ผลต่างระหว่างรุ่นของ "วัดปทุมวดีราชวราราม"

พิกัด: 11°33′34″N 104°55′54″E / 11.55944°N 104.93167°E / 11.55944; 104.93167
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Xiengyod~commonswiki (คุย | ส่วนร่วม)
กสิณธร ราชโอรส (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
ป้ายระบุ: การแก้ไขแบบเห็นภาพ แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่
บรรทัด 26: บรรทัด 26:
วัดปทุมวดีราชวรารามเป็นวัดเก่า สร้างขึ้นในสมัย[[พระบรมราชา (เจ้าพระยาญาติ)]] เมื่อ พ.ศ. 1985 ถือเป็นวัดแห่งหนึ่งที่มีความสำคัญที่สุดและเก่าแก่ที่สุดของราชธานีพนมเปญ เดิมวัดนี้มีชื่อว่า "วัดขปวบตายอง" หรือ "วัดตายอง" ต่อมาได้กลายเป็นวัดร้างไปตามกาลเวลา ในปี พ.ศ. 2409 [[พระบาทสมเด็จพระนโรดม บรมรามเทวาวตาร]] โปรดเกล้าฯ ให้ย้ายราชธานีจากกรุงอุดงค์มีชัยมาตั้งอยู่ที่จตุมุข (พนมเปญ) และก่อสร้างพระบรมราชวังจตุมุขสิริมงคล เวลานั้นได้มีการสถาปนาคณะสงฆ์ธรรมยุติกนิกายขึ้นในประเทศกัมพูชาแล้ว วัดขปวบตายองจึงได้รับการบูรณะให้เป็นพระอารามหลวง จากนั้นจึงโปรดเกล้าฯ ให้อาราธนา[[สมเด็จพระสุคนธาธิบดี (ปาน ปญฺญาสีโล)]] และพระสงฆ์ธรรมยุติกนิกายจากวัดศาลาคู (วัดอ็อมปึลเบ็ย) มาประทับที่วัดนี้ วัดขปวบตายองที่ได้รับการบูรณะใหม่ครั้งนี้ได้ปลูกบัวไว้ในคูของวัดถึง 3 มุม จึงพระราชทานชื่อวัดใหม่โดยอาศัยสระบัวเหล่านั้นเป็นนิมิตว่า "วัดปทุมวดีราชวราราม"<ref name="Harris2008">{{cite book|last=Harris|first=Ian|title=Cambodian Buddhism: History and Practice|url=https://books.google.com/books?id=rVnMxVz_Bg8C&pg=PA108|accessdate=14 January 2011|date=May 2008|publisher=University of Hawaii Press|isbn=978-0-8248-3298-8|page=108}}</ref><ref name="KN">{{cite web|url=http://khmernews.wordpress.com/2006/11/08/wat-botum/|title=Wat Botum|publisher=Khmer News|accessdate=14 January 2010|date=8 November 2006}}</ref>
วัดปทุมวดีราชวรารามเป็นวัดเก่า สร้างขึ้นในสมัย[[พระบรมราชา (เจ้าพระยาญาติ)]] เมื่อ พ.ศ. 1985 ถือเป็นวัดแห่งหนึ่งที่มีความสำคัญที่สุดและเก่าแก่ที่สุดของราชธานีพนมเปญ เดิมวัดนี้มีชื่อว่า "วัดขปวบตายอง" หรือ "วัดตายอง" ต่อมาได้กลายเป็นวัดร้างไปตามกาลเวลา ในปี พ.ศ. 2409 [[พระบาทสมเด็จพระนโรดม บรมรามเทวาวตาร]] โปรดเกล้าฯ ให้ย้ายราชธานีจากกรุงอุดงค์มีชัยมาตั้งอยู่ที่จตุมุข (พนมเปญ) และก่อสร้างพระบรมราชวังจตุมุขสิริมงคล เวลานั้นได้มีการสถาปนาคณะสงฆ์ธรรมยุติกนิกายขึ้นในประเทศกัมพูชาแล้ว วัดขปวบตายองจึงได้รับการบูรณะให้เป็นพระอารามหลวง จากนั้นจึงโปรดเกล้าฯ ให้อาราธนา[[สมเด็จพระสุคนธาธิบดี (ปาน ปญฺญาสีโล)]] และพระสงฆ์ธรรมยุติกนิกายจากวัดศาลาคู (วัดอ็อมปึลเบ็ย) มาประทับที่วัดนี้ วัดขปวบตายองที่ได้รับการบูรณะใหม่ครั้งนี้ได้ปลูกบัวไว้ในคูของวัดถึง 3 มุม จึงพระราชทานชื่อวัดใหม่โดยอาศัยสระบัวเหล่านั้นเป็นนิมิตว่า "วัดปทุมวดีราชวราราม"<ref name="Harris2008">{{cite book|last=Harris|first=Ian|title=Cambodian Buddhism: History and Practice|url=https://books.google.com/books?id=rVnMxVz_Bg8C&pg=PA108|accessdate=14 January 2011|date=May 2008|publisher=University of Hawaii Press|isbn=978-0-8248-3298-8|page=108}}</ref><ref name="KN">{{cite web|url=http://khmernews.wordpress.com/2006/11/08/wat-botum/|title=Wat Botum|publisher=Khmer News|accessdate=14 January 2010|date=8 November 2006}}</ref>


