ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ปอมปีย์"
ไม่มีความย่อการแก้ไข |
ไม่มีความย่อการแก้ไข |
||
บรรทัด 38: | บรรทัด 38: | ||
| footnotes = |
| footnotes = |
||
}} |
}} |
||
'''แกนัส ปอมเปอุส มักนุส''' ({{lang-en|Gnaeus Pompeius Magnus}}) รู้จักกันในนาม '''ปอมปีย์มหาบุรุษ''' (Pompey the Great) เป็นแม่ทัพระดับสูงและรัฐบุรุษชาวโรมัน ซึ่งการงานอาชีพของเขาได้เป็นส่วนสำคัญในการเปลี่ยนแปลงของโรมันจาก[[สาธารณรัฐโรมัน|สาธารณรัฐ]]สู่[[จักรวรรดิโรมัน|จักรวรรดิ]] เขาเป็นพันธมิตรทางการเมืองในช่วงเวลานึงและต่อมาก็กลายเป็นคู่ปรับของ[[จูเลียส ซีซาร์]] สมาชิกของขุนนางสภาสูง ปอมปีย์ได้เข้ามาเป็นทหารในขณะที่ยังอยู่ในวัยหนุ่มและได้ก้าวหน้าในการดำรงตำแหน่งที่มีชื่อเสียงต่อจาก |
'''แกนัส ปอมเปอุส มักนุส''' ({{lang-en|Gnaeus Pompeius Magnus}}) รู้จักกันในนาม '''ปอมปีย์มหาบุรุษ''' (Pompey the Great) เป็นแม่ทัพระดับสูงและรัฐบุรุษชาวโรมัน ซึ่งการงานอาชีพของเขาได้เป็นส่วนสำคัญในการเปลี่ยนแปลงของโรมันจาก[[สาธารณรัฐโรมัน|สาธารณรัฐ]]สู่[[จักรวรรดิโรมัน|จักรวรรดิ]] เขาเป็นพันธมิตรทางการเมืองในช่วงเวลานึงและต่อมาก็กลายเป็นคู่ปรับของ[[จูเลียส ซีซาร์]] สมาชิกของขุนนางสภาสูง ปอมปีย์ได้เข้ามาเป็นทหารในขณะที่ยังอยู่ในวัยหนุ่มและได้ก้าวหน้าในการดำรงตำแหน่งที่มีชื่อเสียงต่อจากเผด็จการ [[ลูเซียส คอร์นิลิอุส ซูลลา ฟีลิส|ซูลลา]] ในฐานะผู้บัญชาการทหารใน[[สงครามกลางเมืองครั้งที่สองของซูลลา|สงครามกลางเมืองของซูลลา]] ด้วยความสำเร็จของเขาซึ่งได้รับฉายาว่า '''มักนุส''' – "มหาบุรุษ" ฉายานี้มาจากวีรบุรุษที่เป็นที่ชื่นชอบในวัยเด็กของปอมปีย์อย่าง[[อเล็กซานเดอร์มหาราช]] ศัตรูของเขาได้มอบฉายาแก่เขาว่า adulescentulus carnifex ("หนุ่มนักฆ่าสัตว์") จากความโหดเหี้ยมของเขา<ref>{{cite book|author=Leach, John|title=Pompey the Great|page=29}}</ref> ความสำเร็จของปอมปีย์ในฐานะแม่ทัพในขณะที่ยังอยู่ในวัยหนุ่มทำให้เขาได้ก้าวหน้าโดยทันทีในการเป็นกงสุลคนแรก โดยไม่ต้องเข้าร่วมประชุมแบบปกติของระบบเส้นทางแห่งเกียรติยศ (cursus honorum)(ซึ่งเป็นขั้นตอนที่จำเป็นในอาชีพทางการเมือง) เขาเป็นกงสุลมาถึงสามสมัยและเป็นที่เลื่องลือถึงการประกาศชัยชนะของโรมัน (Roman triumphs) ถึงสามครั้ง |
