ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ความสัมพันธ์ไทย–เยอรมนี"
ไม่มีความย่อการแก้ไข ป้ายระบุ: แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่ |
|||
บรรทัด 1: | บรรทัด 1: | ||
{{Infobox Bilateral relations|เยอรมนี–ไทย|Germany|Thailand|map=Germany Thailand Locator.svg}} |
|||
[[ไฟล์:Bundesarchiv B 145 Bild-F009754-0005, Petersberg, Staatsempfang für König von Thailand.jpg|thumb|right|200px|[[สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์]]และประธานาธิบดี[[ไฮน์ริช ลึพเคอ]] ระหว่างการเสด็จเยือนประเทศเยอรมนี พ.ศ. 2503]] |
[[ไฟล์:Bundesarchiv B 145 Bild-F009754-0005, Petersberg, Staatsempfang für König von Thailand.jpg|thumb|right|200px|[[สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์]]และประธานาธิบดี[[ไฮน์ริช ลึพเคอ]] ระหว่างการเสด็จเยือนประเทศเยอรมนี พ.ศ. 2503]] |
||
รุ่นแก้ไขเมื่อ 15:16, 4 สิงหาคม 2562
เยอรมนี |
ไทย |
ความสัมพันธ์เยอรมนี-ไทย เป็นความสัมพันธ์ระหว่างประเทศเยอรมนีกับประเทศไทย ที่เริ่มต้นอย่างเป็นทางการตั้งแต่รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว[1] ต่อมา พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จเยือนยุโรปใน พ.ศ. 2440 และ พ.ศ. 2450 รวมทั้งโอรสหลายพระองค์ต่างทรงรับการศึกษาที่ประเทศเยอรมนี ดังเช่น สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้ารังสิตประยูรศักดิ์ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร ผู้สำเร็จราชการในสมัยนั้น ที่ทรงอภิเษกสมรสกับสตรีชาวเยอรมัน[2]
ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวนี้เอง ที่มีชาวต่างชาติรวมถึงชาวเยอรมันที่เดินทางมายังประเทศสยามเพื่อนำความรู้มาพัฒนาประเทศให้ทันสมัย ทั้งทางรถไฟ การไปรษณีย์โทรเลขต่างได้รับการสนับสนุนจากผู้เชี่ยวชาญชาวเยอรมัน รวมถึงพระเจนดุริยางค์ หรือชื่อเดิม ปีเตอร์ ไฟท์ เป็นบุตรของชาวเยอรมันที่อพยพมาอาศัยอยู่ในประเทศไทย เป็นผู้ประพันธ์ทำนองเพลงชาติไทย[2]
ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศนี้ยังคงมีมาโดยตลอด โครงการที่รัฐบาลเยอรมันให้ความสำคัญ คือการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ดังเช่น การวิจัยการสืบพันธุ์ของช้างเอเชีย โดยมีการขอยืมช้างไทยไปวิจัยศึกษาที่สวนสัตว์ในโคโลญ อันเป็นการแลกเปลี่ยนความรู้ทางวิชาการและวิทยาศาสตร์ระหว่างสองประเทศ[3]
ความสัมพันธ์ทางการทูต
ในสมัยที่เยอรมนียังคงแยกเป็นรัฐเสรีหลายรัฐ ได้มีรัฐสำคัญอย่างปรัสเซียที่จัดตั้งจัดตั้งคณะทูตสันถวไมตรีแห่งปรัสเซียมายังสยาม โดยมีหัวหน้าคณะทูตคือ เคานท์ ซู ออยเลนบวร์ก พร้อมคณะ ซึ่งประกอบด้วยนักวิทยาศาสตร์กับชาวเยอรมันผู้เชี่ยวชาญสาขาต่างๆ โดยเดินทางมาถึงสยาม ณ วันที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2405 ซึ่งตรงกับรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
การเจรจาการค้าพระราชไมตรี ด้านการค้าและการเดินเรือระหว่างสองประเทศเริ่มขึ้นในวันที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2406 โดยมีเจ้าฟ้ากรมหลวงวงศาธิราชสนิท เป็นหัวหน้าคณะเจรจาฝ่ายไทย ซึ่งทางปรัสเซียไม่มีนโยบายล่าอาณานิคมในแถบเอเชียอาคเนย์ การเจรจาเสร็จสิ้นและลงนามสัญญา ณ วันที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2406 โดยสัญญาระบุถึงการปฏิบัติไมตรีต่อกัน ต่อมาในปี พ.ศ. 2422 ได้มีการตั้งสถานทูตไทย ณ กรุงเบอร์ลิน และ พ.ศ. 2431 ได้มีการเลื่อนระดับสถานกงสุลเยอรมนีขึ้นเป็นสถานอัครราชทูตเยอรมนี ณ กรุงเทพมหานคร[1]
อ้างอิง
หนังสืออ่านเพิ่ม
- คัททิยากร ศศิธรามาศ. “ความสัมพันธ์ไทย-เยอรมันจากจุดเริ่มต้นถึงสงครามโลกครั้งที่ 2: ข้อสรุปจากหลักฐานชั้นต้น.” ใน สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี (บก.), 70 ปีแห่งการสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2: ไทยจากเอกสารจดหมายเหตุต่างประเทศ สหรัฐอเมริกา อังกฤษ ฝรั่งเศส รัสเซีย เยอรมนี ญี่ปุ่น ตุรกี และจีน. ม.ป.ท., 2558.
