คุยกับผู้ใช้:Ubble R
เพิ่มหัวข้อประเด็นถกเถียงรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา คือการประหารชีวิตนักโทษในประเทศไทย หลังไม่มีการประหารมาตั้งแต่ปี ๒๕๕๒ แอมเนสตี้ ประเทศไทยออกแถลงการณ์คัดค้าน รวมถึงประจานประเทศไทยไปทั่วโลกว่าล้าหลัง มีการเรียกร้องให้รัฐบาลอังกฤษประณามไทยขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เดินทางไปลอนดอนและพบปะกับนางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ --ข้อความนี้ไม่ได้ลงชื่อ ซึ่งออกความเห็นโดยผู้ใช้ Ubble R (พูดคุย • หน้าที่เขียน) 13:09, 18 มกราคม 2566 (ICT)
โทษประหารชีวิตควรมีหรือควรยกเลิกเป็นเรื่องของอนาคต แต่ในอดีตนั้นการประหารชีวิตมีอยู่ทั่วโลกไม่เว้นยุโรป ซึ่งปัจจุบันได้ยกเลิกไปหมดแล้ว ต่างจากฝรั่งอเมริกายังคงมีอยู่ใน ๓๒ รัฐ ซึ่งจะว่าไปแล้วกระบวนการยุติธรรมของสหรัฐนั้นเข้มข้นและเด็ดขาดกว่าฝั่งยุโรปมาก เราเห็นผู้ต้องหาถูกจับใส่กุญแจมือหรือมีการวิสามัญกันบ่อยๆ ซึ่งมักไม่เกิดในยุโรป --ข้อความนี้ไม่ได้ลงชื่อ ซึ่งออกความเห็นโดยผู้ใช้ Ubble R (พูดคุย • หน้าที่เขียน) 13:09, 18 มกราคม 2566 (ICT)
จนเมื่อกว่า 40 ปีที่แล้ว นักโทษประหารคนสุดท้ายของยุโรปตะวันตกที่ถูกประหารด้วยกิโยตีน มีพยานรับรู้และบอกเล่าถึงโมงยามสุดท้ายของนักโทษ ฮามิดา ฌองดูบี เสียชีวิตในตอนเช้ามืดของวันที่ ๑๐ กันยายน ๑๙๗๗ เล่ากันว่าถึงแม้ศีรษะของเขาจะหลุดจากบ่าแล้ว เขายังสามารถขยับปากพูดได้อีก ๓๐ วินาที แต่นั่นน่าจะเป็นเรื่องเล่าลือกันมากกว่าจะเป็นเรื่องจริง ฌองดูบีคือนักโทษคนสุดท้ายในยุโรปตะวันตกที่ถูกประหารด้วยกิโยตีน ขณะที่นักโทษประหารที่มีสถานะสูงสุดได้แก่ พระเจ้าชาลส์ที่ 1 แห่งอังกฤษ ทรงถูกประหารโดยการตัดพระเศียรด้วยข้อหากบฏ ทุรยศต่อแผ่นดิน สำหรับประเทศไทยในอดีตมีการประหารกันถึงเจ็ดชั่วโคตร โดยราชบัณฑิตยสถานอธิบายถึงวิธีการนับ "เจ็ดชั่วโคตร" ว่านับกันอย่างไร คนไทยส่วนใหญ่คงเคยได้ยินวลี "เจ็ดชั่วโคตร" กันมาบ้างแล้ว เพราะคนเฒ่าคนแก่มักจะพูดถึงการประหารเจ็ดชั่วโคตร คนรุ่นใหม่บางส่วนอาจจะไม่เคยรู้ว่าเจ็ดชั่วโคตรคืออะไร หรือมีที่มาจากอะไร วันนี้เราจะมาทำความเข้าใจกับวลี "เจ็ดชั่วโคตร" กัน เจ็ดชั่วโคตร ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.