ผลต่างระหว่างรุ่นของ "แก๊งค้ายาเมเดยิน"
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
หน้าใหม่: {{Infobox criminal organization|image=|caption=|founding location=จังหวัดแอนติโอกัว, โคลัมเบีย|founded by=... |
ไม่มีความย่อการแก้ไข |
||
| บรรทัด 3: | บรรทัด 3: | ||
'''แก๊งค้ายาเมเดยิน'''({{lang-es|Cartel de Medellín}}) เป็นแก๊งค้ายาเสพติดของโคลัมเบียที่ทรงอำนาจและมีการจัดการระเบียบที่สูงกว่า และเป็นองค์กรอาชญากรรมประเภทผู้ก่อการร้ายที่มีต้นกำเนิดใน[[เมืองเมเดยิน]] [[ประเทศโคลัมเบีย]] ผู้ก่อตั้งและนำโดย[[ปาโบล เอสโกบาร์]] แก๊งค้ายานี้ได้ดำเนินการตั้งแต่ปี ค.ศ. 1972 ถึง ค.ศ. 1993 ใน[[โบลิเวีย]] [[โคลัมเบีย]] [[ปานามา]] [[อเมริกากลาง]] [[เปรู]] [[สหรัฐอเมริกา]](ซึ่งรวมถึงเมืองต่าง ๆ เช่น [[ลอสแอนเจลิส|ลอสแองเจิลลิส]] และ[[ไมอามี]]) รวมถึงใน[[ประเทศแคนาดา]] แม้ว่าองค์กรนี้จะเริ่มต้นจากการเป็นเครือข่ายค้าของเถื่อนในช่วงต้นปี ค.ศ. 1970 แต่ก็ยังไม่ถึงปี ค.ศ. 1976 ที่องค์กรได้หันมาค้าขายโคเคน เมื่อถึงจุดสูงสุดของการดำเนินการ แก๊งเมเดยินได้ลักลอบนำโคเคนหลายตันไปยังประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกในแต่ละสัปดาห์และได้รับผลกำไรจากยา มากถึง 60 ล้านเหรียญสหรัฐต่อวัน<ref>{{cite news|last=Miller Llana|first=Sara|date=25 October 2010|title=Medellín to keep the peace|newspaper=The Christian Science Monitor|url=http://www.csmonitor.com/World/Americas/2010/1025/Medellin-once-epicenter-of-Colombia-s-drug-war-fights-to-keep-the-peace|access-date=27 September 2011}}</ref><ref>{{Cite journal|author=UNODC|date=2009|title=Cocaine|url=https://www.unodc.org/documents/data-and-analysis/tocta/4.Cocaine.pdf|journal=World Drug Trade}}</ref> |
'''แก๊งค้ายาเมเดยิน'''({{lang-es|Cartel de Medellín}}) เป็นแก๊งค้ายาเสพติดของโคลัมเบียที่ทรงอำนาจและมีการจัดการระเบียบที่สูงกว่า และเป็นองค์กรอาชญากรรมประเภทผู้ก่อการร้ายที่มีต้นกำเนิดใน[[เมืองเมเดยิน]] [[ประเทศโคลัมเบีย]] ผู้ก่อตั้งและนำโดย[[ปาโบล เอสโกบาร์]] แก๊งค้ายานี้ได้ดำเนินการตั้งแต่ปี ค.ศ. 1972 ถึง ค.ศ. 1993 ใน[[โบลิเวีย]] [[โคลัมเบีย]] [[ปานามา]] [[อเมริกากลาง]] [[เปรู]] [[สหรัฐอเมริกา]](ซึ่งรวมถึงเมืองต่าง ๆ เช่น [[ลอสแอนเจลิส|ลอสแองเจิลลิส]] และ[[ไมอามี]]) รวมถึงใน[[ประเทศแคนาดา]] แม้ว่าองค์กรนี้จะเริ่มต้นจากการเป็นเครือข่ายค้าของเถื่อนในช่วงต้นปี ค.ศ. 1970 แต่ก็ยังไม่ถึงปี ค.ศ. 1976 ที่องค์กรได้หันมาค้าขายโคเคน เมื่อถึงจุดสูงสุดของการดำเนินการ แก๊งเมเดยินได้ลักลอบนำโคเคนหลายตันไปยังประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกในแต่ละสัปดาห์และได้รับผลกำไรจากยา มากถึง 60 ล้านเหรียญสหรัฐต่อวัน<ref>{{cite news|last=Miller Llana|first=Sara|date=25 October 2010|title=Medellín to keep the peace|newspaper=The Christian Science Monitor|url=http://www.csmonitor.com/World/Americas/2010/1025/Medellin-once-epicenter-of-Colombia-s-drug-war-fights-to-keep-the-peace|access-date=27 September 2011}}</ref><ref>{{Cite journal|author=UNODC|date=2009|title=Cocaine|url=https://www.unodc.org/documents/data-and-analysis/tocta/4.Cocaine.pdf|journal=World Drug Trade}}</ref> |
