ข้ามไปเนื้อหา

กบฏอ้ายสาเกียดโง้ง

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

กบฏอ้ายสาเกียดโง้งเป็นกบฏที่เกิดขึ้นในสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยรัชกาลที่ 2 ปลายเดือนมกราคม พ.ศ. 2362[1]

เหตุการณ์[แก้]

เหตุการณ์นี้เกี่ยวข้องกับการกบฏในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ โดยมีแกนนำชื่อ "อ้ายสา" พระภิกษุผู้ใช้แว่นขยายจุดไฟจากดวงอาทิตย์ ทำให้ได้รับความเลื่อมใสจากพวกข่า (ลาวเทิง) และสามารถรวบรวมกำลังพลบุกยึดนครจำปาศักดิ์ เมืองสำคัญในภูมิภาคลาวใต้ สถานการณ์นี้ทำให้ราชสำนักกรุงเทพฯ ต้องดำเนินการเพื่อสร้างความสงบเรียบร้อย

หลังเสียจำปาศักดิ์ให้อ้ายสาเกียดโง้ง เจ้านครจำปาศักดิ์พาข้ารับใช้และราษฎรลี้ภัยไปยังแขวงเมืองอุบล รัชกาลที่ 2 ทรงทราบเรื่องและโปรดเกล้าฯ ให้เจ้าพระยานครราชสีมา (ทองอินทร์ ณ ราชสีมา)และเจ้าอนุวงศ์เวียงจันทน์ยกกำลังพลไปปราบกบฏ ทัพของเจ้าราชบุตร (โย้) โอรสของเจ้าอนุวงศ์ สามารถจับตัวอ้ายสาเกียดโง้งได้ พร้อมกับเชลยจำนวนมาก ส่งเข้ามารับโทษทัณฑ์ยังพระนคร กรุงเทพฯ จองจำอ้ายสาเกียดโง้งไว้ในคุก และส่งพวกข่าไปเป็นตะพุ่นหญ้าช้าง ตั้งบ้านเรือนที่บางบอน

หลังสถานการณ์สงบ รัชกาลที่ 2 มีพระราชดำริเห็นว่า เจ้านครจำปาศักดิ์ (หมาน้อย) อ่อนแอนัก ไม่สามารถรักษาเมืองไว้ได้ ด้านเจ้าอนุวงศ์อาศัยจังหวะดังกล่าวจึงทูลขอให้เจ้าราชบุตร (โย้) ไปเป็นเจ้านครจำปาศักดิ์ รัชกาลที่ 2 ก็ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ตามคำขอ

ความเกี่ยวข้องกันของกบฏ[แก้]

กบฏผีบุญ หรือ กบฏผู้มีบุญ คือขบวนการต่อต้านอำนาจรัฐ ที่ผู้นำมักสถาปนาตัวเองเป็นผู้วิเศษ เช่น แอบอ้างเป็นพระศรีอริยเมตไตรย หรือพระศรีอาริย์ โดยอาจแสดงอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ต่าง ๆ เพื่อรวมใจผู้คนให้ศรัทธาและมาเข้าร่วมกับตน สำหรับตัวตนและการปลุกระดมพวกข่า ของอ้ายสาเกียดโง้ง ในพงศาวดารหัวเมืองมณฑลอีสาน ของ หม่อมราชวงศ์วิจิตร (ปฐม คเนจร) ระบุว่า

“ลุจุลศุกราช ๑๑๗๙ ปีฉลู นพศก (พ.ศ. ๒๓๖๐) มีภิกษุอลัชชีรูปหนึ่งชื่อ ‘สา’ อยู่บ้านหลุบเลาเตาปูน แขวงเมืองสารบุรี เดินธุดงค์มาหยุดพักอาไศรยอยู่ที่เขาเกียดโง้งฝั่งตวันออก ซึ่งเป็นแขวงเมืองจำปาศักดิแต่ก่อน อ้ายสาแสดงตัวว่าเปนคนมีวิชาฤทธานุภาพต่าง ๆ เปนต้นว่าเอา ‘แว่นแก้ว’ มาส่องกับแดดให้ติดเชื้อเปนไฟลุกขึ้น แล้วอวดอ้างว่าเรียกไฟฟ้าได้ แลสามารถที่จะเรียกให้ไฟนั้นมาเผาบ้านเมือง และมนุษย์เดรัจฉานให้ไหม้วินาศฉิบหายไปทั้งโลกก็ได้… พวกข่ามิรู้เท่าเล่ห์กลอ้ายสา ครั้นเห็นอ้ายสาแสดงวิชาดังนั้นก็เห็นเปนอัศจรรย์ ต่างมีความกลัวเกรงก็พากันยินดีนิยมเชื่อถือ เข้าเป็นพวกอ้ายสาเกียดโง้งเป็นอันมาก”

