พระยาวิเชียรคีรี (ชม ณ สงขลา)
บทความนี้ต้องการการจัดหน้า จัดหมวดหมู่ ใส่ลิงก์ภายใน หรือเก็บกวาดเนื้อหา ให้มีคุณภาพดีขึ้น คุณสามารถปรับปรุงแก้ไขบทความนี้ได้ และนำป้ายออก พิจารณาใช้ป้ายข้อความอื่นเพื่อชี้ชัดข้อบกพร่อง |
พระยาวิเชียรคีรี (ชม ณ สงขลา) | |
---|---|
เกิด | ชม ณ สงขลา 4 มีนาคม พ.ศ. 2397 อำเภอเมืองสงขลา จังหวัดสงขลา |
ถึงแก่กรรม | 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2447 (50 ปี) |
ภรรยาเอก | สมบุญ วิเชียรคีรี |
บิดามารดา | พระยาสุนทรนุรักษ์ (เนตร ณ สงขลา) (บิดา) พับ ณ สงขลา (มารดา) |
พระยาวิเชียรคีรี (ชม ณ สงขลา) มีนามเดิมว่า “ชม” เป็นเจ้าเมืองสงขลาคนที่ 8 (4 มีนาคม พ.ศ. 2431-4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2447) ซึ่งเป็นเจ้าเมืองคนสุดท้าย ชาวเมืองสงขลาให้สมญานามว่า "เจ้าจอมเมือง" มีราชทินนามว่า "พระยาวิเชียรคีรีศรีสมุท วิสุทธิศักดา มหาพิไชยสงครามรามภักดี อภัยพิริยบรากรมภาหุ"
ประวัติ
[แก้]พระยาวิเชียรคีรี (ชม ณ สงขลา) เป็นบุตรคนโตของพระยาสุนทรนุรักษ์ (เนตร ณ สงขลา) ผู้ช่วยราชการเมืองสงขลากับคุณหญิงพับ เกิดที่เมืองสงขลา เมื่อวันที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2397 ณ บ้านป่าหมาก (ปัจจุบันคือที่ตั้งศาลจังหวัดสงขลา) เริ่มเรียนหนังสือกับเจ้าพระยาวิเชียรคีรี (เม่น) เมื่ออายุ 11 ปี ในปี พ.ศ. 2407 ถวายตัวเป็นมหาดเล็กในรัชกาลที่ 4 เป็นมหาดเล็กหลวงเวรฤทธิ์ รับราชการในกรุงเทพฯ ได้ 2 ปี ก็ลาออกมาศึกษาวิชาการอื่นๆ ที่สงขลา เช่น วิชาช่างไม้ ยุทธศาสตร์การยิงปืน โหราศาสตร์ แพทยศาสตร์พื้นบ้าน สมุทรศาสตร์การเดินเรือ การถ่ายรูป ช่างเหล็ก ช่างทองและการทำแผนที่ทั้งกับครูไทย และครูชาวต่างประเทศหลายคน จนมีความเชี่ยวชาญ อายุได้ 16 ปี (พ.ศ. 2413) ได้รับพระราชทานสัญญาบัตรเป็นหลวงวิเศษภักดี (ชม) ตำแหน่งผู้ช่วยราชการเมืองสงขลา อายุ 21 ปี ลาอุปสมบทสำนักอาจารย์แดง วัดดอนรัก ถึงปี พ.ศ. 2431 จึงได้รับพระราชทานสัญญาบัตรเลื่อนขึ้นเป็นพระยาสุนทรานุรักษ ผู้ช่วยราชการเมืองสงขลา ถือศักดินา 1500 รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการเมืองสงขลาภายหลังจากการถึงแก่กรรมของ พระยาวิเชียรคีรี [1] กระทั่งวันที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2433 จึงได้รับพระราชทานสัญญาบัตรบรรดาศักดิ์เป็น "พระยาวิเชียรคีรี ศรีสมุทวิสุทธิศักดามหาพิไชยสงครามรามภักดี อภัยพิริยบรากรมพาหุ" ผู้สำเร็จราชการเมืองสงขลา ถือศักดินา 5000 พร้อมกับรับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้น ทุติยจุลจอมเกล้าวิเศษ [2]รับราชการต่อมาอีก 13 ปี ในปี พ.ศ. 2444 ถูกปลดออก และเลื่อนเป็นจางวางเมืองสงขลา[3]รับพระราชทานเบี้ยบำนาญปีละ 8,000 บาท สูงกว่าเงินเดือนเดิมหลายเท่าตัว และ 3 ปี ต่อมาวันที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2447 ก็ถึงแก่อสัญกรรมด้วยอายุ 50 ปี[4]
สืบเนื่องจากแปดบรรพบุรุษสกุล ณ สงขลา เมื่อ พ.ศ. 2318 สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชได้โปรดเกล้าฯ ให้หลวงสุวรรณคีรี (เหยี่ยง แซ่เฮา) เป็นผู้ปกครองเมืองสงขลา ต่อมาบุตรและหลานของพระยาสุวรรณคีรี (บรรดาศักดิ์ต่อมา) ได้รับช่วงเป็นเจ้าเมืองสงขลาถึง 8 คน ติดต่อกัน 8 สมัย ในช่วงต้นรัตนโกสินทร์ เป็นเวลา 121 ปี เจ้าเมืองในตระกูล ณ สงขลา มีดังต่อไปนี้
