ผลต่างระหว่างรุ่นของ "เอมีลีโอ อากีนัลโด"
ล r2.7.1) (โรบอต เพิ่ม: zh:艾米里俄·阿圭那多 |
ล r2.7.3) (โรบอต: แก้ไขจาก zh:艾米里俄·阿圭那多 ไปเป็น zh:埃米利奧·阿奎納多 |
||
บรรทัด 170: | บรรทัด 170: | ||
[[war:Emilio Aguinaldo]] |
[[war:Emilio Aguinaldo]] |
||
[[yo:Emilio Aguinaldo]] |
[[yo:Emilio Aguinaldo]] |
||
[[zh: |
[[zh:埃米利奧·阿奎納多]] |
||
[[zh-min-nan:Emilio Aguinaldo]] |
[[zh-min-nan:Emilio Aguinaldo]] |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 21:18, 23 กุมภาพันธ์ 2556
Emilio Aguinaldo y Famy เอมีลีโอ อากีนัลโด อี ฟามี | |
---|---|
ประธานาธิบดีแห่งฟิลิปปินส์คนที่ 1 ผู้เผด็จการแห่งรัฐบาลเผด็จการฟิลิปปินส์[2] ประธานาธิบดีแห่งรัฐบาลปฏิวัติฟิลิปปินส์ ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐฟิลิปปินส์ที่ 1 | |
ดำรงตำแหน่ง 22 มีนาคม ค.ศ. 1897[1] – 1 เมษายน ค.ศ. 1901 | |
นายกรัฐมนตรี | อาโปลีนารีโอ มาบินี (1899) เปโดร ปาเตร์โน (1899) |
รองประธานาธิบดี | มาเรียโน ทรีอาส |
ก่อนหน้า | ไม่มี (ตั้งสาธารณรัฐใหม่) |
ถัดไป | ตำแหน่งถูกล้มเลิก ผู้ดำรงตำแหน่งนี้ในยุคต่อมาคือ มานูเอล เกซอน |
ข้อมูลส่วนบุคคล | |
เกิด | 22 มีนาคม ค.ศ. 1869 กาวีเต เอล วิเอโฮ, กาวีเต |
เสียชีวิต | กุมภาพันธ์ 6, 1964 เกซอนซิตี้, กรุงมนิลา | (94 ปี)
ศาสนา | ศาสนาคริสต์ นิกายโรมันคาทอลิก |
พรรคการเมือง | กลุ่มมักดาโล ขบวนการกาตีปูนัน, พรรคชาติสังคมนิยมฟิลิปปินส์ |
คู่สมรส | (1) ฮิลลาเรีย เดล โรซาริโอ-เสียชีวิต (2) มาเรีย อากอนซีโย |
วิชาชีพ | ทหาร |
เอมีลีโอ อากีนัลโด อี ฟามี (Emilio Aguinaldo y Famy) เป็นนักปฏิวัติในการเรียกร้องเอกราชของฟิลิปปินส์จากสเปน รุ่นเดียวกับโฮเซ รีซัล และอันเดรส โบนีฟาซีโอ เขาเป็นผู้นำในการลุกฮือขึ้นต่อสู้กับสเปนด้วยอาวุธหลังการตายของรีซัล เป็นนักปฏิวัติชาวฟิลิปปินส์ที่มีบทบาทในการจัดตั้งสาธารณรัฐฟิลิปปินส์ แยกออกมาจากการเป็นอาณานิคมของสเปนในครั้งแรก เมื่อ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2440 ในชื่อสาธารณรัฐไบอักนาบาโต และได้ประกาศจัดตั้งสาธารณรัฐฟิลิปปินส์เมื่อ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2441 ก่อนจะกลายเป็นอาณานิคมของสหรัฐ เขาถูกจับกุมเมื่อสหรัฐอเมริกาเข้ามายึดครองฟิลิปปินส์ต่อจากสเปน และถูกบังคับให้สาบานตนว่าจะซื่อสัตย์ต่อสหรัฐอเมริกา
การต่อสู้กับสเปน
