ปูเลาตีกุซ
ปูเลาตีกุซ | |
---|---|
การถอดเสียงอักษรอื่น ๆ | |
• ยาวี | ڤولاو تيكوس |
• จีน | 浮罗地滑 (ตัวย่อ)
浮羅地滑 (ตัวเต็ม) |
• ฮกเกี้ยน | Phū-lô-tī-khu̍t (Tâi-lô) |
พิกัด: 5°25′53.4″N 100°18′42.48″E / 5.431500°N 100.3118000°E | |
ประเทศ | มาเลเซีย |
รัฐ | ปีนัง |
อำเภอ | เกาะปีนังตะวันออกเฉียงเหนือ |
เมือง | จอร์จทาวน์ |
การปกครอง | |
• การปกครองท้องถิ่น | สภานครเกาะปีนัง |
• นายกเทศมนตรีเกาะปีนัง | ยู ตุง เซียง |
• สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรปูเลาตีกุซ | คริส ลี ชุน กิต (DAP) |
• สมาชิกรัฐสภาบูกิตเบินเดอรา | หว่อง ฮน ไว (DAP) |
เขตเวลา | UTC+8 (เวลามาตรฐานมาเลเซีย) |
• ฤดูร้อน (เวลาออมแสง) | ไม่สังเกต |
รหัสไปรษณีย์ | 10250, 10350, 10400 |
เว็บไซต์ | www |
ปูเลาตีกุซ (มลายู: Pulau Tikus) หรือปรากฏในเอกสารไทยว่า โหละติโกย[1] หรือ ปูโลติกุส[2] เป็นย่านหนึ่งทางตะวันออกเฉียงเหนือของจอร์จทาวน์ รัฐปีนัง ประเทศมาเลเซีย ตั้งอยู่ระหว่างใจกลางเมืองจอร์จทาวน์กับย่านตันจุงโตกง จัดเป็นย่านคนรวยแห่งหนึ่ง ชื่อของย่านตั้งตามชื่อเกาะขนาดน้อยใกล้ชายฝั่งเกาะปีนัง[3] ทั้งยังเป็นแหล่งอาศัยของชาวยูเรเชีย สยาม และพม่า[4]
ปูเลาตีกุซก่อตั้งในช่วง ค.ศ. 1786 หลังฟรานซิส ไลต์เข้ายึดครองเกาะปีนัง ปูเลาตีกุซมีความหลากหลายด้านวัฒนธรรมมาตั้งแต่ยุคอาณานิคมอังกฤษ ดังปรากฏศาสนสถานที่ตกแต่งด้วยสถาปัตยกรรมตามชาติพันธุ์ของตน
ศัพทมูลวิทยา
[แก้]ชื่อปูเลาตีกุซตั้งตามชื่อเกาะตีกุซ (Pulau Tikus) เกาะขนาดน้อยซึ่งตั้งอยู่ห่างจากชายฝั่งย่านตันจุงบูงะฮ์เพียง 770 เมตร มีความหมายว่า "เกาะหนู" ในภาษามลายู กล่าวกันว่าช่วงน้ำลง สัณฐานของเกาะจะแลดูคล้ายหนู จึงได้ชื่อนี้มา[5]
ประวัติ
[แก้]ปูเลาตีกุซเป็นแหล่งอาศัยของชาวยูเรเชียผู้ลี้ภัยทางศาสนาจากเกาะภูเก็ตของสยาม ส่วนใหญ่นับถือศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก อพยพเข้าไปยังปูเลาตีกุซเมื่อปี ค.ศ. 1811 ต่อมามีชาวยูเรเชียอีกกลุ่ม ที่เคยตั้งถิ่นฐานอยู่ในจอร์จทาวน์ตั้งแต่ ค.ศ. 1786 อพยพเข้าไปสมทบ[6][7] พวกเขาตั้งชื่อแหล่งที่อยู่ว่า "ปูเลาตีกุซ" และเริ่มก่อสร้างชุมชนคริสต์ชื่อกัมปงเซอรานี (Kampong Serani; "บ้านลูกครึ่งคริสตัง") มีศูนย์กลางที่โบสถ์แม่พระปฏิสนธินิรมล[6]
นอกจากชาวยูเรเชียจากสยามแล้ว ยังมีชาวพม่าเข้าไปตั้งถิ่นฐานในปูเลาตีกุซเป็นกลุ่มแรก ๆ ตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 19 เช่นกัน โดยมีชุมชนของตนเองเรียกว่ากัมปงอาวา (Kampong Ava; "บ้านอังวะ") มีศาสนสถานสำคัญคือวัดพม่าธัมมิการาม สร้างมาตั้งแต่ ค.ศ. 1803 ส่วนชาวสยามมีชุมชนหลักเรียกว่ากัมปงเซียม (Kampong Siam; "บ้านสยาม") มีศาสนสถานทั้งหมดสามแห่งในปูเลาตีกุซคือวัดไชยมังคลาราม (โหละติโกย), วัดบุปผาราม และวัดสว่างอารมณ์ (สากัตจัง) แต่ปัจจุบันเหลือเพียงสองวัดแรกเท่านั้น[4] ส่วนวัดสว่างอารมณ์ถูกแปรเป็นวัดจีนชื่อวัดอั้งฮกซี (Ang Hoc See)[8]