||
ในปี 60 ก่อนคริสตกาล ปอมปีย์ได้ร่วมมือกับ[[มาร์กุส ลิกินิอุส กรัสซุส]] และ[[จูเลียส ซีซาร์|กาอิอุส ยูลิอุส ไกซาร์]] (จูเลียส ซีซาร์) ในการเป็นพันธมิตรระหว่างการทหารและการเมืองอย่างไม่เป็นทางการ ที่เป็นที่รู้จักกันคือ [[คณะสามผู้นำที่หนึ่ง]] ซึ่งปอมปีย์ได้สมรสกับยูลิอา ลูกสาวของซีซาร์เพื่อช่วยให้ความปลอดภัย ภายหลังกรัสซุสและยูลิอาเสียชีวิต ปอมปีย์ได้เข้าข้าง[[ออปติเมตส์|ฝ่ายออปติเมตส์]] ฝ่ายอนุรักษ์นิยมของ[[วุฒิสภาโรมัน]] ปอมปีย์และซีซาร์ได้แย่งชิงกันเป็นผู้นำของรัฐโรมัน ซึ่งนำไปสู่[[สงครามกลางเมืองซีซาร์|สงครามกลางเมือง]] ในสงคราม ปอมปีย์ได้พบความปราชัยที่[[ยุทธการที่ฟาร์ซาลุส]]ในปี 48 ก่อนคริสตกาล เขาได้ลี้ภัยไปอยู่ในอียิปต์ ซึ่งถูกลอบสังหารในเวลาต่อมา |
ในปี 60 ก่อนคริสตกาล ปอมปีย์ได้ร่วมมือกับ[[มาร์กุส ลิกินิอุส กรัสซุส]] และ[[จูเลียส ซีซาร์|กาอิอุส ยูลิอุส ไกซาร์]] (จูเลียส ซีซาร์) ในการเป็นพันธมิตรระหว่างการทหารและการเมืองอย่างไม่เป็นทางการ ที่เป็นที่รู้จักกันคือ [[คณะสามผู้นำที่หนึ่ง]] ซึ่งปอมปีย์ได้สมรสกับยูลิอา ลูกสาวของซีซาร์เพื่อช่วยให้ความปลอดภัย ภายหลังกรัสซุสและยูลิอาเสียชีวิต ปอมปีย์ได้เข้าข้าง[[ออปติเมตส์|ฝ่ายออปติเมตส์]] ฝ่ายอนุรักษ์นิยมของ[[วุฒิสภาโรมัน]] ปอมปีย์และซีซาร์ได้แย่งชิงกันเป็นผู้นำของรัฐโรมัน ซึ่งนำไปสู่[[สงครามกลางเมืองซีซาร์|สงครามกลางเมือง]] ในสงคราม ปอมปีย์ได้พบความปราชัยที่[[ยุทธการที่ฟาร์ซาลุส]]ในปี 48 ก่อนคริสตกาล เขาได้ลี้ภัยไปอยู่ในอียิปต์ ซึ่งถูกลอบสังหารในเวลาต่อมา |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 11:42, 9 พฤษภาคม 2564
บทความนี้ไม่มีการอ้างอิงจากแหล่งที่มาใด |
