ผลต่างระหว่างรุ่นของ "วิกฤตการณ์ปากน้ำ"
ลไม่มีความย่อการแก้ไข |
ลไม่มีความย่อการแก้ไข |
||
บรรทัด 19: | บรรทัด 19: | ||
*''เรือกลไฟของฝรั่งเศสถูกควบคุมโดยสยามหลังจากการรบโดยปราศจากการต่อต้าน'' |
*''เรือกลไฟของฝรั่งเศสถูกควบคุมโดยสยามหลังจากการรบโดยปราศจากการต่อต้าน'' |
||
}} |
}} |
||
'''วิกฤตการณ์ปากน้ำ''' เป็นการรบระหว่าง[[วิกฤตการณ์ ร.ศ. 112]] ในเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2436 ในขณะที่แล่นเรือผ่านเข้าไปในปากแม่น้ำเจ้าพระยา เรือรบฝรั่งเศส 3 ลำถูกโจมตีโดยป้อมปืนของสยามและเรือปืน ในผลการรบฝรั่งเศสได้รับชัยชนะและดำเนินการปิดล้อม[[กรุงเทพ]]ซึ่งเป็นจุดสิ้นสุดของ |
'''วิกฤตการณ์ปากน้ำ''' เป็นการรบระหว่าง[[วิกฤตการณ์ ร.ศ. 112]] ในเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2436 ในขณะที่แล่นเรือผ่านเข้าไปในปากแม่น้ำเจ้าพระยา เรือรบฝรั่งเศส 3 ลำถูกโจมตีโดยป้อมปืนของสยามและเรือปืน ในผลการรบฝรั่งเศสได้รับชัยชนะและดำเนินการปิดล้อม[[กรุงเทพ]]ซึ่งเป็นจุดสิ้นสุดของเหตุการณ์ |
||
==ภูมิหลัง== |
==ภูมิหลัง== |
||
ความขัดแย้งเกิดขึ้นเมื่อเรือการข่าว แองกองสตอง (Inconstant) และเรือปืน โกแมต (Comete) ของกองทัพเรือฝรั่งเศสเดินทางมาถึงปากแม่น้ำและขออนุญาติแล่นเรือผ่านปากแม่น้ำเจ้าพระยาเพื่อไปสมทบกับเรือ ลูแตง (Le Lutin) เพื่อเจรจาต่อรอง เมื่อสยามปฏิเสธ ผู้บังคับบัญชาฝ่ายฝรั่งเศส พลเรือตรี แอดการ์ อูว์มัน (Edgar Humann) เมินเฉยต่อความต้องการของสยามและคำสั่งจากรัฐบาลฝร่งเศสซึ่งก่อนการต่อสู้ พลเรือตรี อูว์มัน ได้รับคำสั่งห้ามเข้าสู่ปากแม่น้ำเพราะสยามได้เตรียมการอย่างดีสำหรับการรบ กองกำลังฝ่ายสยามประกอบด้วย[[ป้อมพระจุลจอมเกล้า]]ที่พึ่งสร้างขึ้น มีปืนเสือหมอบขนาด 6 นิ้ว 7 กระบอก สยามยังได้จมเรือสำเภาและเรือบรรทุกหินในแม่น้ำเพื่อเป็นแนวป้องกันบีบเป็นทางผ่านแคบๆเพียงทางเดียว |
ความขัดแย้งเกิดขึ้นเมื่อเรือการข่าว แองกองสตอง (Inconstant) และเรือปืน โกแมต (Comete) ของกองทัพเรือฝรั่งเศสเดินทางมาถึงปากแม่น้ำและขออนุญาติแล่นเรือผ่านปากแม่น้ำเจ้าพระยาเพื่อไปสมทบกับเรือ ลูแตง (Le Lutin) เพื่อเจรจาต่อรอง เมื่อสยามปฏิเสธ ผู้บังคับบัญชาฝ่ายฝรั่งเศส พลเรือตรี แอดการ์ อูว์มัน (Edgar Humann) เมินเฉยต่อความต้องการของสยามและคำสั่งจากรัฐบาลฝร่งเศสซึ่งก่อนการต่อสู้ พลเรือตรี อูว์มัน ได้รับคำสั่งห้ามเข้าสู่ปากแม่น้ำเพราะสยามได้เตรียมการอย่างดีสำหรับการรบ กองกำลังฝ่ายสยามประกอบด้วย[[ป้อมพระจุลจอมเกล้า]]ที่พึ่งสร้างขึ้น มีปืนเสือหมอบขนาด 6 นิ้ว 7 กระบอก สยามยังได้จมเรือสำเภาและเรือบรรทุกหินในแม่น้ำเพื่อเป็นแนวป้องกันบีบเป็นทางผ่านแคบๆเพียงทางเดียว |
||
เรือปืน 5 ลำจอดทอดสมออยู่ด้านหลังแนวสิ่งกีดขวาง ประกอบไปด้วย เรือมกุฎราชกุมาร, เรือทูลกระหม่อม, เรือหาญหักศัตรู, เรือนฤเบนทร์บุตรี และ เรือมูรธาวสิตสวัสดิ์ เรือ 2 ลำเป็นเรือรบทันสมัยขณะที่เรือที่เหลือเป็นเรือปืนเก่าหรือเรือกลไฟแม่น้ำที่ดัดแปลงมา มีการวางข่ายทุ่นระเบิด 16 ลูก ผู้บังคับบัญชาป้อมเป็นนายพลเรือชาว[[ประเทศเนเธอร์แลนด์|ดัตช์]]ซึ่งเป็นหนึ่งในชาว[[ยุโรป]]หลายคนที่เข้ารับราชการในกองทัพไทย พลเรือโท เจ้าพระยาชลยุทธโยธินทร์ |