ใน ค.ศ. 1933 สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ พร้อมด้วยพระธิดาสามองค์คือ หม่อมเจ้าพูนพิศมัย ดิศกุล หม่อมเจ้าพิไลยเลขา ดิศกุล และหม่อมเจ้าพัฒนายุคุณวรรณ ดิศกุล ทรงลี้ภัยทางการเมืองมาประทับ ณ ซินนะมอนฮอลล์ (Cinnamon Hall) ถนนเกอลาไวในย่านปูเลาตีกุซ ปัจจุบันซินนะมอนฮอลล์ถูกรื้อไปแล้ว[9]
จากการขยายตัวของจอร์จทาวน์ในช่วงหลายศตวรรษที่ผ่านมา ปูเลาตีกุซจึงถูกกลืนกลายเป็นชานเมืองของจอร์จทาวน์[4] ช่วงไม่กี่สิบปีที่ผ่านมาได้มีการขยายตัวของคอนโดมิเนียมหรูและอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์แถบปูเลาตีกุซและเกอร์นีย์ไดรฟ์
อ้างอิง
[แก้]- ↑ พิเชฐ แสงทอง (พฤษภาคม-สิงหาคม 2560). "ศึกไทย-พม่าที่ปีนัง: แกะรอยปริศนาปีสร้างและคดีความที่วัดปูเลาติกุส (ไชยมังคลาราม) มาเลเซีย". วารสารรูสมิแล. สืบค้นเมื่อ 22 มิถุนายน 2562.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help) - ↑ ดำรงราชานุภาพ, สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยา. "สาส์นสมเด็จ (29 พฤษภาคม พ.ศ. 2478)". วชิรญาณ. สืบค้นเมื่อ 23 พฤศจิกายน 2562.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help) - ↑ "Pulau Tikus". Time Out Penang (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2017-05-17.
- ↑ 4.0 4.1 4.2 Khoo, Su Nin (2007). Streets of George Town, Penang. Penang: Areca Books. ISBN 9789839886009.
- ↑ Wilks, Frances (2014-04-11). "The Story Behind Penang's Rat Island (Pulau Tikus)". ExpatGo (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). สืบค้นเมื่อ 2017-08-07.
- ↑ 6.0 6.1 "The History of Penang Eurasians". Penang Tourism (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). 2013-12-02. สืบค้นเมื่อ 2017-05-20.
- ↑ "Church opens mini museum of relics - Nation | The Star Online". www.thestar.com.my. สืบค้นเมื่อ 2017-05-20.
- ↑ บรรลือ ขอรวมเดช (2555). อุโบสถวัดไทยในเมืองมลายู (กลันตัน เกดะห์ ปะลิส และปีนัง) สมัยรัตนโกสินทร์ (PDF). บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศิลปากร. p. 248.
- ↑ ศรัณย์ ทองปาน (18 มีนาคม 2556). "ติดเกาะ! ตามสมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ไป "ลี้ภัยการเมือง" ที่ปีนัง". สารคดี. สืบค้นเมื่อ 23 พฤศจิกายน 2562.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help)