แกนัส ปอมเปอุส มักนุส (อังกฤษ: Gnaeus Pompeius Magnus) รู้จักกันในนาม ปอมปีย์มหาบุรุษ (Pompey the Great) เป็นแม่ทัพระดับสูงและรัฐบุรุษชาวโรมัน ซึ่งการงานอาชีพของเขาได้เป็นส่วนสำคัญในการเปลี่ยนแปลงของโรมันจากสาธารณรัฐสู่จักรวรรดิ เขาเป็นพันธมิตรทางการเมืองในช่วงเวลานึงและต่อมาก็กลายเป็นคู่ปรับของจูเลียส ซีซาร์ สมาชิกของขุนนางสภาสูง ปอมปีย์ได้เข้ามาเป็นทหารในขณะที่ยังอยู่ในวัยหนุ่มและได้ก้าวหน้าในการดำรงตำแหน่งที่มีชื่อเสียงต่อจากเผด็จการ ซูลลา ในฐานะผู้บัญชาการทหารในสงครามกลางเมืองของซูลลา ด้วยความสำเร็จของเขาซึ่งได้รับฉายาว่า มักนุส – "มหาบุรุษ" ฉายานี้มาจากวีรบุรุษที่เป็นที่ชื่นชอบในวัยเด็กของปอมปีย์อย่างอเล็กซานเดอร์มหาราช ศัตรูของเขาได้มอบฉายาแก่เขาว่า adulescentulus carnifex ("หนุ่มนักฆ่าสัตว์") จากความโหดเหี้ยมของเขา[2] ความสำเร็จของปอมปีย์ในฐานะแม่ทัพในขณะที่ยังอยู่ในวัยหนุ่มทำให้เขาได้ก้าวหน้าโดยทันทีในการเป็นกงสุลคนแรก โดยไม่ต้องเข้าร่วมประชุมแบบปกติของระบบเส้นทางแห่งเกียรติยศ (cursus honorum)(ซึ่งเป็นขั้นตอนที่จำเป็นในอาชีพทางการเมือง) เขาเป็นกงสุลมาถึงสามสมัยและเป็นที่เลื่องลือถึงการประกาศชัยชนะของโรมัน (Roman triumphs) ถึงสามครั้ง
ในปี 60 ก่อนคริสตกาล ปอมปีย์ได้ร่วมมือกับมาร์กุส ลิกินิอุส กรัสซุส และกาอิอุส ยูลิอุส ไกซาร์ (จูเลียส ซีซาร์) ในการเป็นพันธมิตรระหว่างการทหารและการเมืองอย่างไม่เป็นทางการ ที่เป็นที่รู้จักกันคือ คณะสามผู้นำที่หนึ่ง ซึ่งปอมปีย์ได้สมรสกับยูลิอา ลูกสาวของซีซาร์เพื่อช่วยให้ความปลอดภัย ภายหลังกรัสซุสและยูลิอาเสียชีวิต ปอมปีย์ได้เข้าข้างฝ่ายออปติเมตส์ ฝ่ายอนุรักษ์นิยมของวุฒิสภาโรมัน ปอมปีย์และซีซาร์ได้แย่งชิงกันเป็นผู้นำของรัฐโรมัน ซึ่งนำไปสู่สงครามกลางเมือง ในสงคราม ปอมปีย์ได้พบความปราชัยที่ยุทธการที่ฟาร์ซาลุสในปี 48 ก่อนคริสตกาล เขาได้ลี้ภัยไปอยู่ในอียิปต์ ซึ่งถูกลอบสังหารในเวลาต่อมา
อ้างอิง
- ↑ "Pompey the Great". Britannica.com. สืบค้นเมื่อ October 21, 2018.
- ↑ Leach, John. Pompey the Great. p. 29.
- บุคคลที่เกิด 106 ปีก่อนคริสตกาล
- บุคคลที่เกิดในปี พ.ศ. 437
- บุคคลที่เสียชีวิต 48 ปีก่อนคริสตกาล
- บุคคลที่เสียชีวิตในปี พ.ศ. 495
- กงสุลสาธารณรัฐโรมัน
- สมาชิกวุฒิสภาสาธารณรัฐโรมัน
- แม่ทัพโรมันโบราณ
- นักการเมืองโรมันที่ถูกลอบฆ่า
- มหาราช
- บทความเกี่ยวกับ ชีวประวัติ ที่ยังไม่สมบูรณ์
- บทความเกี่ยวกับ ประวัติศาสตร์ ที่ยังไม่สมบูรณ์