อากีนัลโดเป็นชาวฟิลิปปินส์เชื้อสายจีน เกิดเมื่อ พ.ศ. 2412 ที่จังหวัดกาวีเต ในครอบครัวเกษตรกร ได้เข้าเรียนที่วิทยาลัยเดซานฮวนเดเลตรันที่กรุงมะนิลาแต่เรียนไม่จบเพราะบิดาเสียชีวิต จึงกลับมาประกอบอาชีพเกษตรกร ต่อมา เขาถูกตั้งข้อสงสัยว่าเกี่ยวข้องกับการฆาตกรรมทหารสเปน เขาจึงต้องหลบหนีออกจากบ้านและได้เข้าร่วมกับขบวนการกาตีปูนันในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2437
อากีนัลโดประสบความสำเร็จในการนำกองกำลังชาวพื้นเมืองเข้าปล้นคลังอาวุธของสเปนในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2439 ทำให้กาวีเตกลายเป็นศูนย์กลางของกลุ่มกบฏ อากีนัลโดมีบทบาทสำคัญในการต่อสู้กับสเปนอย่างเข้มแข็ง สนับสนุนให้ชาวพื้นเมืองเรียกตัวเองว่าฟิลิปิโน แทนชื่อที่ชาวสเปนใช้ว่าอินดิโอสที่หมายถึงคนชั้นต่ำ เขาจัดตั้งคณะกรรมการกลางปฏิวัติและจัดตั้งกองกำลังติดอาวุธ การปฏิวัติตามแผนการของอากีนัลโดทำให้เขากลายเป็นคู่แข่งของอันเดรส โบนีฟาซิโอ ผู้ก่อตั้งขบวนการกาตีปูนัน
การจัดตั้งสาธารณรัฐไบอักนาบาโต
ในช่วงแรก ทั้งอากีนัลโดและโบนีฟัสซิโอร่วมมือกันในการจัดตั้งสาธารณรัฐฟิลิปปินส์ จัดตั้งสภาปฏิวัติใหญ่ทีตำบลเตเฮโรสที่เป็นที่มั่นของรัฐบาลกาตีปูนัน อากีนัลโดได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดี ในการประขุมกลุ่มผู้นำนักปฏิวัติพื้นเมืองในตำบลเตเฮโรสเมื่อ 22 มีนาคม พ.ศ. 2439 แต่กลับเป็นชนวนให้เขากับโบนีฟัสซิโอต้องต่อสู้กันเอง หลังจากที่โบนีฟัสซิโอถูกสังหารเมื่อ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2440 อากีนัลโดเป็นผู้นำการปฏิวัติเพียงผู้เดียว เขาย้ายไปตั้งมั่นที่จังหวัดบาตังกัลและเทือกเขาไบอักนาบาโตตามลำดับ และประกาศจัดต้งสาธารณรัฐไบอักนาบาโตใน พ.ศ. 2440 นี้
รัฐบาลอาณานิคมที่มะนิลาไม่ยอมรับรัฐบาลที่ตั้งขึ้นใหม่ และเข้าปราบปรามด้วยกำลังอาวุธในเดือนสิงหาคม ชาวพื้นเมืองในที่ต่างๆเข้าร่วมกับกลุ่มของอากีนัลโดเป็นจำนวนมาก ต่อมา อาซาเบโล อาร์ตาโช และเฟลิกซ์ เฟร์เรร์ ได้ร่างรัฐธรรมนูญของสาธารณรัฐไบอักนาบาโตโดยเลียนแบบรัฐธรรมนูญของคิวบา ฉบับ พ.ศ. 2438 อากีนัลโดนั้น ประกาศจัดตั้งสาธารณรัฐไบอักนาบาโตอย่างเป็นทางการในวันที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2440 โดยใช้ภาษาตากาล็อกเป็นภาษาราชการ
ในขณะนั้น สเปนเผชิญปัญหาการแข็งข้อของอาณานิคมทั้งในฟิลิปปินส์และคิวบา สเปนจึงตัดสินใจเจรจากับกลุ่มของอากีนัลโด ผลของการเจรจาทำให้มีการลงนามในสนธิสัญญาไบอักนาบาโตที่จะให้สิทธิแก่ชาวฟิลิปปินส์ สเปนจะจ่ายเงินชดเชยให้อากีนัลโดและขอให้กลุ่มของเขาออกไปจากฟิลิปปินส์ อากีนัลโดตกลงและออกเดินทางไปฮ่องกงเมื่อ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2440 สาธารณรัฐไบอักนาบาโตจึงสิ้นสุดลง แต่รัฐบาลสเปนจ่ายเงินชดเชยไม่ครบ และพยายามจับกุมชาวพื้นเมืองในข้อหากบฏ ชาวพื้นเมืองจึงก่อกบฏต่อต้านสเปนอีก ส่วนกลุ่มของอากีนัลโดไปขอความช่วยเหลือจากสหรัฐอเมริกา
