
การป้อนข้อมูล
เซ็นเซอร์:
จอแสดงผล
  • 2960×1440 1440p Super AMOLED,
  • S8: 5.8 in (150 mm), 225 ppcm (572 ppi)
  • S8+: 6.2 in (160 mm), 208 ppcm (529 ppi)
กล้องหลัง12 ล้านพิกเซล (1.4 µm), f/1.7 aperture, 4K ที่ 30 fps, 1080p ที่ 60 fps, 720p ที่ 240 fps
กล้องหน้า8 ล้านพิกเซล, ออโตโฟกัส
เว็บไซต์www.samsung.com/global/galaxy/galaxy-s8/
อ้างอิง[1][2][3][4]

ซัมซุง กาแลคซีเอส 8 (อังกฤษ: Samsung Galaxy S8; ชื่อรหัส Project Dream[5]) เป็นสมาร์ตโฟนลำดับที่ 8 ในชุดกาแลคซีเอส ผลิตโดยซัมซุง เปิดตัวครั้งแรกที่นครนิวยอร์กเมื่อวันที่ 29 มีนาคม ค.ศ. 2017[6] มีด้วยกัน 2 รุ่นคือเอส 8 และเอส 8 พลัส ทั้งสองรุ่นมีขอบจอโค้งเหมือนกัน แต่ต่างกันที่ขนาดจอและแบตเตอรี[7] ซัมซุง กาแลคซีเอส 8 มีการพัฒนาจากรุ่นก่อนคือลดพื้นที่ขอบจอด้านบนและด้านล่างลง เพื่อให้จอแสดงผลมีพื้นที่มากขึ้น, ด้านหน้าเปลี่ยนมาใช้ระบบสัมผัสแทนปุ่มกดและย้ายตัวสแกนลายนิ้วมือไปไว้ด้านหลัง, รองรับการสแกนม่านตา, เพิ่ม Bixby ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์ผู้ช่วยปัญญาตัวใหม่ของซัมซุงและมีอุปกรณ์เสริมคือ Samsung DeX ที่สามารถเปลี่ยนการทำงานของเอส 8 ให้เป็นแบบคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะได้[8][9][10][11] ซัมซุง กาแลคซีเอส 8 เปิดตัวด้วย 5 สีได้แก่ดำ, เทา/ม่วง, ฟ้า, เงินและทอง[12] วางจำหน่ายในสหรัฐอเมริกาเมื่อวันที่ 21 เมษายน ค.ศ. 2017[13]

ประวัติ[แก้]

ก่อนที่จะมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ ก็มีข่าวลือต่าง ๆ ในโลกออนไลน์จาก SamMobile ในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2559 โดนเนื้อข่าวรายงานว่าซัมซุง กาแลคซีเอส 8 จะไม่มีช่องหูฟัง 3.5 มิลลิเมตรอีกต่อไปแล้ว[14] แต่หลังจากนั้น ข่าวลือก็ไม่เป็นความจริง[15] ต่อมาในเดือนมกราคม พ.ศ. 2560 สำนักข่าว เดอะการ์เดียน รายงานว่า ส่วนของหน้าจอทั้งสองขนาดนั้นจะมีขอบจากฝั่งไปอีกฝั่งที่บางมากและมีระบบสแกนม่านตาเพิ่มเข้ามา[16] นอกจากนี้ เดอะการ์เดียน ยังยืนยันว่าโทรศัพท์รุ่นนี้จะมาพร้อมความจำ 64 จิกะไบต์และรองรับไมโครเอสดีการ์ด ส่วนพอร์ทการชาร์จใช้ USB-C และผู้ช่วยอัจฉริยะที่ชื่อว่า "Bixby"[16][17][18] ไม่นานหลังจากนั้น สำนักข่าว เวนเจอร์บีท ได้เผยโฉมโทรศัพท์รุ่นนี้ออกมา โดยพบว่าปุ่มควบคุมด้านล่างได้นำออกไป แทนที่ด้วยระบบสัมผัสบนหน้าจอ ส่วนระบบสแกนรอยนิ้วมือได้ย้ายไปอยู่ด้านหลังของตัวเครื่อง[19][20][21] ในกลางเดือนมีนาคม อีแวน แบลส ได้ทวีตในทวิตเตอร์เกี่ยวกับสีของรุ่นนี้[22][23]