๒๕๔๒ ระบุว่าหมายถึง วงศ์สกุลที่สืบสายโลหิตซึ่งนับตั้งแต่ตัวเองขึ้นไป ๓ ชั้น คือ ชั้นพ่อ ชั้นปู่ และชั้นทวด กับนับจากตัวเองลงมาอีก ๓ ชั้น คือ ชั้นลูก ชั้นหลาน และชั้นเหลน รวมเป็นเจ็ดชั่วโคตร ไม่นับผู้หญิงรวมด้วย คำว่าเจ็ดชั่วโคตรมีปรากฏใน พระไอยการกระบดศึก กฎหมายตราสามดวง ซึ่งกล่าวถึงโทษของผู้เป็นกบฏต่อแผ่นดิน หรือปลงพระชนม์พระมหากษัตริย์ หรือเอาใจออกหากเข้ากับฝ่ายศัตรู หรือกระทำการเป็นไส้ศึก ต้องมีโทษ ๓ สถาน คือ (๑) ริบราชบาตรแล้วให้ประหารให้สิ้นทั้งโคตร (๒) ริบราชบาตรแล้วให้ประหารเจ็ดชั่วโคตร (๓) ริบราชบาตรแล้วให้ประหารผู้กระทำผิด ส่วนโคตรที่เหลือนั้นอย่าให้เลี้ยงไว้ ในพระไอยการกระบดศึก คำนี้เขียนว่า "๗ ชั่วโคต" ในโทษสถานแรกนั้นที่ให้ประหารให้สิ้นทั้งโคตร คือ ต้องประหารหมดทั้งสกุล ไม่ว่าจะมีกี่ชั่วโคตรหรือมีกี่ชั้นก็ตาม ส่วนโทษสถานที่ ๒ นั้นเป็นการประหารเจ็ดชั่วโคตร ถ้าตามความหมายในพจนานุกรมคือ นับจากตัวผู้กระทำผิดขึ้นไปหรือลงมาให้ครบ ๗ ชั่วโคตร คือครบ ๗ ชั้น เช่น พ่อ ปู่ ทวด ๓ ชั้น กับลูก หลาน เหลน ๓ ชั้น รวมกับตัวผู้กระทำผิดเป็น ๗ ชั้น แต่ก็มีข้อสันนิษฐานว่า ถ้านับลงมาจากตัวมีแค่ ๒ ชั้น คือ ลูกและหลาน ยังไม่มีเหลน ก็อาจจะต้องนับขึ้นไปจากตัวอีก ๔ ชั้น เมื่อรวมกับตัวผู้กระทำผิดแล้วก็จะครบ ๗ ชั้น คือเจ็ดชั่วโคตร ส่วนที่ไม่นับผู้หญิงรวมด้วยนั้น สันนิษฐานว่าน่าจะมาจากการที่ผู้หญิงจะถูกริบเป็นราชบาตรพร้อมกับทรัพย์สินของผู้กระทำผิดก็เป็นได้ การปกครองบ้านเมืองของไทยสมัยโบราณ นับเวลาที่สามารถสืบค้นได้พบว่าเริ่มมีกฎหมายที่ใช้กันในสมัยนั้นตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา เป็นต้นมาถึงสมัยรัชกาลที่ ๕ นับเป็นบทลงโทษที่น่ากลัว และหวาดเสียว สยดสยองมาก โดยทำเอานักโทษกินไม่ได้นอนไม่หลับเลยทีเดียว กฎการประหารฆ่าเจ็ดชั่วโคตร นั้น สืบเนื่องจากการบัญญัติไว้ในกฎมนเทียรบาล และกฎหมายที่เกี่ยวกับลักษณะกบฏศึก เป็นการนำมาใช้กับคนหรือพวกที่ไม่ซื่อสัตย์ต่อบ้านเมือง บุคคลประเภทนี้ถือว่าเป็นกบฏต้องถูกประหารชีวิต การลงโทษนั้นไม่ลงโทษเพียงผู้ทำผิดเท่านั้น แต่ต้องรับโทษร่วมกันถึงลูก เมีย หลาน ปู่ ย่า ตา ยาย ที่เรียกกันว่าฆ่ากันทั้งโคตร หรือฆ่าเจ็ดชั่วโคตร การนับชั่วโคตรนั้นก็นับจากทั้งตระกูลฝ่ายชายและฝ่ายหญิง โดยต้องฆ่าให้ครบทุกเครือญาติยินดีต้อนรับสู่วิกิพีเดียภาษาไทย
ยินดีต้อนรับคุณ Ubble R สู่วิกิพีเดียภาษาไทย หน้าต่อไปนี้อาจเป็นประโยชน์แก่คุณ:
และ
(ขอใช้เวลาอ่านไม่นานเพื่อให้ทราบพื้นฐาน)
อีกทางหนึ่ง อ่านหน้า การเข้ามีส่วนร่วมในวิกิพีเดีย ซึ่งสรุปทุกอย่างไว้หน้าเดียว
- ฉันอ่านหมดแล้วยังไม่เข้าใจเลย
- หรือ หรือ ใช้ แชตดิสคอร์ด
อย่าลืมลงชื่อในหน้าพูดคุย โดยการพิมพ์ --~~~~ จะปรากฏชื่อและวันเวลา
Hello Ubble R! Welcome to Thai Wikipedia. If you are not a Thai speaker, you can ask a question in our Guestbook.