สาธารณรัฐฟิลิปปินส์และการต่อสู้กับสหรัฐอเมริกา
เมื่อสงครามสหรัฐอเมริกา-สเปนขยายตัวมาถึงมหาสมุทรแปซิฟิก จอร์จ ดิวอีย์ได้ทำลายกองทัพเรือสเปนที่มะนิลาเมื่อ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2441 อากีนัลโดเดินทางกลับสู่เมืองกาวีเตพร้อมเรือรบของสหรัฐ อากีนัลโดประกาศตั้งสาธารณรัฐฟิลิปปินส์โดยมีเมืองหลวงที่มาโลส แต่สหรัฐไม่ยอมรับ อากีนัลโดได้ประกาศจัดตั้งรัฐบาลเผด็จการเมื่อ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2541 มีการชักธงชาติฟิลิปปินส์ขึ้นสู่ยอดเสา กองกำลังฝ่ายชาวพื้นเมืองล้อมกรุงมะนิลาไว้ได้
สเปนได้ทำสัญญาลับกับสหรัฐ โดยยกฟิลิปปินส์ให้สหรัฐตั้งแต่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2441 แลกกับเงิน 20 ล้านเหรียญสหรัฐ เมื่อสเปนถอนกองกำลังออกไป สหรัฐเข้ายึดมะนิลา ห้ามกองกำลังชาวพื้นเมืองเข้าสู่มะนิลา อากีนัลโดจึงประกาศยืนยันความเป็นรัฐอิสระของฟิลิปปินส์และสาบานตนเป็นประธานาธิบดีเมื่อ 23 มกราคม พ.ศ. 2441 จากนั้นจึงต่อสู้กับสหรัฐต่อไป การต่อสู้กับสหรัฐใช้เวลานานถึง 2 ปี โดยไม่ยอมแพ้ จนกระทั่งถูกจับตัวได้และถูกบังคับให้สาบานตนยอมแพ้ต่อสหรัฐเมื่อเดือนเมษายน พ.ศ. 2444 รวมทั้งให้เขาออกประกาศให้ชาวพื้นเมืองยอมวางอาวุธ ซึ่งหลังจากนั้น ต้องใช้เวลาอีก 1 ปี การสู้รบจึงยุติลง
หลังสิ้นอำนาจ
หลังจากนั้น อากีนัลโดถูกเนรเทศไปยังเกาะกวม ก่อนจะถูกส่งตัวกลับมายังมะนิลาใน พ.ศ. 2446 ต่อมา เขาไปอยู่ที่ฮ่องกงและไม่มีบทบาททางการเมืองใดๆอีก จน พ.ศ. 2478 เขาได้ออกมาต่อต้านเอ็มมานูเอล เกซอนที่จะเป็นประธานาธิบดีของฟิลิปปินส์ภายใต้การปกครองระบบเครือรัฐ แต่ไม่สำเร็จและถูกลงโทษอย่างหนัก อากีนัลโดมีชีวิตจนถึง พ.ศ. 2507 ก่อนจะเสียชีวิตด้วยโรคหัวใจเมื่ออายุ 95 ปี
อ้างอิง
- ชาญวิทย์ เกษตรศิริ. "โฮเซ่ ริซัล ลัทธิชาตินิยมกับ “ปีศาจ” ของการเปรียบเทียบ" ใน จิตราภรณ์ ตันรัตนกุล. อันล่วงละเมิดมิได้. กรุงเทพฯ: มูลนิธิโครงการตำราสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์, 2548* สุพรรณี กาญจนัษฐิติ. เอมีเลียว อากีนัลโด ใน สารานุกรมประวัติศาสตร์สากลสมัยใหม่: เอเชีย เล่ม 1 อักษร A-B ฉบับราชบัณฑิตยสถาน. กทม.ราชบัณฑิตยสถาน. 2539. หน้า 64 - 68