ซัมซุง กาแลคซีเอส 8 และเอส 8+ ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2560 และเริ่มเปิดจองที่ประเทศสหรัฐอเมริกาเมื่อวันที่ 30 มีนาคม[13][24] ในสหราชอาณาจักรได้มีการเริ่มรับจองเมื่อวันที่ 29 มีนาคมจนถึง 19 เมษายน โดยการจองในล็อตแรกจะเริ่มส่งมอบให้ลูกค้าในวันที่ 20 เมษายน ก่อนที่จะจำหน่ายจริงในวันที่ 28 เมษายน[25] ในประเทศอินเดียได้เริ่มจำหน่ายเมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม[26]

ข้อมูลจำเพาะ[แก้]

ฮาร์ดแวร์[แก้]

ซัมซุง กาแลคซีเอส 8 และเอส 8+ ทั้งคู่นั้น มีขนาดความละเอียดของหน้าจอที่ 1440p ใช้หน้าจอแบบ Super AMOLED และมีอัตราส่วนหน้าจอที่ 18.5:9 ซึ่งมีความสูงมากกว่าอัตราส่วนหน้าจอแบบ 16:9 ที่ใช้ในสมาร์ทโฟนส่วนใหญ่ รุ่นเอส 8 นั้นมีหน้าจอขนาด 5.8 นิ้ว ส่วนรุ่นเอส 8+ มีหน้าจอขนาดใหญ่กว่าคือ 6.2 นิ้ว จอแสดงผลนั้นได้โค้งงอไปตามด้านข้างของตัวเครื่อง ซึ่งขอบนั้นบางมากจนไม่เห็นขอบข้างของตัวเครื่องเมื่อมองจากด้านหน้า ทำให้ซัมซุงนั้นได้โฆษณามือถือรุ่นนี้ว่า Infinity Display ส่วนขอบของหน้าจอแสดงผลนั้นได้ทำให้มีความโค้งมนขึ้น[13] คุณสมบัติของเอส 8 นั้นมาพร้อมกับชิปเอ็กซีนอส จำนวน 8 หัวและมีแรมขนาด 4 GB ส่วนในฝั่งประเทศในอเมริกาเหนือนั้นใช้ชิปควอลคอมม์ สแนปดรากอน 835 แทน โดนชิปทั้งคู่นั้นได้ผลิตโดยซัมซุงในสถาปัตยกรรมขนาด 10 นาโนเมตร[13][27] ทั้งสองรุ่นมาพร้อมกับหน่วยความจำภายในขนาด 64 GB และสามารถเพิ่มได้โดยใส่การ์ดหน่วยความจำภายนอก[13] กาแล็คซี่ เอส 8 นั้นเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกที่รองรับบลูทูธ 5 และรองรับความสามารถใหม่ เช่น เชื่อมต่อหูฟังไร้สายสองเครื่องในครั้งเดียว[28] และได้แถมหูฟัง Harman AKG มาให้ในกล่องด้วย[29][30] โดยสมาร์ทโฟนทั้งคู่นี้นั้นได้ปรับปรุงการนำทางด้วยดาวเทียมจากรุ่นก่อนโดยเพิ่มตัวรับกาลิเลโอ[1]

