ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ทะเลสาบหนองหาน"
แอนเดอร์สัน (คุย | ส่วนร่วม) ไม่มีความย่อการแก้ไข |
ไม่มีความย่อการแก้ไข |
||
บรรทัด 4: | บรรทัด 4: | ||
'''ทะเลสาบหนองหาน''' หรือ '''หนองหานหลวง'''<ref>{{cite web |url= http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1349061680 |title= หนองหาน ไม่ใช่ หนองหาร ยุคสุโขทัย ปลูกเรือนเสาสูง |author= สุจิตต์ วงษ์เทศ |date= 1 ตุลาคม พ.ศ. 2555 |work= |publisher= มติชนออนไลน์ |accessdate= 14 ตุลาคม 2557 }}</ref> เป็น[[บึง|ทะเลสาบน้ำจืด]]ขนาดใหญ่ที่สุดของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และใหญ่เป็นอันดับ 2 ของประเทศ เป็นรองจาก[[บึงบอระเพ็ด]]<ref>นิตยสารสารคดี ฉบับที่ 267 พ.ค. 2550 หน้า 172</ref> ตั้งอยู่บริเวณ[[อำเภอเมืองสกลนคร]] [[อำเภอโพนนาแก้ว]] [[จังหวัดสกลนคร]] มีเนื้อที่กว่า 77,000 ไร่ ความลึกเฉลี่ยประมาณ 2.0-10.0 เมตร เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ปลาน้ำจืด นกน้ำ พื้นที่ชุ่มน้ำที่สำคัญของประเทศไทย สันนิษฐานว่าหนองหานเกิดจากการยุบตัวของแผ่นเปลือกโลกอันเนื่องมาจากการถูกชะล้างของชั้นหินเกลือใต้ดินจนเกิดโพรงขนาดใหญ่ และเกิดการพังทลายยุบตัวลงเป็นหนองน้ำในเวลาต่อมา ตามคติความเชื่อของชาวสกลนคร หนองหาร เป็นผลจากการกระทำของ[[พญานาค]] สืบเนื่องมาจากการกระทำอันผิดทำนองคลองธรรมของชาย-หญิง ในตำนานผาแดง นางไอ่ |
'''ทะเลสาบหนองหาน''' หรือ '''หนองหานหลวง'''<ref>{{cite web |url= http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1349061680 |title= หนองหาน ไม่ใช่ หนองหาร ยุคสุโขทัย ปลูกเรือนเสาสูง |author= สุจิตต์ วงษ์เทศ |date= 1 ตุลาคม พ.ศ. 2555 |work= |publisher= มติชนออนไลน์ |accessdate= 14 ตุลาคม 2557 }}</ref> เป็น[[บึง|ทะเลสาบน้ำจืด]]ขนาดใหญ่ที่สุดของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และใหญ่เป็นอันดับ 2 ของประเทศ เป็นรองจาก[[บึงบอระเพ็ด]]<ref>นิตยสารสารคดี ฉบับที่ 267 พ.ค. 2550 หน้า 172</ref> ตั้งอยู่บริเวณ[[อำเภอเมืองสกลนคร]] [[อำเภอโพนนาแก้ว]] [[จังหวัดสกลนคร]] มีเนื้อที่กว่า 77,000 ไร่ ความลึกเฉลี่ยประมาณ 2.0-10.0 เมตร เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ปลาน้ำจืด นกน้ำ พื้นที่ชุ่มน้ำที่สำคัญของประเทศไทย สันนิษฐานว่าหนองหานเกิดจากการยุบตัวของแผ่นเปลือกโลกอันเนื่องมาจากการถูกชะล้างของชั้นหินเกลือใต้ดินจนเกิดโพรงขนาดใหญ่ และเกิดการพังทลายยุบตัวลงเป็นหนองน้ำในเวลาต่อมา ตามคติความเชื่อของชาวสกลนคร หนองหาร เป็นผลจากการกระทำของ[[พญานาค]] สืบเนื่องมาจากการกระทำอันผิดทำนองคลองธรรมของชาย-หญิง ในตำนานผาแดง นางไอ่ |
||
ทะเลสาบหนอง |
ทะเลสาบหนองหาน ประกอบ เกาะน้อยใหญ่ มากกว่า 30 เกาะ เกาะที่ขนาดใหญ่ที่สุดคือ เกาะดอนสวรรค์ โดยมีพุทธสถานโบราณ ภายในเกาะ สำหรับผู้ที่ต้องการเที่ยวเยียมชม รวมทั้งทัศนียภาพ น้ำใส สาหร่ายสีทอง นกน้ำ ปลา นานาพันธุ์ และวิถีชีวิตของชาวประมงหนองหาน |
