ผลต่างระหว่างรุ่นของ "หิมะภาค"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Horus (คุย | ส่วนร่วม)
Horus ย้ายหน้า หิมะภาค ไปยัง ไครโอสเฟียร์: "หิมะ"?
Horus (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 1: บรรทัด 1:
[[ไฟล์:Cryosphere Fuller Projection.png|thumb|right|300px|ภาพมุมสูงของหิมะภาค จาก [http://maps.grida.no/go/graphic/cryosphere UN Environment Programme Global Outlook for Ice and Snow].]]
[[ไฟล์:Cryosphere Fuller Projection.png|thumb|right|300px|ภาพมุมสูงของไครโอสเฟียร์ จาก [http://maps.grida.no/go/graphic/cryosphere UN Environment Programme Global Outlook for Ice and Snow].]]
[[ไฟล์:Components of the Cryosphere.tif|thumb|300px|ภาพความละเอียดสูง ออกแบบเพื่อ[[คณะกรรมการระหว่างรัฐบาลว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ]] แสดงให้เห็นถึงขอบเขตของหิมะภาคบนโลก บนพื้นทวีป พื้นดินที่มีอุณหภูมิต่ำกว่า 0 องศาเซลเซียสเป็นเวลานานจะแสดงให้เห็นด้วยสีชมพูเข้ม แต่พื้นดินที่เคยมีอุณหภูมิต่ำกว่า 0 องศาเซลเซียสเป็นเวลานานและมีแนวโน้มว่าจะมีอุณหภูมิสูงขึ้นจะแสดงด้วยสีชมพูอ่อน ส่วนในบริเวณที่มีสีเทาจะแสดงถึงพื้นที่ซึ่งมี[[หิมะ]]ตกอย่างน้อยหนึ่งวันในช่วงปี [[พ.ศ. 2543]]–[[พ.ศ. 2555|2555]] เส้นสีเขียวอ่อนบริเวณทางตอนใต้ของทวีปแสดงถึงขอบเขตที่มีหิมะมากที่สุด ส่วนเส้นสีดำบริเวณ[[ทวีปอเมริกาเหนือ]] [[ทวีปยุโรป]] และ[[ทวีปเอเชีย]] แสดงให้เห็นถึงขอบเขตที่มีหิมะร้อยละ 50 [[ธารน้ำแข็ง]]แสดงให้เห็นในรูปจุดสีทองเล็ก ๆ ในบริเวณเขตภูเขา และบริเวณละติจูดที่อยู่เหนือและใต้มาก ๆ ส่วนในบริเวณมหาสมุทร แผ่นน้ำแข็งจะแสดงให้เห็นบริเวณรอบ[[ทวีปแอนตาร์กติกา]]พร้อมกับทะเลที่เป็นน้ำแข็งบริเวณโดยรอบ ทะเลที่เป็นน้ำแข็งแสดงให้เห็นบริเวณ[[ขั้วโลกเหนือ]]ด้วย โดยทั้งสองขั้วโลก ขอบเขตของทะเลที่มีน้ำแข็งเฉลี่ยในรอบสามสิบปีได้แสดงไว้ด้วยเส้นสีเหลือง และผืนน้ำแข็งบน[[กรีนแลนด์]]กับ[[ทวีปแอนตาร์กติกา]]สามารถเห็นได้ชัดในรูปใบนี้]]
[[ไฟล์:Components of the Cryosphere.tif|thumb|300px|ภาพความละเอียดสูง ออกแบบเพื่อ[[คณะกรรมการระหว่างรัฐบาลว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ]] แสดงให้เห็นถึงขอบเขตของไครโอสเฟียร์บนโลก บนพื้นทวีป พื้นดินที่มีอุณหภูมิต่ำกว่า 0 องศาเซลเซียสเป็นเวลานานจะแสดงให้เห็นด้วยสีชมพูเข้ม แต่พื้นดินที่เคยมีอุณหภูมิต่ำกว่า 0 องศาเซลเซียสเป็นเวลานานและมีแนวโน้มว่าจะมีอุณหภูมิสูงขึ้นจะแสดงด้วยสีชมพูอ่อน ส่วนในบริเวณที่มีสีเทาจะแสดงถึงพื้นที่ซึ่งมี[[หิมะ]]ตกอย่างน้อยหนึ่งวันในช่วงปี [[พ.ศ. 2543]]–[[พ.ศ. 2555|2555]] เส้นสีเขียวอ่อนบริเวณทางตอนใต้ของทวีปแสดงถึงขอบเขตที่มีหิมะมากที่สุด ส่วนเส้นสีดำบริเวณ[[ทวีปอเมริกาเหนือ]] [[ทวีปยุโรป]] และ[[ทวีปเอเชีย]] แสดงให้เห็นถึงขอบเขตที่มีหิมะร้อยละ 50 [[ธารน้ำแข็ง]]แสดงให้เห็นในรูปจุดสีทองเล็ก ๆ ในบริเวณเขตภูเขา และบริเวณละติจูดที่อยู่เหนือและใต้มาก ๆ ส่วนในบริเวณมหาสมุทร แผ่นน้ำแข็งจะแสดงให้เห็นบริเวณรอบ[[ทวีปแอนตาร์กติกา]]พร้อมกับทะเลที่เป็นน้ำแข็งบริเวณโดยรอบ ทะเลที่เป็นน้ำแข็งแสดงให้เห็นบริเวณ[[ขั้วโลกเหนือ]]ด้วย โดยทั้งสองขั้วโลก ขอบเขตของทะเลที่มีน้ำแข็งเฉลี่ยในรอบสามสิบปีได้แสดงไว้ด้วยเส้นสีเหลือง และผืนน้ำแข็งบน[[กรีนแลนด์]]กับ[[ทวีปแอนตาร์กติกา]]สามารถเห็นได้ชัดในรูปใบนี้]]