ซัมซุง กาแลคซีเอส 8 นั้นไม่ได้ใช้ปุ่มนำทางที่ด้านล่างของหน้าจอเหมือนรุ่นก่อน ๆ อีกแล้ว แต่เปลี่ยนเป็นปุ่มบนจอแทน[13] อย่างไรก็ตาม ปุ่มโฮมยังสามารถใช้งานได้ในขณะที่ซ่อนหรือหน้าจอปิดอยู่ และหน้าจอของกาแลคซีเอส 8 นั้นมีความสามารถในการรองรับแรงกดดันได้เฉพาะปุ่มโฮมเท่านั้น[31] ส่วนปุ่มโฮมจะมีการเคลื่อนย้ายตำแหน่งเพียงเล็กน้อย เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอาการจอเบิร์น[32][33] กล้องหลังของซัมซุง กาแลคซีเอส 8 นั้น มีขนาด 12 ล้านพิกเซล และใช้เทคโนโลยี "Dual Pixel" เหมือนซัมซุง กาแลคซีเอส 7 แต่มีการพัฒนาและปรับปรุงซอฟต์แวร์ใหม่ ส่วนกล้องหน้าอัปเกรดเซนเซอร์ใหม่เป็น 8 ล้านพิกเซลและพร้อมระบบออโตโฟกัส[13][34] คุณสมบัติการสแกนลายนิ้วมือได้มีการย้ายไปด้านหลังในตำแหน่งข้างตัวกล้อง สาเหตุที่ย้ายก็มาจากการเปลี่ยนแปลงปุ่มโฮมไปเป็นแบบ On-Screen แทน[13] นอกเหนือจากการสแกนม่านตา กาแลคซีเอส 8 ก็มีคุณสมบัติสแกนใบหน้าเพื่อปลดล็อกอีกด้วย[35][36] ซึ่งเทคโนโลยีการจดจำใบหน้าหรือสแกนใบหน้านี้ ก็เคยได้ใช้ในรุ่นก่อนหน้า เช่น ซัมซุง กาแลคซีเอส 3[37] และซัมซุง กาแลคซีเอส 4[38]

ตัวเครื่องของเอส 8 และเอส 8+ ได้ใช้แบตเตอรีที่ไม่สามารถถอดได้ขนาด 3000 และ 3500 mAh ตามลำดับ ซึ่งซัมซุงได้กล่าวไว้ว่าได้ใช้เวลาปรับปรุงและทดลองแบตเตอรีสำหรับรุ่นเหล่านี้นานกว่ารุ่นก่อน ๆ ที่ผ่านมา[34] กาแลคซีเอส 8 รองรับ AirFuel Inductive (สมัยก่อนคือ PMA)[39] และมาตรฐานการชาร์จไร้สาย Qi[13] สืบเนื่องจากเหตุการณ์การเรียกคืนของซัมซุง กาแลคซี โน้ต 7 ซัมซุงกล่าวในงานแถลงข่าวว่า บริษัทมุ่งมั่นที่จะควบคุมคุณภาพและขั้นตอนการทดสอบความปลอดภัยอย่างเข้มงวดมากขึ้นในผลิตภัณฑ์ทั้งหมดของบริษัทในอนาคต[40]

นอกจากนี้ ซัมซุงยังเปิดตัวกาแลคซีเอส 8+ ที่มีหน่วยความจำภายในขนาด 128 GB และหน่วยความจำชั่วคราวขนาด 6 GB ซึ่งเป็นรุ่นพิเศษสำหรับประเทศจีนและประเทศเกาหลีใต้เท่านั้น[41][42]

ซอฟต์แวร์[แก้]

ซัมซุง กาแลคซีเอส 8 ได้ใช้ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 7.0 "นูกัต" มาพร้อมกับส่วนติดต่อหน้าจอกับผู้ใช้และชุดซอฟต์แวร์ Samsung Experience (แต่ก่อนคือ TouchWiz)[34] คุณสมบัติที่สำคัญของชุดซอฟต์แวร์นี้คือฟังก์ชันผู้ช่วยอัจฉริยะหรือที่เรียกว่า Bixby ซึ่งออกแบบมาเพื่อโต้ตอบชุดแอปพลิเคชันต่าง ๆ ของซัมซุงและเพื่อสนับสนุนบริการต่าง ๆ คุณสมบัติของ Bixby สามารถสั่งคำสั่งโทรศัพท์ด้วยเสียงได้ สามารถสร้างหรือเลือกการ์ดที่แสดงบนหน้าจอหลักได้ (มาแทน Flipboard ซึ่งเคยเป็นคุณสมบัติที่โดดเด่นก่อนหน้านี้) ขึ้นอยู่กับปฏิสัมพันธ์ของผู้ใช้และดำเนินการค้นหาภาพโดยใช้การจดจำของวัตถุโดยกล้อง[34]