||
ในปี พ.ศ. 2557 ทะเลสาบหนองหานได้รับการคัดเลือกจากสำนักข่าว[[ซีเอ็นเอ็น]] ให้เป็นทะเลสาบที่มีความแปลกที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลกรองจาก[[ทะเลสาบแมงกะพรุน]] ใน[[สาธารณรัฐปาเลา]] ด้วยในช่วงต้นฤดูหนาว หรือปลายปี จะมีดอกบัวสีแดงบานสะพรั่งพร้อมกัน ทำให้มีทัศนียภาพที่ีสวยงาม ดอกบัวจะบานเช่นนี้ไปจนถึงช่วงต้นฤดูร้อน คือ เดือนมีนาคม<ref>{{cite web |url=http://www.thairath.co.th/content/435850 |title= ‘หนองหาน’ เลื่องชื่อ! CNN เลือก อันดับ 2 ทะเลสาบแปลกสุดในโลก |author= ข่าวต่างประเทศ |date= 12 กรกฎาคม 2557 |work= |publisher= ไทยรัฐออนไลน์ |accessdate= 10 ธันวาคม 2557 }}</ref> |
|||
== อ้างอิง == |
== อ้างอิง == |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 16:26, 10 ธันวาคม 2557
ทะเลสาบหนองหาน หรือ หนองหานหลวง[1] เป็นทะเลสาบน้ำจืดขนาดใหญ่ที่สุดของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และใหญ่เป็นอันดับ 2 ของประเทศ เป็นรองจากบึงบอระเพ็ด[2] ตั้งอยู่บริเวณอำเภอเมืองสกลนคร อำเภอโพนนาแก้ว จังหวัดสกลนคร มีเนื้อที่กว่า 77,000 ไร่ ความลึกเฉลี่ยประมาณ 2.0-10.0 เมตร เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ปลาน้ำจืด นกน้ำ พื้นที่ชุ่มน้ำที่สำคัญของประเทศไทย สันนิษฐานว่าหนองหานเกิดจากการยุบตัวของแผ่นเปลือกโลกอันเนื่องมาจากการถูกชะล้างของชั้นหินเกลือใต้ดินจนเกิดโพรงขนาดใหญ่ และเกิดการพังทลายยุบตัวลงเป็นหนองน้ำในเวลาต่อมา ตามคติความเชื่อของชาวสกลนคร หนองหาร เป็นผลจากการกระทำของพญานาค สืบเนื่องมาจากการกระทำอันผิดทำนองคลองธรรมของชาย-หญิง ในตำนานผาแดง นางไอ่
ทะเลสาบหนองหาน ประกอบ เกาะน้อยใหญ่ มากกว่า 30 เกาะ เกาะที่ขนาดใหญ่ที่สุดคือ เกาะดอนสวรรค์ โดยมีพุทธสถานโบราณ ภายในเกาะ สำหรับผู้ที่ต้องการเที่ยวเยียมชม รวมทั้งทัศนียภาพ น้ำใส สาหร่ายสีทอง นกน้ำ ปลา นานาพันธุ์ และวิถีชีวิตของชาวประมงหนองหาน
ในปี พ.ศ. 2557 ทะเลสาบหนองหานได้รับการคัดเลือกจากสำนักข่าวซีเอ็นเอ็น ให้เป็นทะเลสาบที่มีความแปลกที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลกรองจากทะเลสาบแมงกะพรุน ในสาธารณรัฐปาเลา ด้วยในช่วงต้นฤดูหนาว หรือปลายปี จะมีดอกบัวสีแดงบานสะพรั่งพร้อมกัน ทำให้มีทัศนียภาพที่ีสวยงาม ดอกบัวจะบานเช่นนี้ไปจนถึงช่วงต้นฤดูร้อน คือ เดือนมีนาคม[3]
อ้างอิง
- ↑ สุจิตต์ วงษ์เทศ (1 ตุลาคม พ.ศ. 2555). "หนองหาน ไม่ใช่ หนองหาร ยุคสุโขทัย ปลูกเรือนเสาสูง". มติชนออนไลน์. สืบค้นเมื่อ 14 ตุลาคม 2557.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
และ|date=
(help) - ↑ นิตยสารสารคดี ฉบับที่ 267 พ.ค. 2550 หน้า 172
- ↑ ข่าวต่างประเทศ (12 กรกฎาคม 2557). "'หนองหาน' เลื่องชื่อ! CNN เลือก อันดับ 2 ทะเลสาบแปลกสุดในโลก". ไทยรัฐออนไลน์. สืบค้นเมื่อ 10 ธันวาคม 2557.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help)