||
แม้ว่าจะมีชื่อเสียงในเรื่องการครอบครองการค้าโคเคนที่ผิดกฏหมาย แต่ภายในองค์กร โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปีต่อ ๆ มาก็ยังถูกตั้งข้อสังเกตถึงการใช้ความรุนแรงเพื่อจุดมุ่งหมายทางการเมืองและการทำ[[สงครามอสมมาตร]]กับรัฐบาลโคลัมเบีย โดยส่วนใหญ่อยู่ในรูปแบบของการวางระเบิด การลักพาตัว การสังหารแบบไม่เจาะจงต่อผู้บังคับใช้กฏหมาย และการลอบสังหารนักการเมือง<ref name="Dallas5">{{cite news|author=David L. Marcus|date=May 2, 1991|title=Colombia professor's slaying shows drug war far from over|website=The Dallas Morning News}}</ref><ref name="Phil3">{{cite news|date=July 5, 1989|title=Colombian Governor Assassinated|page=B20|website=The Philadelphia Inquirer}}</ref> เมื่อถึงจุดสูงสุด แก๊งเมเดยินได้เป็นแก๊งค้ายาที่ใหญ่ที่สุดในโลกและลักลอบนำโคเคนมากกว่าคู่แข่งหลักถึงสามเท่า คือ [[แก๊งค้ายา |
แม้ว่าจะมีชื่อเสียงในเรื่องการครอบครองการค้าโคเคนที่ผิดกฏหมาย แต่ภายในองค์กร โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปีต่อ ๆ มาก็ยังถูกตั้งข้อสังเกตถึงการใช้ความรุนแรงเพื่อจุดมุ่งหมายทางการเมืองและการทำ[[สงครามอสมมาตร]]กับรัฐบาลโคลัมเบีย โดยส่วนใหญ่อยู่ในรูปแบบของการวางระเบิด การลักพาตัว การสังหารแบบไม่เจาะจงต่อผู้บังคับใช้กฏหมาย และการลอบสังหารนักการเมือง<ref name="Dallas5">{{cite news|author=David L. Marcus|date=May 2, 1991|title=Colombia professor's slaying shows drug war far from over|website=The Dallas Morning News}}</ref><ref name="Phil3">{{cite news|date=July 5, 1989|title=Colombian Governor Assassinated|page=B20|website=The Philadelphia Inquirer}}</ref> เมื่อถึงจุดสูงสุด แก๊งเมเดยินได้เป็นแก๊งค้ายาที่ใหญ่ที่สุดในโลกและลักลอบนำโคเคนมากกว่าคู่แข่งหลักถึงสามเท่า คือ [[แก๊งค้ายากาลี|แก๊งกาลี]] เป็นองค์กรค้ายาระหว่างประเทศซึ่งตั้งอยู่ที่[[จังหวัดบาเยเดลเกากา]]ของประเทศโคลัมเบีย ในเวลานั้น แก๊งเมเดยินได้สร้างรายได้มากกว่า 20 พันล้านเหรียญสหรัฐต่อทุก ๆ ปี |
||
== อ้างอิง == |
== อ้างอิง == |
||
รุ่นแก้ไขเมื่อ 05:24, 5 เมษายน 2564
| Founded by | ปาโบล เอสโกบาร์ † |
|---|---|
| สถานที่ตั้ง | จังหวัดแอนติโอกัว, โคลัมเบีย |
| ปีที่มีการเคลื่อนไหว | 1969 –1993 |
| อาณาเขต | โคลัมเบีย (แอนติโอกัว), ปานามา, [Az ]], แคลิฟอร์เนีย, นครนิวยอร์ก, ฟลอริดา, เกาะนอร์แมน |
| เชื้อชาติ | ชาวโคลัมเบีย และชาวต่างชาติจากโคลัมเบีย |
| กิจกรรมทางอาญา | ค้าขายยาเสพติด, ค้าขายอาวุธปืน, วางระเบิด, ก่อการร้าย, การติดสินบน, การลักพาตัว, การขู่กรรโชก, การฟอกเงิน, ฆาตกรรม, การฉ้อโกง |
| ฝ่ายพันธมิตร | Guadalajara Cartel (defunct) The Extraditables (defunct) Muerte a Secuestradores (defunct) La Corporación (defunct) Los Priscos (defunct) Chaldean mafia Gulf Cartel  คิวบา (alleged) นิการากัว (alleged)[1] |