วัดปทุมวดีราชวรารามเป็นสถานที่จำพรรษาของสมเด็จพระสังฆราชฝ่ายธรรมยุติกนิกายแห่งประเทศกัมพูชาตลอดมา จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2518 ในสมัยรัฐบาล[[กัมพูชาประชาธิปไตย]]ของ[[เขมรแดง]] วัดจึงถูกทิ้งร้าง เนื่องจากในยุคนั้นเขมรแดงได้ห้ามการนับถือและประกอบพิธ๊กรรมทางศาสนาต่างๆ ทั้งหมด เมื่อฝ่ายเขมร[[เฮง สัมริน]] ขับไล่รัฐบาลเขมรแดงและจัดตั้งรัฐบาล[[สาธารณรัฐประชาชนกัมพูชา]]ขึ้นมาแล้ว [[ศาสนาพุทธในประเทศกัมพูชา]]จึงได้รับการฟื้นฟูขึ้นมาอีกครั้ง ในเวลานั้นไม่ได้มีการแบ่งแยกเป็นคณะสงฆ์[[มหานิกาย]]และ[[ธรรมยุติกนิกาย]] แต่จัดการปกครองรวมกันเป็นคณะสงฆ์กัมพูชาคณะเดียว พระสงฆ์คณะมหานิกายจึงได้เข้าไปจำพรรษาอยู่ที่วัดปทุมวดีราชวรารามด้วย เมื่อคณะสงฆ์ธรรมยุติกนิกายได้รับการฟื้นฟูขึ้นในกัมพูชาอีกครั้งในปี พ.ศ. 2535 ภายใต้พระบรมราชูปถัมภ์ของ[[พระบาทสมเด็จพระนโรดม สีหนุ]] พระสงฆ์คณะธรรมยุติกนิกายจึงกลับเข้าไปจำพรรษาที่วัดปทุมวดีราชวรารามตามเดิม โดยต้องแบ่งพื้นที่ของวัดให้แก่พระสงฆ์คณะมหานิกายที่เข้าไปอยู่ในพระอารามในสมัยรัฐบาลสาธารณรัฐประชาชนกัมพูชาได้จำพรรษาต่อไป
วัดปทุมวดีราชวรารามเป็นสถานที่จำพรรษาของสมเด็จพระสังฆราชฝ่ายธรรมยุติกนิกายแห่งประเทศกัมพูชาตลอดมา จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2518 ในสมัยรัฐบาล[[กัมพูชาประชาธิปไตย]]ของ[[เขมรแดง]] วัดจึงถูกทิ้งร้าง เนื่องจากในยุคนั้นเขมรแดงได้ห้ามการนับถือและประกอบพิธีกรรมทางศาสนาต่างๆ ทั้งหมด เมื่อฝ่ายเขมร[[เฮง สัมริน]] ขับไล่รัฐบาลเขมรแดงและจัดตั้งรัฐบาล[[สาธารณรัฐประชาชนกัมพูชา]]ขึ้นมาแล้ว [[ศาสนาพุทธในประเทศกัมพูชา]]จึงได้รับการฟื้นฟูขึ้นมาอีกครั้ง ในเวลานั้นไม่ได้มีการแบ่งแยกเป็นคณะสงฆ์[[มหานิกาย]]และ[[ธรรมยุติกนิกาย]] แต่จัดการปกครองรวมกันเป็นคณะสงฆ์กัมพูชาคณะเดียว พระสงฆ์คณะมหานิกายจึงได้เข้าไปจำพรรษาอยู่ที่วัดปทุมวดีราชวรารามด้วย เมื่อคณะสงฆ์ธรรมยุติกนิกายได้รับการฟื้นฟูขึ้นในกัมพูชาอีกครั้งในปี พ.ศ. 2535 ภายใต้พระบรมราชูปถัมภ์ของ[[พระบาทสมเด็จพระนโรดม สีหนุ]] พระสงฆ์คณะธรรมยุติกนิกายจึงกลับเข้าไปจำพรรษาที่วัดปทุมวดีราชวรารามตามเดิม โดยต้องแบ่งพื้นที่ของวัดให้แก่พระสงฆ์คณะมหานิกายที่เข้าไปอยู่ในพระอารามในสมัยรัฐบาลสาธารณรัฐประชาชนกัมพูชาได้จำพรรษาต่อไป


