การเลือกตั้งทั่วไปในกัมพูชา พ.ศ. 2498
| ||||||||||||||||||||||||||||
All 91 seats in the National Assembly ต้องการ 46 ที่นั่งจึงเป็นฝ่ายข้างมาก | ||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
|
การเลือกตั้งสมัชชาแห่งชาติครั้งแรกของกัมพูชาหลังการได้รับเอกราชตามสนธิสัญญาเจนีวา พ.ศ. 2497 เกิดขึ้นเมื่อเดือนกันยายน พ.ศ. 2498 [1] พรรคสังคมได้รับชัยชนะ โดยได้ไปทั้งหมด 91 ที่นั่ง[2]
พรรคที่เข้าร่วม
[แก้]- พรรคสังคม: ในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2497 รัฐบาลนิยมเจ้าได้จัดตั้งกลุ่มพันธมิตรจากพรรคการเมืองขนาดเล็ก 4 พรรครวมทั้งพรรคชัยชนะ เหนือ-ตะวันออกของ ดาบฌวน และ พรรคเขมรใหม่ ของ ลน นล ต่อมา จึงใช้ชื่อ พรรคสังคมราษฎร์นิยม ผู้นำพรรคคือพระนโรดม สีหนุประกาศว่าพรรคสังคมไม่ใช่พรรค แต่จริงๆคือพรรคการเมืองที่นิยมพระนโรดม สีหนุ[1] พรรคสังคมได้ชัยชนะทั้ง 91 ที่นั่ง [3]
- พรรคประชาธิปไตย: ผู้นำรุ่นใหม่ของพรรคเป็นกลุ่มหัวรุนแรงที่เพิ่งกลับมาจากปารีส พระนโรดม ภูริสสรา เป็นเลขาธิการทั่งไปของพรรค [4] แต่ไม่ได้รับเลือกตั้ง[1]
- กรมประชาชน: เป็นกลุ่มที่เกิดขึ้นจาก สมาคมเขมรอิสระในช่วงก่อนได้รับเอกราช ซึ่งหลังจากการประชุมที่เจนีวา สมาชิกสมาคมเขมรอิสระส่วนใหญ่หนีไปเวียดนาม[5] สิ้นปี พ.ศ. 2497 กลุ่มผู้นำพรรคคอมมิวนิสต์ในพนมเปญคือ แกว เมียส, นอน ซวน และ เพ็ญ ยุต ได้จัดตั้งพรรคการเมืองชื่อพรรคเขมรต่อต้าน แต่ถูกปฏิเสธการจดทะเบียน ต้นปี พ.ศ. 2498 กลุ่มนี้จึงได้ตัดตั้งกรมประชาชนขึ้นแทน ซึ่งมีฐานะเป็นองค์กรที่เปิดเผยของ พรรคคอมมิวนิสต์กัมพูชาที่เป็นองค์กรใต้ดิน นวน เจีย ออกจากป่ามาเป็นเลขาธิการทั่วไปของพรรค รวมทั้งพล พตก็เข้ามาร่วมด้วย[6] ระหว่างการหาเสียง พรรคนี้ถูกกดดันจากฝ่ายรัฐบาล และสามารถส่งผู้สมัครได้เพียง 35 คน[4]
- กลุ่มของเซิง งอกทัญ: หรือประชาชลนา (ขบวนการประชาชน) เป็นกลุ่มที่มีอิทธิพลทางการเมืองน้อย หลังจากที่นักชาตินิยมคือเซิง งอกทัญ ถูกปฏิเสธจากพระนโรดม สีหนุและต้องหนีไปชายแดนไทย[6]
ผลการเลือกตั้ง
[แก้]พรรค | คะแนน | % | ที่นั่ง | +/- |
---|---|---|---|---|
พรรคสังคม | 630,625 | 82.7 | 91 | พรรคใหม่ |
พรรคประชาธิปไตย | 93,921 | 12.3 | 0 | -54 |
กรมประชาชน | 29,505 | 3.9 | 0 | พรรคใหม่ |
พรรคเสรีภาพ | 5,488 | 0.7 | 0 | -18 |
พรรคชาตินิยม | 1,140 | 0.1 | 0 | -2 |
พรรคเขมรเอกราช | 770 | 0.1 | 0 | พรรคใหม่ |
พรรคแรงงานเขมร | 289 | 0.0 | 0 | New |
ผู้สมัครอิสระ | 546 | 0.1 | 0 | 0 |
ทั้งหมด | 761,744 | 100 | 91 | +13 |
ที่มา: Nohlen et al. |
ข้อกล่าวหาเกี่ยวกับการทุจริต
[แก้]หลังการเลือกตั้ง มีข้อกล่าวหาเกี่ยวกับการทุจริตเกิดขึ้น Kiernan (1985) ให้ข้อสังเกตว่าแม้ในพื้นที่ที่พรรคคอมมิวนิสต์ได้รับความนิยมแต่กรมประชาชนไม่ได้รับการเลือกตั้งเลย ใน เมโมต ซึ่งกล่มกองโจรของพรรคคอมมิวนิสต์มีความเข้มแข็งระหว่างสงคราม และกล่มเกษตรกรสวนยางพารานิยมฝ่ายซ้าย แต่ผลปรากฏว่าพรรคสังคมได้ 6149 คะแนน พรรคประชาธิปไตยได้ 99 คะแนน ส่วน ส็อก สาไพ ผู้สมัครจากกรมประชาชนไม่ได้คะแนนเลย[7]
พระนโรดม สีหนุเองได้กล่าวใน พ.ศ. 2501 ว่า 39 ตำบลในประเทศเป็นเขตสีแดงหรือสีชมพู โดยดูจากการเลือกตั้ง พ.ศ. 2498 ในหลายตำบล พรรคคอมมิวนิสต์ได้รับการสนับสนุนมากในการเลือกตั้งครั้งนี้ แต่ในความเป็นจริง กรมประชาชนได้รับคะแนนน้อยมากหรือไม่ได้เลย[3]
อ้างอิง
[แก้]- ↑ 1.0 1.1 1.2 Kiernan, Ben. How Pol Pot Came to Power. London: Verso, 1985. p. 158-159.
- ↑ Nohlen, D, Grotz, F & Hartmann, C (2001) Elections in Asia: A data handbook, Volume II, p74 ISBN 0-19-924959-8
- ↑ 3.0 3.1 Kiernan, Ben. How Pol Pot Came to Power. London: Verso, 1985. p. 162.
- ↑ 4.0 4.1 Kiernan, Ben. How Pol Pot Came to Power. London: Verso, 1985. p. 157-158.
- ↑ Kiernan, Ben. How Pol Pot Came to Power. London: Verso, 1985. p. 153-154.
- ↑ 6.0 6.1 Kiernan, Ben. How Pol Pot Came to Power. London: Verso, 1985. p. 156-157.
- ↑ Kiernan, Ben. How Pol Pot Came to Power. London: Verso, 1985. p. 160.