ซัมซุง กาแลคซี่ โน้ต (ชุด)

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
ซัมซุง กาแล็คซี่ โน้ต
บน: โลโก้ใหม่เริ่มใช้ในซัมซุง กาแลคซี โน้ต 10
ซ้ายไปขวา: กาแลคซี โน้ต 10, โน้ต 10 +, โน้ต 10
ผู้ผลิตซัมซุง อิเลคโทรนิคส์
ชนิดแฟบเล็ต สมาร์ทโฟน, แท็บเล็ต
วางจำหน่าย29 ตุลาคม 2011; 12 ปีก่อน (2011-10-29)
ยกเลิก31 ธันวาคม ค.ศ. 2021 (2021-12-31)
ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์
การรับเข้าหน้าจอสัมผัส, สไตลัส
รุ่นต่อไปซัมซุง กาแลคซีเอส (อัลตรา)
ซัมซุง กาแลคซีซี (โฟล์ด)
บทความที่เกี่ยวข้องซัมซุง กาแลคซี

ซัมซุง กาแล็คซี่ โน้ต (อังกฤษ: Samsung Galaxy Note) เป็นชุดของสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตระดับสูงที่ใช้ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ ผลิตและจัดจำหน่ายโดยบริษัทซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ ซึ่งมือถือรุ่นนี้มีจุดประสงค์ที่มุ่งหลักไปทางปากกาคอมพิวเตอร์ โดยซัมซุง กาแล็คซี่ โน้ตทุกเครื่องประกอบด้วยปากกาสไตลัส และสามารถรองรับแรงกดปากกาได้ด้วย ซัมซุง กาแล็คซี่ โน้ตทุกเครื่องยังมีซอฟต์แวร์ที่มีคุณสมบัติรองรับปากกาสไตลัสได้ เช่น note-taking และ digital scrapbooking และมีมัลติสกรีนด้วย

ซัมซุง กาแล็คซี่ โน้ต เป็นตัวอย่างสมาร์ทโฟนที่ได้รับการพิจารณาว่าเป็นแฟบเล็ต (เป็นระดับของสมาร์ทโฟนที่มีหน้าจอขนาดใหญ่ที่มีคุณสมบัติแบบแท็บเล็ตในรูปแบบของมือถือ) ที่ประสบผลสำเร็จทางด้านการตลาด เพราะซัมซุงได้จำหน่ายซัมซุง กาแล็คซี่ โน้ตในระว่างเดือนกันยายน พ.ศ. 2554–เดือนตุลาคม พ.ศ. 2556 ได้มากกว่า 50 ล้านเครื่อง โดยซัมซุง กาแลคซี โน้ต 3 ได้จำหน่ายไป 10 ล้านเครื่องหลังการเปิดตัวสองเดือน, ซัมซุง กาแล็คซี่ โน้ต 2 ขายไปแล้วมากกว่า 30 ล้านเครื่อง และซัมซุง กาแล็คซี่ โน้ต รุ่นแรกได้จำหน่ายไปแล้วกว่า 10 ล้านเครื่องทั่วโลก

อย่างไรก็ตามแต่ ด้วยสถานการณ์การระบาดทั่วของโควิด-19 ทำให้ตลาดอุปกรณ์อิเลคทรอนิกส์เกิดภาวะวงจรรวมขาดตลาด ส่งผลต่อสายการผลิตสินค้าทุกชนิด ทำให้ในปี พ.ศ. 2564 ซัมซุงตัดสินใจยกเลิกการเปิดตัว กาแล็คซี่ โน้ต รุ่นใหม่ (กาแล็คซี่ โน้ต 21) ลงด้วยปัญหาดังกล่าว โดยผลสำเร็จได้ถูกนำมาต่อยอดเป็น ซัมซุง กาแล็คซี่เอส 22 อัลตรา แทนในปี พ.ศ. 2565 และในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2565 ซัมซุงได้ออกประกาศอย่างเป็นทางการว่าบริษัทได้ยกเลิก กาแล็คซี่ โน้ต อย่างเป็นทางการแล้ว ด้วยเหตุผลคือต้องการหลีกทางให้กับ ซัมซุง กาแลคซี่ซี ที่เปิดตัวช่วงปลายปี ทั้งนี้ฟีเจอร์ต่าง ๆ ของ กาแล็คซี่ โน้ต จะถูกบรรจุรวมในกาแล็คซี่เอส อัลตรา และกาแล็คซี่ซี โฟล์ด แทน

สมาร์ทโฟน[แก้]

กาแล็คซี่ โน้ต[แก้]