'''หิมะภาค''' ({{lang-en|Cryosphere}}) เป็นส่วนหนึ่งของผิว[[โลก]]ซึ่งประกอบด้วย[[น้ำ]]ในรูป[[ของแข็ง]] รวมถึง[[ทะเล]]ที่เป็น[[น้ำแข็ง]] [[ทะเลสาบ]]น้ำแข็ง [[แม่น้ำ]]ที่เป็นน้ำแข็ง [[ธารน้ำแข็ง]] แผ่นน้ำแข็ง และพื้นดินซึ่งเยือกแข็ง พื้นที่ส่วนใหญ่ของหิมะภาคมักจะซ้อนอยู่บนพื้นที่ของ[[อุทกภาค]] หิมะภาคนั้นเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลง[[ภูมิอากาศ|สภาพภูมิอากาศโลก]]หลายประการ โดยมักมีอิทธิพลต่อเมฆ ปริมาณ[[หยาดน้ำฟ้า]] อุทกวิทยา และการไหลเวียนของอากาศและกระแสน้ำ
'''ไครโอสเฟียร์''' ({{lang-en|Cryosphere}}) เป็นส่วนหนึ่งของผิว[[โลก]]ซึ่งประกอบด้วย[[น้ำ]]ในรูป[[ของแข็ง]] รวมถึง[[ทะเล]]ที่เป็น[[น้ำแข็ง]] [[ทะเลสาบ]]น้ำแข็ง [[แม่น้ำ]]ที่เป็นน้ำแข็ง [[ธารน้ำแข็ง]] แผ่นน้ำแข็ง และพื้นดินซึ่งเยือกแข็ง พื้นที่ส่วนใหญ่ของไครโอสเฟียร์มักจะซ้อนอยู่บนพื้นที่ของ[[อุทกภาค]] ไครโอสเฟียร์นั้นเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลง[[ภูมิอากาศ|สภาพภูมิอากาศโลก]]หลายประการ โดยมักมีอิทธิพลต่อเมฆ ปริมาณ[[หยาดน้ำฟ้า]] อุทกวิทยา และการไหลเวียนของอากาศและกระแสน้ำ


== โครงสร้าง ==
== โครงสร้าง ==
น้ำที่ผ่าน[[จุดเยือกแข็ง]]มาแล้วมักจะพบบนพื้นผิวโลกในรูปของ[[หิมะ]] [[น้ำแข็ง]]ในทะเลสาบและแม่น้ำ น้ำแข็งในทะเล และธารน้ำแข็ง โดยพื้นที่ที่มีน้ำแข็งปกคลุมและน้ำแข็งในแหล่งน้ำจืดนั้นมักจะขึ้นตรงกับฤดูกาล หากอุณหภูมิสูงขึ้น หิมะหรือน้ำแข็งเหล่านี้ก็อาจละลายได้ น้ำแข็งในธารน้ำแข็งบางแห่งอาจคงสภาพได้นานถึงหนึ่งแสนปีหรือมากกว่านั้น และน้ำแข็งทางตะวันออกของทวีปแอนตาร์กติกาอาจมีอายุถึงหนึ่งล้านปี
น้ำที่ผ่าน[[จุดเยือกแข็ง]]มาแล้วมักจะพบบนพื้นผิวโลกในรูปของ[[หิมะ]] [[น้ำแข็ง]]ในทะเลสาบและแม่น้ำ น้ำแข็งในทะเล และธารน้ำแข็ง โดยพื้นที่ที่มีน้ำแข็งปกคลุมและน้ำแข็งในแหล่งน้ำจืดนั้นมักจะขึ้นตรงกับฤดูกาล หากอุณหภูมิสูงขึ้น หิมะหรือน้ำแข็งเหล่านี้ก็อาจละลายได้ น้ำแข็งในธารน้ำแข็งบางแห่งอาจคงสภาพได้นานถึงหนึ่งแสนปีหรือมากกว่านั้น และน้ำแข็งทางตะวันออกของทวีปแอนตาร์กติกาอาจมีอายุถึงหนึ่งล้านปี