| คู่ปรับ | Cali Cartel (defunct) Los Pepes (defunct) Search Bloc รัฐบาลโคลอมเบีย รัฐบาลอเมริกา DEA CIA |
แก๊งค้ายาเมเดยิน(สเปน: Cartel de Medellín) เป็นแก๊งค้ายาเสพติดของโคลัมเบียที่ทรงอำนาจและมีการจัดการระเบียบที่สูงกว่า และเป็นองค์กรอาชญากรรมประเภทผู้ก่อการร้ายที่มีต้นกำเนิดในเมืองเมเดยิน ประเทศโคลัมเบีย ผู้ก่อตั้งและนำโดยปาโบล เอสโกบาร์ แก๊งค้ายานี้ได้ดำเนินการตั้งแต่ปี ค.ศ. 1972 ถึง ค.ศ. 1993 ในโบลิเวีย โคลัมเบีย ปานามา อเมริกากลาง เปรู สหรัฐอเมริกา(ซึ่งรวมถึงเมืองต่าง ๆ เช่น ลอสแองเจิลลิส และไมอามี) รวมถึงในประเทศแคนาดา แม้ว่าองค์กรนี้จะเริ่มต้นจากการเป็นเครือข่ายค้าของเถื่อนในช่วงต้นปี ค.ศ. 1970 แต่ก็ยังไม่ถึงปี ค.ศ. 1976 ที่องค์กรได้หันมาค้าขายโคเคน เมื่อถึงจุดสูงสุดของการดำเนินการ แก๊งเมเดยินได้ลักลอบนำโคเคนหลายตันไปยังประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกในแต่ละสัปดาห์และได้รับผลกำไรจากยา มากถึง 60 ล้านเหรียญสหรัฐต่อวัน[2][3]
แม้ว่าจะมีชื่อเสียงในเรื่องการครอบครองการค้าโคเคนที่ผิดกฏหมาย แต่ภายในองค์กร โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปีต่อ ๆ มาก็ยังถูกตั้งข้อสังเกตถึงการใช้ความรุนแรงเพื่อจุดมุ่งหมายทางการเมืองและการทำสงครามอสมมาตรกับรัฐบาลโคลัมเบีย โดยส่วนใหญ่อยู่ในรูปแบบของการวางระเบิด การลักพาตัว การสังหารแบบไม่เจาะจงต่อผู้บังคับใช้กฏหมาย และการลอบสังหารนักการเมือง[4][5] เมื่อถึงจุดสูงสุด แก๊งเมเดยินได้เป็นแก๊งค้ายาที่ใหญ่ที่สุดในโลกและลักลอบนำโคเคนมากกว่าคู่แข่งหลักถึงสามเท่า คือ แก๊งกาลี เป็นองค์กรค้ายาระหว่างประเทศซึ่งตั้งอยู่ที่จังหวัดบาเยเดลเกากาของประเทศโคลัมเบีย ในเวลานั้น แก๊งเมเดยินได้สร้างรายได้มากกว่า 20 พันล้านเหรียญสหรัฐต่อทุก ๆ ปี
อ้างอิง
- ↑ Peñaloza, General Carlos (2014). El Delfín de Fidel: La historia oculta tras el golpe del 4F. p. 195. ISBN 978-1505750331.
Arnaldo Ochoa knew that Fidel secretly exchanged weapons with the Medellin Cartel for money and drugs. And this turbulent partnership included the authorization for the landing of planes in Cuba and loaded with cocaine to be transferred then and speedboats to the US. Fidel had appealed to this source of income to compensate for the reduction of the Soviet subsidy. And illegal trade, Castro delivered Kalashnikov rifles, ammunition and other supplies brought as loot of war from Africa.
- ↑ Miller Llana, Sara (25 October 2010). "Medellín to keep the peace". The Christian Science Monitor. สืบค้นเมื่อ 27 September 2011.
- ↑ UNODC (2009). "Cocaine" (PDF). World Drug Trade.
- ↑ David L. Marcus (May 2, 1991). "Colombia professor's slaying shows drug war far from over". The Dallas Morning News.
- ↑ "Colombian Governor Assassinated". The Philadelphia Inquirer. July 5, 1989. p. B20.
[[]]