กฎหมายสันติภาพและความมั่นคงญี่ปุ่น
กฎหมายสันติภาพและความมั่นคง (ญี่ปุ่น: 平和安全法制; ทับศัพท์: เฮวะอันเซ็นโฮเซ) เป็นร่างกฎหมายญี่ปุ่นในปี 2015 ชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นในขณะนั้น กับพรรคเสรีประชาธิปไตยซึ่งครองเสียงข้างมากในรัฐสภา สนับสนุนการออกกฎหมายเพื่อให้ทหารญี่ปุ่นเข้าร่วมในการขัดกันระหว่างประเทศได้ นับเป็นการล้มเลิกนโยบายที่แล้วมาของประเทศที่ให้รบเพื่อป้องกันตนเท่านั้น รัฐสภาเห็นชอบกับกฎหมายนี้ในเดือนกันยายน 2015 แม้ขัดกับความคิดเห็นของสาธารณชน นอกจากนี้ รัฐธรรมนูญญี่ปุ่นยอมให้ทหารปฏิบัติการเพื่อป้องกันตนเท่านั้น กฎหมายนี้จึงมีการตีความเนื้อหาที่เกี่ยวข้องเสียใหม่ ทหารจึงจะสามารถปฏิบัติการนอกประเทศเพื่อ "การป้องกันตนเองแบบหมู่" สำหรับมิตรประเทศได้[1]
การออกกฎหมาย
[แก้]ในเดือนกุมภาพันธ์ 2015 นายกรัฐมนตรีอาเบะเริ่มกล่าวในที่สาธารณะเพื่อเรียกร้องให้ขยายอำนาจทหารญี่ปุ่น โดยว่า เมื่อเสร็จเลือกตั้งรัฐสภาในปี 2016 แล้ว ก็จะเริ่มแก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 9 ของรัฐธรรมนูญญี่ปุ่น ที่ห้ามใช้กำลังทหารเพื่อกิจการระหว่างประเทศ[2] อาเบะกล่าวว่า เหตุการณ์ที่กลุ่มอิสลามไอซิสจับชาวญี่ปุ่นสองคนตัดศีรษะเมื่อเดือนมกราคม 2015 ทำให้ตนมุ่งหมายจะให้ทหารญี่ปุ่นสามารถเข้าแทรกแซงกิจการภายนอกประเทศเพื่อปกป้องพลเมืองญี่ปุ่นได้[2]
วันที่ 16 กรกฎาคม 2015 สภาผู้แทนราษฎร ซึ่งเป็นสภาล่างในรัฐสภาญี่ปุ่น เห็นชอบกลุ่มร่างกฎหมายสิบเอ็ดฉบับที่ให้ทหารมีอำนาจเข้าร่วมรบในต่างประเทศเฉพาะในพฤติการณ์ที่กำหนด.[3] ตามกฎหมายเหล่านี้ ทหารจะสามารถสนับสนุนการลำเลียงสิ่งของผู้คนต่าง ๆ ให้แก่มิตรประเทศภายนอกประเทศ ทั้งสามารถสนับสนุนการรบในพฤติการณ์ที่การนิ่งเฉยจะเป็นอันตรายต่อ "ชีวิตและความอยู่รอดของชาติญี่ปุ่น"[3] กฎหมายดังกล่าวได้รับเสียงสนับสนุนอย่างแข็งขันจากพรรคที่ครองเสียงข้างมาก คือ พรรคเสรีประชาธิปไตย กับพรรคโคเม ส่วนพรรคฝ่ายค้านต่อต้านโดยคว่ำบาตรการออกเสียง[3]
เมื่อร่างกฎหมายเป็นที่เห็นชอบของสภาผู้แทนราษฎรแล้ว ราชมนตรีสภา ซึ่งเป็นสภาสูง จึงอภิปรายเป็นเวลาสองเดือน[4] แล้วคณะกรรมาธิการก็เห็นชอบกับร่างกฎหมายในวันที่ 17 กันยายน 2015 หลังจากทุ่มเถียงกันอย่างเผ็ดร้อน และสมาชิกพรรคฝ่ายค้านพยายามยับยั้งประธานกรรมการธิการโดยหน่วงเหนี่ยวตัวเขาไว้ เมื่อได้รับความเห็นชอบดังกล่าวแล้ว ก็เข้าสู่การออกเสียงของรัฐสภาทั้งสภาเป็นขั้นสุดท้าย[4] เช้าตรู่วันที่ 18 กันยายน 2015 ร่างกฎหมายก็ได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภาทั้งสภา แม้มีความพยายามเลื่อนการออกเสียงออกไป เพราะสมาชิกพรรคฝ่ายค้านใช้กลวิธีประวิงเวลาเพื่อหน่วงกระบวนการ[5]
การต่อต้านจากสาธารณชน