ปริมาณน้ำแข็งที่มากที่สุดในโลกอยู่ที่[[แอนตาร์กติกา]] โดยเฉพาะบริเวณตะวันออกของทวีป ส่วนบริเวณที่มีน้ำแข็งหรือหิมะปกคลุมที่กว้างที่สุดในโลกนั้นอยู่บริเวณ[[ซีกโลกเหนือ]] โดยหิมะภาคจะกินพื้นที่ถึงร้อยละ 23 ของซีกโลกเหนือในเดือนมกราคม
ปริมาณน้ำแข็งที่มากที่สุดในโลกอยู่ที่[[แอนตาร์กติกา]] โดยเฉพาะบริเวณตะวันออกของทวีป ส่วนบริเวณที่มีน้ำแข็งหรือหิมะปกคลุมที่กว้างที่สุดในโลกนั้นอยู่บริเวณ[[ซีกโลกเหนือ]] โดยไครโอสเฟียร์จะกินพื้นที่ถึงร้อยละ 23 ของซีกโลกเหนือในเดือนมกราคม


มีปัจจัยทางกายภาพที่สำคัญหลายประการที่ทำให้การแลกเปลี่ยนพลังงานระหว่างพื้นผิวโลกกับ[[ชั้นบรรยากาศ]]เบาบางลง ปัจจัยที่สำคัญก็คือการที่หิมะภาคสามารถสะท้อนความร้อนได้ สามารถถ่ายเทความร้อนได้ และสามารถเปลี่ยนสถานะได้ ([[ความร้อนแฝงจำเพาะ]]) ปัจจัยทางกายภาพเหล่านี้รวมถึงความขรุขระของผิวหิมะภาคนั้นมีส่วนอย่างมากในการที่มนุษย์สามารถสังเกตและศึกษา[[หิมะ]]และ[[น้ำแข็ง]]จาก[[อวกาศ]]ได้ ตัวอย่างเช่นความขรุขระของหิมะภาคเป็นตัวการสำคัญในการสะท้อนกลับของ[[เรดาร์]]<ref name="hall">
มีปัจจัยทางกายภาพที่สำคัญหลายประการที่ทำให้การแลกเปลี่ยนพลังงานระหว่างพื้นผิวโลกกับ[[ชั้นบรรยากาศ]]เบาบางลง ปัจจัยที่สำคัญก็คือการที่ไครโอสเฟียร์สามารถสะท้อนความร้อนได้ สามารถถ่ายเทความร้อนได้ และสามารถเปลี่ยนสถานะได้ ([[ความร้อนแฝงจำเพาะ]]) ปัจจัยทางกายภาพเหล่านี้รวมถึงความขรุขระของผิวไครโอสเฟียร์นั้นมีส่วนอย่างมากในการที่มนุษย์สามารถสังเกตและศึกษา[[หิมะ]]และ[[น้ำแข็ง]]จาก[[อวกาศ]]ได้ ตัวอย่างเช่นความขรุขระของไครโอสเฟียร์เป็นตัวการสำคัญในการสะท้อนกลับของ[[เรดาร์]]<ref name="hall">
Hall, D. K., 1996: Remote sensing applications to hydrology: imaging radar. Hydrological Sciences, 41, 609-624.
Hall, D. K., 1996: Remote sensing applications to hydrology: imaging radar. Hydrological Sciences, 41, 609-624.
</ref>
</ref>