Bixby นั้นจะสนับสนุนแอปพลิเคชันบุคคลที่ 3 ต่าง ๆ โดย SDK[34] กาแลคซีเอส 8 นั้นสามารถใช้ docking station หรือที่เรียกว่า Samsung DeX ซึ่งเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์และเมื่อเชื่อมต่อแล้วก็จะมีการแสดงผลหน้าจอคล้ายเดสก์ท็อปบนจอคอมพิวเตอร์ อีกทั้งมีการสนับสนุนเมาส์และคีย์บอร์ดด้วย[43] ในวันที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2560 คือวันที่ตรงกับวันที่ขายโทรศัพท์รุ่นนี้ มีรายงานว่าโปรแกรมเล่นเพลงเริ่มต้นของกาแลคซีเอส 8 นั้นคือ กูเกิลเพลย์ มิวสิก เหมือนกับซัมซุง กาแลคซีเอส 7 ที่มีการเริ่มต้นเปลี่ยนค่าเริ่มต้นโปรแกรมเพลงเป็นกูเกิลเพลย์ มิวสิกในปี พ.ศ. 2558 อย่างไรก็ตาม เพื่อกาแลคซีเอส 8 ซัมซุงได้ร่วมมือกับกูเกิลสำหรับคุณสมบัติพิเศษที่สามารถอัปโหลดเพลงไปบนพื้นที่เก็บข้อมูลคลาวด์ได้จำนวน 100,000 เพลง ซึ่งเพิ่มจากปกติ 50,000 เพลง นอกจากนี้ ผู้ใช้ใหม่ก็สามารถใช้บริการฟรี 3 เดือน เช่นเดียวกับที่กูเกิลที่ทำให้กับผู้ที่ซื้อสมาร์ทโฟนกูเกิล พิกเซล นอกจากนี้ กูเกิลได้กล่าวว่าคุณสมบัติพิเศษเฉพาะซัมซุงนี้จะเพิ่มในแอปพลิเคชันในอนาคต และ Bixby ก็จะรองรับแอปพลิเคชันได้เมื่อ Bixby นั้นสามารถใช้ได้อย่างเป็นทางการ[44][45] Bixby นั้นมาแทน S Voice ซึ่งเป็นเทคโนโลยีการจดจำเสียงที่พบในมือถือซัมซุง กาแลคซีเอสรุ่นก่อนหน้า[46]

อ้างอิง[แก้]