พระราชพงศาวดารกรุงรัตนโกสินทร์ รัชกาลที่ ๒ พระนิพนธ์ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ เล่าถึงเหตุการณ์นี้ว่า

“เมื่อเดือน ๔ แรม ๑๑ ค่ำ ในปีเถาะเอกศกนั้น มีศุภอักษรเจ้านครจำปาศักดิ (หมาน้อย) บอกส่งมาถึงกรุงเทพฯ ว่า ‘อ้ายสาเกียดโง้ง’ คน ๑ ไปตั้งตัวเป็นผู้วิเศษขึ้นในพวกข่าเมืองสาลวัน เมืองคำทอง และเมืองอัตปือข้างฝั่งตวันตกแม่น้ำโขง มีพวกข่าเข้าเกลี้ยกล่อมเป็นสมัครพรรคพวกอ้ายสาเกียดโง้งประมาณ ๘๐๐๐

อ้ายสาเกียดโง้งยกมาตั้งอยู่ณทุ่งนาหวาทางห่างเมืองนครจำปาศักดิ ๓ คืน เมื่อณวันอาทิตย์เดือน ๓ ขึ้น ๘ ค่ำ เจ้านครจำปาศักดิให้ท้าวเพี้ย (พระยา-ผู้เขียน) คุมไพร่ยกข้ามไปตั้งอยู่ณบ้านพะโพ ได้รบกับอ้ายสาเกียดโง้งครั้ง ๑ พวกเมืองนครจำปาศักดิสู้ไม่ได้ ต้องถอยข้ามแม่น้ำโขงมาตั้งข้างฝั่งตวันออก

ครั้นณเดือน ๓ ขึ้น ๙ ค่ำ อ้ายสาเกียดโง้งยกเข้ามาตั้งถึงฝั่งแม่น้ำโขง เจ้านครจำปาศักดิแต่งให้เจ้าสุวรรณสาร เพี้ยเมืองกลาง เพี้ยหมื่นน่า เพี้ยไชยภาค คุมไพร่พันเศษไปตั้งรายรับข้าศึกที่ฝั่งแม่น้ำโขง แลลาดตระเวนทั้งทางบกทางเรือ อ้ายสาเกียดโง้งยกข้ามแม่น้ำมาตีเมืองนครจำปาศักดิ พวกท้าวเพี้ยที่รักษาเมืองสู้ไม่ได้ เสียงเมืองนครจำปาศักดิแก่อ้ายสาเกียดโง้ง”

ข้อวิเคราะห์[แก้]

อ้ายสาไม่ใช่ผู้วิเศษ แต่ใช้แว่นขยายเพื่อสร้างภาพลวงตาให้ดูเหมือนปาฏิหาริย์ โดยใช้คุณสมบัติของแว่นขยายในการรวมแสงและสร้างความร้อนจนเกิดการเผาไหม้ แม้ว่าแว่นขยายนี้จะมาได้อย่างไรหรือจากที่ไหนก็ตาม มายากลของอ้ายสาสามารถรวบรวมชาวข่าจำนวนมากในดินแดนลาว จนสามารถคุกคามเมืองจำปาศักดิ์ ซึ่งขณะนั้นอยู่ภายใต้การปกครองของราชสำนักสยามที่กรุงเทพฯ นอกจากนี้เหตุการณ์ กบฏอ้ายสาเกียดโง้ง ที่นำชาวข่าหัวเมืองลาวต่อต้านอำนาจสยาม ระหว่าง พ.ศ. 2358-2362 อาจถือเป็น กบฏผีบุญ ครั้งสำคัญสมัยรัชกาลที่ 2

บรรณานุกรม[แก้]

  • หอสมุดวชิรญาณ; ดำรงราชานุภาพ, สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยา. (2459). พระราชพงศาวดารกรุงรัตนโกสินทร์ รัชกาลที่ ๒. พระนคร : โรงพิมพ์ไทย ณสพานยศเส[2]
  • ราชวงศ์วิจิตร, หม่อมราชวงศ์ (ม.ร.ว.ปฐม คเนจร). (22539). พงศาวดารเมืองมณฑลอีสาน. พิมพ์ครั้งที่ 6. กรุงเทพฯ : วัชรินทร์การพิมพ์. อนุสรณ์ในงานพระราชทานเพลิงศพ เจ้านางโสฬศนารี ณ จำปาศักดิ์ สาระโสภณ (นางอักษรการวิจิตร)

ดูเพิ่ม[แก้]

อ้างอิง[แก้]

  1. "ภิกษุอวดวิชา ใช้แว่นขยายจุดไฟสร้างปาฏิหาริย์ สู่ "กบฏอ้ายสาเกียดโง้ง" สมัย ร.2". ศิลปวัฒนธรรม.
  2. "พระราชพงษาวดาร กรุงรัตนโกสินทร รัชกาลที่ ๒". ศิลปวัฒนธรรม.