ปัจจุบันวัดปทุมวดีราชวรารามเป็นศูนย์กลางการบริหารกิจการศาสนาพุทธฝ่ายธรรมยุติกนิกายในประเทศกัมพูชา มี[[สมเด็จพระอภิสิริสุคนธามหาสังฆราชาธิบดี (บัวร์ กรี)]] สมเด็จพระสังฆราชฝ่ายธรรมยุติกนิกาย ทรงเป็นเจ้าอาวาสวัดปทุมวดีราชวราราม และ[[สมเด็จพระมหาสุเมธาธิบดี (นนท์ แงด)]] สมเด็จพระสังฆนายกฝ่ายมหานิกาย (ฐานะเทียบเท่าเจ้าคณะใหญ่ของคณะสงฆ์ไทย) เป็นผู้นำคณะสงฆ์มหานิกายภายในวัด
ปัจจุบันวัดปทุมวดีราชวรารามเป็นศูนย์กลางการบริหารกิจการศาสนาพุทธฝ่ายธรรมยุติกนิกายในประเทศกัมพูชา มี[[สมเด็จพระอภิสิริสุคนธามหาสังฆราชาธิบดี (บัวร์ กรี)]] สมเด็จพระสังฆราชฝ่ายธรรมยุติกนิกาย ทรงเป็นเจ้าอาวาสวัดปทุมวดีราชวราราม และ[[สมเด็จพระมหาสุเมธาธิบดี (นนท์ แงด)]] สมเด็จพระสังฆนายกฝ่ายมหานิกาย (ฐานะเทียบเท่าเจ้าคณะใหญ่ของคณะสงฆ์ไทย) เป็นผู้นำคณะสงฆ์มหานิกายภายในวัด