  1. 1.0 1.1 "Samsung Galaxy S8 Specifications". Samsung. สืบค้นเมื่อ 30 มีนาคม 2017.
  2. "See the Samsung Galaxy S7 camera and its blazing fast autofocus in action". PhoneArena. สืบค้นเมื่อ 28 กรกฎาคม 2016.
  3. "Galaxy S8 and Galaxy S8+: The full specs". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 29 มีนาคม 2017. สืบค้นเมื่อ 30 มีนาคม 2017.
  4. "Samsung Galaxy S8 Plus vs iPhone 7 Plus: which is better?". Techradar. สืบค้นเมื่อ 3 เมษายน 2017.
  5. "Samsung's Project Dream is the Galaxy S8 with a 4K VR-ready display". SamMobile. 26 กรกฎาคม 2016. สืบค้นเมื่อ 14 พฤศจิกายน 2018.
  6. "What to expect from Samsung's Galaxy S8 unveiling". CNBC.com. สืบค้นเมื่อ 31 มีนาคม 2017.
  7. "Samsung Galaxy S8 vs S8 Plus: What's the difference?". Pocket-lint. สืบค้นเมื่อ 31 มีนาคม 2017.
  8. "Galaxy S8 Vs Galaxy S7: What's The Difference?". Forbes. สืบค้นเมื่อ 31 มีนาคม 2017.
  9. "The 8 most important features of Samsung's new Galaxy S8 phone". The Verge. สืบค้นเมื่อ 31 มีนาคม 2017.
  10. "เปิดตัว Galaxy S8 / S8 Plus ดีไซน์ไร้ขอบ จอไร้ปุ่ม กล้องเทพทั้งหน้าหลัง และผู้ช่วยอัจฉริยะ Bixby". DroidSans. สืบค้นเมื่อ 31 มีนาคม 2017.
  11. "แปลงร่าง Galaxy S8 / S8 Plus เป็นคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะด้วย Samsung DeX". DroidSans. สืบค้นเมื่อ 31 มีนาคม 2017.
  12. "Samsung Galaxy S8 colors: all of the options available". TechRadar. สืบค้นเมื่อ 31 มีนาคม 2017.
  13. 13.0 13.1 13.2 13.3 13.4 13.5 13.6 13.7 13.8 Bohn, Dieter (29 มีนาคม 2017). "This is the Samsung Galaxy S8, coming April 21st". The Verge. Vox Media. สืบค้นเมื่อ 30 มีนาคม 2017.
  14. F., Adnan (6 ธันวาคม 2016). "Exclusive: Galaxy S8 is not going to feature a 3.5mm headphone jack". SamMobile. สืบค้นเมื่อ 4 เมษายน 2017.
  15. Ruddock, David (13 มกราคม 2017). "Rumor: The Galaxy S8 will have a headphone jack after all". Android Police. สืบค้นเมื่อ 5 เมษายน 2017.
  16. 16.0 16.1 Gibbs, Samuel (24 มกราคม 2017). "Samsung Galaxy S8 to have bigger 'infinity' display, insiders say". The Guardian. Guardian Media Group. สืบค้นเมื่อ 5 เมษายน 2017.
  17. Siegal, Jacob (24 มกราคม 2017). "In-depth Galaxy S8 report details new 'infinity display' and more". BGR. Penske Media Corporation. สืบค้นเมื่อ 5 เมษายน 2017.
  18. Villas-Boas, Antonio (24 มกราคม 2017). "A new leak just revealed pretty much everything about Samsung's next big smartphone, the Galaxy S8". Business Insider. Axel Springer SE. สืบค้นเมื่อ 5 เมษายน 2017.
  19. Blass, Evan (26 มกราคม 2017). "This is the Samsung Galaxy S8, launching March 29". VentureBeat. สืบค้นเมื่อ 5 เมษายน 2017.
  20. Welch, Chris (26 มกราคม 2017). "This is the first image of the Samsung Galaxy S8". The Verge. Vox Media. สืบค้นเมื่อ 5 เมษายน 2017.
  21. Amadeo, Ron (26 มกราคม 2017). "Galaxy S8 gets pictured: No home button, huge 5.8- and 6.2-inch displays". Ars Technica. Condé Nast. สืบค้นเมื่อ 5 เมษายน 2017.
  22. Dunn, Jeff (19 มีนาคม 2017). "The latest Samsung Galaxy S8 leak claims to show different color options for the upcoming phones". Business Insider. Axel Springer SE. สืบค้นเมื่อ 5 เมษายน 2017.
  23. Heisler, Yoni (20 มีนาคม 2017). "Leaked Galaxy S8 photos show range of new color options". BGR. Penske Media Corporation. สืบค้นเมื่อ 5 เมษายน 2017.
  24. Velazco, Chris (29 มีนาคม 2017). "The Galaxy S8 and S8+ pack big changes into gorgeous bodies". Engadget. AOL. สืบค้นเมื่อ 5 เมษายน 2017.
  25. "Samsung Galaxy S8 and S8+: UK price, release date and pre-order information". The Daily Telegraph. Telegraph Media Group. 30 มีนาคม 2017. สืบค้นเมื่อ 21 เมษายน 2017.