ความผิดทั้ง ๔ กรณีข้างต้นนี้ถือว่าเป็นความผิดที่รุนแรง ขั้นอุกฤษฏ์ หนักที่ร้ายแรงให้อภัยไม่ได้ โทษสถานเดียวคือประหารชีวิต ก่อนตายต้องรับโทษโดยแยกเป็น ๓ ส่วน --ข้อความนี้ไม่ได้ลงชื่อ ซึ่งออกความเห็นโดยผู้ใช้ Ubble R (พูดคุย • หน้าที่เขียน) 13:09, 18 มกราคม 2566 (ICT)
ส่วนที่ ๑ ให้ริบทรัพย์สิน ข้า ทาส บริวาร ไร่ นา ให้สิ้น แล้วจับไปฆ่าเสียทั้งโคตร
ส่วนที่ ๒ ให้ริบทรัพย์สิน ข้า ทาส บริวาร ไร่ นา ให้สิ้น แล้วจับไปฆ่าเสียทั้ง เจ็ดโคตร ชั่วโคตร
การประหารชีวิตนั้นต้องทรมานให้ครบ ๗ วันถึงปล่อยให้ตาย โดยถ้าไม่ครบ ๗ วันห้ามทำให้ตาย ขณะทำการทรมานให้ตายนั้น อย่าให้เลือดหรือเศษอวัยวะส่วนใดตกลงพื้นดิน ทำให้เป็นเสนียดแก่แผ่นดิน หลังจากทรมานจนตายแล้ว ให้ใช้ผ้าห่อน้ำเลือด น้ำหนอง และอวัยวะต่างๆ ที่เป็นซากศพใส่แพ ปล่อยให้ลอยไปตามกระแสน้ำ
กฎหมายข้อที่ ๒
พระเจ้าอยู่หัวทรงเลี้ยงดู โปรดปราน แล้วประทาน ยศ ศักดิ์ ให้ตำแหน่ง แต่ภายหลังมีจิตใจ คิดการใหญ่ ใฝ่สูง เกินศักดิ์ ยกทัพเข้ายึดเมือง กระทำการประทุษร้ายพระเจ้าอยู่หัวและพระราชวงศ์ ต้องมีโทษหนัก ให้ฆ่าทั้งโคตร
กฎหมายข้อที่ ๓
บุคคลใดพระเจ้าอยู่หัวแต่งตั้งให้มียศ ตำแหน่ง เป็นนายหมู่ นายกอง นายหมวด เป็นข้าราชการ รับใช้บ้านเมือง ถึงเวลามีภัย ข้าศึกมาประชิดเมือง บ้านเมืองระส่ำระสาย แต่ไม่ยอมช่วยราชการบ้านเมือง กลับพาครอบครัว ญาติมิตรไปยอมเข้ากับข้าศึก หรือแอบหลบซ่อนตัวอยู่ในป่า ในถ้ำ เวลาภัยมา หนีเอาตัวรอด นั้นท่านว่าเป็นกบฏ กฎหมายว่าให้ฆ่าเสียทั้งโคตร เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างต่อไป
มาตราหนึ่ง พระเจ้าอยู่หัวเลี้ยงดูโปรดปรานและประทาน ยศศักดิ์ มีตำแหน่ง แต่มีจิตใจคิดการใหญ่ ใฝ่เกินศักดิ์ยกทัพมายึดเมือง กระทำการประทุษร้ายพระเจ้าอยู่หัวและราชวงศ์ มีโทษหนักให้ฆ่าเสียทั้งโคตร
มาตราหนึ่ง บุคคลใดพระเจ้าอยู่หัวแต่งตั้งให้มียศมีตำแหน่งเป็น นายหมู่ นายหมวด นายกอง เป็นทหารถ้าเกิดมีภัยสงครามเข้ามาประชิดเมืองแล้วไม่ยอมช่วยราชการบ้านเมือง พาครอบครัวญาติมิตรไปสวามิภักดิ์ต่อข้าศึกก็ดี หลบซ่อนตัวอยู่ในป่าในถ้ำหนีภัยเอาตัวรอดนั้น ท่านว่าเป็นกบฏ กฎหมายว่าให้ฆ่าเสียทั้งโคตรเพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างต่อไป. --ข้อความนี้ไม่ได้ลงชื่อ ซึ่งออกความเห็นโดยผู้ใช้ Ubble R (พูดคุย • หน้าที่เขียน) 13:09, 18 มกราคม 2566 (ICT) -- New user message (คุย) 21:14, 15 ธันวาคม 2565 (+07)