- พระยาสุวรรณคีรีสมบัติ (เหยี่ยง แซ่เฮา) พ.ศ. 2318-2327
- เจ้าพระยาอินทคีรี (บุญหุ้ย) พ.ศ. 2327-2355
- พระยาวิเศษภักดี (เถี้ยนจ๋ง) พ.ศ. 2355-2360 สายสกุล "โรจนะหัสดิน"
- พระยาวิเชียรคีรี (เถี้ยนเส้ง) พ.ศ. 2360-2390
- เจ้าพระยาวิเชียรคีรี (บุญสัง) พ.ศ. 2390-2408
- เจ้าพระยาวิเชียรคีรี (เม่น) พ.ศ. 2408-2427
- พระยาวิเชียรคีรี (ชุ่ม) พ.ศ. 2427-2431
- พระยาวิเชียรคีรี (ชม) พ.ศ. 2431-2444
พระยาวิเชียรคีรี (ชม) สมรสกับ คุณหญิงสมบุญ วิเชียรคีรี ธิดาของ ท่านปั้น วัชราภัย มีธิดา 4 คน ได้แก่
- คุณหญิงช่วง สมรสกับ พระยาสวัสดิ์คีรีศรีสมันตราษฎร์นายก (เย็น สุวรรณปัทมะ)
- คุณหญิงพจนาวิลาศ (เชย) สมรสกับ พระยาพจนาวิลาส (แปะ นิโรดม)
- นางชนานุกูลกิจ (สงวน) สมรสกับ หลวงชนานุกูลกิจ (จวง จารุจินดา)
- นางเพชรคีรีศรีราชสงคราม สมรสกับ พระเพชรคีรีศรีราชสงคราม (เจ้าแก้วเมืองไท ณ ลำปาง) มีผู้สืบสกุลต่อมา คือ เจ้าเชิดกาวิละ และเจ้าเดชา ณ ลำปาง[5]
พระยาวิเชียรคีรี (ชม) มีบุตร 3 คน ไม่ปรากฏชื่อมารดา ได้แก่
- พระยาวิชุโชติชำนาญ (ปรง ณ สงขลา) เจ้ากรมไฟฟ้าหลวง
- พระยาอภิรักษ์ราชอุทยาน (ทิตย์ ณ สงขลา) เจ้ากรมสวนหลวง สมรสกับ คุณหญิงลิ้ม ธิดาพระอนันต์สมบัติ (เอม ณ สงขลา)
- พระยาสุรกานต์ประทีปแก้ว (หนิ ณ สงขลา)
เครื่องราชอิสริยาภรณ์
[แก้]- พ.ศ. 2433 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า ชั้นที่ 2 ทุติยจุลจอมเกล้าวิเศษ (ท.จ.ว.) (ฝ่ายหน้า)[6]
- พ.ศ. ไม่ปรากฏ – เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ชั้นที่ 3 ตริตาภรณ์มงกุฎไทย (ต.ม.)
- พ.ศ. 2443 – เหรียญดุษฎีมาลา เข็มศิลปวิทยา (ร.ด.ม.(ศ))[7]
- พ.ศ. 2444 – เหรียญจักรพรรดิมาลา (ร.จ.พ.)[8]
เครื่องยศ
[แก้]พานหมากทองคำ คนโททองคำ กระโถนทองคำ
อ้างอิง
[แก้]- ↑ พระราชทานสัญญาบัตร
- ↑ เสด็จออกแขกเมืองพระราชทานสัญญาบัตรและเครื่องราชอิสริยาภรณ์ (หน้า 368)
- ↑ แจ้งความกระทรวงมหาดไทย (หน้า 846)
- ↑ ข่าวตาย
- ↑ "สำเนาที่เก็บถาวร". เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-11-13. สืบค้นเมื่อ 2016-11-13.
- ↑ เสด็จออกแขกเมืองพระราชทานสัญญาบัตรและเครื่องราชอิสริยาภรณ์ (หน้า 368)
- ↑ พระราชทานเหรียญดุษฎีมาลา
- ↑ ส่งเหรียญจักรมาลาไปพระราชทาน
- หนังสือเกียรติประวัติตระกูล ณ สงขลา รวมญาติ ครั้งที่ 22 ณ โรงแรมดุสิตธานี เมื่อวันที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2549 เก็บถาวร 2011-01-05 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- พระบรมราโชบายขนานนามสกุล เก็บถาวร 2008-12-24 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- ราชกิจจานุเบกษา. ประกาศพระราชทานนามสกุลครั้งที่ 2. กรุงเทพ ฯ. เล่มที่ 30. หน้า 691. 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2456.
- พงศาวดารเมืองสงขลา และโบราณคดีและประวัติศาสตร์เมืองสงขลา, อนุสรณ์ในงานพระราชทานเพลิงศพ พันเอก พร้อมศักดิ์ ณ สงขลา 23 มกราคม 2553