ผลต่างระหว่างรุ่นของ "จิกน้ำ"
บรรทัด 31: | บรรทัด 31: | ||
ยอดอ่อน และ ดอก ใช้[[กิน|รับประทาน]]เป็น[[ผัก]]สดและผักจิ้มกับ[[ลาบ]], [[น้ำตก (อาหาร)|นํ้าตก ]], [[แจ่ว]] และ[[ขนมจีน]] รสชาติมันปนฝาด |
ยอดอ่อน และ ดอก ใช้[[กิน|รับประทาน]]เป็น[[ผัก]]สดและผักจิ้มกับ[[ลาบ]], [[น้ำตก (อาหาร)|นํ้าตก ]], [[แจ่ว]] และ[[ขนมจีน]] รสชาติมันปนฝาด |
||
เปลือกและต้นมีสรรพคุณใช้เบื่อปลา นอกจากนี้แล้วเนื้อไม้ยังใช้ทำไม้อัด ทำ[[เครื่องเรือน]]และเป็น[[สมุนไพร]]แก้[[ตกขาว|ระดูขาว]] ใบแก่ใช้ต้ม[[ |
เปลือกและต้นมีสรรพคุณใช้เบื่อปลา นอกจากนี้แล้วเนื้อไม้ยังใช้ทำ[[ไม้อัด]] ทำ[[เครื่องเรือน]]และเป็น[[สมุนไพร]]แก้[[ตกขาว|ระดูขาว]] ใบแก่ใช้ต้ม[[น้ำ]]ดื่มแก้ท้องร่วง [[เมล็ด]]ใช้ทำเป็นยาลมแก้อาการจุกเสียดและแก้[[อาการไอ |ไอ]]ใน[[เด็ก]]<ref>[http://www.thairath.co.th/column/edu/paperagriculturist/124286 "จิกน้ำ" ยอดอ่อนแดงดอกเป็นระย้า จาก[[ไทยรัฐ]]]</ref> |
||
==อ้างอิง== |
==อ้างอิง== |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 08:07, 5 พฤศจิกายน 2553
จิกน้ำ | |
---|---|
ต้นจิกน้ำที่ทะเลสาบคืนดาบที่กรุงฮานอย | |
ผลของจิกน้ำที่กัลกัตตา รัฐเบงกอลตะวันตก | |
การจำแนกชั้นทางวิทยาศาสตร์ | |
อาณาจักร: | Plantae |
ไม่ได้จัดลำดับ: | Angiosperms |
ไม่ได้จัดลำดับ: | Eudicots |
ไม่ได้จัดลำดับ: | Asterids |
อันดับ: | Ericales |
วงศ์: | Lecythidaceae |
สกุล: | Barringtonia |
สปีชีส์: | B. acutangula |
ชื่อทวินาม | |
Barringtonia acutangula (L.) Gaertn. |
จิกน้ำ หรือ จิกอินเดีย หรือ จิกนา หรือ จิกมุจรินทร์ (อังกฤษ: Indian Oak, Freshwater Mangrove) มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Barringtonia acutangula เป็นไม้ยืนต้นอยู่ในวงศ์ Lecythidaceae มีถิ่นกำเนิดที่ภูมิภาคเอเชียใต้และอัฟกานิสถาน, ฟิลิปปินส์ ไปจนถึงตอนเหนือของออสเตรเลียแถบรัฐควีนส์แลนด์ โดยมักขึ้นใกล้ริมแหล่งน้ำ
ลักษณะ
เป็นไม้ประเภทผลัดใบ สูง 5-15 เมตร ลำต้นเป็นปุ่มปม ปลายกิ่งลู่ลง ใบอ่อนเป็นสีน้ำตาล แดงเข้ม ใบเป็นใบเดี่ยว ออกเวียนสลับถี่บริเวณปลายยอด เป็นรูปใบหอก หรือรูปไข่กลับ ปลายและโคนใบแหลม ขอบจักถี่ เวลามีดอกจะทิ้งใบเหลือเพียงใบอ่อนเป็นสีแดง สวยงามน่าชมมาก
ดอกออกเป็นช่อยาวที่ปลายยอด ห้อยลงเป็นระย้า ราว 30-40 เซนติเมตร มีกลีบเลี้ยง 4 กลีบ ติดทนอยู่จนเป็นผล กลีบดอกสั้น ปลายแยกเป็น 4 กลีบ หลุดร่วงง่าย เป็นสีแดง หรือ ชมพู เมื่อบานเต็มที่เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 2 เซนติเมตร มีเกสรตัวผู้เป็นฝอย ๆ สีชมพู หรือ สีแดง จำนวนมาก เวลามีดอกบานพร้อมกันจะดูแลสวยงามน่ารัก โดยเฉพาะช่วงมีดอกจะทิ้งใบมีแต่ยอดอ่อนเป็นสีแดงจัด ยิ่งเพิ่มความงดงามยิ่งขึ้น
ผลลักษณะกลมยาว มีเมล็ด ดอกออกระหว่างเดือนพฤศจิกายน-มีนาคม ในปีถัดไป
จิกน้ำมีชื่อเรียกอื่น ๆ ตามภาษาถิ่นว่า "กระโดนทุ่ง" หรือ "กระโดนนํ้า" (อีสาน-หนองคาย), "ปุยสาย" หรือ "ตอง" (ภาคเหนือ)
สรรพคุณ
ยอดอ่อน และ ดอก ใช้รับประทานเป็นผักสดและผักจิ้มกับลาบ, นํ้าตก , แจ่ว และขนมจีน รสชาติมันปนฝาด
เปลือกและต้นมีสรรพคุณใช้เบื่อปลา นอกจากนี้แล้วเนื้อไม้ยังใช้ทำไม้อัด ทำเครื่องเรือนและเป็นสมุนไพรแก้ระดูขาว ใบแก่ใช้ต้มน้ำดื่มแก้ท้องร่วง เมล็ดใช้ทำเป็นยาลมแก้อาการจุกเสียดและแก้ไอในเด็ก[1]