ที่งาน IFA ในเบอร์ลิน เมื่อ พ.ศ. 2554 ซัมซุงได้เปิดตัวกาแล็คซี่ โน้ต รุ่นแรก ในขณะที่สื่อบางสำนักได้สอบถามถึงความสามารถในการทำงานของอุปกรณ์นี้ต่าง ๆ มากมาย เนื่องจากมีขนาด 5.3 นิ้ว (ในขณะนั้น หน้าจอขนาดนี้ใหม่มากเกินไปสำหรับโทรศัพท์) และต่อมากาแล็คซี่ โน้ตรุ่นแรกก็ได้การยอมรับในแง่บวกเนื่องจากมีการทำงานที่มีประสิทธิภาพของปากกาสไตลัส หน่วยประมวลผล 2 หัวที่มีความเร็ว 1.4 จิกะเฮิร์ซ และความได้เปรียบของการที่มีหน้าจอใหญ่[1][2] กาแล็คซี่ โน้ตนั้นมีความสำเร็จในด้านการตลาด โดยเริ่มจำหน่ายเมื่อปลายปี พ.ศ. 2554 และหลังจากนั้นต่อมา 2 เดือนก็ได้ขายไปแล้ว 1 ล้านเครื่อง ต่อมาในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 ซัมซุงก็ได้เปิดตัวกาแล็คซี่ โน้ต เวอร์ชันรองรับ LTE ถัดมาในเดือนสิงหาคมปีเดียวกันก็ขายได้ 10 ล้านเครื่องทั่วโลก[3][4]

กาแล็คซี่ โน้ต 2[แก้]

ในวันที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2555 ที่งาน IFA เบอร์ลิน ซัมซุงได้เปิดตัวซัมซุง กาแล็คซี่ โน้ต 2 รุ่นใหม่ ซึ่งมีการพัฒนาฮาร์ดแวร์จากรุ่นที่แล้ว (หน่วยประมวลผล 4 หัว และจอแสดงผล 5.5 นิ้ว ปากกาได้อัปเกรดขึ้นรองรับแรงกด 1,024 ระดับ เพื่อการป้อนข้อมูลที่แม่นยำขึ้นด้วยปากกา ออกแบบฮาร์ดแวร์ใหม่ซึ่งมาพื้นฐานมาจากซัมซุง กาแลคซีเอส 3) ตลอดจนมาคุณสมบัติใหม่ เช่น สั่งด้วยแสดงท่าทางของปากกา จอแสดงภาพซ้อน แอร์วิว (สามารถแสดงข้อมูลข้างในโดยการนำปากกาไปชี้) และคุณสมบัติอื่น ๆ ที่อยู่ในกาแล็คซี่ เอส 3[5]

กาแล็คซี่ โน้ต 3[แก้]

ในวันที่ 4 กันยายน 2556 ซัมซุงได้เปิดตัวกาแล็คซี่ โน้ต 3 โดยแนะนำว่ามีการออกแบบที่ "พรีเมี่ยม" มากขึ้น โดยหลังตัวเครื่องนั้นเป็นหนังเทียมพลาสติก มีหน้าจอขนาด 5.7 นิ้ว ความละเอียด 1080p ถ่ายวีดีโอ 4K ได้มากถึง 5 นาที พอร์ทการเชื่อมต่อเป็นแบบ USB 3.0 และเพิ่มความสามารถของปากกาสไตลัส[6][7]

กาแล็คซี่ โน้ต 3 นีโอ[แก้]

เดือนมกราคม 2557 ซัมซุงได้เปิดตัวกาแล็คซี่ โน้ต 3 นีโอ ซึ่งเป็นรุ่นดาวน์เกรดหรือรุ่นล่างของกาแล็คซี่ โน้ต 3 แต่รุ่นนี้ก็ยังมีปากกาสไตลัสเหมือนเดิม กล้องขนาด 8 ล้านพิกเซล หน้าจอ Super AMOLED ขนาด 5.5 นิ้ว ความละเอียดขนาด 720p หน่วยความจำภายในขนาด 16 จิกะไบต์ หน่วยความจำชั่วคราวขนาด 2 จิกะไบต์ แต่แรมนั้นก็ยังทำงานได้ดีในซอฟต์แวร์จากตัวกาแล็คซี่ โน้ต 3 และมาพร้อมซัมซุง เอ็กซีนอส เฮกซะ 5260 (หน่วยประมวลผล 6 หัว)

กาแล็คซี่ โน้ต 4[แก้]

