ข้ามไปเนื้อหา

ฟ็อลคส์วาเกิน อมาร็อก

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
ฟ็อลคส์วาเกิน อมาร็อก
ภาพรวม
บริษัทผู้ผลิตVolkswagen Commercial Vehicles
เริ่มผลิตเมื่อพ.ศ. 2552 – ปัจจุบัน
พ.ศ. 2553–2563 (ยุโรป; รุ่นแรก)[1]
พ.ศ. 2565 – ปัจจุบัน (ยุโรป; รุ่นที่ 2)
แหล่งผลิต
ผู้ออกแบบWalter de Silva
ตัวถังและช่วงล่าง
ประเภทรถกระบะขนาดกลาง (Mid-Size Pickup)
รูปแบบตัวถังรถกระบะ single cab 2 ประตู
รถกระบะ double cab 4 ประตู
โครงสร้างเครื่องวางหน้า ขับเคลื่อนล้อหลัง หรือ เครื่องวางหน้า ขับเคลื่อนสี่ล้อ
แพลตฟอร์มFord T6 (รุ่นที่ 2)
รุ่นที่คล้ายกันโตโยต้า ไฮลักซ์
นิสสัน นาวารา
มาสด้า BT-50
มิตซูบิชิ ไทรทัน
อีซูซุ ดีแมกซ์
ฟอร์ด เรนเจอร์
เชฟโรเลต โคโลราโด
ทาทา ทีแอล
ระบบส่งกำลัง
เครื่องยนต์
ระบบเกียร์
มิติ
ระยะฐานล้อ
  • 3,090–3,095 mm (121.7–121.9 in) (รุ่นที่ 1)
  • 3,270 mm (128.7 in) (รุ่นที่ 2)
ความยาว
  • 5,181–5,254 mm (204.0–206.9 in) (Single, Double Cab)[5]
  • 5,900 mm (232.3 in) (Extended Bed)
  • 5,350 mm (211 in)
ความกว้าง
  • 1,944–2,019 mm (76.5–79.5 in)[5]
  • 1,910 mm (75 in)
ความสูง
  • 1,820–1,878 mm (71.7–73.9 in) (Single, Double Cab)[5]
  • 1,888 mm (74.3 in)
น้ำหนัก
  • 1,872–2,324 kg (4,127–5,124 lb)[5]
ระยะเหตุการณ์
รุ่นก่อนหน้าฟ็อลคส์วาเกิน ทาโร่
ฟ็อลคส์วาเกิน แคดดี้ pickup

ฟ็อลคส์วาเกิน อมาร็อก (อังกฤษ: Volkswagen Amarok) เป็นรถกระบะขนาดกลาง (Mid-Size Pickup) ที่ผลิตโดยฟ็อลคส์วาเกิน และเป็นรถกระบะรุ่นแรกของฟ็อลคส์วาเกินที่พัฒนาขึ้นเอง เริ่มผลิตเมื่อปี พ.ศ. 2552 ในช่วงแรกเวอร์ชันต้นแบบใช้ชื่อว่า Robust Pick-Up มีตัวถัง 2 แบบคือรถกระบะ 2 ประตูแบบ Single Cab ซึ่งเป็นรถกระบะแบบ 2 ประตู แต่ไม่มีแค็บ และรถกระบะ 4 ประตู โดยไม่มีรุ่น 2 ประตูแบบมีแค็บแต่อย่างใด เครื่องยนต์จะเป็นเครื่องยนต์เบนซินและดีเซล 2.0 ลิตร ระบบขับเคลื่อนจะเป็นระบบขับเคลื่อนล้อหลัง และระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ ระบบเกียร์เป็นเกียร์ธรรมดา 6 สปีด และเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด มีฐานการประกอบที่ประเทศอาร์เจนตินาและเยอรมนี