รุ่นแก้ไขเมื่อ 08:34, 20 กุมภาพันธ์ 2564

วัดปทุมวดีราชวราราม
វត្តបទុមវតីរាជវរារាម
พระอุโบสถวัดปทุมวดีราชวราราม
ศาสนา
ศาสนาศาสนาพุทธ นิกายเถรวาท
ที่ตั้ง
ที่ตั้งพนมเปญ
ประเทศกัมพูชา
วัดปทุมวดีราชวรารามตั้งอยู่ในประเทศกัมพูชา
วัดปทุมวดีราชวราราม
ตำแหน่งที่ตั้งในประเทศกัมพูชา
พิกัดภูมิศาสตร์11°33′34″N 104°55′54″E / 11.55944°N 104.93167°E / 11.55944; 104.93167
สถาปัตยกรรม
ผู้ก่อตั้งพระบรมราชา (เจ้าพระยาญาติ)
เสร็จสมบูรณ์พ.ศ. 1985

วัดปทุมวดีราชวราราม (เขมร: វត្តបទុមវតីរាជវរារាម) หรือ "วัดปทุมวดี" (ในภาษาเขมรออกเสียงว่า วัดโบตุมโวเด็ย) เป็นพระอารามหลวงฝ่ายธรรมยุติกนิกายของประเทศกัมพูชา ตั้งอยู่ที่ถนนออกญาซัวร์ สรุน 7 สังกัดจตุมุข ขัณฑ์โดนเปญ ราชธานีพนมเปญ ประเทศกัมพูชา ทางทิศใต้ของพระบรมราชวังจตุมุขสิริมงคล ฝั่งตะวันตกของสวนสาธารณะวัดปทุม[1]

ประวัติ

สมเด็จพระอภิสิริสุคนธามหาสังฆราชาธิบดี (บัวร์ กรี) สมเด็จพระสังฆราชฝ่ายธรรมยุติกนิกายของกัมพูชาองค์ปัจจุบัน สถิต ณ วัดปทุมวดีราชวราราม กรุงพนมเปญ

วัดปทุมวดีราชวรารามเป็นวัดเก่า สร้างขึ้นในสมัยพระบรมราชา (เจ้าพระยาญาติ) เมื่อ พ.ศ. 1985 ถือเป็นวัดแห่งหนึ่งที่มีความสำคัญที่สุดและเก่าแก่ที่สุดของราชธานีพนมเปญ เดิมวัดนี้มีชื่อว่า "วัดขปวบตายอง" หรือ "วัดตายอง" ต่อมาได้กลายเป็นวัดร้างไปตามกาลเวลา ในปี พ.ศ. 2409 พระบาทสมเด็จพระนโรดม บรมรามเทวาวตาร โปรดเกล้าฯ ให้ย้ายราชธานีจากกรุงอุดงค์มีชัยมาตั้งอยู่ที่จตุมุข (พนมเปญ) และก่อสร้างพระบรมราชวังจตุมุขสิริมงคล เวลานั้นได้มีการสถาปนาคณะสงฆ์ธรรมยุติกนิกายขึ้นในประเทศกัมพูชาแล้ว วัดขปวบตายองจึงได้รับการบูรณะให้เป็นพระอารามหลวง จากนั้นจึงโปรดเกล้าฯ ให้อาราธนาสมเด็จพระสุคนธาธิบดี (ปาน ปญฺญาสีโล) และพระสงฆ์ธรรมยุติกนิกายจากวัดศาลาคู (วัดอ็อมปึลเบ็ย) มาประทับที่วัดนี้ วัดขปวบตายองที่ได้รับการบูรณะใหม่ครั้งนี้ได้ปลูกบัวไว้ในคูของวัดถึง 3 มุม จึงพระราชทานชื่อวัดใหม่โดยอาศัยสระบัวเหล่านั้นเป็นนิมิตว่า "วัดปทุมวดีราชวราราม"[2][3]