วันที่ 3 กันยายน 2557 ที่งาน IFA เบอร์ลิน ซัมซุงได้เปิดตัวกาแล็คซี่ โน้ต 4 มีการออกแบบใหม่โดยใช้ขอบข้างเป็นโลหะแต่ข้างหลังยังเป็นหนังเทียมพลาสติกอยู่ มีหน้าจอแสดงผลขนาด 5.7 นิ้ว ความละเอียดขนาด QHD กล้องหลังมีความละเอียด 16 ล้านพิกเซลและพร้อมกับระบบกันสั่น OIS ปรับปรุงปากกาสไตลัส และอัปเกรดความไวต่อแรงกดเพิ่มเป็น 2,048 ระดับ มีระบบแสกนลายนิ้วมือและอื่น ๆ ที่มาจากกาแล็คซี่ เอส 5

กาแล็คซี่ โน้ต เอดจ์[แก้]

นอกจากเปิดตัวซัมซุง กาแล็คซี่ โน้ต 4 แล้ว ซัมซุงยังได้เปิดตัวกาแล็คซี่ โน้ต เอดจ์ด้วย รุ่นนี้มีความพิเศษคือ จอแสดงผลนั้นมีส่วนโค้งไปถึงขอบขวาของอุปกรณ์ พื้นที่โค้งนี้สามารถใช้เป็นแถบด้านข้างเพื่อแสดงข้อมูลข่าวสารข้อมูลทางลัดแอปพลิเคชันและเครื่องมืออื่น ๆ ได้ เช่น ไม้บรรทัด[8][9]

กาแล็คซี่ โน้ต 5[แก้]

กาแล็คซี่ โน้ต 5 ได้เปิดตัวครั้งแรกเมื่อวันที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2558 โดยมีพื้นฐานการออกแบบฮาร์ดแวร์ของกาแล็คซี่ เอส 6 ซึ่งรวมถึงเฟรมโลหะและกระจกหน้าจอด้วย หน้าจอแสดงผลมีขนาด 5.7 นิ้ว ความละเอียด 1440p ใช้หน่วยประมวลผลเอ็กซีนอส 7 ออกตะ 7420 และใส่สปริงในช่องปากกาสไตลัสใหม่ ในรุ่นนี้ ไม่สามารถถอดแบตเตอรี่ออกได้แบบกาแล็คซี่ โน้ต รุ่นก่อนอีกแล้ว เช่นเดียวกับเอส 6[10][11][12][13] รุ่นนี้มาพร้อมกับคุณลักษณะใหม่คือ "Screen off memo" ที่ช่วยให้โทรศัพท์สามารถถูกปลุกได้โดยตรงและไปยังหน้าจอบันทึกความจำเมื่อปากกาสไตลัสถูกนำออก[10] และแอปกล้องสามารถถ่ายทอดสดผ่าน YouTube ได้โดยตรง[10]

กาแล็คซี่ โน้ต 7[แก้]

ซัมซุง กาแล็คซี่ โน้ต 7 ได้ถูกเปิดตัวในงานอีเวนท์ที่ซัมซุงได้จัดทำขึ้นที่นิวยอร์กเมื่อวันที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2559[14] รุ่นนี้ได้ใช้ฮาร์ดแวร์ร่วมกับกาแล็คซี่ เอส 7 เป็นส่วนใหญ่ โดยใช้หน่วยประมวลผล กล้อง การกันน้ำตามมาตรฐาน IP68 และสามารถเพิ่มหน่วยความจำภายนอกได้เหมือนกัน และเป็นมือถือซัมซุงรุ่นแรกที่ใช้พอร์ทการเชื่อมต่อ USB type-C ด้วย หน้าจอของกาแล็คซี่ โน้ต 7 นั้นเป็นขอบโค้งที่พาดไปถึงขอบทั้งสองข้างของเครื่อง และปากกาสไตลัสมีความไวต่อแรงกดและมีความแม่นยำที่ละเอียดกว่ารุ่นก่อน[15][16] ซัมซุงได้ข้ามการใช้ชื่อกาแล็คซี่ โน้ต 6 ไปใช้ชื่อโน้ต 7 แทนเนื่องจากต้องการให้มีชื่อสอดคล้องกับมือถือเรือธง ซัมซุง กาแล็คซี่ เอส 7 ของตัวเอง[17]

กาแล็คซี่ โน้ต 7 นั้นได้มีปัญหาอย่างหนักเกี่ยวกับแบตเตอรี่และเนื่องจากมีปัญหาการผลิต ทำให้เกิดอุบัติเหตุอย่างเครื่องร้อนเกินไปและระเบิดเกิดขึ้น จึงเกิดการเรียกคืนตัวเครื่องเป็นจำนวนมากเพื่อไปตรวจสอบใหม่[18][19] หลังจากการเปลี่ยนปรับปรุงตัวเครื่องก็เกิดเหตุการณ์เช่นเดิมอีก ทำให้กาแล็คซี่ โน้ต 7 นั้นได้ยกเลิกการวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2559 และอุปกรณ์ทั้งหมดนั้นได้ถูกเรียกคืนทั่วโลก[20][21]

