เรือดำน้ำโซเวียต เอส-194
บทความนี้อาจต้องการตรวจสอบต้นฉบับ ในด้านไวยากรณ์ รูปแบบการเขียน การเรียบเรียง คุณภาพ หรือการสะกด คุณสามารถช่วยพัฒนาบทความได้ |
เรือดำน้ำชั้นวิสกี้ | |
ประวัติเรือ | |
---|---|
ต่อที่: | สหภาพโซเวียต |
ต่อเรือ: | ค.ศ. 1957 |
ขึ้นระวางประจำการ: | ค.ศ. 1958 |
ปลดประจำการ: | ค.ศ. 1991 [1] |
สถานภาพ: | จมนอกชายฝั่งเดนมาร์ก |
ข้อมูลจำเพาะ | |
ชื่อเรือ: | • Soviet Projektu 613 • NATO code named Whiskey-class |
หมายเลขประจำเรือ: | S-194 |
ประเภท: | เรือดำน้ำ |
ระวางขับน้ำ: | • บนผิวน้ำ 1,050 ตัน • ขณะดำ 1,350 ตัน |
ความยาว: | 75.20 เมตร |
ความกว้าง: | 6.30 เมตร |
กินน้ำลึก: | 4.90 เมตร |
ระบบขับเคลื่อน: | • เครื่องยนต์ดีเซล 2 x 37-D กำลัง 2,000 แรงม้า • เครื่องไฟฟ้ากำลัง 150 kW (ใช้เดินใต้น้ำ) |
ความเร็ว: | • ผิวน้ำ 17 นอต • ใต้น้ำ 13 นอต |
รัศมีทำการ: | 13,500 ไมล์ทะเล |
กำลังพลประจำการ: | • ทหารประจำเรือ 56 นาย |
อาวุธ: | • ตอร์ปิโดขนาด 530 มม. ที่หัวเรือ 4 ท่อ • ตอร์ปิโดขนาด 530 มม. ที่ท้ายเรือ 2 ท่อ • ปินใหญ่ขนาด 76 มม. 1 กระบอก • ปืนต่อสู้อากาศยานขนาด 25 มม. 1 กระบอก [2] |
เรือดำน้ำโซเวียต เอส-194 เป็นเรือดำน้ำของสหภาพโซเวียต ในชั้น โปรเจกต์ 613 หรือที่นาโตกำหนดรหัสเรียกขานว่า เรือดำน้ำชั้นวิสกี้ ซึ่งต่อขึ้นที่อู่ต่อเรือของโซเวียต ระหว่าง พ.ศ. 2492 - พ.ศ. 2501 เป็นจำนวน 236 ลำ ประจำการในกองทัพเรือโซเวียตระหว่างสงครามเย็น [3] พัฒนามาจากเรืออู Type-XXI ของเยอรมนี [3] ที่โซเวียตยึดได้ช่วงปลายสงครามโลกครั้งที่สอง
หลังสิ้นสุดสงครามเย็น กองทัพเรือโซเวียตปลดประจำการเรือในชั้นนี้ และแยกชิ้นส่วนขายเป็นเศษเหล็ก สำหรับเรือ S-194 ลำนี้ นาย Timo Wallin นักธุรกิจชาวสวีเดนได้ซื้อไว้ เปลี่ยนชื่อเป็น ยู-194 [4] และปรับปรุงเป็นพิพิธภัณฑ์ลอยน้ำ และให้เช่าเป็นสถานที่จัดเลี้ยง [2] โดยถอดเครื่องยนต์และแบตเตอรี่ออก จัดแสดงอยู่ที่พิพิธภัณฑ์เรือดำน้ำ เมือง Helsingborg ประเทศสวีเดน
ต่อมา นาย Wallin ได้ประกาศขายเรือลำนี้ในราคา 250,000 ยูโร [3] และตกลงขายให้ เจษฎา เดชสกุลฤทธิ์ เจ้าของพิพิธภัณฑ์เจษฎา เทคนิค มิวเซียม เพื่อนำไปจัดแสดงที่พิพิธภัณฑ์แห่งใหม่ที่กำลังสร้างที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีพิธีส่งมอบเรือเมื่อวันที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2550 [5] และใช้เรือลากจูงมาประเทศไทย โดยมีกำหนดเปิดให้ประชาชนเข้าชมในช่วงเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2550 นำไปปรับปรุง และเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์อย่างเป็นทางการในวันที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2550
เรือ S-194 ผ่านการซ่อมแซมที่อู่เรือ Gryfia เมือง Szczecin ประเทศโปแลนด์ [6] และจะลากจูงกลับประเทศไทย แต่เกิดอุบัติเหตุอับปางลงนอกชายฝั่งเมือง Thyborøn ประเทศเดนมาร์ก 50 กิโลเมตร หลังจากเจอพายุ เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2550 [4][6] นายเจษฎา เดชสกุลฤทธิ์ กำลังศึกษาความเป็นไปได้ ที่จะกู้เรือขึ้นมาใหม่ เพื่อนำมาจัดแสดงต่อไป [7]
อ้างอิง
[แก้]- ↑ Thailand-bound museum sub sunk[ลิงก์เสีย] Bangkok Post,
- ↑ 2.0 2.1 "U 194 Whiskey class submarine". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2005-02-09. สืบค้นเมื่อ 2007-12-04.
- ↑ 3.0 3.1 3.2 History, Development, and Use of the Whiskey Class Submarine
- ↑ 4.0 4.1 shipspotting.com
- ↑ "เจษฎา เดชสกุลฤทธิ์" คนตัวเล็ก แต่ฝันใหญ่...
- ↑ 6.0 6.1 "Yahoo News 2007/02/06". เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2007-02-10. สืบค้นเมื่อ 2007-02-10.
- ↑ ไทยรัฐ, 9 กุมภาพันธ์ 2550