สมเด็จพระสังฆราช วัดสวรรคเจดีย์
สมเด็จพระสังฆราช วัดสวรรคเจดีย์ | |
---|---|
สมเด็จพระสังฆราชกรุงศรีอยุธยา | |
ดำรงพระยศ | พ.ศ. 2309 - 2310 |
ก่อนหน้า | สมเด็จพระสังฆราช วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ |
ถัดไป | สมเด็จพระสังฆราช (ดี) (สมัยกรุงธนบุรี) |
สถิต | วัดสวรรคเจดีย์ |
สิ้นพระชนม์ | พ.ศ. 2310 |
สมเด็จพระสังฆราช วัดสวรรคเจดีย์ เป็นสมเด็จพระสังฆราชไทยพระองค์สุดท้ายแห่งกรุงศรีอยุธยา สถิต ณ วัดสวรรคเจดีย์
ประวัติ
[แก้]ในพระราชพงศาวดาร ฉบับพระราชหัตถเลขา เล่ม 2 หน้า 146[1] กล่าวไว้ว่า
“ในกรุงเทพมหานครในเดือน ๘ นั้น สมเด็จพระสังฆราช วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ นั้นอาพาธลงดับสูญ ทรงพระกรุณาให้แต่งศพใส่พระโกศไว้ จึงโปรดให้เลื่อนพระเทพมุนี วัดกุฎีดาว ซึ่งเข้ามาอยู่ ณ วัดสวรรคเจดีย์นั้นขึ้นเป็นสมเด็จพระสังฆราช อยู่ได้หกเจ็ดเดือนก็อาพาธดับสูญลงอีก โปรดให้ใส่พระโกศไว้เป็นสองพระโกศ ยังมิได้ปลงพระศพทั้งสองศพด้วยศึกยังติดพระนครอยู่”
สำหรับเหตุผลที่ทรงสถาปนาพระเทพมุนี วัดกุฎีดาว เป็นสมเด็จพระสังฆราชนั้น น่าจะเป็นเพราะพระเทพมุนีเป็นพระราชาคณะชั้นผู้ใหญ่เป็นที่เคารพนับถือของพระบรมวงศานุวงศ์ ที่สำคัญคือมีคุณูปการต่อกรุงศรีอยุธยาและมีอายุกาลมากที่สุดในหมู่พระราชาคณะ ดังความ [2]ในพระราชพงศาวดาร ฉบับพระราชหัตถเลขา เล่ม 2 หน้า 125-126 กล่าวไว้ว่า
“ในเพลาเย็นวันนั้น พระราชาคณะห้ารูป คือ พระธรรมโคดม วัดธรรมิกราชหนึ่ง พระธรรมเจดีย์ วัดสวนหลวงศพสวรรค์หนึ่ง พระพุทธโฆษาจารย์ วัดพุทไธสวรรย์หนึ่ง พระเทพมุนี วัดกุฎีดาวหนึ่ง พระเทพกระวี วัดรามาวาสหนึ่ง แต่พระเทพมุนีนั้นมีวัสสามากกว่าทั้งนั้น เข้ามาพร้อมกันอยู่ ณ ทิมสงฆ์ ครั้งเพลาประมาณ ทุ่มเศษ จึงมีพระราชบัณฑูรให้มานิมนต์เข้าไป ณ พระตำหนักสวนกระต่าย ตรัสอาราธนาพระราชาคณะทั้งห้ารูป มีพระเทพมุนีเป็นประธาน ให้ไปว่ากล่าวเล้าโลมเจ้าสามกรมให้มาสมัครสมานสโมสรสามัคคีรสด้วยกันตามพระราชโอวาทตรัสสั่งไว้ และพระราชาคณะทั้งห้าไปเจรจาถึงสองกลับ จนเพลาดึกสามยามเศษจะใกล้รุ่ง เจ้าสามกรมจึงมาเฝ้ากระทำสัตย์ถวายทั้งสามพระองค์”
นอกจากนี้ หนังสือโบราณสถานในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เล่ม 2 หน้า 434 กล่าวไว้ว่า[2]
“วัดสวรรคเจดีย์ต้องเป็นวัดในพระนคร เมื่อตรวจดูรายชื่อวัดที่ใกล้เคียงกันก็มี วัดสวนหลวง วัดสบสวรรค์หรือวันสวนหลวงสบสวรรค์ วัดสุวรรณาวาส และวัดสุวรรณเจดีย์ วัดสุดท้ายนี้ใกล้เคียงกันมากอยู่หลังวัดราชบูรณะ มีเจดีย์ทรงระฆังองค์ใหญ่ที่เป็นประธาน วัดอาจจะเป็นวัดนี้ก็ได้”
ดังนั้น จึงสันนิฐานว่า วัดสุวรรณเจดีย์ที่ตั้งอยู่ในมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ ศูนย์พระนครศรีอยุธยา วาสุกรีนี้น่าจะเป็นวัดเดียวกันกับวัดสวรรคเจดีย์ ซึ่งเคยเป็นพระอารามอันเป็นที่สถิตของสมเด็จพระสังฆราช และน่าจะเป็นสมเด็จพระสังฆราชพระองค์สุดท้ายแห่งกรุงศรีอยุธยา เพราะภายหลังพระเทพมุนี วัดกุฎีดาว มรณภาพราว 2-3 เดือนจึงเกิดการเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่สอง (พระเทพมุนี มรณภาพราวเดือน 2-3 ปีกุน พ.ศ. 2310 กรุงศรีอยุธยาเสียแก่พม่า ในวันอังคาร ขึ้น 9 ค่ำ เดือน 5 ปีกุน ตรงกับวันที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2310)
อ้างอิง
[แก้]ก่อนหน้า | สมเด็จพระสังฆราช วัดสวรรคเจดีย์ | ถัดไป | ||
---|---|---|---|---|
สมเด็จพระสังฆราช วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ | สมเด็จพระสังฆราชกรุงศรีอยุธยา (พ.ศ. 2309 - 2310) |
สมเด็จพระสังฆราช (ดี) (สมัยกรุงธนบุรี) |