- ตุลย์ อิศรางกูร ณ อยุธยา. “ปริทรรศน์เอกสารเกี่ยวกับสยามจากหอจดหมายเหตุแห่งชาติเยอรมนี: ข้อค้นพบและการตีความเอกสารแนวใหม่.” ใน สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี (บก.), 70 ปีแห่งการสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2: ไทยจากเอกสารจดหมายเหตุต่างประเทศ สหรัฐอเมริกา อังกฤษ ฝรั่งเศส รัสเซีย เยอรมนี ญี่ปุ่น ตุรกี และจีน. ม.ป.ท., 2558.
- ภาวรรณ เรืองศิลป์. “รายงานผลการค้นคว้าเอกสารทางประวัติศาสตร์ไทยสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ในหอจดหมายเหตุแห่งชาติเยอรมนี: เอกสารเยอรมันว่าด้วยค่าครองชีพในประเทศไทยสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2.” ใน สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี (บก.), 70 ปีแห่งการสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2: ไทยจากเอกสารจดหมายเหตุต่างประเทศ สหรัฐอเมริกา อังกฤษ ฝรั่งเศส รัสเซีย เยอรมนี ญี่ปุ่น ตุรกี และจีน. ม.ป.ท., 2558.
- ราตรี วานิชลักษ์. “ความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับเยอรมนีตั้งแต่ พ.ศ. 2405-2460.” วิทยานิพนธ์ อ.ม. แผนกวิชาประวัติศาสตร์ บัณฑิตวิทยาลัย จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2519.
- หม่อมหลวงมานิจ ชุมสาย: History of the Thai-German relations (from the files of the Thai Embassy in Bonn and the German Ministry of Foreign Affairs). กรุงเทพฯ: เฉลิมนิจ 2521.
- Andreas Stoffers: Im Lande des weißen Elefanten: die Beziehungen zwischen Deutschland und Thailand von den Anfängen bis 1962. Deutsch-Thailändische Gesellschaft, Bonn 1995, ISBN 3923387210.
- Stefanie Rathje: Unternehmenskultur als Interkultur: Entwicklung und Gestaltung interkultureller Unternehmenskultur am Beispiel deutscher Unternehmen in Thailand. Wissenschaft und Praxis, Sternenfels 2004, ISBN 978-3896732071.
แหล่งข้อมูลอื่น
- คัททิยากร ศศิธรามาศ. “ชาวเยอรมันในสยามในสมัยรัชกาลที่ 5.” ใน ประวัติศาสตร์ใน “Twentieth Century Impressions of Siam: Its History, People, Commerce, Industries, and Resources”. พิมพ์ครั้งที่ 3. น. 92-99. นครปฐม: ภาควิชาประวัติศาสตร์ คณะอักษรศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร, 2562.
- คัททิยากร ศศิธรามาศ. “บทบาทของ ดร.รูดอล์ฟ อาสมีส ทูตเยอรมันประจำกรุงเทพมหานครกับการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างสยามและเยอรมนี พ.ศ. 2468-2475.” วารสารศิลปศาสตร์ (มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์) 13, 1 (ม.ค.-มิ.ย. 2556), น. 50-61.
- Auswärtiges Amt – Thailand Daten zu den deutsch-thailändischen Beziehungen (engl.)
- Catthiyakorn Sasitharamas. People in Adolf Bastian’s “Journey in Siam in 1863”. Proceedings of 131st IASTEM International Conference, Saint Petersburg, Russian Federation, 9th-10th August 2018, pp. 27-31.
- Rudolf Baierl: "140 Years Peace : fundamental conditions for the commencement of German-Thai amity". 5th Asia Pacific Forum 2003. Als pdf unter http://public.beuth-hochschule.de/~baierl/Thai/A4Thai_Deut_Peace.pdf (letzter Zugriff am 10. November 2010).