เรือปืน 5 ลำจอดทอดสมออยู่ด้านหลังแนวสิ่งกีดขวาง ประกอบไปด้วย เรือมกุฎราชกุมาร, เรือทูลกระหม่อม, เรือหาญหักศัตรู, เรือนฤเบนทร์บุตรี และ เรือมูรธาวสิตสวัสดิ์ เรือ 2 ลำเป็นเรือรบทันสมัยขณะที่เรือที่เหลือเป็นเรือปืนเก่าหรือเรือกลไฟแม่น้ำที่ดัดแปลงมา มีการวางข่ายทุ่นระเบิด 16 ลูก ผู้บังคับบัญชาป้อมเป็นนายพลเรือชาว[[ประเทศเนเธอร์แลนด์|ดัตช์]]ซึ่งเป็นหนึ่งในชาว[[ยุโรป]]หลายคนที่เข้ารับราชการในกองทัพไทย พลเรือโท เจ้าพระยาชลยุทธโยธินทร์ เป็นผู้บังคับบัญชาเรือปืน |
||
<!-- |
<!-- |
||
==ยุทธนาวี== |
==ยุทธนาวี== |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 16:56, 31 ตุลาคม 2553
วิกฤตการณ์ปากน้ำ | |||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|
ส่วนหนึ่งของ วิกฤตการณ์ ร.ศ. 112 | |||||||
300px เรือรบฝรั่งเศสภายใต้การระดมยิงจากป้อมปืนของสยามที่ปากแม่น้ำ | |||||||
| |||||||
คู่สงคราม | |||||||
ฝรั่งเศส | สยาม | ||||||
ผู้บังคับบัญชาและผู้นำ | |||||||
แอดการ์ อูว์มัน | พระยาชลยุทธโยธินทร์ | ||||||
กำลัง | |||||||
เรือการข่าว 1 เรือปืน 1 เรือกลไฟ 1 |
แผ่นดิน: ปืนเสือหมอบ 7 ป้อมปืน 1 ทะเล: เรือปืน 5 | ||||||
ความสูญเสีย | |||||||
ตาย 3 บาดเจ็บ 2 เรือกลไฟเกยตื้น 1 เรือนำร่องเสียหาย 1 เรือปืนเสียหาย 1 |
ตาย ~10 บาดเจ็บ ~12 เรือปืนอับปาง 1 เรือปืนเสียหาย 1 | ||||||
|
วิกฤตการณ์ปากน้ำ เป็นการรบระหว่างวิกฤตการณ์ ร.ศ. 112 ในเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2436 ในขณะที่แล่นเรือผ่านเข้าไปในปากแม่น้ำเจ้าพระยา เรือรบฝรั่งเศส 3 ลำถูกโจมตีโดยป้อมปืนของสยามและเรือปืน ในผลการรบฝรั่งเศสได้รับชัยชนะและดำเนินการปิดล้อมกรุงเทพซึ่งเป็นจุดสิ้นสุดของเหตุการณ์
ภูมิหลัง
ความขัดแย้งเกิดขึ้นเมื่อเรือการข่าว แองกองสตอง (Inconstant) และเรือปืน โกแมต (Comete) ของกองทัพเรือฝรั่งเศสเดินทางมาถึงปากแม่น้ำและขออนุญาติแล่นเรือผ่านปากแม่น้ำเจ้าพระยาเพื่อไปสมทบกับเรือ ลูแตง (Le Lutin) เพื่อเจรจาต่อรอง เมื่อสยามปฏิเสธ ผู้บังคับบัญชาฝ่ายฝรั่งเศส พลเรือตรี แอดการ์ อูว์มัน (Edgar Humann) เมินเฉยต่อความต้องการของสยามและคำสั่งจากรัฐบาลฝร่งเศสซึ่งก่อนการต่อสู้ พลเรือตรี อูว์มัน ได้รับคำสั่งห้ามเข้าสู่ปากแม่น้ำเพราะสยามได้เตรียมการอย่างดีสำหรับการรบ กองกำลังฝ่ายสยามประกอบด้วยป้อมพระจุลจอมเกล้าที่พึ่งสร้างขึ้น มีปืนเสือหมอบขนาด 6 นิ้ว 7 กระบอก สยามยังได้จมเรือสำเภาและเรือบรรทุกหินในแม่น้ำเพื่อเป็นแนวป้องกันบีบเป็นทางผ่านแคบๆเพียงทางเดียว
เรือปืน 5 ลำจอดทอดสมออยู่ด้านหลังแนวสิ่งกีดขวาง ประกอบไปด้วย เรือมกุฎราชกุมาร, เรือทูลกระหม่อม, เรือหาญหักศัตรู, เรือนฤเบนทร์บุตรี และ เรือมูรธาวสิตสวัสดิ์ เรือ 2 ลำเป็นเรือรบทันสมัยขณะที่เรือที่เหลือเป็นเรือปืนเก่าหรือเรือกลไฟแม่น้ำที่ดัดแปลงมา มีการวางข่ายทุ่นระเบิด 16 ลูก ผู้บังคับบัญชาป้อมเป็นนายพลเรือชาวดัตช์ซึ่งเป็นหนึ่งในชาวยุโรปหลายคนที่เข้ารับราชการในกองทัพไทย พลเรือโท เจ้าพระยาชลยุทธโยธินทร์ เป็นผู้บังคับบัญชาเรือปืน
ดูเพิ่ม
อ้างอิง
- Clare Smith, Israel, "The Unrivaled History of the World: Nineteenth Century", Werner Company, Chicago Illinois (1893), pg.# 1862
- Hogan Edmond, Albert, "Pacific blockade", Clarendon Press, Oxford University (1908), pg.# 138-139