รุ่นแก้ไขเมื่อ 13:42, 26 กันยายน 2558

ภาพมุมสูงของไครโอสเฟียร์ จาก UN Environment Programme Global Outlook for Ice and Snow.
ภาพความละเอียดสูง ออกแบบเพื่อคณะกรรมการระหว่างรัฐบาลว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ แสดงให้เห็นถึงขอบเขตของไครโอสเฟียร์บนโลก บนพื้นทวีป พื้นดินที่มีอุณหภูมิต่ำกว่า 0 องศาเซลเซียสเป็นเวลานานจะแสดงให้เห็นด้วยสีชมพูเข้ม แต่พื้นดินที่เคยมีอุณหภูมิต่ำกว่า 0 องศาเซลเซียสเป็นเวลานานและมีแนวโน้มว่าจะมีอุณหภูมิสูงขึ้นจะแสดงด้วยสีชมพูอ่อน ส่วนในบริเวณที่มีสีเทาจะแสดงถึงพื้นที่ซึ่งมีหิมะตกอย่างน้อยหนึ่งวันในช่วงปี พ.ศ. 25432555 เส้นสีเขียวอ่อนบริเวณทางตอนใต้ของทวีปแสดงถึงขอบเขตที่มีหิมะมากที่สุด ส่วนเส้นสีดำบริเวณทวีปอเมริกาเหนือ ทวีปยุโรป และทวีปเอเชีย แสดงให้เห็นถึงขอบเขตที่มีหิมะร้อยละ 50 ธารน้ำแข็งแสดงให้เห็นในรูปจุดสีทองเล็ก ๆ ในบริเวณเขตภูเขา และบริเวณละติจูดที่อยู่เหนือและใต้มาก ๆ ส่วนในบริเวณมหาสมุทร แผ่นน้ำแข็งจะแสดงให้เห็นบริเวณรอบทวีปแอนตาร์กติกาพร้อมกับทะเลที่เป็นน้ำแข็งบริเวณโดยรอบ ทะเลที่เป็นน้ำแข็งแสดงให้เห็นบริเวณขั้วโลกเหนือด้วย โดยทั้งสองขั้วโลก ขอบเขตของทะเลที่มีน้ำแข็งเฉลี่ยในรอบสามสิบปีได้แสดงไว้ด้วยเส้นสีเหลือง และผืนน้ำแข็งบนกรีนแลนด์กับทวีปแอนตาร์กติกาสามารถเห็นได้ชัดในรูปใบนี้

ไครโอสเฟียร์ (อังกฤษ: Cryosphere) เป็นส่วนหนึ่งของผิวโลกซึ่งประกอบด้วยน้ำในรูปของแข็ง รวมถึงทะเลที่เป็นน้ำแข็ง ทะเลสาบน้ำแข็ง แม่น้ำที่เป็นน้ำแข็ง ธารน้ำแข็ง แผ่นน้ำแข็ง และพื้นดินซึ่งเยือกแข็ง พื้นที่ส่วนใหญ่ของไครโอสเฟียร์มักจะซ้อนอยู่บนพื้นที่ของอุทกภาค ไครโอสเฟียร์นั้นเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลกหลายประการ โดยมักมีอิทธิพลต่อเมฆ ปริมาณหยาดน้ำฟ้า อุทกวิทยา และการไหลเวียนของอากาศและกระแสน้ำ

โครงสร้าง

น้ำที่ผ่านจุดเยือกแข็งมาแล้วมักจะพบบนพื้นผิวโลกในรูปของหิมะ น้ำแข็งในทะเลสาบและแม่น้ำ น้ำแข็งในทะเล และธารน้ำแข็ง โดยพื้นที่ที่มีน้ำแข็งปกคลุมและน้ำแข็งในแหล่งน้ำจืดนั้นมักจะขึ้นตรงกับฤดูกาล หากอุณหภูมิสูงขึ้น หิมะหรือน้ำแข็งเหล่านี้ก็อาจละลายได้ น้ำแข็งในธารน้ำแข็งบางแห่งอาจคงสภาพได้นานถึงหนึ่งแสนปีหรือมากกว่านั้น และน้ำแข็งทางตะวันออกของทวีปแอนตาร์กติกาอาจมีอายุถึงหนึ่งล้านปี

ปริมาณน้ำแข็งที่มากที่สุดในโลกอยู่ที่แอนตาร์กติกา โดยเฉพาะบริเวณตะวันออกของทวีป ส่วนบริเวณที่มีน้ำแข็งหรือหิมะปกคลุมที่กว้างที่สุดในโลกนั้นอยู่บริเวณซีกโลกเหนือ โดยไครโอสเฟียร์จะกินพื้นที่ถึงร้อยละ 23 ของซีกโลกเหนือในเดือนมกราคม

มีปัจจัยทางกายภาพที่สำคัญหลายประการที่ทำให้การแลกเปลี่ยนพลังงานระหว่างพื้นผิวโลกกับชั้นบรรยากาศเบาบางลง ปัจจัยที่สำคัญก็คือการที่ไครโอสเฟียร์สามารถสะท้อนความร้อนได้ สามารถถ่ายเทความร้อนได้ และสามารถเปลี่ยนสถานะได้ (ความร้อนแฝงจำเพาะ) ปัจจัยทางกายภาพเหล่านี้รวมถึงความขรุขระของผิวไครโอสเฟียร์นั้นมีส่วนอย่างมากในการที่มนุษย์สามารถสังเกตและศึกษาหิมะและน้ำแข็งจากอวกาศได้ ตัวอย่างเช่นความขรุขระของไครโอสเฟียร์เป็นตัวการสำคัญในการสะท้อนกลับของเรดาร์[1]

ข้อมูลเพิ่มเติม

อ้างอิง

  1. Hall, D. K., 1996: Remote sensing applications to hydrology: imaging radar. Hydrological Sciences, 41, 609-624.