  26. "Samsung Galaxy S8 Launched in India Starting Rs. 57,900, Available From May 5: Highlights". Gadgets360. NDTV. 19 เมษายน 2017. สืบค้นเมื่อ 21 เมษายน 2017.
  27. Simon, Michael (24 มกราคม 2017). "Report: Snapdragon 835 will launch first in Galaxy S8, others have to wait". PC World. International Data Group. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 23 ธันวาคม 2018. สืบค้นเมื่อ 30 มีนาคม 2017.
  28. O'Kane, Sean (29 มีนาคม 2017). "The Samsung Galaxy S8 is the first phone with Bluetooth 5.0". The Verge. Vox Media. สืบค้นเมื่อ 30 มีนาคม 2017.
  29. Gartenberg, Chaim (29 มีนาคม 2017). "The Galaxy S8 will come bundled with a pair of $99 wired Harman AKG headphones". The Verge. Vox Media. สืบค้นเมื่อ 30 มีนาคม 2017.
  30. Alvarez, Edgar (29 มีนาคม 2017). "Every Galaxy S8 comes with a pair of $99 AKG earbuds". Engadget. AOL. สืบค้นเมื่อ 9 เมษายน 2017.
  31. Kastrenakes, Jacob (29 มีนาคม 2017). "Samsung's Galaxy S8 has a pressure-sensitive home button built into the screen". The Verge. Vox Media. สืบค้นเมื่อ 30 มีนาคม 2017.
  32. Vincent, James (28 เมษายน 2017). "The Galaxy S8's home button moves, and there's a good reason for it". The Verge. Vox Media. สืบค้นเมื่อ 28 เมษายน 2017.
  33. LeFebvre, Rob (28 เมษายน 2017). "The Galaxy S8's home button shifts to prevent screen burn". Engadget. AOL. สืบค้นเมื่อ 28 เมษายน 2017.
  34. 34.0 34.1 34.2 34.3 34.4 Segan, Sascha (29 มีนาคม 2017). "Samsung Galaxy S8". PC Magazine. Ziff Davis. สืบค้นเมื่อ 30 มีนาคม 2017.
  35. Carman, Ashley (29 มีนาคม 2017). "The Galaxy S8's face-scanning feature might make you forget about its misplaced fingerprint scanner". The Verge. Vox Media. สืบค้นเมื่อ 5 เมษายน 2017.
  36. Bader, Daniel (3 เมษายน 2017). "The Galaxy S8 has face recognition and iris scanning, and you have to choose one". Android Central. สืบค้นเมื่อ 5 เมษายน 2017.
  37. Reynolds, Dylan (4 พฤษภาคม 2012). "Samsung unveils Galaxy S III smartphone with face, voice recognition". CNN. สืบค้นเมื่อ 7 เมษายน 2017.
  38. Sage, Simon (5 กุมภาพันธ์ 2014). "How to use facial recognition on the Samsung Galaxy S4". Android Central. สืบค้นเมื่อ 7 เมษายน 2017.
  39. Walter, Derek (2 กันยายน 2016). "Everything you need to know about wireless charging". TechHive. International Data Group. สืบค้นเมื่อ 30 มีนาคม 2017.
  40. Goode, Lauren (22 มกราคม 2017). "This is how Samsung plans to prevent future phones from catching fire". The Verge. Vox Media. สืบค้นเมื่อ 30 มีนาคม 2017.
  41. Gartenberg, Chaim (6 เมษายน 2017). "Samsung is selling an S8 Plus with 128GB of storage and 6GB of RAM, but only in Asia". The Verge. Vox Media. สืบค้นเมื่อ 9 เมษายน 2017.
  42. Wilhelm, Parker. "There's a Samsung Galaxy S8 with 6GB of RAM – but no you can't have it". TechRadar. Future plc. สืบค้นเมื่อ 9 เมษายน 2017.
  43. Warren, Tom (29 มีนาคม 2017). "Samsung's Galaxy S8 can turn into a PC with its DeX dock". The Verge. Vox Media. สืบค้นเมื่อ 30 มีนาคม 2017.
  44. Welch, Chris (21 เมษายน 2017). "Samsung will use Google Play Music as the default music app on its devices". The Verge. Vox Media. สืบค้นเมื่อ 21 เมษายน 2017.
  45. Ingraham, Nathan (21 เมษายน 2017). "Galaxy S8 owners can upload 100,000 songs to Google Play Music". Engadget. AOL. สืบค้นเมื่อ 21 เมษายน 2017.
  46. Reigh, Brian. "We need to talk about Samsung's Bixby". Android Authority. สืบค้นเมื่อ 27 เมษายน 2017.

แหล่งข้อมูลอื่น[แก้]