[แก้]ความเปลี่ยนแปลงครั้งนี้เป็นที่กล่าวขานว่าสร้างความขัดแย้งอย่างยิ่ง[6] การสำรวจความคิดเห็นเมื่อเดือนกรกฎาคม 2015 ซึ่งเป็นช่วงที่สภาผู้แทนราษฎรอภิปรายเกี่ยวกับร่างกฎหมาย ปรากฏว่า สาธารณชนญี่ปุ่นไม่เห็นด้วยกับร่างกฎหมายเหล่านี้ คิดเป็นสัดส่วนได้ราวสองต่อหนึ่ง[3] ต่อในวันที่ 16 กรกฎาคม 2015 ประชาชนประมาณหนึ่งแสนคนจึงเดินขบวนประท้วงไปยังอาคารรัฐสภา[3] และมีการประท้วงอีกในเดือนกันยายน 2015 ก่อนที่ราชมนตรีสภาจะออกเสียงลงคะแนน มีผู้ร่วมประท้วงประมาณหนึ่งหมื่นถึงสามหมื่นคน[5]
ความชอบด้วยรัฐธรรมนูญ
[แก้]การต่อต้านร่างกฎหมายนั้นมีประเด็นอยู่ที่ ร่างกฎหมายเหล่านี้ชอบด้วยรัฐธรรมนูญจริงหรือไม่ มีการสำรวจความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญด้านรัฐธรรมนูญญี่ปุ่นหลายครั้ง และปรากฏว่า ผู้เชี่ยวชาญถึงร้อยละ 90 เชื่อว่า ร่างกฎหมายไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ[5] เมื่อร่างกฎหมายได้รับความเห็นชอบแล้ว ก็คาดว่า จะถูกคัดค้านในศาลต่อไป แต่น้อยครั้งที่ศาลญี่ปุ่นเคยวินิจฉัยขัดกับรัฐบาลในประเด็นความมั่นคง.[5] อนึ่ง การแก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 9 ของรัฐธรรมนูญญี่ปุ่นนั้นต้องได้รับความเห็นชอบโดยประชามติ และเนื่องจากปัจจุบันมีกระแสต่อต้านทั้งร่างกฎหมายเองและนายกรัฐมนตรีอาเบะ จึงคิดเห็นกันว่า ถ้าทำประชามติช่วงนี้ ก็แทบเป็นไปไม่ได้เลยที่จะได้รับความเห็นชอบจากประชาชน[3]
อ้างอิง
[แก้]- ↑ "Japan military legislation changes draw protests". BBC. 30 August 2015. สืบค้นเมื่อ 20 September 2015.
- ↑ 2.0 2.1 "Abe Is Said to Have Plans to Revise Pacifist Charter". The New York Times. 5 February 2015. สืบค้นเมื่อ 20 September 2015.
- ↑ 3.0 3.1 3.2 3.3 3.4 3.5 "Japan Moves to Allow Military Combat for First Time in 70 Years". The New York Times. 16 July 2015. สืบค้นเมื่อ 20 September 2015.
- ↑ 4.0 4.1 "Japan Military Bills Provoke Scuffling in Parliament". The New York Times. 17 September 2015. สืบค้นเมื่อ 20 September 2015.
- ↑ 5.0 5.1 5.2 5.3 "Japan's Parliament Approves Overseas Combat Role for Military". The New York Times. 18 September 2015. สืบค้นเมื่อ 20 September 2015.
- ↑ "Japan parliament passes controversial security bills". สืบค้นเมื่อ 2015-09-21.
แหล่งข้อมูลอื่น
[แก้]- Japan's Fistfights and Foreign Wars เก็บถาวร 2017-05-01 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- Yuki’s Take / Security legislation points to a bigger problem By Yuki Tatsumi / Special to The Japan News (The Yomiuri Shimbun)