กาแลคซี โน้ต เอฟอี[แก้]

หลังจากที่มีการเรียกคืนของซังซุง กาแลคซี โน้ต 7 แล้ว ซัมซุงก็ได้ตัดสินใจจำหน่ายโน้ต เอฟอี เป็นรุ่นใหม่ของโน้ต 7 โดยจำหน่ายในเฉพาะบางประเทศเท่านั้น ในวันที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2560 และได้มีการลดขนาดแบตเตอรี่ลงเมื่อเทียบกับโน้ต 7 เนื่องจากเหตุผลด้านความปลอดภัย[22]

กาแลคซี โน้ต 8[แก้]

ซัมซุง กาแลคซี โน้ต 8 ได้เปิดตัวเมื่อวันที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2560 ที่งาน ซัมซุง อันแพ็กต์ มาพร้อมกับ หน้าจออินฟินิตี้ 1440p Super AMOLED Infinity Display 6.3 นิ้ว หน่วยประมวลผลควอลคอมม์ สแนปดรากอน 835/ซัมซุง เอ็กซีนอส 8895 (ขึ้นอยู่กับภูมิภาค) สแกนม่านตา มาตรฐานป้องกันย้ำและฝุ่น IP68 กล้องเลนส์คู่กับเลนส์เทเลโฟโต้ และรองรับซัมซุง เด็กซ์

กาแลคซี โน้ต 9[แก้]

ซัมซุง กาแลคซี โน้ต 9 เปิดตัวเมื่อวันที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2561 ที่งานซัมซุงอันแพ็กต์ในบรุกลิน นครนิวยอร์ก[23] ปากกาของโน้ตรุ่นนี้ติดตั้งบลูทูธ ทำให้ใช้งานได้หลากหลายขึ้น กล้องหลังคู่สามารถปรับรูรับแสงได้[24]

กาแลคซี โน้ต 10[แก้]

Samsung Galaxy Note 10 เปิดตัว! – เมื่อวันที่ 8 ส.ค. แวดวงไอทีรายงานการเปิดตัวอย่างเกรียวกราวของแฟ็บเล็ตเรือธง กาแล็กซี เอส 10 ซีรีส์ จากค่ายซัมซุง ผู้พัฒนาเทคโนโลยีชื่อก้องโลกจากประเทศเกาหลีใต้ ที่ศูนย์ประชุมบาร์คเลย์ ย่านบรู๊กลิน นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา

กาแลคซี โน้ต 20[แก้]

ซัมซุง (Samsung) ออกมาย้ำภาพของการเป็นผู้นำสมาร์ทโฟนแฟลกชิปที่มาพร้อมกับปากกาได้อย่างน่าสนใจ กับการเปิดตัว Samsung Galxaxy Note20 ซีรีส์ ที่พัฒนาการใช้งาน S-Pen มีสมบูรณ์แบบมากขึ้น และถือเป็นรุ่นที่ฉลองครบรอบ 10 ปี ของ Galaxy Note ซีรีส์ด้วย Samsung เพิ่งเปิดตัว Galaxy Note20 และ Note20 Ultra ไปเมื่อคืนที่ผ่านมา และเริ่มเปิดให้สั่งจองกันในช่วงเวลา 10.00 น. ผ่านหน้าเว็บไซต์ของ Samsung และบรรดาโอเปอเรเตอร์ทั้ง 3 ราย

โดยราคาจำหน่ายของ Samsung Galaxy Note20 เริ่มต้นที่ 29,900 บาท ส่วน Note20 Ultra เริ่มต้นที่ 38,900 บาท ในช่วงที่เปิดให้สั่งจองลูกสามารถเลือกรับสิทธิอัปเกรดผลิตภัณฑ์ขึ้นไป 1 ขั้นฟรี เช่น ซื้อเครื่อง Note20 5G ในราคาเครื่อง 4G หรือ Note20 Ultra 5G 256 GB ได้อัปเกรดเป็น 512 GB

