ผลต่างระหว่างรุ่นของ "วงศ์ปลาจีด"
ล บริการเปลี่ยนหมวดหมู่อัตโนมัติด้วยบอต |
ล r2.7.1) (โรบอต เพิ่ม: vi:Heteropneustes |
||
บรรทัด 61: | บรรทัด 61: | ||
[[pl:Heteropneustidae]] |
[[pl:Heteropneustidae]] |
||
[[pt:Heteropneustes]] |
[[pt:Heteropneustes]] |
||
[[vi:Heteropneustes]] |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 01:00, 28 มีนาคม 2554
ปลาจีด | |
---|---|
ภาพวาดของปลาจีดสายพันธุ์ Heteropneustes fossilis | |
การจำแนกชั้นทางวิทยาศาสตร์ | |
อาณาจักร: | Animalia |
ไฟลัม: | Chordata |
ชั้น: | Actinopterygii |
อันดับ: | Siluriformes |
วงศ์: | Clariidae |
วงศ์ย่อย: | Heteropneustidae |
สกุล: | Heteropneustes Müller, 1840 |
ชนิดต้นแบบ | |
Silurus fossilis Bloch, 1794 | |
สายพันธุ์ | |
ชื่อพ้อง | |
|
ปลาจีด (อังกฤษ: Stringer Catfish, Heteropneustid Catfish) เป็นปลาน้ำจืดในอันดับปลาหนังจำพวกหนึ่ง มีสกุลว่า Heteropneustes พบทั้งหมด 2 ชนิด คือ H. fossilis และ H. kemratensis ในวงศ์ Heteropneustidae ในวงศ์ใหญ่ Clariidae
มีรูปร่างคล้ายปลาดุกทั่วไป แต่มีลำตัวยาวเรียวและแบนข้างกว่ามาก ส่วนหัวแบนลาดลงข้างล่าง ปากเล็ก ตาเล็ก มีหนวดค่อนข้างยาว 4 คู่รอบปาก ครีบหลังมีขนาดเล็ก อยู่ตรงกับครีบท้อง ครีบหูมีก้านครีบที่เป็นหนามแหลมหนึ่งอัน มีพิษแรงกว่าปลาดุกมาก ครีบก้นเป็นแผง ครีบหางกลมมน ไม่มีครีบไขมัน ครีบก้นเล็ก ตัวมีสีดำคล้ำหรือสีน้ำตาลอมแดง ในสายพันธุ์ H. fossilis มีแถบสีขาวจางบนข้างลำตัวข้างละ 1 - 2 แถบตามความยาวลำตัว ส่วนในสายพันธุ์ H. kemratesis สีลำตัวจะอ่อนจางกว่า ด้านท้องสีจาง หนวดสีคล้ำ เพศผู้มีลำตัวยาวเรียว เพศเมียป้อม ขนาดโตเต็มที่ได้ราว 1 ฟุต
นอกจากนี้แล้วปลาจีดยังมีอวัยวะช่วยหายใจที่แตกต่างไปจากปลาในวงศ์ Clariidae ชนิดและสกุลอื่น คือ มีท่อยื่นยาวจากช่องเหงือกไปทางด้านท้ายของลำตัว 1 คู่ ซึ่งทำให้ได้รับชื่อเรียกในภาษาอังกฤษอีกชื่อหนึ่งว่า "Airsac Catfish"[1]
ปลาจีดพบได้ในทุกแหล่งน้ำทั่วประเทศไทย รวมทั้งพบในประเทศใกล้เคียง ตั้งแต่ อินเดีย, ปากีสถาน, ศรีลังกา, พม่า จนถึงมาเลเซียและอินโดนีเซียด้วย สำหรับในประเทศไทย ใกล้สูญพันธุ์แล้วในภาคกลาง แต่ในภาคใต้ยังพบมากอยู่ และมีการนิยมเพาะเลี้ยงเป็นปลาเศรษฐกิจด้วยการผสมเทียมในบ่อเลี้ยง
โดยมีชื่อท้องถิ่นในภาษาใต้เรียกว่า "ปลาเมง"
ปลาจีดจะแพร่พันธุ์วางไข่ในช่วงเดือนสิงหาคม-กันยายน โดยแม่ปลาที่มีน้ำหนักตัว 70-100 กรัม สามารถวางไข่ได้ประมาณ 2,500-4,000 ฟอง โดยไข่มีลักษณะเป็นไข่จมน้ำและมีสภาพเกาะตัวติดกัน
อนึ่ง ยังมีปลาจีดที่พบในประเทศใกล้เคียงกับไทยอีก 2 สายพันธุ์ คือ H. microps และ H. longipectoralis แต่ทั้ง 2 สายพันธุ์นี้ยังไม่มีการศึกษาที่เพียงพอ อาจเป็นไปได้ว่าเป็นสายพันธุ์ซ้ำซ้อนกับสายพันธุ์ที่รู้จัก 2 สายพันธุ์แรก
นอกจากนี้แล้ว ปลาจีดยังถูกนิยมรวบรวมปลาวัยอ่อนที่พบในธรรมชาติ เลี้ยงเป็นปลาสวยงามอีกด้วย
อ้างอิง
- ↑ หนังสือสารานุกรมปลาไทย โดย สุรศักดิ์ วงศ์กิตติเวชสกุล (กรุงเทพ, พ.ศ. 2540) ISBN 9789748990026