วัดปทุมวดีราชวรารามเป็นสถานที่จำพรรษาของสมเด็จพระสังฆราชฝ่ายธรรมยุติกนิกายแห่งประเทศกัมพูชาตลอดมา จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2518 ในสมัยรัฐบาลกัมพูชาประชาธิปไตยของเขมรแดง วัดจึงถูกทิ้งร้าง เนื่องจากในยุคนั้นเขมรแดงได้ห้ามการนับถือและประกอบพิธีกรรมทางศาสนาต่างๆ ทั้งหมด เมื่อฝ่ายเขมรเฮง สัมริน ขับไล่รัฐบาลเขมรแดงและจัดตั้งรัฐบาลสาธารณรัฐประชาชนกัมพูชาขึ้นมาแล้ว ศาสนาพุทธในประเทศกัมพูชาจึงได้รับการฟื้นฟูขึ้นมาอีกครั้ง ในเวลานั้นไม่ได้มีการแบ่งแยกเป็นคณะสงฆ์มหานิกายและธรรมยุติกนิกาย แต่จัดการปกครองรวมกันเป็นคณะสงฆ์กัมพูชาคณะเดียว พระสงฆ์คณะมหานิกายจึงได้เข้าไปจำพรรษาอยู่ที่วัดปทุมวดีราชวรารามด้วย เมื่อคณะสงฆ์ธรรมยุติกนิกายได้รับการฟื้นฟูขึ้นในกัมพูชาอีกครั้งในปี พ.ศ. 2535 ภายใต้พระบรมราชูปถัมภ์ของพระบาทสมเด็จพระนโรดม สีหนุ พระสงฆ์คณะธรรมยุติกนิกายจึงกลับเข้าไปจำพรรษาที่วัดปทุมวดีราชวรารามตามเดิม โดยต้องแบ่งพื้นที่ของวัดให้แก่พระสงฆ์คณะมหานิกายที่เข้าไปอยู่ในพระอารามในสมัยรัฐบาลสาธารณรัฐประชาชนกัมพูชาได้จำพรรษาต่อไป

ปัจจุบันวัดปทุมวดีราชวรารามเป็นศูนย์กลางการบริหารกิจการศาสนาพุทธฝ่ายธรรมยุติกนิกายในประเทศกัมพูชา มีสมเด็จพระอภิสิริสุคนธามหาสังฆราชาธิบดี (บัวร์ กรี) สมเด็จพระสังฆราชฝ่ายธรรมยุติกนิกาย ทรงเป็นเจ้าอาวาสวัดปทุมวดีราชวราราม และสมเด็จพระมหาสุเมธาธิบดี (นนท์ แงด) สมเด็จพระสังฆนายกฝ่ายมหานิกาย (ฐานะเทียบเท่าเจ้าคณะใหญ่ของคณะสงฆ์ไทย) เป็นผู้นำคณะสงฆ์มหานิกายภายในวัด

อัฐิของบุคคลสำคัญในกรุงพนมเปญและนักการเมืองกัมพูชาจำนวนมากได้บรรจุไว้ที่นี่ [4] อนึ่ง วัดแห่งนี้ยังเป็นสถานที่ตั้งพระศพเพื่อบำเพ็ญพระราชกุศล และจัดงานพระราชทานเพลิงพระศพสำหรับพระบรมวงศานุวงศ์ในพระราชวงศ์กัมพูชาที่มีศักดิ์ไม่ถึงชั้นงานพระเมรุกลางเมืองอีกด้วย

ระเบียงภาพ

 
 
 
 
 
 
 
 

อ้างอิง

  1. Google Maps (Map). Google. {{cite map}}: |access-date= ต้องการ |url= (help)
  2. Harris, Ian (May 2008). Cambodian Buddhism: History and Practice. University of Hawaii Press. p. 108. ISBN 978-0-8248-3298-8. สืบค้นเมื่อ 14 January 2011.
  3. "Wat Botum". Khmer News. 8 November 2006. สืบค้นเมื่อ 14 January 2010.
  4. Zepp, Raymond A. (1997). A field guide to Cambodian pagodas. Bert's Books. p. 40. สืบค้นเมื่อ 14 January 2011.