ทั้งนี้ ราคาของแต่ละรุ่นประกอบด้วย

  • Samsung Galaxy Note20 8/256 GB - 29,900 บาท
  • Samsung Galaxy Note20 5G 8/256 GB - 33,900 บาท
  • Samsung Galaxy Note20 Ultra 8/256 GB - 38,900 บาท
  • Samsung Galaxy Note20 Ultra 8/512 GB - 42,900 บาท
  • Samsung Galaxy Note20 5G Ultra 12/256 GB - 42,900 บาท
  • Samsung Galaxy Note20 5G Ultra 12/512 GB - 46,900 บาท

แท็บเล็ต[แก้]

ซัมซุง กาแล็คซี่ โน้ต[แก้]

กาแล็คซี่ โน้ต 8.0[แก้]

กาแล็คซี่ โน้ต 10.1[แก้]

กาแล็คซี่ โน้ต 10.1 2014 เอ็ดดิชั่น[แก้]

ซัมซุง กาแล็คซี่ โน้ต โปร[แก้]

กาแล็คซี่ โน้ต โปร 12.2[แก้]

ดูเพิ่ม[แก้]

อ้างอิง[แก้]

  1. "Samsung Galaxy Note Android phone". PC World Australia. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-12-04. สืบค้นเมื่อ December 4, 2011.
  2. Grabham, Dan (2011-09-01). "Hands on: Samsung Galaxy Note review". TechRadar. สืบค้นเมื่อ 2011-09-27.
  3. "Samsung: 10M Galaxy Notes sold in nine months". CNET. สืบค้นเมื่อ 18 January 2013.
  4. Mat Smith (December 29, 2011). "1 million Galaxy Notes shipped worldwide, US fans throw money at their screens". Engadget.
  5. "Samsung Galaxy Note II review". Engadget. สืบค้นเมื่อ 1 February 2014.
  6. "Samsung Galaxy Note 3 Review: Powerful new Note wields mightier pen skills". CNET. สืบค้นเมื่อ 1 February 2014.
  7. "For the new Galaxy Note, USB 3 is the magic number". The Verge. สืบค้นเมื่อ 5 September 2013.
  8. "With Galaxy Note Edge, Samsung returns to comfort zone: hardware". CNET. สืบค้นเมื่อ 7 January 2015.
  9. "Samsung Galaxy Note Edge review: The other side". GSM Arena. สืบค้นเมื่อ 7 January 2015.
  10. 10.0 10.1 10.2 "Samsung Galaxy Note 5 review". Techradar. Future. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-08-30. สืบค้นเมื่อ 27 February 2016.
  11. "Samsung fixes the Galaxy Note 5's backwards pen problem". Engadget. สืบค้นเมื่อ 27 February 2016.
  12. "Inserting your S Pen backwards could damage your phone". Phonearena. 24 August 2015. สืบค้นเมื่อ 26 August 2015.
  13. "Samsung on Galaxy Note 5 broken stylus slot: Read the manual". The Verge. 25 August 2015. สืบค้นเมื่อ 26 August 2015.
  14. "Samsung Galaxy Note7 with 5.7 inch Quad HD display, S Pen stylus and iris scanner announced". MobiGyaan.com. 2016-08-02. สืบค้นเมื่อ 2016-08-02.
  15. "Samsung Galaxy Note 7 arrives August 19th with curved display, iris scanner". The Verge. Vox Media. สืบค้นเมื่อ 1 September 2016.
  16. "Galaxy Note 7 hands-on: Samsung goes full sci-fi with an iris scanner". Ars Technica. สืบค้นเมื่อ 1 September 2016.
  17. "Samsung will announce the Galaxy Note 7 on August 2nd". The Verge. Vox Media. สืบค้นเมื่อ 28 July 2016.
  18. "Samsung says bad batteries and rushed manufacturing doomed the Galaxy Note 7". The Verge. Vox Media. สืบค้นเมื่อ 23 January 2017.
  19. "Samsung says two separate battery issues were to blame for all of its Galaxy Note 7 problems". Recode. Vox Media. สืบค้นเมื่อ 23 January 2017.
  20. "The Galaxy Note 7 is dead". The Verge. Vox Media. สืบค้นเมื่อ 11 October 2016.
  21. "Samsung permanently stops Galaxy Note 7 production". BBC News. 11 October 2016.
  22. "The Note FE is a Captivating Re-Do That's Still Worth Considering, Even in 2017". xda-developers (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). 2017-07-14. สืบค้นเมื่อ 2017-07-17.
  23. "The 4 biggest announcements from the Samsung Galaxy Note 9 event". The Verge. August 9, 2018. สืบค้นเมื่อ August 29, 2018.
  24. "Samsung Galaxy Note 9 vs Galaxy Note 8: What's the difference?". Pocket-lint. August 9, 2018. สืบค้นเมื่อ August 29, 2018.