ในประเทศไทย ในอดีตเคยมีข่าวลือว่า Volkswagen Group จะเข้ามาลงทุนในประเทศไทย เพื่อบุกตลาดรถยนต์นั่งขนาดเล็ก ร่วมกับ Suzuki พันธมิตรรายหนึ่งของฟ็อลคส์วาเกิน ซึ่งผลิตรถยนต์เช่นเดียวกัน และบุกตลาดรถกระบะในไทยเช่นเดียวกัน โดยใช้ฟ็อลคส์วาเกิน อมาร็อก และเพื่อบุกตลาดโลกเช่นเดียวกัน แต่ถ้าฟ็อลคส์วาเกินจะตั้งโรงงานในไทยก็ต้องลงทุนมหาศาล เพราะแทบจะไม่มีซัพพลายเออร์ผลิตชิ้นส่วนเพื่อนำมาประกอบรถยนต์ในไทย เรียกได้ว่าต้องเริ่มต้นทุกอย่างใหม่ทั้งหมด เช่นเดียวกับครั้งที่ GM และ BMW มาตั้งโรงงานในไทยเมื่อสิบกว่าปีก่อน ฟ็อลคส์วาเกินจึงไปเยี่ยมชมโรงงาน Auto Alliance Thailand ที่ระยอง ซึ่งเป็นโรงงานที่ประกอบมาสด้าและฟอร์ด เขาก็เปิดให้ดูเฉพาะไลน์ผลิตรถยนต์นั่ง ส่วนไลน์ผลิตรถกระบะยังต้องปิดเอาไว้ก่อน เนื่องจากอยู่ระหว่างเตรียมงานประกอบ Mazda BT-50 Pro และ Ford Ranger ใหม่และยังไม่เสร็จสิ้น จนในที่สุดฟ็อลคส์วาเกินกรุ๊ปก็ยังไม่ได้เข้ามาลงทุนในไทยและอาเซียนสักที แต่ในปัจจุบัน บริษัท ไทยยานยนตร์ จำกัด ซึ่งเป็นผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายฟ็อลคส์วาเกินในประเทศไทย ซึ่งแยกตัวออกมาจากยนตรกิจแล้วเรียบร้อย แต่ยังคงเป็นบริษัทในเครือของยนตรกิจ นำเข้าฟ็อลคส์วาเกิน อมาร็อก เข้ามาจำหน่ายในประเทศไทยแล้วเมื่อปี พ.ศ. 2556 เป็นรุ่นเครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร 177 แรงม้า ระบบเกียร์อัตโนมัติ ZF 8 สปีด เป็นครั้งแรกที่มีการนำเทคโนโลยีจากรถระดับหรูมาใช้ในรถกระบะ ใช้ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ ราคาขายอยู่ที่ 1.8 ล้านบาท สำหรับการวางตำแหน่งการตลาด คือการจับกลุ่มลูกค้าระดับ B+ ซึ่งชื่นชอบกิจกรรมที่ท้าทาย และครอบครัวยุคใหม่ที่ให้ความสำคัญกับไลฟ์สไตล์ในวันหยุดสุดสัปดาห์ และสร้างภาพลักษณ์ให้อมาร็อกเป็นรถกระบะขับเคลื่อนสี่ล้อระดับหรูจากยุโรป ทำให้ไม่มีคู่แข่งโดยตรง

ฟ็อลคส์วาเกิน อมาร็อก (รุ่นแรก)
ฟ็อลคส์วาเกิน อมาร็อก (รุ่นแรก; ปรับโฉม)
ฟ็อลคส์วาเกิน อมาร็อก กระบะตอนเดียว

ฟ็อลคส์วาเกิน อมาร็อก รุ่นที่ 2

[แก้]

ก่อนหน้านี้ Volkswagen ได้ปล่อยภาพ Teaser ด้านหน้าของ Amarok ใหม่ ซึ่งเผยให้เห็นไฟหน้าแบบ IQ.Light Matrix LED อันเอกลักษณ์ของค่าย VW กันไปแล้ว ล่าสุด Twitter ของ Volkswagen Commercial Vehicles มีการปล่อยคลิป VDO ซึ่งเผยให้เห็นภาพด้านท้ายของรถกระบะคันใหม่ออกมา เป็นการหยั่งกระแสตอบรับจากลูกค้ารอบสุดท้าย ก่อนจะมีการเปิดตัวครั้งแรกในโลกแบบ World Premeire ขึ้นในวันที่ 7 กรกฎาคม 2022 นี้

ภาพ Official Teaser ล่าสุด เผยให้เห็นถึงงานออกแบบบริเวณด้านท้ายรถที่ติดตั้งชุดไฟท้าย LED รูปทรงตัว C มีมือจับเปิดฝาท้ายสีดำ พร้อมไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED แบบเดียวกันกับ Ford ranger ทว่าบานฝาท้ายมีการสลักคำว่า A M A R O K ตามชื่อรุ่น เสริมความกว้างให้ตัวรถด้วยการลากส่วนที่เป็นเปลือกบอดี้สีเดียวกับตัวรถเข้าไปใกล้กับชุดไฟท้ายทั้ง 2 ฝั่ง

นอกจากนี้ ยังมีการติตดั้ง Badge V6 ไว้บริเวณมุมล่างด้านขวาของฝาท้าย เป็นเครื่องยันยืนว่า Volkswagen Amarok จะมีขุมพลังให้เลือก ทั้งเครื่องยนต์เบนซิน 1 แบบ เครื่องยนต์ดีเซล 4 แบบ ความจุ 2.0 – 3.0 ลิตร ทั้ง 4 – 6 สูบ พร้อมทางเลือกระบบขับเคลื่อน 2 ล้อหลัง, 4 ล้อ Part-time และ 4 ล้อ Full-time ตัวถังจะมีทั้งแบบ Single Cab และ Double Cab ส่วนรุ่นย่อย highlight จะแบ่งเป็น PanAmericana สายวิบาก และ Aventura สายทางลาดยาง

อ้างอิง

[แก้]
  1. "Produktionsende in Europa". Auto Motor und Sport. 5 March 2020. สืบค้นเมื่อ 12 October 2020.
  2. "Alemania y Tailandia: Candidatos para Sumarse a la Produccion de Amarok | tailandia". Tiempomotor.Com. 13 October 2010. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2014-02-01. สืบค้นเมื่อ 25 June 2013.
  3. "Volkswagen Konzern Amarok aus Hannover". Volkswagenag.com. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 1 February 2014. สืบค้นเมื่อ 25 June 2013.
  4. "Volkswagen Amarok assemblée en Algérie" [Volkswagen Amarok assembled in Algeria], Auto Bip (ภาษาฝรั่งเศส), May 22, 2019
  5. 5.0 5.1 5.2 5.3 "สำเนาที่เก็บถาวร" (PDF). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2016-11-23. สืบค้นเมื่อ 2022-06-07.